ซามูไรพเนจร Rurouni Kenshin [เรื่องย่อ/ตัวละคร]
15 กรกฎาคม 2559 18:49 น.
Share on FacebookTweet about this on TwitterShare on Google+

Samurai-X-(1)

ซามูไรพเนจร
ชื่อญี่ปุ่น : るろうに剣心 (รูโรนิ เคนชิน)
ชื่ออังกฤษ : Rurouni Kenshin หรือ Samurai X
แนว : Action, ประวัติศาสตร์
เขียนเรื่อง : โนบุฮิโระ วาสึกิ
สำนักพิมพ์ : โชเนน จั๊มป์ / ลิขสิทธิ์ภาษาไทยโดย สยาม อินเตอร์คอมมิค
จำนวน : 28 เล่มจบ

 

Ver. อนิเม
ผู้กำกับ : คาซึฮิโระ ฟุรุฮาชิ
ออกแบบตัวละคร : ฟุมิเอะ ทาคาราอิ
ผลิตโดย : สตูดิโอแกลลอป (ตอนที่ 1-66)
สตูดิโอดีน (ตอนที่ 67-95)
ฉายทาง : ญี่ปุ่น ฟูจิทีวี, อนิแมกซ์ / ไทย ยูบีซี (ช่อง AXN) , ช่อง 7 สี ทุกเช้า จันทร์ – พฤหัส เวลา 7:30น.
ฉายครั้งแรก : 10 มกราคม 2539 – 8 กันยายน 2541
จำนวนตอน : 95 ตอน

 

 

 

Samurai-X-(2)

กลายเป็นกระแส Talk of the Town ไปแล้ว สำหรับการ์ตูนเรื่องดังจากอดีตอย่าง “ซามูไรพเนจร” ที่มีโอกาสได้ทำเป็นหนังแอคชั่นฟอร์มยักษ์เมื่อปี 2012 ที่ผ่านมา และจะมีภาคสอง รอฉายในวันที่ 2 ตุลาคม 2014 แล้ว แอดมินเลยขอพาชาวเวป Metalbridges.com ไปย้อนความหลังกับอนิเมยุค 90 ที่ได้ชื่อว่าสนุกครบรส ทั้งตลก บู๊ รัก และ ดราม่าสุดขั้ว กับการ์ตูนเรื่องนี้กันครับ!!..

 

 

 

เนื้อเรื่อง

 

Samurai-X-(3)

“เคนชิน” และ “คาโอรุ” จากเล่ม 1 ที่ลายเส้นทำเอาคนเข้าใจผิดว่าเป็นการ์ตูนตาหวาน มาลงจั๊มป์

 

เนื้อเรื่องของการ์ตูนชุดนี้มีทั้งหมด 28เล่ม โดยเนื้อเรื่องหลักๆจะแบ่งออกเป็นสามช่วงครับได้แก่ ช่วงปฐมบท / ช่วงภาคชิชิโอ และ ช่วงภาคเอนิชิ แต่ขออนุญาติเพิ่มเติมเนื้อหาของ OVA เข้ามาอีก 2 ชุด เพื่อความสมบูรณ์ครับ

 

OVA : กำเนิดเคนชิน

 

Samurai-X-(4)        

ในส่วนของอนิเมชั่นทั้ง 90 กว่าตอนของการ์ตูนเรื่องนี้นั้น จะเดินเรื่องตามหนังสือการ์ตูนเป๊ะๆ แต่ว่าในช่วงอดีตของเคนชินนั้น จะเอามาเล่าแยกเป็น OVA สุดดราม่าคุณภาพสูงที่มีชื่อภาคว่า “กำเนิดเคนชิน” ซึ่งเป็นภาคที่สมควรหามาดูเป็นอย่างยิ่ง เพื่อทำความเข้าใจโลกทัศน์ของซามูไรพเนจรครับ โดยOVAชุดนี้ จะเล่าเรื่องราวจากหนังสือการ์ตูนเล่มที่ 19 ตั้งแต่ตอนที่165 – ตอนที่179 ครับ

ดังนั้น จึงขอใช้ภาพจากหนังสือการ์ตูนมาประกอบบทความแทนที่ไฟล์วิดิโอที่คุณภาพต่ำเกินกว่าจะมาลงครับ

 

 

 

Samurai-X-(5)

ชินตะ เด็กน้อยที่ถูกขายเป็นทาส และ ฮิโกะ เซจูโร่ นักดาบพเนจร ที่จะกลายเป้นศิษย์อาจารย์กันในเวลาต่อมา

 

