The Blood of Dawnwalker
ประเภท: Action RPG / Open-world
ผู้พัฒนา: Rebel Wolves
ผู้จัดจำหน่าย: Bandai Namco
แพลตฟอร์ม: PlayStation 5, Xbox Series, PC (Steam, Microsoft Store)
วันวางจำหน่าย: ปี 2026

ผจญภัยในโลกกลางศึกโรคระบาดและแวมไพร์: The Blood of Dawnwalker เผยวิดีโอเกมเพลย์ใหม่ 21 นาที

Bandai Namco และสตูดิโอน้องใหม่อย่าง Rebel Wolves ได้ปล่อยวิดีโอเกมเพลย์ล่าสุดความยาว 21 นาทีของ The Blood of Dawnwalker เกมแนวแอ็กชัน RPG ที่มีกลิ่นอายของความสยองขวัญและดราม่าลึกซึ้ง โดยในวิดีโอนี้ได้เผยให้เห็นกลไกการเล่นแบบล้ำลึก ระบบกลางวัน/กลางคืน การเลือกทางเนื้อเรื่อง และโลกกว้างที่เปิดให้สำรวจอย่างอิสระ

เรื่องราวจะเล่าถึงยุคสมัย ยุโรปในศตวรรษที่ 14 ความขัดแย้งนองเลือดแผ่ปกคลุมไปทั่วแผ่นดิน และกาฬโรคมาเยือนผู้รอดชีวิต หลังจากภัยพิบัติคร่าชีวิตผู้คนไปหลายพันคน ประชากรมนุษย์ที่ลดจำนวนลงอย่างรวดเร็วต้องดิ้นรนเอาชีวิตรอด นี่คือช่วงเวลาแห่งความอ่อนแอ ใน Vale Sangora ที่ไหนสักแห่งในมุมที่ถูกลืมของ เทือกเขาคาร์เพเทียน เหล่าแวมไพร์คว้าโอกาสนี้ในการก้าวออกมาจากเงามืด โค่นล้มขุนนาง โค่นระบบศักดินา และเรียกร้องสิ่งที่พวกเขาถูกปฏิเสธมาเป็นเวลาหลายศตวรรษ นั่นคือ อิสรภาพและอำนาจสูงสุด ..บัดนี้ ตำนานกลายเป็นความจริง และประวัติศาสตร์ที่เรารู้จักจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป 

ผู้เล่น จะรับบทเป็น “โคเอน” ชายหนุ่มที่กลายเป็น ดอว์นวอล์คเกอร์ ผู้ซึ่งต้องเดินทางข้ามเส้นแบ่งระหว่างโลกแห่งกลางวันและโลกแห่งกลางคืนไปตลอดกาล เขาไม่ใช่มนุษย์เต็มตัวและไม่ใช่แวมไพร์เต็มตัว คุณมีเวลา 30 วันและ 30 คืนในการช่วยครอบครัวของคุณ หรือสาบานแก้แค้นพ่อของคุณ และทำลายทุกคนที่ขวางทาง

 ตัวเกมเปิดโอกาสให้ผู้เล่นเลือกเส้นทางของตนเอง ไม่ว่าจะปกป้องครอบครัวหรือออกล้างแค้นต่อผู้ที่เปลี่ยนชะตาชีวิตของเขา ตัวเลือกเหล่านี้จะส่งผลต่อโลกและเรื่องราวอย่างลึกซึ้ง การตัดสินใจช่วยหรือเมินเฉยต่อใครบางคนอาจหมายถึงชะตาชีวิตของครอบครัวคุณ ซึ่งความอิสระในการเล่นเกมนั้นสะท้อนให้เห็นในธรรมชาติของโคเอนในฐานะผู้เดินในวิถีของอมนุษย์ ผู้เล่นจะมีทักษะ ความสามารถ และผลลัพธ์ของเนื้อเรื่องที่แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับช่วงเวลาของวัน ผู้เล่นจะต้องเลือกว่าจะต่อสู้เพื่อมนุษยชาติหรือจะยอมรับพลังคำสาป

ในเกม The Blood of Dawnwalker มีจุดเด่นที่การเล่นสองโหมด “กลางวัน/กลางคืน” ที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

กลางวันผู้เล่นอาจพึ่งพาพลังเวทหรืออาวุธมนุษย์

ขณะที่ยามค่ำคืนจะปลดล็อกพลังเหนือธรรมชาติแบบแวมไพร์ที่รวดเร็ว ดุร้าย และรุนแรง

ระบบนี้ทำให้เกิดรูปแบบการต่อสู้และกลยุทธ์ที่หลากหลาย แถมโลกในเกมยังเปลี่ยนแปลงไปตามการตัดสินใจของผู้เล่นในทุกขั้นตอน

ผู้เล่นจะต้องเผชิญกับเวลาที่จำกัดเพียง 30 วัน และ 30คืนในเกม แม้ว่านี่จะไม่ใช่การนับเวลาจริง แต่ผู้เล่นต้องระมัดระวังในการใช้เวลา เนื่องจากทุกเควสที่ทำเสร็จจะทำให้เวลาของเกมเคลื่อนเข้าใกล้เดดไลน์วันสุดท้ายมากขึ้น แต่ทั้งหมดทั้งมวล ผู้เล่นอาจจะต้องใช้เวลา 30-40 ชม.ในการเล่นจบ 1 รอบ

