Review : The Unbearable Weight of Massive Talent ข้านี่แหละนิค ฟักกลิ้ง เคจ
18 พฤษภาคม 2565 01:01 น.
Share on FacebookTweet about this on TwitterShare on Google+

 #ดูฟรี #ออนไลน์ #หนังใหม่ #พากย์ไทย #ชนโรง #ดูหนังDr.Strange #Rotten #เข้าวันไหน #สปอย #Spoil #หนังซูม#มาสเตอร์ #HD #ซับไทย #IMDB #IMAX #ดูฟรี #มาใหม่ #ดูหนังออนไลน์ #ดูหนังออนไลน์4k #ดูหนังฟรี 2022 #ดูหนังออนไลน์ฟรีเต็มเรื่องพากย์ไทย  #เต็มเรื่อง #มาสเตอร์ 

Massive Talent

 

The Unbearable Weight of Massive Talent  ข้านี่แหละนิค ฟักกลิ้ง เคจ

ผู้กำกับ : 

ประเภท : ภาพยนตร์

แนว : Comedy / Action 

แสดงนำ  “นิโคลัส เคจ”  

มาฮาให้สุดขีด แล้วหวีดไปกับความป่วน !!! ในภาพยนตร์คอเมดี้แอ็กชั่น “The Unbearable Weight of Massive Talent ข้านี่แหละนิค ฟักกลิ้ง เคจ ซึ่งเปิดตัวโปสเตอร์เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดเอาใจคอหนังสายลุย เผยฉากขับรถไล่ล่าสุดมันส์ของสองตัวละครนำ “นิค เคจ” ดาราตกอับ และ “ฮาวี่” แฟนคลับเบอร์หนึ่ง ในการผจญภัยสุดเดือด แค่เห็นนักแสดงเรียกว่าพลาดไม่ได้เลยทีเดียว การจับคู่ที่คาดไม่ถึงของ นิโคลัส เคจ และ เพโดร ปาสคาล พวกเขาจะมาลบภาพจำคู่หูในตำนานของคุณ!

 

เรื่องราวสุดปั่นของ “นิโคลัส เคจ” ที่ต้องมารับบทเป็น “นิค เคจ” ดาราที่กำลังตกอับขั้นสุด ไม่มีงานจ้าง ไม่มีเงินจ่ายหนี้สิน จนกระทั่งผู้จัดการส่วนตัว (นีล แพทริค แฮร์ริส) เสนอให้รับงานปาร์ตี้วันเกิดของ ฮาวี่ (เพโดร ปาสคาล) แฟนคลับตัวยง แค่ไปก็ได้รับค่าจ้างถึง 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ!!! เขาจึงต้องจำใจรับงานนี้เพื่อปลดหนี้ทั้งหมด แต่เรื่องราวกลับบานปลาย เมื่อแฟนคลับมหาเศรษฐีชาวเม็กซิกันคนนี้ กลับเป็นบุคคลอันตรายที่ CIA หมายหัว จากงานเอนเตอร์เทนสุดหรูกลายเป็นภารกิจสายลับโคตรป่วน

 

 

 The Unbearable Weight of Massive Talent (2)

เมื่อดารา(เคย)ดังที่ขีวิตกำลังหมดไฟ กลับต้องไปพัวพันแฟนคลับแก๊งค้ายา ในภาพยนตร์คอเมดี้-แอ็กชั่น การันตีความปั่นด้วยคะแนนบวกจากนักวิจารณ์ทั่วโลกกับ The Unbearable Weight of Massive Talent ข้านี่แหละ นิค “ฟักกลิ้ง” เคจ” ที่จะมาสร้างวีรกรรมความมันส์แบบแสบสันต์ ไปกับภารกิจชวนฮาอย่าหาทำ!