ในอนิเมชุดนี้ จะเล่าถึงเด็กน้อยที่มีชื่อว่า “ชินตะ” ที่ถูกขายมาเป็นทาส ได้ถูกพวกโจรข้างทางสังหารเรียบทั้งขบวน จนกระทั่ง “ฮิโกะ เซจูโร่” ได้เข้าช่วยเหลือด้วยการสังหารโจรเหล่านั้น และด้วยความที่เขาเห็นความอ่อนโยนของชินตะที่ฝังศพของทุกคน และพวกโจรที่ถูกเซจูโร่ฆ่าตาย จึงรับเขาเป็นศิษย์ผู้สืบทอดวิชา “เพลงดาบล่องนภา” (飛天御剣流 ฮิเท็น มิสุรุงิริว) เพลงดาบที่มีอาณุภาพร้ายกาจที่สุด ที่มีไว้ใช้ปกป้องผู้คน และเปลี่ยนชื่อของชินตะ เป็น “ฮิมุระ เคนชิน” (เคน=ดาบ / ชิน=วิญญาณ รวมกันก็คือ จิตวิญญาณแห่งดาบ นั่นเอง) เพื่อใช้วิชาดาบ ออกปกป้องผู้คน…

 

Samurai-X-(6)

 แต่แล้ว ศิษย์อาจารย์ที่มีความคิดที่ต่างกัน ก็ทำให้เคนชิน ในวัย 16 ปี ที่เชื่อว่า เพลงดาบล่องนภา จะช่วยให้ยุคสมัยเปลี่ยนไปได้ ด้วยการเข้ากับกลุ่มปฏิวัติอำนาจโชกุน จนต้องแตกคอกับอาจารย์ และลาจากเซจูโร่ เข้าสู่โลกของมือสังหาร และรับใช้ “คาซึระ โคโกโร” (หรือ คิโดะ ทะกะโยะชิ ผู้นำคณะปฎิวัติกลุ่มโจชู)

 

 

 

Samurai-X-(7)

“คาซึระ โคโกโร” หรือ “คิโดะ ทะกะโยะชิ” ผู้นำกลุ่มปฏิวัติโจชู ที่ต้องการปฏิรูปการปกครองจากโชกุน เป็นบุคคลจริงๆในประวัติศาสตร์

 

 

 

Samurai-X-(8)

แผลแรกของเคนชิน มาจากนักดาบหนุ่มอนาคตไกล แห่งกองกำลังรัฐบาลเกียวโต และเป็นแผลที่มีความอาฆาตฝังลึก จนไม่มีวันหาย…

 

เคนชินที่เข้าสู่โลกของมือสังหารของยุคสมัย ที่ทำให้เขาต้องลงมือสังหารผู้คนมากมาย จนกระทั่งมีเหยื่อรายหนึ่งที่เป็นคนของรัฐบาลเกียวโต “คิโยซาโตะ อากิระ” ที่ต่อสู้กับเขาจนวินาทีสุดท้ายของชีวิต และได้ฝากรอยแผลเป็นบนใบหน้า ที่ไม่มีวันหายไป…

 

 

Samurai-X-(9)

การพบกันครั้งแรกของเคนชิน และโทโมเอะ หญิงสาวที่จะเปลี่ยนวิถีชีวิตนักฆ่าของเขาไปตลอดกาล

 

และหลังจากนั้นไม่นานในคืนที่เขาต้องรับมือกับนินจามือสังหารของรัฐบาลโตกุกาว่า เคนชินก็พบกับ “ยูกิชิโร่ โทโมเอะ” หญิงสาวที่มีเสน่ห์ลึกลับน่าค้นหา และเป็นรักแรกของเคนชินอีกด้วย

 

ด้วยเหตุผลทางการเมืองที่ไม่แน่นอน คาซึระ จึงให้เคนชินห่างๆจากโลกมือสังหารซักพัก บวกกับความสับสนในจิตใจของตัวเคนชินเอง ทำให้เคนชินกับโทโมเอะได้ได้ปลีกตัวไปใช้ชีวิตในสถานที่ที่ห่างไกลจากความวุ่นวาย เขาได้รับรู้ถึงความสุขในการใช้ชีวิตในอีกรูปแบบหนึ่ง และเริ่มเข้าใจความหมายของการใช้ชีวิต

 

แต่ที่จริงแล้ว โทโมเอะ เป็นสปายให้พวก “กลุ่มนักรบดำ” ใช้ให้เข้ามาใกล้ชิดเคนชินและสืบหาจุดอ่อนของเคนชิน และ เธอก็เต็มใจทำเพราะต้องการฆ่าเคนชินล้างแค้นแทนคู่หมั้นของเธอที่ถูกเคนชินฆ่าตาย (เป็นซามูไรหนุ่มที่สร้างแผลเป็นบนหน้าของเคนชินในตอนนั้นนั่นเอง…) แต่ในที่สุดแล้ว โทโมเอะก็รักเคนชินจากใจจริงจนได้ และใช้ชีวิตคู่อย่างมีความสุขที่กระท่อมน้อยปลายนา ในฐานะหมอสมุนไพร

 

 

 Samurai-X-(10)

ด้วยความรัก ทำให้เธอละทิ้งทุกความโกรธแค้นที่เคนชินสังหารคู่หมั้นเก่า และตั้งใจจะช่วยเคนชิน กำจัดศัตตรูที่อยู่ตรงหน้า…แต่ทว่า เคนชินพลั้งมือฆ่าโทโมเอะอันเป็นที่รัก โดยไม่ได้ตั้งใจ…

 