Konrad Tomaszkiewicz ผู้อำนวยการและผู้ร่วมก่อตั้ง Rebel Wolves กล่าวถึงเกมนี้ว่า

“เกมมีรับแรงบันดาลใจจากเกม RPG คลาสสิก เราต้องการให้ผู้เล่นรู้สึกถึงความเร่งด่วนในOpen World ซึ่งมีหลายวิธีในการช่วยครอบครัวของ โคเอน โดยไม่มีการแบ่งแยกอย่างชัดเจนระหว่างภารกิจหลักและภารกิจรอง คุณเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะใช้เวลาไปกับอะไร เวลาคือทรัพยากร และเมื่อแต่ละภารกิจดำเนินไป เป็นไปไม่ได้เลยที่จะจบเรื่องราวและเนื้อเรื่องทั้งหมดก่อนเส้นตายที่น่ากลัว ทำให้การเล่นแต่ละครั้งมีความพิเศษ เราเรียกมันว่าแซนด์บ็อกซ์ของเรื่องราว

แม้ผู้เล่นจะมีกิจกรรมเสริมมากมายให้ทำในเกม แต่การทำกิจกรรมเหล่านี้อาจส่งผลกระทบร้ายแรงได้ Tomaszkiewicz เปรียบเทียบสิ่งนี้กับผู้เล่น The Witcher 3 ที่เลือกที่จะเพิกเฉยต่อเนื้อเรื่องหลักเพื่อไปเล่นเกม Gwent แทน

“นี่คือสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับผม” เพราะเมื่อคุณรวมมันเข้าด้วยกัน มันจะสร้างความรู้สึก “เร่งด่วน” ที่สามารถพัฒนาได้ในเกม ตัวอย่างเช่น เมื่อคุณเล่น The Witcher 3 และคุณรู้ว่า Ciri ต้องการความช่วยเหลือ แต่คุณตัดสินใจเล่น Gwent แทน คุณรู้สึกว่ามันเป็นเกม และมันเป็นเกมที่ดีมาก แต่มันก็ยังเป็นเกมอยู่ดี และบางทีถ้าคุณกำลังทำบางอย่างอยู่อย่างยาวนาน แต่ก็มีเหตุเกิดขึ้นพร้อมๆกัน และเกมจะมีการเตือนบางอย่างให้คุณรู้ว่า “ถ้าคุณไม่ไป บางสิ่งอาจเกิดขึ้นได้ 

แล้วความคิดของคุณเกี่ยวกับเกมนี้ก็อาจจะเปลี่ยนไป และการอินไปกับโลกของเกมนี้ อาจจะมีมากขึ้น และอารมณ์ในการเล่นของคุณอาจจะต่างออกไป”

Daniel Sadowski ผู้อำนวยการด้านการออกแบบของ The Blood of Dawnwalker ก็ได้พูดถึงระบบจำกัดเวลาในเกมเช่นกัน โดยอธิบายว่าผู้เล่นยังสามารถสำรวจโลกได้อย่างอิสระโดยไม่ต้องเครียดกับเส้นตาย … อย่างไรก็ตาม เรื่องราวในเกมจะเน้นย้ำถึงเวลาที่เหลืออยู่

“เราต้องการให้ระบบเวลาเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์การเล่าเรื่อง และเป็นส่วนหนึ่งของแนวคิดที่ว่า ‘ทั้งการกระทำและการไม่กระทำล้วนมีผลกระทบ มันจะทำงานในรูปแบบที่น่าสนใจ มันจะบังคับให้คุณต้องตัดสินใจในบางจุด เช่น คุณจะทำอะไร และจะเพิกเฉยอะไร เพราะคุณจะต้องเลือกด้วยว่าเนื้อหาใดที่คุณต้องการทำและเนื้อหาใดที่คุณต้องการเพิกเฉย เพื่อเพิ่มโอกาสในการเอาชนะศัตรูหลัก แต่คุณจะสามารถเลือกวิธีการต่าง ๆ ในการแก้ปัญหาได้ และทั้งหมดนี้ก็เชื่อมโยงกับ การเปิดกว้างในการเล่าเรื่องอีกครั้ง”

โลกในเกมถูกสร้างอย่างประณีตด้วย Unreal Engine 5 โดยเป็น Open-world เต็มรูปแบบ ผู้เล่นจะได้ท่องไปในป่าดิบเขียวขจี ที่ราบกว้างใหญ่ หนองน้ำอันตราย ยอดเขาสูงชัน และหมู่บ้านยุคกลาง รวมถึงยังสามารถสำรวจซากโบราณที่เต็มไปด้วยความลับดำมืดจากอารยธรรมในอดีต เป็นการผสมผสานระหว่างเกมแอ็กชัน การเล่าเรื่องแบบมีชั้นเชิง และการสำรวจแบบ RPG สุดลุ่มลึก

The Blood of Dawnwalker กำลังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนาเพื่อวางจำหน่ายบน PC, PS5 และ Xbox Series X/S ในปี 2026

แอดมิน AK47

#TheBloodOfDawnwalker #เกมใหม่ #RPG #Games  #PC #PS5 #XboxSeriesXS