 

 

 เมื่อ “ซุปตาร์ตกอับต้องมาเป็นสายลับจำเป็น” เขาต้องใช้ทุกกลยุทธ์ งัดทุกบทบาทเพื่อเอาตัวรอด แต่ก่อนจะไปพบความสนุกของสายลับซุปตาร์วายป่วนคนใหม่ เราจะขอเปิดเส้นทางตกกระไดพลอยโจนของดาราดวง(เกือบ)ดีคนนี้กันก่อน

 

 

 282033006_5044613755627304_5510454639239343913_n

REVIEW 

เราเห็นตัวย่างที่ตัดมานั้นทำให้เราคิดว่าเป็นหนังตลกเบาสมองที่มีอะไรฮาๆตลอดทั้งเรื่อง แต่ในความเป็นจริงแล้ว ตัวหนังเต็ม จัดว่า “ตึง” กว่าที่คิด จะด้วยคาแรคเตอร์ของน้าเคจ ตัวละครอื่นๆ ที่ตึงพอกัน แม้จะมีการตัดฟิลลิ่งด้วยมุกที่ล้อเลียนชีวิตของน้าแก ก็ยังคงทำให้หนังอยู่ในสภาพที่ตึงๆหน่วงๆในช่วงแรก-กลางเรื่องอยู่ดี บทสนทนาในเรื่อง มีหลายจุดที่จิกกัด รับส่งมุกกันอย่างดี ไม่รู้ว่าบทหนังนี่ถูกฟิก หรือด้นสด เพราะหลายๆโมเม้นท์ เราคิดว่าตัวละครมันพูดแบบนี้แล้วจะดีจริงๆเหรอ หรือบทสนทนาที่บ้าบอหลุดโลก หรือคมกริบเอาหล่อ ในเรื่องมีให้ได้กลับไปขบคิดตามด้วยเช่นกัน

 

ประเด็นชีวิตของน้าเคจ ในเรื่องจริง กับในหนัง จะต่างกันอย่างมาก ในหนังได้แต่งเติมให้น้าเคจเป็น “นิก “ฟักกลิ้ง” เคจ” ที่มีความบ้าบอคอแตก ใช้ชีวิตเละเทะ แสวงหางานไปเรื่อยราวกับชีวิตนี้ร้อนเงิน (อันนี้ตรงกับชีวิตจริงที่ร้อนอยู่ช่วงนึง) และนำไปสู่การตั้งคำถามว่า “ชื่อเสียง เงินทอง” กับ  “ครอบครัว” สิ่งไหนสำคัญกว่ากัน!?

 

ส่วนกิมมิคเกี่ยวกับหนัง และชีวิตบางอย่างพี่แกก็เอามาเพื่อคารวะ (แซะ) ตัวน้าแกนั่นแหละ เราได้เห็นสิ่งต่างๆที่สื่อถึงหนังของน้าเคจแกมากมายในเรื่อง ที่ถูกเอามาเซตติ้งกองๆไว้ให้แฟนๆเดนตายหนังยุค 90 ที่นิโคลัส เคจ แสดงได้เพ่ง ได้ตีความ ได้ค้นหากัน

หนังจุดดีคือ เราเดาตอนจบไม่ได้จริงๆ ทุกอย่างเราไม่สามารถคิดต่อได้ว่าเรื่องราวจะจบยังไง ไปเวย์ไหน โดยองก์แรกของหนัง – กลางเรื่องค่อนข้างเนือย และเนิบๆ แต่มาสนุกแบบหนังตลาดในช่วงท้าย อีกทั้งคอมโพสฯต่างๆในเื่องถูกถ่ายทำ จัดวางใน “ซีนที่ต้องการจะขาย” และซีนปกติก็ถ่ายออกมาสบายตา ด้วยโลเคชั่นสวยๆจากประเทศสเปน อันเป็นฉากของเรื่อง ก็เลือกสถานที่ต่างๆสวยงามมากๆ

 

