The Last of Us : Part II [ PS5 / REVIEW ]
18 พฤศจิกายน 2566 08:00 น.
Share on FacebookTweet about this on TwitterShare on Google+

The Last of Us 2 (1)

 The Last of Us : Part 2 [Ps4]

ประเภท : Action -Survival
ผู้ผลิต: Naughty Dog / Sony Computer

ระบบ PS4 / PS5

วันวางจำหน่าย 19 มิถุนายน 2020 / PS5 Remaster 19 ม.ค 2024

the-last-of-us-part-2 (3)

การปรับปรุงในเวอร์ชั่น PS5 มีอะไรบ้าง?
-The Last of Us Part II Remastered สร้างขึ้นใหม่บางส่วน สำหรับคอนโซล PS5 โดยปรับปรุงตัวเกม PS4 ในแบบที่ไม่เคยทำได้มาก่อน เช่น กราฟิกให้เป็น 4K ในโหมด Fidelity ที่จะเพิ่มประสิทธิภาพของงานภาพทั้งหมด

-ปรับปรุงเวลาในการโหลดให้เร็วขึ้น

-รองรับการแสดงผลความสั่นแบบมีมิติ และปุ่มทริกเกอร์ที่ต้องออกแรงต้าน ผ่านคอนโทรลเลอร์ไร้สาย DualSense™ เต็มรูปแบบ

 

-No Return – A Roguelike Survival Mode

 

-การเล่นกึ่งสารคดี “Lost Levels” ที่เป็นฉากที่ทีมงานใช้ในเวอร์ชั่นพัฒนาในช่วงต้น 3 ฉากใหม่ ที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อน พร้อมด้วยบรรยายของนักพัฒนาเป็นเวลาหลายชั่วโมงเพื่อฟังข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการพัฒนาของเกม โดยที่เล่นไป ฟังไป

-เพิ่มโหมด Guitar Free Play เล่นเพลงตามใจ ตามความสามารถทางดนตรีของผู้เล่น พร้อมเครื่องดนตรีใหม่ที่ปลดล็อคได้

 

 

-มีโหมด Speedrun ใหม่ และเอาเวลาที่ได้ ไปขิงในระบบ Ladderboard โชว์เวลาที่ดีที่สุดของคุณ

-The Last of Us Part II Remastered ยังมีสกินตัวละครและอาวุธที่สามารถปลดล็อคใหม่ล่าสุดให้ผู้เล่นใช้สำหรับทั้ง Ellie และ Abby 

 

The Last of Us™ Part II Remastered ขาย 19 ม.ค 2024 ผู้ที่มี Ver.Ps4 จ่าย 10$ เพื่อเอาไปเล่นบน PS5the-last-of-us-part-2 (1)

the-last-of-us-part-2 (2)

“เคยมีผู้กล่าวว่าวงการวีดีโอเกมจะไม่มีวันเป็นงานศิลป์เหมือน ภาพยนตร์ได้ ซึ่งอาจจะจริงเพราะในอดีตเทคโนโลยียังไม่สามารถสร้างเกมที่สมจริงได้”

แต่วันนี้ด้วยความพยายามของโซนี่กับ Naughty Dog ผู้สร้างเกม Uncharted ได้พัฒนาวงการเกมให้ก้าวไปอีกขั้นใน The Last of Us… ที่สร้างความตราตรึงใจมาแล้ว และนี่คือภาคล่าสุด กับเกม The Last of Us : Part 2 ซึ่งในภาคนี้จะมี Theme ของ “ความเกลียดชัง” และภาคนี้ผู้เล่นจะได้รับบท “เอลลี่” และ “อีกตัวละครหนึ่ง”

 

the-last-of-us-part-2 e32018 (3)