โทโมเอะ และเคนชิน ก็ถูกไล่ล่าโดยพวกนักรบดำจนได้ ด้วยจำนวนคน และฝีมือที่ต่างกัน ทำให้เคนชินสุญเสียประสาทสัมผัสไปชั่วระยะเวลาหนึ่ง จนในที่สุด ด้วยความรักของโทโมเอะ ที่ตั้งใจจะเข้าไปจัดการกับศัตรูของเคนชินก็ถูกเคนชินสังหารโดยไม่ได้ตั้งใจ

 

 

 

Samurai-X-(11)

แผลเป็นรูปกากบาทที่หน้าของเคนชิน ก็เกิดขึ้นในตอนนี้เอง…

 

 

 

Samurai-X-(12)

ในขณะนั้นมีดที่โทโมเอะถืออยู่ก็ตวัดไปที่ปลายแก้มของเคนชิน ทำให้เกิดรอยแผลไว้บนใบหน้าแผลรูปกากบาทที่แก้มซ้าย และนี่เอง คือสาเหตุที่สร้างความแค้นอย่างใหญ่หลวงให้กับเอนิชิ น้องชายของโทโมเอะ และกลายเป็นศัตรูคนสุดท้ายของเรื่องนี้…

 

 

 

Samurai-X-(13)
“ชิชิโอ มาโคโตะ” มือสังหารคนใหม่ ที่ทำงานแทนเคนชินในช่วงที่เคนชินอยู่ในฐานะแนวหน้ารับมือกลุ่มชินเซน

 

เคนชินนำโทโมเอะกลับมาที่บ้าน เคนชินได้เห็นบันทึกของโทโมเอะ และแล้วเคนชินก็รู้ความจริง ว่าเขาคือคนที่พรากคู่หมั้นของโทโมเอะไป และ คาซึระ โคโกโร ก็กลับมารับเขาในฐานะ “ลูกน้องคนสนิท” โดยเขามอบหน้าที่มือสังหารให้ “ชิชิโอ มาโคโตะ” ไปแล้ว และมอบตำแหน่งใหม่ให้เคนชิน…

 

 

 

  Samurai-X-(14)    

“ถ้าหากข้าทิ้งดาบตอนนี้ ที่ทำไปก็สูญเปล่า ความสุข เล็กๆ น้อยๆ ของผู้คนที่โทโมเอะบอกจนกว่าจะถึงวันที่สร้างยุคใหม่…ข้าจะจับดาบต่อไป”

 

จากนั้น เคนชินได้เผาบ้านพร้อมกับศพของโทโมเอะ และออกจากเงามืดมาเป็น “แนวหน้าของขบวนพยุหะสังหารของโจชู” ทำหน้าที่ปกป้องพวกพ้องซามูไรคณะปฎิวัติด้วยกัน และ เข้ารับมือกับกลุ่มชินเซนโดยเฉพาะ

 

 

 

Samurai-X-(15)

“มือพิฆาติ บัตโตไซ” และ หมาป่าแห่งมิบุ “ไซโต้ ฮาจิเมะ” หัวหน้ากลุ่มชินเซนหน่วยที่สาม คู่มือฟ้าประทานให้ตัดสินกันในยุคแห่งความวุ่นวายนี้…

 

ในปีเคโอที่ 4 (เมจิที่ 1) (ค.ศ. 1869) ไซโต ฮาจิเมะ แยกจากฐานตนเองที่ไอสึ ไปรวมตะลุยในสงคราม หลังจากปฏิวัติ กลับไปที่ไอสึ เมื่อสมัยสงครามเซฟัน เข้าร่วมทัพรัฐบาลในฐานะกองทะลวง หลังจากนั้น ก็เข้าเป็นสันติบาลใช้ชื่อ ฟุจิตะ โกโร ส่วนกลุ่มซินเซ็นได้ย้ายการต่อสู้ไปทางเหนือ กระจัดกระจายไป และถูกกำจัดในที่สุด

 

องค์สมเด็จพระมหาจักรพรรดิคืนสู่พระราชอำนาจ…เริ่มสงครามโบชิน…และที่ศึกใหญ่ โทบะฟุชิมิ “กองทัพปฏิวัติ” ที่เคนชินสังกัดอยู่ ก็มีชัยเหนือรัฐบาลบากุฟุสำเร็จ จบสิ้นระบบศักดินาโชกุนที่ครองประเทศญี่ปุ่นมานานหลายศตวรรษลงใน และนั่นคือ “จุดจบหน้าที่ของมือพิฆาตบัตโตไซ”

 

 

Samurai-X-(16)

“เมื่อสงครามจบแล้ว…ข้าน้อยจะไม่ฆ่าใครอีก ไม่อีกแล้ว…”

 

เมื่อจบสงครามสมัยปฏิวัติเมจิ เคนชินก็ออกเดินทาง ในฐานะคนพเนจร ที่พก “ดาบสลับคม”เร่ร่อนช่วยคนไปเรื่อย ในยุคสมัยของการเปลี่ยนแปลงการปกครองที่แสนยุ่งเหยิงนี้…

 

 

