Vagabond : เจาะแผนลับเครือข่ายนรก  배가본드

ประเภท Action / Thriller / Romance

เขียนบทโดย จางยงชุล / จุงคยุงซูล

กำกับโดย ยูอินชิค

แสดงนำ ลีซึงกิ /  แพซูจี(วง Miss A)

จำนวน 16 ตอนจบ

มีทั้งซับไทย และพากย์ไทย!

ถ้าใครกำลังมองหาซีรี่ส์เข้มๆ เนื้อเรื่องมันส์ๆ และพลิกผันไว้ใจใครไม่ได้ คาดไม่ถึง ขอแนะนำ  Vagabond : เจาะแผนลับเครือข่ายนรก ซีรี่ส์เกาหลีที่โปรดัคชั่นเล่นใหญ่ราวกับหนังฮอลลีวู้ดชั้้นเยี่ยม ก็ได้ส่งลง Netflix แล้ว สัปดาห์ละตอน!! 

เรื่องย่อ

” เมื่อผลประโยชน์ระดับชาติถูกทับเส้น…ก็ต้องมีเหยื่อผู้บริสุทธิ์เป็นเครื่องสังเวย “

เกิดเหตุโศกนาฏกรรมเครื่องบินโดยสารตกทำให้ผู้โดยสารเสียชีวิตยกลำ สร้างความเศร้าโศกเสียใจไปยังครอบครัวของผู้เคราะห์ร้ายและรัฐบาลเกาหลีใต้ ซึ่งก็ได้สรุปออกมาว่าเป็นเพราะอุบัติเหตุ !?!

ชาดัลกอน (ลีซึงกิ) สตั้นท์แมนต๊อกต๋อยผู้ที่มีความฝันอยากเป็นผู้กำกับหนัง โดยมี เฉินหลง และ บรูซลี เป็นไอดอลในดวงใจ ทำทุกอย่างเพื่อหาเงินมาเลี้ยงดูหลานชายที่เป็นที่รัก เป็นหนึ่งในผู้สูญเสีย และเป็นคนเดียวที่ออกมาบอกว่าเหตุการณ์นี้ไม่ใช่อุบัติเหตุแต่เป็นการก่อการร้าย แต่ไม่มีใครเชื่อ

ยกเว้นเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองสาว “โกแฮรี” (แพซูจี อดีตสมาชิกวง Miss A) เท่านั้น แต่ทว่าระหว่างสืบเรื่องราว ยิ่งขุดก็ยิ่งเจอตอที่ใหญ่ระดับชาติ…เรื่องราวเหนือการเดาของผู้ชม ได้เริ่มขึ้นแล้ว!!

รีวิว

ยังไม่ลงคะแนนให้ ไว้ออกครบ 16 ตอนแล้วจะแวะมาใส่คะแนน พร้อมแก้ไขเพิ่มเติม 

——

ออกตัวก่อนเลยนะครับ ว่าส่วนตัวเป็นคนไม่ชอบละครเกาหลีเลย

แต่พอมานั่งดู วางอคติลง ก็พบว่า คุ้มค่ารายเดือนNetflixมากๆเรื่องนึงเลย ส่วนตัวคิดว่านี่มันไปไกลกว่าละครเกาหลีที่เรารู้จักก่อนหน้านี้มาก

งานภาพสวยมาก ทั้งมุมกล้อง การเล่นโทนสี การลำดับภาพ มันเล่นใหญ่ เว่อวัง อลังการระดับหนังใหญ่เรื่องนึงที่มีหลายๆตอน ดูกันจุใจ หลายๆฉาก แอคชั่นทำมาสนุกไหลลื่น ตื่นเต้นและคิวบู๊หลายๆซีน ชวนให้นึกถึงหนังเฉินหลงอย่าง The Police Story ที่เน้นการไล่ล่า การต่อสู้ระยะประชิด หรือหนังชุด Jason Borne อะไรพวกนี้ แต่มันดูลึก และเข้มกว่า เพราะความเป็นละครซีรี่ส์ ทำให้ทีมงานมีโอกาสเล่าเรื่องได้เยอะมาก

นักแสดงไม่ห่วงหล่อห่วงสวย พร้อมโทรมตลอดเวลา แต่ทำไมมันภาพมันออกมาเท่ เป๊ะ ปัง ก็ไม่รู้นะ อปป้าซึงกิ กลิ้งเป็นขนุน จมกองTeen คลุกฝุ่นคลุกดิน แม่มยังหล่ออะ

ในส่วนพล๊อตเรื่อง หนักมากกกก ดราม่าจัดๆจนสงสารพระเอกเลย ยิ่งหลังจากดูไปได้ 4 ตอน กลับค้นพบว่าตัวหนังเล่าเรื่องที่ค่อยๆลากคนดูไปหาคำตอบ เล่นกับความอยากรู้ การไว้ใจของคนดู กับตัวละคร และเราก็ได้คำตอบกลายๆว่า เราไว้ใจอะไรใครไม่ได้เลย

ใครสมัคร Netflix ไปดูเลย โคตรมันส์ แค่ดูฉากบู๊ก็คุ้มตังค์แล้ว~!!