เนื้อหาคร่าวๆของ The Last of Us 2 จะเล่าเรื่องราว ห้าปีหลังจากการเดินทางที่อันตรายข้ามสหรัฐอเมริกาในโลกยุคที่เต็มไปด้วยโรคระบาด และเหล่าตัวประหลาด ผลพวงจากไวรัส เอลลีและโจเอลตัดสินใจหยุดที่ “แจ็กสัน”เมืองเล็ก ๆ ในรัฐไวโอมิง การใช้ชีวิตท่ามกลางชุมชนผู้รอดชีวิตที่เฟื่องฟู ช่วยให้พวกเขารู้สึกมีสันติภาพและความมั่นคงแม้จะมีภัยคุกคามจากผู้รอดชีวิตที่ติดเชื้อและอื่น ๆบ้างเล็กน้อย เอลลี่ในวัย 19 ปี ที่กำลังใช้ชีวิตวัยรุ่น เริ่มมีความรัก และสร้างความสัมพันธ์กับเพื่อนฝูง แต่ทว่าเมื่อสันติภาพถูกทำลายโดยการโจมตีของกลุ่มผู้รอดชีวิตกลุ่มอื่น เอลลีถูกผลักดันไปสู่การเดินทางอันโหดร้ายของการแก้แค้น

 

 

The Last of Us™ Part II

REVIEW 8 /10 RANK B

เนื้อเรื่อง 2/3 ,เกมเพลย์ 2/3 ,  งานภาพ 3/3 ,  ความชอบ 1/1

เกมที่โคตรดี โคตรดึง

 

เนื้อเรื่อง ในภาคนี้ ก็เป็นเกมที่เล่าเรื่องราว 4 ปี หลังจากภาคแรก ตัวเกมใช้เซตติ้งโลกใบเดิม เพิ่มเติมคือ การเล่นกับจิตใจคนเล่นอย่างมาก ชนิดว่า “ถ้าไม่ชอบ ก็เกลียดไปเลย” ซึ่ง แน่นอนว่ามันก็เกิดเสียงแตก แต่ทางเรายืนยันว่าเป็นเกมดี มีเนื้อเรื่องที่ดี แต่มันย่อยยากไปนิด ขนาดแปลไทยแล้ว ยังต้องคิดตามไปอีก 1 สเตปความลึกของเนื้อหา นอกจากที่ตัวเกมเล่าแล้ว ยังต้องคิดต่อไปอีกว่า โลกทัศน์มันเป็นแบบไหน ฝ่ายไหนทำเพื่อใคร ทำอะไร อย่างไร และพิจารณาแล้ว ก็ค่อยนำมันมารวมกัน แล้วกรองมันออกมาอีกที โดยรวมในส่วนเนื้อเรื่องมันเทาๆดีจัง เราคิดว่าอีกฝ่ายนึงเลว แต่พอได้เห็นอีกมุมมองนึง ก็กลายเป็นว่า มันไม่ได้เป็นยังงั้น มันมีอะไรให้เราได้ตามต่อจริงๆ

The Last of Us™ Part II_20200619181147.mp4_snapshot_29.51_[2020.06.22_23.30.46]

บางทีก็คิดนะ เกมนี้บทมันลึก เล่าดี ที่เสียงมันแตก เพราะรับกับเหตุการณ์ในเรื่อง กับการยัดประเด็นที่ทำเอาใจคนบางกลุ่มมากไปไม่ได้รึเปล่า ถ้ามองอย่างเป็นกลางๆแล้ว โลกจริงๆมันก็ไม่ได้สวยหรู แฮปปี้กับทุกๆเรื่องละนะ…ซึ่งถ้าใครดูฉาบฉวย ดูคลิป หรือไม่ได้เล่นเอง (หรือแม้แต่เล่นเอง แต่ไม่ลงลึก) ก็อาจจะไม่ชอบการเล่าเรื่องและนำเสนอเลย…

 

อ่อ จริงๆจะบอกว่า เป็นเนื้อเรื่องยาวที่เล่าสไตล์ซีรี่ส์ฝรั่งเยี่ยมๆเรื่องนึงเลย แต่ที่หักไป 1 แต้ม เพราะกว่าคุณจะอิน ก็ต้องปรับวิธีคิด และใช้เวลาในการเสพเนื้อเรื่องพอสมควร หลายๆคนก็ไม่ได้สะดวกที่จะทำอะไรแบบนั้นปะ? อีกทั้งยังเล่าเรื่องค่อนข้างยืด และน้ำเยอะ กว่าจะเข้าเนื้อก็ต้องใช้เวลาพักใหญ่ๆเลย

 

 

The Last of Us™ Part II_20200622120539

ซับไตเติ้ล ตัวใหญ่เบ้งๆสะใจมาก แอดมินนี่อย่างชอบเลยครับ!