ช่วงปฐมบท : ฮิมุระ เคนชิน

 

เนื้อเรื่องจะเล่าถึง “ฮิมุระ เคนชิน” ซามูไรเร่ร่อน (อายุ 30 กว่าๆ) ที่มีอดีตเป็นถึง “สุดยอดมือสังหารของคณะปฏิวัติ” เจ้าของฉายา “มือพิฆาตบัตโตไซ” ที่วางมือหลังจากสงครามสมัยปฏิวัติเมจิจบลง เขาได้สำนึกผิดต่อทุกชีวิตที่ตัวเองได้สังหารไป รวมไปถึง “ประเด็นของโทโมเอะ”ด้วย

 

 

 

 Samurai-X-(17) 

“ฮิมุระ เคนชิน” ในวัย28 ที่ใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อยไปวันๆ ก็มาเจอกับ “คามิยะ คาโอรุ” สาวน้อยอายุ 16 ปี ที่ต้องรับภาระดูแลโรงฝึกดาบ คามิยะ คัตชินริว

 

ทำให้ เคนชิน ได้วางมือจากการฆ่าคน มาใช้ชีวิตอย่างคนจรจัด จนกระทั่งได้มาพบกับครูฝึกดาบสาว “คามิยะ คาโอรุ” เจ้าของสำนักคามิยะคัตชินริว (จากการเข้าใจผิด คิดว่าเป็นบัตโตไซ ที่เป้นผู้ก่อกวนสำนักดาบต่างๆในขณะนั้น)

 

 

 

Samurai-X-(18)

ชื่อเสียงของเคนชินในฐานะ “มือสังหาร” ก็ยังเลื่องลือไปถึงผู้คนในรัฐบาล แม้แต่ผู้นำกองกำลัง “อิชินชิชิ” ทหารแห่งองคพระจักพรรดิ์ที่แกร่งที่สุดในตอนนั้น นำโดย “พลเอก ยามากาตะ อาริโมโตะ” ยังอยากให้เคนชินกลับไปร่วมงาน แต่เคนชินก็เลือกที่จะอยู่กับคาโอรุ ในฐานะ “พ่อบ้าน” มากกว่า…

 

และตัวของคาโอรุก็ทำให้เขารู้สึกสบายใจ จนต้องหยุดการเดินทางเร่ร่อนไร้จุดหมายลงด้วยการมาขออยู่กับคาโอรุและคอยช่วยงานจิปาถะในโรงฝึกดาบเล็กๆนี้ ถึงแม้จะมีผู้คนจากที่ต่างๆ มาคอยประมือกับเคนชิน แต่เขาก็ไม่เคยฆ่าใครเลย…

 

 

 

Samurai-X-(19)

และชีวิตเรื่อยเปื่อยของเคนชิน ก็ได้พบกับผู้คนมากมายเช่น “ซางาระ ซาโนสุเกะ” นักบู๊ข้างถนน ผู้มีอดีตอันแสนเศร้า , “เมียวยิน ยาฮิโกะ” ศิษย์คนแรกของคาโอรุ , “ทากานิ เมกุมิ” หมอเถื่อนผู้มีอดีตอันลึกลับ รวมถึง “ชิโนโมริ อาโอชิ” และ “ไซโต้ ฮาจิเมะ” ที่เปลี่ยนชื่อเป้น “ฟุจิตะ โกโร่”

 

 

 

ช่วงภาคชิชิโอ: เกียวโตทะเลเพลิง

 

เหตุการณ์ต่างๆ ก็ถูกเล่าไปเรื่อยๆ จนกระทั่ง “ไฟแค้น”จากอดีต ได้หวนกลับมาพบกับเคนชินอีกครั้ง ถือเป็นภาคที่อ่านสนุกที่สุดแล้ว ในบรรดาสามบทหลักเวอร์ชั่นหนังสือการ์ตูน

 

  Samurai-X-(20) 

“ชิชิโอ มาโคโตะ” อดีตมือสังหารรุ่นน้องเคนชิน ที่ถูกลอบฆ่าและเผาศพไป แต่ทว่ารอดมาได้ และตอนนี้เขากลับมาเพื่อล้างแค้นคนที่ทำให้เขาเป้นแบบนี้ และยังมีแผนครองแผ่นดินญี่ปุ่นด้วย!

 

เมื่อ “ไซโต ฮาจิเมะ” อดีตหัวหน้ากลุ่มชินเซ็น กอง 3 (ฉายา หมาป่าแห่งมิบุ) ที่ปัจจุบันได้ทำหน้าที่เป็นสายสืบให้ตำรวจสันติบาล กำลังสืบสวนเรื่องของ “อดีตมือสังหารของคณะปฏิวัติ”อีกคนหนึ่ง ที่มีชื่อว่า “ชิชิโอ มาโคโตะ” มือสังหารรุ่นน้องของเคนชิน ที่คาดว่ากำลังเตรียมแผนก่อการปฏิวัติอยู่

 

Samurai-X-(21)

การตายของบุคคลสำคัญ “โอคุโบ โทชิมิจิ” เสนาบดีฝ่ายมหาดไทย ที่จะนำไปสู่ความวุ่นวายของยุคสมัย มีเพียงเคนชิน และพรรคพวกเท่านั้นที่หยุดได้!!

