Ragnarok: The New World
ประเภท: MMORPG
ผู้พัฒนา: GRAVITY Game Tech
แพลตฟอร์ม: PC , Mobile
เปิดให้บริการ เร็วๆนี้
อีกหนึ่งเวอร์ชั่นของเกม MMORPG ในตำนานอย่าง Ragnarok ก็ได้ออกมาสู่สายตาแฟนๆในรอบการทดสอบแบบวงจำกัด หรือ Pilot Test กับผลงาน Ragnarok: The New World เกม 3D MMORPG เต็มรูปแบบ ที่มุ่งหมายจะนำพาผู้เล่นหวนคืนสู่ดินแดน Midgard อีกครั้งในโฉมใหม่ที่น่าตื่นตาตื่นใจ และกลายเป็นมุมมองของฉากในเกม Ragnarok ที่หลายคนคิดถึงมาทำเป็น3มิติที่สดใหม่ แต่ดูคุ้นเคย
และจากการรวบรวมข้อมูล + การวิเคราะห์ประสบการณ์ตรงของแอดมิน ผู้ที่ได้ทดลองเล่นในช่วง Pilot Test (CBT) ทำให้เราสามารถประเมินภาพรวมของเกม ทั้งในแง่ของระบบที่น่าประทับใจ และประเด็นที่น่ากังวลได้ดังนี้ครับ…
โลก Open World ที่ไร้รอยต่อ และกราฟิกที่คุ้นเคยในแบบ HD
สิ่งที่สร้างความประทับใจอย่างมากตั้งแต่แรกเห็น คือการออกแบบโลกที่ให้กลิ่นอายของความเป็น Open World อย่างชัดเจน แผนที่ต่างๆ ถูกเชื่อมโยงกันเป็นโซนขนาดใหญ่ (5 แผนที่รวมกันเป็นโซนใหญ่ๆโซนเดียว เช่นโซนมอรอค / โซนพรอนเทร่า ฯลฯ)


ทำให้ผู้เล่นสามารถเดินสำรวจจากพื้นที่หนึ่งไปยังอีกพื้นที่หนึ่งได้อย่างต่อเนื่อง โดยไม่ต้องผ่านหน้าจอโหลดดิ้งหรือการวาร์ปบ่อยครั้ง แต่คุณจำเป็นจะต้องวิ่งไปเปิดจุด Fast Travel ให้เยอะๆเข้าไว้ครับ เพราะเกมยังคงอาศัยการวิ่งเควสท์ข้ามเมือง ถ้าคุณไม่เปิดจุดวาร์ปไว้ (รูปปีกนกสีเทา ให้เป็นสีฟ้า) คุณจะพบว่าการเดินในแมปกว้างๆ มันเหนื่อยมากๆ ดังนั้น “สละเวลาออกสำรวจโลกซักหน่อย” ก็ดีครับ



ด้านกราฟิก แม้จะยังคงเอกลักษณ์ความเป็น RO ดั้งเดิมไว้ แต่ก็ได้รับการปรับปรุงให้มีรายละเอียด (Detail) ที่คมชัด และมีอัตราเฟรมเรตที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด นอกจากนี้ ในแผนที่ยังมีจุดให้สำรวจมากมาย เช่น การเก็บกล่องสมบัติ , การต่อสู้กับมอนสเตอร์ระดับ Elite หรือการเก็บ Achievement ซึ่งเป็นองค์ประกอบที่เอื้อประโยชน์ต่อผู้เล่น “สายขยัน” ให้สามารถเติบโตได้จากคอนเทนต์ส่วนนี้
และเรียกได้ว่า สายฟรีมีอะไรให้ทำเยอะมากในเกมนี้ ทั้งการต่อสู้เก็บเลเวล การลงดันเจียน การขุดแร่หาไอเทมทำอาหาร สร้างวัตถุดิบ และอื่นๆ ที่อาจจะไม่ได้ดูใหม่นัก แต่ทำให้เกมมีทางเลือกมากขึ้นในการนั่งเล่นในแต่ละครั้งที่ล๊อกอิน นอกจากการจะเข้ามาเปิดดูว่าออฟไลน์ฟาร์มแล้วได้อะไรกลับติดมือมานั่นเอง…
การกลับมาของ “ASPD 193″ และความหลากหลายในการ Build ตัวละคร
เก็บเวลมันส์ขึ้น PVP น่าสนุกขึ้น