ในส่วนของการแปลไทย อันนี้ต้องชมว่าแปลได้ลื่นไหล มีจุดเล็กๆน้อยๆเท่านั้นที่อ่านแล้วสะดุด แต่โดยรวมรู้เรื่องครับ อ่านเพลินมากๆ ปรับไซส์ได้ด้วย

 

The Last of Us™ Part II_20200619160841.mp4_snapshot_42.47_[2020.06.22_23.21.37]

เกมเพลย์  ผ่านมา 7 ปี นับจากภาคแรกใน PS3 ก็ต้องบอกเลยว่า “ไม่มีอะไรใหม่”  นอกจากเหล่าผู้ติดเชื้อท่าทางประหลาดๆ  และเหล่า AI ฝ่ายมนุษย์ที่ดูเหมือนยกมาจาก UNCHARTED 4 ที่ยอมรับว่าโคตรกดดัน ตึงมือ และมียุทธวิธีในการล้อมหน้าหลัง หรือปั่นประสาทผู้เล่น นอกนั้น Flow เกมเพลย์ยังเหมือนเดิม ยังคงต้องฟาร์มอาวุธ กระสุน ปลดล๊อกสกิลต่างๆ เหมือนเดิม ไม่ได้รู้สึกสดใหม่อะไรนัก แต่ยอมรับว่าเหล่าบอส และมินิบอสในเกมนี้ ตึงมากๆ…

The Last of Us™ Part II_20200620075734.mp4_snapshot_55.50_[2020.06.22_23.26.10]

 

 

 

The Last of Us™ Part II_20200619173943.mp4_snapshot_00.00_[2020.06.22_23.22.31]

งานภาพ ตัวเกมมีดีเทล รายละเอียดที่สวยงามมากขึ้น ถ้านับจากภาคแรก PS3 มีการเล่นเบลอ Move  ต่างๆ บางคนชอบ บางคนไม่ชอบ แต่ถ้าเก็บสกรีนช๊อตสวยๆ เกมนี้ให้คุณได้แทบทุกซีนในการสำรวจเมือง อีกทั้งบรรยากาศฝนตก และเพลงประกอบสุดอึมครึม ก็ทำให้เกมสร้างอารมณ์ร่วมได้ดีมากๆ…ข้อเสียเล็กๆน้อยๆ คือ PS4Pro ทำงานเต็มที่สุดๆ พัดลมดังกว่าปกติพอสมควร

 

The Last of Us™ Part II_20200622064144

สรุป เป็นเกมที่แอดมินไม่กังขาอะไรในแง่ของเทคนิคตัวเกม งานภาพ แต่เนื้อเรื่องนี่ “ไม่ได้เหมาะกับทุกคน” ภาคนี้จะเข้มข้นขึ้น จริงจังจนอึดอัด พลิกล๊อกจนหงุดหงิด  รวมไปถึงเกมเพลย์ที่ออกแนวลอบสังหารมากกว่าลุยแรมโบ้ในรอบแรก ก็อาจจะไม่ถูกใจสายลุยด่านเท่าไหร่นัก (รอบสอง New Game+ เริ่มจากของเดิมที่มี)

 

+

+

+

+

+

+

+

+

+

+

+

+

+

มีสปอลย์แรงนะครับ อ่านถึงตรงนี้ ยังไม่พร้อม กดปิดไปได้เลย

+

+

+

+

+

+

+

+

+

+

+

+

+

+

+

+

+

+

+

+

+

+

+

+

+

+

+

+

+

+

+

+

+

+

+

+

+

+

+

+

+

+

+

+

+

+

+

+

+

+

+

+

 

 The Last of Us™ Part II_]

บทวิเคราะห์หลังเล่นจบ The Last of Us : Part II เกมกากจริงหรือ?