 

จากเหตุการณ์ลอบสังหาร “โอคุโบ โทชิมิจิ” เสนาบดีฝ่ายมหาดไทยโดยฝีมือของ “ดาบสวรรค์” เซตะ โซจิโร่ สมุนมือดีระดับเทพของชิชิโอ ทำให้เคนชินไม่อาจอยู่เฉยได้ เขาจึงเดินทางยังเกียวโตเพื่อยับยั้งแผนการปฏิวัติของชิชิโอให้ได้ (เพราะเคนชินถือว่า ที่ชิชิโอเป็นแบบนี้ ก็เพราะเขาด้วยส่วนหนึ่ง)ขณะเดียวกันชิชิโอก็เรียกกองกำลัง “จุปปงคาตานะ” (สิบดาบมรณะ) ซึ่งเป็นหน่วยยอดฝีมือพิเศษ 10 คนของตัวเองออกมารับมือกับเคนชินด้วย

 

 

Samurai-X-(22)

จุปปงคาตานะ (สิบดาบมรณะ) สุดยอดมือสังหาร 10 คน ที่ทำงานให้ชิชิโอ แต่ละคน ร้ายกาจด้วยท่วงท่าเฉพาะตัวที่ยากรับมือ

 

ทางด้านซาโนสุเกะก็ได้ออกติดตามเคนชินมาที่เกียวโตเพื่อช่วยเหลือเคนชินอีกแรง ขณะที่ยาฮิโกะกับคาโอรุก็เดินทางมาหาเคนชินเช่นกัน(แต่มาคนละเส้นทาง) ระหว่างการเดินทางเคนชินพบกับ “มากิมาจิ มิซาโอะ” สาวน้อยแห่ง “กลุ่มโอนิวาบัง” และด้วยความช่วยเหลือของกลุ่มโอนิวาบัง ทำให้พวกของเคนชินสามารถป้องกันแผนเผากรุงเกียวโตเพื่อก่อความวุ่นวายได้สำเร็จ 

 

 

 

  Samurai-X-(23) 

ในขณะที่ตัวชิชิโอและผู้ใกล้ชิดเตรียมนำเรือดำ “เรนโกกุ” เข้าอ่าวโตเกียวเตรียมยิงถล่มด้วยปืนใหญ่ เพื่อสร้างความวุ่นวาย แต่ในที่สุดเรือเรนโกกุ ก็ถูกระเบิดมือของซาโนสุเกะทำลายเสียหายจนต้องเลิกล้มแผนการบุกยึดอ่าวโตเกียวไป (จริงๆกะวิ่งบนผิวน้ำ ไปต่อยเรือด้วยซ้ำ แต่จังหวะถูกยิงปืนกลสวนมาก่อน เลยทำได้แค่ปาระเบิดใส่)

 

 

 

 

Samurai-X-(25)

ชิชิโอจึงพาจุปปงคาตานะที่เหลือกลับไป และท้าทายให้เคนชินมาสู้ถึงฐานทัพของตน เพื่อตัดสินขั้นแตกหักในเวลาต่อมา…แต่ทว่าในศึกสุดท้าย ยูมิ คนรักของชิชิโอ ได้สละชีพเพื่อให้ชิชิโอแทงทะลุร่าง เพื่อโจมตีเคนชิน แต่ชิชิโอใช้ร่างกายมากเกินรับไหว ทำให้ความร้อนในตัวพุ่งสูงขึ้น จนถูกเผาตายไปเองในเวลาต่อมา…

 

หลังจากเสร็จศึก เหล่าจุปปงคาตานะบางส่วนก็หายสาปสูญไป เช่น “ดาบสวรรค์ โซจิโร่” กับ “อิวังโบ” เองก็ไม่สามารถหาพบ 

 

ส่วน “โจ นักล่าดาบ” ก็เป็นสายลับให้สันติบาล ทำงานร่วมกับ “ไซโต้ ฮาจิเมะ” / “ปีกเวหา เฮนยะ” ก็ทำหน้าที่เป็นหน่วยลาดตระเวณทางอากาศ / “คนยักษ์ ฟุจิ” กลับไปทำไร่นาที่บ้านเกิด / “เคียวยักษ์ คามาทาริ” เลือกที่จะมีชีวิต เพื่อเล่าวีรกรรมของ ชิชิโอต่อไป / “นักบวชเถื่อน อันจิ” ก็ได้รับโทษจำคุกที่ฮอกไกโด 25 ปี และ “เสนาธิการ โฮจิ” ผู้เป็นเพื่อนคู่คิดของชิชิโอ ก็ฆ่าตัวตายในคุก

 

ทุกคนในกลุ่มของเคนชิน ได้พากันกลับโตเกียว และไปใช้ชีวิตอย่างสงบสุขในเวลาต่อมา…

 

 

 

 

 

ช่วงภาคเอนิชิ: ทัณฑ์มนุษย์

 