อีกสิ่งที่ยอมรับว่าประทับใจอีกอย่างก็คือ Ragnarok: The New World ได้นำเสน่ห์ของ “เมต้าความเร็วในการโจมตี” (ASPD) กลับมาอีกครั้ง
ซึ่งจุดที่เสริมเข้ามา คือ “ความหลากหลายของบิวด์ไอเทม” ระบบการคราฟต์ไอเทมมีความลึกซึ้ง โดยไอเทมที่คราฟต์ได้ (ไล่ตั้งแต่ สีเทา > ฟ้า > ม่วง > ส้ม > สูงสุดระดับสีแดง) จะมีการ “สุ่มออปชันพิเศษ” ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้เล่นสามารถสร้างแนวทางการเล่นที่หลากหลายได้จริงซึ่งความยาวของออปชั่น ก็ความแรร์ของไอเทมที่คราฟท์มาได้นั่นเองครับ
สิ่งที่น่าสนใจคือ บิวด์ที่เคยถูกมองข้ามหรือไม่สามารถใช้งานได้จริงในภาคอื่น เช่น สาย Auto-Attack (AA) ของอาชีพ Assassin ได้กลับมามีประสิทธิภาพและน่าเล่นอย่างมาก ผู้เล่นสามารถผสมผสานไอเทมเพื่อสร้างแนวทางการเล่นเฉพาะตัว เช่น การหาออปชันที่ทำให้การโจมตีปกติมีโอกาสติดสกิล Bowling Bash ของ Knight , การร่าย Meteor ที่เป็นสกิลของ Wizard ก็สามารถให้ Assassin เอามาใช้ได้ด้วย (แบบในภาพตัวอย่าง) และเรียกว่าเป็นเมต้าในช่วงทดสอบเลยก็ว่าได้ครับ

หรือจะเป็น Knight ที่สามารถบิลด์สกิลสายเวทย์ฟันเป็น Auto Spell ก็มีให้เล่นด้วย สายมุราคริสูงๆ น่าจะชอบ เพราะทางเลือกมีมากกว่าฟันสด ,หรือลากมาเพื่อ Bowling Bash เอง แต่เป็นการฟันตัวเดียวรัวๆเร็วๆ เพื่อหวังผล Auto แล้วติดสกิลหมู่ครับ
หรือจะเป็นการคราฟท์ชุดเกราะที่ร่ายเวทย์เมื่อถูกโจมตี ก็ตจะเป็นการสร้างพายุหมุนรอบตัวผู้เล่นทำดาเมจได้ด้วย
หรือการใช้แหวนเพื่อเพิ่มจำนวนฮิตของสกิล ทำให้สายการเล่นที่เคยเป็นไปไม่ได้ (เช่น สาย AA กึ่ง Auto-Spell) สามารถเกิดขึ้นได้ แถมเล่นได้จริงในภาคนี้ครับ
ระบบเศรษฐกิจ การล่าบอส และแฟชั่นที่ “เป็นธรรม”
หนึ่งในจุดเด่นที่สำคัญที่สุดคือระบบเศรษฐกิจที่เอื้อต่อการเล่นเกม

การล่าบอส (MVP): ระบบการคิดคะแนนอาจคล้ายคลึงกับเวอร์ชันดั้งเดิม แต่สิ่งที่แตกต่างคือ “ของดรอป” ครับ …บอส MVP มีโอกาสดรอปไอเทมระดับสูงสุด (สีแดง) ซึ่งมาพร้อมออปชันสุ่มระดับสูง (ม่วงถึงทอง) และไอเทมล้ำค่าเหล่านี้สามารถ “วางขายในตลาดกลาง” ได้ นี่คือหัวใจสำคัญที่ทำให้ผู้เล่นสามารถเติบโตได้จากการเล่นเกมอย่างแท้จริง (ล่าบอส, ฟาร์ม) ไม่ใช่เพียงการเติมเงินเพียงอย่างเดียว (แต่เติมเถอะชีวิตดีแน่ๆ 55+)

ระบบการ์ด: เป็นอีกส่วนที่น่าชื่นชม โดยระบบการ์ดมีความคล้ายคลึงกับเวอร์ชัน PC มาก และจุดที่สำคัญที่สุดคือ “ไม่มีระบบเพิ่มดาว หรืออัพเลเวลการ์ด” (แต่มีการหลอมการ์ดนะ) การตัดระบบเหล่านี้ออกไปช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายและความเหลื่อมล้ำของผู้เล่นได้อย่างมหาศาล