ในต่างประเทศมีการเอาคะแนนรีวิวจากสื่อมวลชนสายเกม ที่ให้ 10/10 แบบถล่มทลายทุกสำนัก แปะหราโชว์หลายๆเพจ ทำให้กระแสของเกมดังกล่าวถูกพัดโหมให้เป็นที่กล่าวถึงในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา แม้ว่าก่อนหน้านี้ จะมีสปอยล์หลุดออกมา แต่ก็ไม่ได้ทำให้ความอยากรู้ของคนเล่นจริงๆนั้นลดลงเท่าไหร่ เพราะยังมีคนซื้อเรื่อยๆ แถมเกมนี้มีการแปลภาษาไทยเต็มรูปแบบอีกด้วย (แปลได้ดีเลย เหมือนดูซีรี่ส์ NETFLIX) แต่เมื่อผ่านไปวันสองวัน เมื่อเกมเมอร์ได้ลองเล่นจนจบ ก็มีการออกมาวิจารณ์ตัวเกม ถึงขั้นหักแผ่นทิ้ง หรือก่นด่าเกมนี้เสียหายชนิดไม่เผาผี และปรามาสว่าเกมกาก จนกลายเป็นปากต่อปาก ทำให้เกิดการลังเลที่จะซื้อ ไปเลย แอดมินก็เลยลองเอาจุดที่หลายๆคนก่นด่า มานั่งเรียบเรียงในมุมมองของคนที่เล่นจบแล้ว และพอจะจับจุด หรือเข้าใจในโลกของเกม หรืออารมณ์ตัวละครที่เกมต้องการนำเสนอเป็นเหตุและผลให้ได้ลองทบทวนกันอีกซักหน่อย

The Last of Us™ Part II_2020 ]

บทโจเอลง่อย ตายโง่ จริงหรือ!?

-ส่วนตัวมองว่า”ไม่จริง” เพียงแค่การตายของโจเอลนั้นมัน “ง่าย” ไปหน่อยเท่านั้น ดังคำว่า “คนเรามันถึงที่จะตาย แค่ไม้จิ้มฟันแทงเหงือก ยังเสื-กตายได้”

 

แต่ถ้าเรามองย้อนกลับไปที่ภาคแรกสุด โจเอล เป็นคนค้าของเถื่อนที่ไม่ไว้ใจใคร หัวใจแตกสลายเพราะเสียลูกสาวเพราะทหารพลั้งมือไปปืนลั่นใส่ในวันที่ไวรัสระบาด และการได้ภารกิจดูแล “เอลลี่” ที่เป็นเด็กหญิงที่มีภูมิคุ้มกันไวรัสสปอร์เห็ดนำไปส่งให้กับองค์กร “ไฟร์เออร์ฟลาย” ที่กำลังหาทางช่วยโลกด้วยการใช้เอลลี่เป็นต้นแบบของแอนตี้ไวรัส  จนนำไปสู่บทสรุปของภาคแรก ที่โจเอลเลือกที่จะปล่อยให้คนทั้งโลกจมอยู่กับไวรัสระบาดแบบไร้ทางรักษา และเลือกที่จะรักษาชีวิตของเอลลี่ ซึ่งนั่น คือชนวนเรื่องราวของภาค 2 ทั้งหมด จะเรียกว่าเป็นผลลัพท์ที่โจเอลเลือกแล้วก็ว่าได้

 

The Last of Us™ Part II_20200619170709.mp4_snapshot_40.20_[2020.06.22_23.14.41]The Last of Us™ Part II_20200619170709.mp4_snapshot_37.55_[2020.06.22_23.34.08]