หลังจากการต่อสู้กับชิชิโอราวๆครึ่งปี เคนชินกับพรรคพวกก็ใช้ชีวิตอย่างสงบ จนกระทั่ง “กลุ่มคนที่เคยมีความแค้นต่อเคนชิน 6 คน” รวมตัวกันเพื่อล้างแค้นเคนชิน และ 1 ในจำนวนคนเหล่านั้นก็คือ “ยูกิชิโร่ เอนิชิ”

 

 

Samurai-X-(26)

“ยูกิชิโร่ เอนิชิ” ผู้เป็นน้องชายของ “ยูกิชิโร่ โทโมเอะ” ภรรยาเก่าที่ล่วงลับไปแล้วของเคนชิน ที่ยังมีความฝังใจว่า “เคนชินเป็นผู้แย่งความสุขไปจากพี่สาวของตน” อีกทั้งยังพรากชีวิตของพี่สาวของเขาด้วย ซึ่งเรื่องราวจุดนี้ แอดมินอธิบายไปแล้วใน “ภาคกำเนิดเคนชิน”

 

เอนิชิ จึงทำทุกวิถีทางเพื่อทำให้เคนชินเจ็บปวดเหมือนตายทั้งเป็น โดยเริ่มจากการไล่ทำร้ายคนรอบข้างของเคนชิน จนถึงการเข้าโจมตีโรงฝึกคามิยะของคาโอรุ

 

 

 

Samurai-X-(27)

เคนชินและพวกสามารถจัดการกับพวกของเอนิชิได้จนหมด แต่หลังจากนั้น ทุกคนก็พบว่า “คาโอรุถูกฆ่าตายไปแล้ว” และเรื่องนี้ทำให้เคนชินถึงกับหมดอาลัยตายอยากในชีวิต เขาทอดทิ้งทุกสิ่งไปอาศัยอยู่ที่หมู่บ้านคนไร้ราก(ราคุนินมุระ) อยู่เหมือนตายทั้งเป็น ในสภาพที่ใครๆเห็น ก็เวทนายิ่งนัก เคนชินไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองใดๆ ต่อคนที่มาขอร้องให้ไปล้างแค้นให้คาโอรุ ทั้ง ซาโนสุเกะหรือยาฮิโกะก็ตาม… 

 

เคนชินที่เจ็บปวดทรมานจากการตายของคาโอรุ ได้หลบหนีมายังหมู่บ้านคนจรจัด และหมดสิ้นซึ่งกำลังใจในการมีชีวิต อยู่ก็เหมือนตายทั้งเป็น…

 

แต่เหตุการณ์ที่คาโอรุเสียชีวิตนี้ มีเพียงอาโอชิเท่านั้น ที่เชื่อว่า “คาโอรุยังไม่ตาย” จึงได้ทำการขุดศพของคาโอรุออกมา แล้วความจริงก็กระจ่างว่าศพนั้นเป็นเพียงแค่หุ่นกระบอกที่ทำเลียนแบบคาโอรุเท่านั้น อาโอชิและไซโต้จึงเริ่มออกสืบเพื่อหาแหล่งกบดานของเอนิชิต่อไป

 

 

 

   Samurai-X-(29)  

สมมติฐานที่อาโอชิตั้งข้อสงสัย ก็เป็นจริง เมื่อศพของคาโอรุ เป็นเพียง “หุ่นกระบอก”เท่านั้น…แปลว่า คาโอรุ ยังไม่ตายนั่นเอง…

 

 

 

 

อีกด้านหนึ่ง “คุจิรานามิ เฮียวโก” ผู้ที่มีความแค้นต่อเคนชินที่ตัดแขนขวาของเขาไปเมื่อครั้งสงครามปฏิวัติ ก็ได้แหกคุกออกมาอาละวาดไปทั่ว ยาฮิโกะพยายามออกรับหน้าเพื่อไม่ให้มีผู้คนต้องได้รับบาดเจ็บ
“คุจิรานามิ เฮียวโก” นักโทษแหกคุกที่ใช้ปืนกลเป็นอาวุธ คู่ปรับคนสำคัญของยาฮิโกะ ที่เป็นบททดสอบฝีมือครั้งสำคัญของเขา…

 

 

Samurai-X-(31)

สึบาเมะได้ไปอ้อนวอนขอให้เคนชินช่วยเหลือก่อนที่ยาฮิโกะจะเป็นอะไรไป เสียงร่ำร้องของความช่วยเหลือสะท้อนไปถึงก้นบึ้งให้จิตใจของเคนชิน ปลุกให้เขาลุกขึ้นมาสู้กับความจริงอีกครั้ง

 

 

 

Samurai-X-(32)

หลังเหตุการณ์นี้ ทำให้ทุกคนกลับมารวมตัวโดยพร้อมเพรียงกัน เคนชินที่รู้ความจริงเรื่องที่คาโอรุยังไม่ตาย และพรรคพวกจึงออกเดินทางสู่เกาะที่เป็นฐานทัพของเอนิชิ ซึ่งนับเป็นการต่อสู้ครั้งสุดท้ายที่ยากลำบากที่สุด เพราะพรรคพวกของเอนิชิเอง ก็จัดอยู่ในระดับไม่ธรรมดา