สรุปสั้นๆว่า ใครเป็นแฟนคลับน้าแก ต้องไปดูนะ อันนี้บอกเลย

 282126843_2242081895930369_5353673453018502462_n

โดยรวมคงไปทาง 8/10 อะ ไม่พีคเว่อวัง แต่หนังรันไปด้วยคาแรคเตอร์ล้วนๆ

ดูแบบถอดสมองเลยก็ได้ หรือดูแบบใส่ใจเลยก็ดีครับ

 

แอดมิน Ak47

 

 

 

——————————–

 

 

 

 

 

The Unbearable Weight of Massive Talent

นิโคลัส เคจ ตำนานแห่งฮอลลีวู้ด

พร้อมประกาศให้โลกรู้ว่า “ข้านี่แหละนิค “ฟักกลิ้ง” เคจ”

นิโคลัส เคจตัวจริงคือไอคอนแห่งฮอลลีวู้ด เขามีผลงานอย่าง The Rock, Face/Off, Con Air, Moonstruck, Honeymoon in Vegas, และงานที่ส่งให้เขาคว้ารางวัลออสการ์ Leaving Las Vegas (นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม, 1995) The Unbearable Weight of Massive Talent อิงจากผลงานชื่อกระฉ่อนที่ผ่านมาของเขา เป็นการตีความ “นิค เคจ” ในรูปแบบที่คุณไม่เคยเห็นที่ไหน

 

 

คุณรู้สึกยังไงบ้างครั้งแรกที่ได้ยินไอเดียหนังเรื่องนี้?

ผมไม่อยากมีส่วนร่วมใดๆ ทั้งสิ้น แต่พอผมได้อ่านจดหมายของทอม ผมคิดว่า “โอเค เขาไม่ได้แค่อยากล้อความเป็น นิค เคจ เขาสนใจผลงานในยุคนั้นของฉันจริงๆ” เขาอยากนำฉากในความทรงจำที่ผมเคยฝากไว้กลับมากอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นฉากใต้สระน้ำใน Leaving Las Vegas หรือตอนที่ผมใช้ปืนทองใน Face/Off

 

จุดที่ผมชอบมากแต่เสียดายที่มันโดนตัดออกไปแล้ว คือซีเควนซ์ที่ตัวละคร นิค เคจ รำลึกบทต่างๆ ที่ผ่านมาของเขาผ่านสไตล์การเล่าเรื่องแบบ German expressionism เป็นขาวดำ เหมือนหนังอย่าง The Cabinet of Doctor Caligari  คุณจะได้เห็นฉากซิ่งรถมัสแตงจาก Gone in 60 Secondsได้เห็นตัวละครของผมจากเรื่อง Leaving Las Vegas ในห้องโรงแรม แต่เสียดายที่ทางสตูดิโอเห็นว่ามันหลุดจากโทนหนังโดยรวมเกินไป

 

ผมชอบตัวละคร นิคกี้ มากๆ นิคกี้คือตัวผมตอนหนุ่มๆ  ตอนแรกเรากะว่าจะให้เขาลุคเหมือน คาเมรอน โป ในCon Air แต่นั่นไม่ใช่ผมเลย ลองเทียบกับตอนที่ผมไปออกรายกายทอล์กโชว์ The Wogan Show ที่อังกฤษตอนโปรโมตเรื่อง Wild at Heart นั่นใช่ผมมากกว่า หมอนั่นมันคลั่ง, ไม่สนโลก, โคตรยโส ตัวผมในเวอร์ชันนั้นแหละที่เหมาะกับเป็นคู่ปรับของผมในปัจจุบันที่สุด

 

UWMT_D12_00058.ARW

ใครก็ตามที่ดูหนังเรื่องนี้คงสงสัยว่าตัวคุณในหนังกับตัวตนของคุณในชีวิตจริงแตกต่างกันยังไง?