4 ปีต่อมา ในเอกสารฉบับหนึ่งในหมู่บ้านที่“แจ็กสัน”เมืองเล็ก ๆ ในรัฐไวโอมิง ที่ๆผู้รอดชีวิตรวมตัวกันเป็นชุมชนเล็กๆ ได้เขียนถึงโจเอลว่า “เป็นบุคคลที่มีน้ำใจ ช่วยเหลือเพื่อนบ้านหลายๆคน” ไม่ว่าจะงานซ่อมหลังคา งานอาสา พี่แกรับงานหมดเพื่อชุมชน และห้องพักของโจเอล ก็เต็มไปด้วยข้าวของ การตกแต่ง บรรยากาศชวนอบอุ่น ที่ดูเหมือนจะต่างจากห้องโจเอลภาคแรกที่ดูดิบๆโทรมๆ ไร้ชีวิตชีวา นั่นหมายว่าอะไร? หมายความว่า โจเอลเริ่มกลับมามี “หัวใจ” อีกครั้ง ปล่อยวางเป็น นับตั้งแต่มีเอลลี่เข้ามาแทนลูกสาวของเขา แม้ว่าจะมีช่วงที่ไม่ลงรอยกันบ้างก็ตาม…ทำให้ภาพลักษณ์ของโจเอลที่ไม่ไว้ใจคน ไม่เป้นมิตรนั้น ถูกแทนที่ด้วยความอบอุ่นของชายวัยใกล้เกษียณ จนเหมือนอ่อนกำลังลง อีกเรื่องที่สนับสนุนความใจดี และเป็นที่รักของคนในชุมชนอีกเรื่อง ก็คือวันที่โจเอลตาย ที่หน้าบ้านของเขา ก็เต็มไปด้วยดอกไม้ และโน้ตกระดาษแสดงความไว้อาลัยเต็มทางขึ้นบ้านของเขา…

 

The Last of Us™ Part II_20200619170709.mp4_snapshot_30.48_[2020.06.22_23.36.04]

หรือแม้แต่วันที่โจเอลได้พบกับ แอ๊บบี้ ครั้งแรกในพายุหิมะรอบเขตสำรวจเมืองแจ๊คสันก็ตาม หลายๆคนอาจจะตั้งป้อมกับโจเอลว่า อยู่ๆก็ยื่นมือช่วยคนแปลกหน้า มันผิดวิสัยของตัวละครที่เราเคยรับรู้ในภาคแรก อย่างที่บอก โจเอลเริ่มไว้ใจคน เริ่มปล่อยวาง ลดความระแวงลงอย่างที่กล่าว จนถูกแอ๊บบี้ทุบหัวจนตาย…ในนาทีก่อนตาย โจเอลยังพยายามจะเรียกชื่อเอลลี่ทั้งๆที่ไม่มีเสียงจะพูดแล้ว…

 

ในจุดที่ยกมา ก็สอดคล้องกับบันทึกตามจุดต่างๆในการสำรวจ ว่าในแต่ละครั้งพวกทีมสำรวจจะต้องลงมือเซ็นชื่อ พร้อมกับเขียนโน้ตเล็กๆเอาไว้ว่าในการสำรวจ เขาเจออะไรบ้าง บางทีก็เจอผู้ติดเชื้อ บ้างก็เจอคน ก็พาเข้าหมู่บ้านแจ๊คสัน จะว่ามาแก้ต่างให้ตาลุงโจเอล ก็…คงไม่ผิดนักหรอกนะ 555+

 

The Last of Us™ Part II_20200619170709.mp4_snapshot_22.37_[2020.06.22_23.44.56]

บทยัดเยียด Faminist มากเกินไปไหม? 

-ส่วนตัวตอบได้เลยว่า “ใช่”

แต่ต้องยอมรับว่าในเกม The Last of Us ภาค 2 นี้ ถูก “พลังหญิงแกร่ง” ขับเคลื่อนเนื้อหาให้ไปต่อได้ และใส่มาซะเยอะเกิ๊น… เราจะเห็นบริบทที่ให้พลังหญิงได้แสดง Power ออกมาชัดมาก ทั้งการที่มีทั้ง สาวผิวสีสุดเก่ง / ความรักแบบ Lesbian / หญิงท้องโย้ออกรบลุยแหลกแนวหน้า  / เด็กหญิงชาวเอเชียที่อยากได้การยอมรับ หรือแม้แต่เด็กสาวกล้ามโต ที่พกพาความแค้นออกไล่ล่าคนที่ฆ่าพ่อเธอ…สิ่งเหล่านี้ มันใส่มาเยอะมากๆ มากจนรู้สึกเหมือนยัดๆมาเอาใจคนบางกลุ่มหรือไม่ 

 

 

โจเอล / เอลลี่ / แอ๊บบี้ Wolf / Seraphites ใครเลวสุด? 