 

 

 

 

    Samurai-X-(34) 

การปะทะกันครั้งสุดท้ายของเอนิชิ ที่ใช้ “เพลงดาบวาโต”ที่รีดเร้นโสตประสาททั้งหมดใส่ลงไปในการโจมตีเพียงดาบเดียว และ เคนชิน ที่สามารถใช้ “เพลงดาบล่องนภา” ได้อีกเพียงหนึ่งครั้งเท่านั้น…ไม่เช่นนั้น เคนชินจะจับดาบไม่ได้ไปตลอดกาล…

 

บทสุดท้ายของการ์ตูนเรื่องนี้ หลังจากเสร็จศึกเอนิชิ เคนชินซึ่งร่างกายบอบช้ำสะสมมานานทำให้ไม่สามารถใช้เพลงดาบล่องนภาได้อีก

 

 

เคนชินใช้ชีวิตคู่กับคาโอรุ ส่วนเพื่อนๆ ยอดฝีมือคนอื่นๆ แยกย้ายไปตามเส้นทางของตัวเอง

 

 

 

Samurai-X-(35)

ไซโต้ ย้ายไปประจำการที่อื่นเพื่อกำจัดความชั่วร้ายในสังคมต่อไป / อาโอชิ กลับไปบ้านเกิดในภูเขาคอยดูแลหลุมศพของพรรคพวกที่ตายไป / ซาโนะสุเกะ ออกไปผจญโลกกว้าง ด้วยเรือแจวลำเล็กๆ??

 

 

Samurai-X-(36)

เอนิชิ ได้ไปอาศัยอยู่ที่หมู่บ้านคนจรจัด กับลุงแก่ๆคนหนึ่ง (ที่คาดว่าน่าจะเป้นพ่อของโทโมเอะ และเอนิชิ)

 

Samurai-X-(37)

5ปีต่อมา ยาฮิโกะเติบโตขึ้นกลายเป็นนักดาบยอดฝีมือเต็มขั้น จนกระทั่งวันหนึ่งเคนชินที่ไม่ได้จับดาบอีกเลยนับตั้งแต่เสร็จศึกเอนิชิ ก็เรียกยาฮิโกะไปพบเพื่อทดสอบฝีมือ เพื่อมอบดาบสลับคมให้ ไว้ใช้ปกป้องผู้คน แล้วออกสู่โลกกว้างต่อไป…และเคนชิน กับคาโอรุ ก็ดูแลลูกน้อยวัยซนที่ชื่อ เคนจิ อย่างมีความสุข

 

 

 

Samurai-X-(38)

“เป็นคนพเนจรนั้นเหนื่อย ไม่อยากไปไหนอีกแล้วขอรับ”

 

จบภาคหนังสือการ์ตูนด้วยความประทับใจประการฉะนี้แล…

 

 

 

 

 

—-

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

OVA : samurai x reflection

 

samurai x reflection เป็นตอนพิเศษที่ อ.โนบุฮิโระ วาสึกิ ไม่ได้เขียนไว้ในหนังสือ แต่มีผู้กำกับอนิเมไปเสนอบท “ตอนจบที่แท้จริง” ของการ์ตูนชุดนี้ อ.วาสึกิยอมรับว่าไม่ค่อยพอใจกับฉากจบแบบนี้เท่าไหร่ แต่ก็ยังอุตส่าห์ให้ทำเป็นOVA ออกมาให้ได้ชมกัน (ที่หาดูได้ยากโคตรๆ)

 

Samurai-X-(39)

“ฮิมุระ เคนชิน” กับอาชีพหมอสมุนไพร ในวัย40ปลายๆ ที่อุดมไปด้วยโรคภัยต่างๆ…

 

เรื่องราวจะเล่าถึง15ปีต่อมาหลังจากศึกเอนิชิ เคนชิน (ในวัย 40 ปลายๆ หน้าเหี่ยวลงเยอะเลย!) ออกเดินทางไปยังเมืองจีน เพื่อช่วยเหลือผู้คนจากโรคร้าย (ต้องไม่ลืมว่า สมัยที่อยู่กับโทโมเอะ เคนชินก็เป็นหมอสมุนไพรนะ!)โดยทิ้งคาโอรุกับลูกชายตัวเองไว้ที่ญี่ปุ่นโดยนานๆจะกลับมาซักหน ทำให้ “เคนจิ”โกรธเคนชิน พ่อของเขามาก จนทิ้งครอบครัว ไปอยู่กับ ฮิโกะ เซจูโร่ (ที่วัยเฉี่ยวๆ60 แต่หล่อเว่อร์) เพื่อฝึกเพลงดาบล่องนภา

 

 

Samurai-X-(40)

“เคนจิ” ที่ทิ้งครอบครัว มาฝึกเพลงดาบล่องนภา กับฮิโกะ เซจูโร่…เพื่อให้ลืมเรื่องครอบครัว จนเติบโต