ต่างกันสิ้นเชิง ผมไม่มีทางทิ้งครอบครัวไปพบใครก็ไม่รู้เพื่อเงินหรอก สำหรับผมครอบครัวคืออันดับหนึ่ง ที่ผ่านมาผมยอมทิ้งบทที่จะสร้างชื่อให้พบมากกมายก็เพราะครอบครัว ตอนที่ผมจัดการเรื่องหย่า (เมื่อปี 2001 กับ แพทริเซีย อาร์เควตต์)  ผมไม่อยากทิ้งลูกชายไปถ่าย The Lord of the Rings ที่นิวซีแลนด์ตั้งสามปี หรือตอนที่ผมปฏิเสธบทนำในThe Matrix ผมเลือกที่จะอยู่กับลูกชายที่ LA เหมือนเดิม

แต่ทอมบอกว่า “นี่มันเป็นหนัง เราพยายามจะเล่าเรื่องของตัวละครที่มีการเติบโตทางความคิด” ซึ่งผมเข้าใจนะ แต่คงต้องบอกก่อนว่าตัวผมในชีวิตจริงกับในหนังมันต่างกันมาก ผมยังบอกกับทอมด้วยว่า “ผมไม่ได้ใช้คำหยาบเยอะขนาดนั้น” ในหนังเขาเขียนใหัผมแจกฟักเป็นว่าเล่น ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาไปเอาความคิดนี้มาจากไหน เขาบอกผมว่า “นิค เคจ ที่เสียสติคือ นิค เคจ ที่มันที่สุด”

 

ชีวิตประจำวันผมก็แค่อ่านหนังสือ เล่นกับแมว แต่ถ้านั่นมาทำเป็นหนังคงน่าเบื่อจนไม่มีใครอยากดู

 

 

นิค เคจ ในหนังมาถึงจุดตกอัพของอาชีพ แล้วตัวคุณเองล่ะ รู้สึกแบบนั้นเหมือนกันไหม แม้ว่าจะมีงานที่ประสบความสำเร็จมาแล้วนับไม่ถ้วนในอดีต คุณรู้สึกว่าต้องการกลับไปอยู่จุดนั้นอีกครั้งหรือไม่?

ที่น่าขำคือตอนที่ หนังเรื่อง “Pig” ออกฉาย มันไม่ได้โดนใจแค่แฟนหนังอินดี้ แต่ยังแฟนวงกว้างด้วย ผมโทรบอกทอมว่า “เราคงต้องแก้บทกันใหม่แล้ว” แต่ตัวผมกับฮอลลีวู้ดเราเลือกเดินกันคนละทางมาซักพักแล้ว ผมเริ่มศึกษาปรัชญา เลิกไปงานแจกรางวัลเพื่อนนำเสนอตัวเอง ผมตัดสินใจทำงานเพื่อเติมเต็มมากกว่า แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ยังมีหนังอย่าง Sorcerer’s Apprentice, Ghost Rider หรือ Drive ที่ แป้กสามเรื่องติด ทั้งสองย่างมันเกิดขึ้นพร้อมๆ กัน

 

แต่ผมจำได้ว่าเสียงโทรศัพท์ผมดังตลอดนะ ผมแค่กลับไปยังรากเดิมของผมซึ่งคือหนังนอกกระแส ถ้าคุณย้อนกลับไปดูตลอดเส้นทางนักแสดง 43 ปี หนังของผมทำรายได้รวมเกือบหกพันล้านเหรียญ หนังแป๊กแค่สามเรื่องไม่ได้ทำให้ชื่อคุณหายไปจากวงการหรอก

 

The Unbearable Weight of Massive Talent

หนังเรื่องนี้แอบล้อคุณที่รับงานไม่เลือก คุณมีผลงานถึงเจ็ดเรื่องในปี 2019 คุณเคยบอกว่าคุณชอบทำงาน คำถามของเราคือคุณไม่ชอบอยู่ว่างๆ เหรอ?