-ไม่สามารถตอบได้ เพราะเกมนี้มีเหตุผลมารองรับแทบทุกอย่าง

The Last of Us™ Part II_2020

โจเอล เลือกที่จะรักษาชีวิตเอลลี่ แทนที่จะสละชีวิตเพื่อช่วยคนทั้งโลก จึงต้องลงมือสังหารพ่อของแอ๊บบี้ที่เป็นหมอผ่าตัด เพื่อชิงตัวมา ส่วน เอลลี่ ที่เหมือนจะเกลียดโจเอลที่ไม่ยอมให้เธอตายตอนนั้น แต่สุดท้าย ลึกๆแล้ว เอลลี่ก็ยอมให้โอกาสโจเอลอีกครั้ง แต่ก็เกิดเรื่องจนโจเอลต้องตายด้วยมือของแอ๊บบี้ ที่มาล้างแค้นให้พ่อ เอลลี้จึงแค้นแอ๊บบี้มากๆจนฝังใจ ฝังลึก ไล่ฆ่าคนเป็นผักปลา ทั้งหมดก็เพื่อสนองความรู้สึกผิดที่ไม่ได้พูดคุยกับโจเอลแบบเปิดใจในเรื่องที่โรงพยาบาลไฟเออร์ฟลายนั่น และในใจลึกๆแล้วเธอก็มองโจเอลเหมือนญาติผู้ใหญ่คนนึงที่เธอรักมากๆนั่นเอง

 

ในขณะที่ แอ๊บบี้เองก็ต้องสูญเสียพ่อ จากฝีมือโจเอล ในวันที่จะผ่าตัดเอลลี่เอาเซลสมองออกมาทำวัคซีนเมื่อ 4 ปีก่อน  แอ๊บบี้จึงทำทุกอย่างเพื่อหาเบาะแสโจเอล แม้แอ๊บบี้จะโหดเหี้ยมกับโจเอล จนเหมือน Golf Simulater หวดไม้ 9 เต็มสวิงไม่ยั้งมือ แต่กับคนอื่นๆที่ไม่เกี่ยวข้อง หรือคนที่เข้ามาในชีวิต แอ๊บบี้เองก็เลือกที่จะปล่อยไปเช่นกัน (แม้แต่เอลลี่ก็ตาม) และนั่นก็ทำให้แอ๊บบี้ต้องเสียทุกสิ่ง ทั้งฝ่ายที่ตัวเองทำงานให้อย่าง Wolf หรือแม้แต่เพื่อนรักยกก๊วน ก็ตายเพราะเอลลี่ กับ ทอมมี่ ที่พกพาความแค้นที่โจเอลตายนั่นเอง

The-Last-Of-Us-Part-II-6-1200x675

หรือแม้แต่ฝ่าย Wolf ที่มีกำลังทหารนับพัน ทำสงครามกับฝ่าย Seraphites ที่เชื่อในลัทธิ ศาสนา ความศรัทธา และเราก็รู้ว่าจริงๆแล้ว คำสอนของ Seraphites นั้น ไม่ได้มีเรื่องของการเบียดเบียน หรือการฆ่าฟันกันเลย เพียงแต่ตัวแทนศาสดานั้นได้บิดเบือนคำสอนจนมั่วซั่ว หมายจะเอาทรัพยากร และเอาตัวรอดจนเกินพอดี และนำไปสู่จุดจบของกลุ่ม Seraphites ในท้ายเรื่อง

 

ทั้งหมดไม่มีใครเลวสุด- ดีสุด ทุกอย่างมีมุมที่ “ถูกใจ ของฝ่ายที่ตัวเองยืนอยู่ ณ จุดนั้น”  เกมนี้มันให้อารมณ์แบบ ไม่มีใครเป็นตัวร้าย แม้กระทั่งตัวละครที่กำลังเล่นอยู่เองก็ตาม…

 

The Last of Us™ Part II_20200607220549

เอลลี่ทำไมไม่ฆ่าแอ๊บบี้ ปล่อยรอดง่ายๆ จบแบบนี้เลยเหรอ ง่ายไปป่าว?