ระบบแฟชั่น (Costume): แม้จะมีการปรับแต่งที่อิสระขั้นสูงอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน เช่น การปรับตำแหน่งแกน X/Y/Z (ดังที่เห็นในคลิปโปรโมตว่า Angel Wing สามารถมาอยู่ด้านหลังได้) หรือการปรับเปลี่ยนสีและขนาด แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ “คอสตูมเกือบทั้งหมด จะไม่มีค่า Status ใดๆ” ทำให้แฟชั่นเป็นเพียงของสวยงาม มีไว้ใส่เท่ๆ เฉยๆ” ผู้เล่นจึงไม่จำเป็นต้องไล่ตามแฟชั่นทุกเดือนเพื่อแลกกับค่าสเตตัส (อันไหน Stats สูง ก็ไม่ค่อยอยากใส่ มันไม่เท่ 5555)
ข้อดีอื่นๆ ที่เป็นมิตรต่อผู้เล่น
ระบบ Stamina: จะนับการใช้ Stamina “ต่อการกำจัดมอนสเตอร์ 1 ตัว” นับแบบ 1 : 1 เลยครับ ไม่ได้นับตามเวลา ตอนที่เล่นคือ Max ที่ 3000 ตัว … ตีกันเหนื่อย (ในภาพตีไปเกือบ 500ตัวละ)
แต่ก็จะมีระบบออฟไลน์ฟาร์มให้ด้วย ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่ต่อเนื่อง แต่อาจจะต้องตุนยาซักหน่อยครับ เผื่อ SP หมด
ระบบ EXP: การ “แจม” หรือช่วยกันโจมตีมอนสเตอร์จะไม่ทำให้ EXP ถูกหาร และการโจมตีมอนสเตอร์ที่เลเวลสูงกว่ามากๆ (เช่น ห่าง 50 เลเวล) จะได้รับโบนัส EXP เพิ่มเติม ซึ่งช่วยป้องกันปัญหาดราม่าการแย่งที่ฟาร์มได้ดี
จุดที่น่ากังวล
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีข้อดีมากมาย แต่ก็มีระบบที่น่ากังวลซึ่งถูกสืบทอดมาจากเกมเวอร์ชั่นอื่นๆ เช่นกัน
ระบบยศ (Rank): นี่คือข้อเสียที่ผู้ทดสอบระบุว่า “ไม่ชอบมากที่สุด” และรู้สึกว่ามัน “ตามมาหลอกหลอน” ระบบนี้ถูกมองว่าสร้างความเหลื่อมล้ำระหว่างผู้เล่นสายเติมหนักและสายฟรีอย่างมหาศาล ความต่างของยศเพียงเล็กน้อยอาจทำให้ต่อสู้กันแทบไม่เข้า และมีความกังวลอย่างยิ่งว่าระบบนี้จะทำลายสมดุลของเกมในระยะยาว (โดยเฉพาะคอนเทนต์ PVP และ GVG) เมื่อผู้เล่นสายฟรีหรือสายเติมน้อยเลิกเล่นไป
กิจกรรมที่จำกัดเวลา: กิจกรรมสำคัญ (โดยเฉพาะกิจกรรมกิลด์) มักจะถูก “ฟิกเวลา” ตายตัว (เช่น ช่วง 20:00 – 21:00 น.) ซึ่งไม่สะดวกสำหรับผู้เล่นที่มีเวลาทำงานหรือภารกิจส่วนตัวในช่วงเวลาดังกล่าว และอาจทำให้ตัวละครตามคนอื่นไม่ทัน
ระบบสัตว์เลี้ยง: แม้ว่าในปัจจุบัน ระบบสัตว์เลี้ยง (ที่มีระดับ SSR) จะยังไม่ส่งผลกระทบต่อเกมมากเท่าภาคอื่นๆ แต่ก็ยังมีความกังวลว่าในอนาคตอาจกลายเป็นอีกหนึ่งระบบที่สร้างความเหลื่อมล้ำด้านการเติมเงินได้ เพราะแค่สัตว์เลี้ยงตัวระดับ SR สกิลบัฟ หรือสกิลโจมตีซัพพอร์ตผู้เล่นก็ส่งผลแล้วในการเก็บเลเวล เช่น Sohee ที่มีคลื่นวิญญาณ ทำ AoE ดาเมจ แทบไม่ต้องลากมอนแล้ว แถมในระยะยังสร้างความเสียหายด้วย หรือจะเป็น Bigfoor ที่เป็นระดับ R ที่แม้ดาเมจจะไม่สูง แต่เสกบัฟโล่ป้องกันดาเมจอย่างมากเป็นระยะเวลาหนึ่ง…