เป็นคำถามที่ดีนะ ตอนที่ผมโดนฟ้องล้มละลาย ผมตัดสินใจใช้การทำงานหาเงินมาแก้ปัญหา แต่ผมก็รับแต่งานที่ผมรู้สึกว่าผมสามารถมอบบางสิ่งให้ได้นะ ผมปัดตกไปหลายงาน แต่ผมว่าการทำงานอย่างต่อเนื่องทำให้ผมเป็นนักแสดงที่เก่งขึ้น

ผมมีชุดความคิดที่ว่า “ผมไม่ได้มีอาชีพ ผมมีแค่งาน” ที่ผมคิดแบบนั้นคือผมเป็นคนที่ดีกว่าเวลาทำงาน เพราะผมไม่อยากเป็นคนที่นั่งจิบเหล้าอยู่ริมสระไปวันๆ  มันกระตุ้นให้ผมดูแลตัวเอง ตื่นขึ้นมาวิ่ง, ยกเวท, ดูข่าว ชีวิตผมดีเสมอเวลามีถ่ายงาน

 

 

ในหนังมีอ้างอิงถึงผลงานเก่าของคุณอย่างFace/Off ที่เป็นหนังในดวงใจหลายๆ คน มีข่าวลือว่ามันกำลังจะกลับมาอีกครั้ง บทเขียนโดย ไซมอน แบร์เร็ตต์ กำกับโดย อดัม วิงการ์ด คุณอยากกลับไปมีส่วนกับหนังเรื่องนี้อีกครั้งไหม?

ผมไม่เคยได้ยินข่าวเลยนะ ข่าวแบบนี้บางทีคนก็นั่งเทียนเขียนขึ้นมาเอง เหมือน National Treasure 3 นั่นแหละ ตั้ง 14 ปีมาแล้วยังไม่เห็นมีวี่แวว แน่นอนว่าแค่คิดถึง Face/Off 2 มันก็น่าตื่นเต้นแล้ว แต่หนังภาคแรกมันคือตัวตนของ จอห์น วู คนอื่นไม่สามารถเลียนแบบได้  ไม่มีทางถูกรีเมก อย่างมากก็แค่ภาคต่อ

 

UWMT_D01_742.ARW

ถ้าคุณไม่ได้รับบทเป็นตัวคุณเอง คุณอยากให้ใครมารับบทนี

จีน ไวล์เดอร์ ผมว่าจีน ไวล์เดอร์จะแสดงฝีมือสุดยอดในหนังเรื่องนี้  ผมยอมจ่ายเงินไปดูเลยล่ะ อันที่จริงตอนแรกไม่แน่ใจนักว่าอยากรับบทเป็นตัวละครที่เป็นชื่อผมเอง ผมไม่อยากเล่นอะไรที่เหมือนโชว์ตลกของ Saturday Night Live แต่พอผมได้อ่านจดหมายของทอม กอร์มิแคนผมตระหนักได้ทันทีว่าเขาเป็นคนรักหนัง เขาคลั่งไคล้งานของผมจริงๆ

 

 

 

###

 

 

มีเวลาเตรียมฮา วอร์มเสียง ระวังกรามค้าง ให้คิวเป๊ะกว่าเดิม ลงวันไว้ให้พร้อม แล้วมาเปิดรับประสบการณ์ที่โลกไม่ลืมไปกับการแสดงโคตรเกรียนของสองคู่หูจำเป็น นิโคลัส เคจ และ เพโดร ปาสคาล ใน “The Unbearable Weight of Massive Talent ข้านี่แหละนิค ฟักกลิ้ง เคจ” 19 พฤษภาคม นี้ ในโรงภาพยนตร์

 #ดูฟรี #ออนไลน์ #หนังใหม่ #พากย์ไทย #ชนโรง #ดูหนังDr.Strange #Rotten #เข้าวันไหน #สปอย #Spoil #หนังซูม#มาสเตอร์ #HD #ซับไทย #IMDB #IMAX #ดูฟรี #มาใหม่ #ดูหนังออนไลน์ #ดูหนังออนไลน์4k #ดูหนังฟรี 2022 #ดูหนังออนไลน์ฟรีเต็มเรื่องพากย์ไทย  #เต็มเรื่อง #มาสเตอร์