-ส่วนตัวตอบว่า “ไม่” มันไม่น่าจะง่ายแบบนั้น

ในศึกสุดท้ายที่ ซานตาบาร์บาร่า สภาพของแอ๊บบี้เองก็เหนื่อยล้ากับการต่อสู้  ส่วนเอลลี่เอง ก็เหนื่อยล้ากับการล้างแค้น

 

การต่อสู้กับแอ๊บบี้ครั้งสุดท้ายนี้ก็มาล้างแค้นให้โจเอลนั่นละ แต่จังหวะที่เอลลี่กำลังจะฆ่าแอ๊บบี้ได้ ภาพในวันที่คุยกันครั้งสุดท้ายกับโจเอลก็ลอยมา…ถ้าเราปะติดปะต่อเรื่องราวในบทสนทนา ก็จะประมาณว่า “เอลลี่โกรธโจเอลที่ไม่ยอมให้เธอเป็นความหวังของคนทั้งโลก แต่กลับมีชีวิตต่อ” …แต่ถึงจะโกรธมากแค่ไหน เธอเองก็อยากจะลอง “ให้อภัย” ซักครั้ง แต่ยังไม่ทันได้คุยกันต่อนัก…โจเอลก็ถูกฆ่าตายในวันต่อมา

 

“การให้อภัย” สิ่งที่เอลลี่อยากทำให้โจเอล ก็เลยมาลงที่แอ๊บบี้ และปล่อยให้เธอล่องเรือไปตามยถากรรม ถ้ามองอีกมุม ก็คือ อารมณ์แบบวัยรุ่นชั่ววูบลุยเละมาตลอด แต่จริงๆเหมือนเริ่มคิดได้เอง

 

The Last of Us™ Part II_2

ฉากจบที่คนไม่ชอบ แต่แอดมินชอบมาก!

-เพราะเป็นฉากจบแบบปลายเปิด พร้อมนำเสนอฟิลลิ่งของหัวใจที่แตกสลายอย่างแท้จริง เพราะเลือกที่จะ “ไม่ปล่อยวาง” นั่นเอง…

เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมา เอลลี่จมปรักกับความแค้น ออกไล่ฆ่าคนที่เกี่ยวข้องกับแอ๊บบี้ราวกับผักปลา 

แต่ว่าจุดที่เอลลี่ลงมือทำมาตลอดนั้น มันค่อยๆกัดกินหัวใจของเธอจนบอบช้ำ แม้แต่ศึกสุดท้ายของแอ๊บบี้ก็ตาม

 

The Last of Us™ Part II_20200607180603

เอลลี่ก็ได้กลับบ้าน หวังว่าจะให้ลูกเมียเป็นที่พักใจสุดท้าย  แต่ดีน่า ก็ได้ทิ้งบ้าน หอบลูกน้อยหายสาบสูญไปเลย ทิ้งเอลลี่ไว้กับบ้านร้างที่เคยมีความสุข ราวกับสื่อเป็นนัยๆว่า

ถ้าเอลลี่ปล่อยวางแต่แรก ชีวิตคงมีความสุขกว่านี้…อย่างที่โจเอลอยากให้เป็นมาตลอด  แต่มันก็สายเกินไปแล้ว

 

แต่ตอนนี้เอลลี่ที่เสียทุกอย่าง ก็อยู่อย่างตายทั้งเป็น ไม่มีที่ให้พักใจ ไม่มีนิ้วครบที่จะเล่นกีต้าร์ที่ทำให้นึกถึงโจเอล ทำให้เธอต้องอยู่อย่างทรมาณจิตใจ

ในที่สุด เอลลี่ก็ตัดสินใจเดินทางออกไปที่ไหนก็ไม่รู้ และไร้จุดหมาย 

The Last of Us™ Part II_20200607221513

เป็นฉากจบที่แสดงให้เห็นถึงผลลัพท์ของทุกสิ่ง

ตั้งแต่สิ่งที่โจเอลเลือกในภาคแรก

การล้างแค้นของเอลลี่

การล้างแค้นของแอ๊บบี้

และการให้อภัยของเอลลี่ 

 

 

สรุป…เกมกากจริงหรือ? 

-ไม่กากหรอก แค่ย่อยยาก คิดเยอะ เล่าเรื่องบางอย่างต้องตีความ และไม่ถูกใจคนส่วนมากเท่านั้นเอง

 

 จุดเดียวที่คาใจ อีตาทอมมี่มันหายไปไหน!!

 

แอดมิน Ak47