 

ในระหว่างเดินทาง เคนชินเองก็กลับติดโรคร้าย(คาดว่าเป็นงูสวัด) บวกกับร่างกายที่ใช้งานอย่างหนักในศึกต่างๆในวัยหนุ่ม ทำให้ร่างกายอ่อนแอผิดปกติจนติดโรคง่ายๆ และพลัดตกเรือไปในขณะที่เกิดพายุ ในขณะที่กำลังจะหมดสติ เคนชินก็ย้อนนึกถึงเรื่องราวตั่งแต่เจอกับคาโอรุจนถึงช่วงที่เคนชิน สามารถเอาชนะเอนิชิ

 

ในขณะนั้นตัวคาโอรุเองก็ติดโรคมาจากเคนชินเช่นกัน โดยมีเพื่อนๆอย่างหมอเมกุมิ และยาฮิโกะมาเยี่ยมบ้างเป็นครั้งคราว แต่อาการของคาโอรุ เมกุมิวินิจฉัยแล้วว่า “รักษาไม่หายแน่นอน”

 

 

 

Samurai-X-(41)

ยาฮิโกะที่ได้รู้อาการของคาโอรุจึงตัดสินใจที่จะออกเดินทางไปตามเคนจิ ที่ฝึกเพลงดาบล่องนภาอยู่บนเขา เพื่อให้มาดูแลแม่ของเคนจิในระยะสุดท้าย

 

แต่เคนจิกลับไม่ยอมกลับบ้านเพราะเค้ารู้สึกโกรธ และ เกลียดพ่อของเขา ที่ไม่สนใจใยดีครอบครัวตัวเองเลยแม้แต่น้อย ยาฮิโกะจึงยื่นขอเสนอว่าถ้าชนะเคนจิได้ จะต้องยอมลงจากเขากับยาฮิโกะไปเยี่ยมไข้คาโอรุ

 

เมื่อวันประลองมาถึงแม้ว่าเคนจิจะมีเพลงดาบล่องนภาแต่ก็ไม่สามารถเอาชนะยาฮิโกะได้ เพราะยาฮิโกะมีทั้งฝีีมือและประสบการณ์ที่เหนือกว่า เมื่อการประลองจบลงยาฮิโกะก็มอบดาบสลับคมให้เคนจิเพื่อให้เคนจิสืบทอดเจตนารมณ์ของทั้งตัวเองและเคนชินต่อไป (เจตนาจริงๆของยาฮิโกะคือ ทดสอบว่าเคนจิว่าเหมาะสมที่จะสืบทอดดาบสลับคมมากกว่า) ส่วนตัวยาฮิโกะ ก็จะวางมือแล้วเพราะ “สึบาเมะ” ภรรยาของเขาขอร้องให้กลับไปดูแลลูกที่บ้าน)

 

 

  Samurai-X-(43)    

ซาโนะ ในวัย30 ที่เป็นนักโทษหนีคดีในเมืองจีน บังเอิญไปช่วยเคนชินที่ตกจากทะเลมาได้

 

ทางด้านเคนชินที่ตกทะเลไปก็สูญเสียความทรงจำแต่ก็โชคดีที่ได้ “ซาโนะสุเกะ” ช่วยเหลือไว้เมื่อเคนชินเริ่มอาการดีขึ้น จึงส่งเคนชินกลับบ้านไปแต่ตัวซาโนะสุเกะ มีคดีติดตัวอยู่ จึงไม่สามารถหนีขึ้นเรือไปกับเคนชินได้ พอเคนชินมาถึงญี่ปุ่น ก็เริ่มจำเรื่องราวต่างๆได้บ้างแล้ว…
แต่มีสิ่งหนึ่งที่เคนชินจำได้แม่นยำคือ”คาโอรุ”คนที่เขารักที่สุด เคนชินใช้ใช้กำลังเฮือกสุดท้ายของตนเองเดินกลับไปที่สำนักคามิยะ เพื่อไปหาคาโอรุ 

 

 

 

Samurai-X-(44)

คาโอรุ ที่คิดถึงเคนชิน และรับรู้ได้ด้วยลางสังหรณ์บางอย่างว่า เคนชินจะกลับมาแน่ๆ จึงออกเดินทางไปนอกบ้าน…

 

 

 

Samurai-X-(45)

เมื่อทั้งสองเจอกันก็โผเข้าหากัน เคนชินตอนนี้ แผลเป็นที่ใบหน้าไม่มีอีกแล้ว เพราะบาปที่เขาสร้างขึ้นสมัยเป้นนักฆ่า ได้รับการปลดปล่อยแล้ว เป็นใบหน้าที่เปี่ยมไปด้วยความสุข ในวาระสุดท้ายของชีวิต จากนั้นเคนชินก็หลับอย่างสงบตลอดกาลบนตักของคาโอรุ…

 

 

 

Samurai-X-(46) 

“เคนชิน อีกไม่นาน เราก็จะได้อยู่ด้วยกันตลอดไปแล้วนะ…”

 

== จบบริบูรณ์ ==

 

 

 

แอดมิน Ak 47