ทั้งหมดนี้ เป็นความเห็นของแอดมิน ในการเล่น Ragnarok: The New World ในเวอร์ชันทดสอบ (Pilot Test)
ก็ถือว่าตัวเกมมีความสนุก ย่อยง่าย นำเสนอระบบที่ยอดเยี่ยมต่อผู้เล่นในหลายๆ ด้าน โดยเฉพาะระบบบิลด์ตัวละคร , การ์ด, แฟชั่น และการล่าบอสที่ให้ผลตอบแทนคุ้มค่า (หาตี้ไม่ได้ เล่น Solo พาบอทลงดันได้ด้วยนะ) และเกมนี้ทำให้สายอาชีพที่เคยเล่นยาก หรือเคยคิดว่าน่าจะเล่นได้ในสมัย RO ต้นฉบับกลับมาเก่งได้ ส่วนความกังวลใน “ระบบยศ” ที่สร้างความเหลื่อมล้ำ และ “กิจกรรมที่จำกัดเวลา” ซึ่งเป็นปัญหาที่พบเห็นได้ในเกมมือถือทั่วไป แต่ก็มองข้ามไม่ได้ และหวังว่าทีมงานจะนำส่วนนี้ไปพัฒนากันต่อครับ
ขณะนี้ เกมก็ได้เปิดรับลงทะเบียนล่วงหน้าในหลายโซนแล้ว รวมถึงประเทศไทย ผู้ที่สนใจสามารถติดตามรายละเอียดและเข้าร่วมกลุ่ม Discord ทางการเพื่อลุ้นรับสิทธิ์เป็นนักผจญภัยกลุ่มแรกในโลกใหม่ใบนี้ ได้ที่นี่ https://discord.gg/4zwPH2btbg
และนอกจากนี้ยังมี ROW fan meet-ups ในประเทศไทย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ เปิดลงทะเบียนแล้ว! ผู้เล่นที่สนใจสามารถคลิกลิงก์ด้านล่างเพื่อลงทะเบียนได้เลย!
Offline Fan Event link LINK : https://roworld.gnjoy.hk/mlkzh/
สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้จากรีวิววิดีโอของเราบน YouTube ตามลิ้งนี้ ครับ
แอดมิน AK47
#RagnarokTheNewWorld #RONewWorld #Ragnarok #รีวิวเกม #เกมMMORPG #เกมมือถือ #OpenWorld #CBT #ข่าวเกม
-
รางวัลสุดยอดเกมแห่งปี Game Awardsเปิดโผผู้เข้าชิง The Game Awards ทุกสาขาอย่างเป็นทางการ
-
Resident Evil 9 : Requiem [Preview / สั่งซื้อแผ่นเกม / ราคา / วันวางขาย]27 กุมภาพันธ์ 2026
-
BEYBLADE X : ผู้ใหญ่ vs เด็ก Mindset ที่ดี… “ใส่เต็มที่ มีประโยชน์ในด้านพัฒนาการเด็ก”เชื่อว่าตามงานแข่ง BEYBLADE X มีหลายครั้งที่เห็น ผู้ใหญ่ลงสนาม แล้วต้องไปเจอกับคู่ต่อสู้เป็นน้องๆเด็กๆ คงมี หลายคนคงแอบมีเสียงในหัวดังขึ้นมาแบบอัตโนมัติว่า “ถ้าชนะ เดี๋ยวก็โดนว่าเก่งแต่กับเด็ก… แต่ถ้าแพ้ก็จะถูกมองว่ากระจอกซะงั้น” ซึ่งเป็น Mindset แบบเดิมที่หลายคนยังติดอยู่ และจริงๆ มันค่อนข้าง “ผิดฝั่ง” กับความจริงของสนามเบย์เบลดพอสมควร การแข่งขันเบย์เบลด แม้จะถูกมองว่าเป็นกิจกรรมสำหรับเด็ก แต่ในความเป็นจริงแล้วเป็นพื้นที่เรียนรู้ทางสังคมที่เปิดโอกาสให้ผู้เล่นทุกวัยสามารถมีส่วนร่วมภายใต้กติกาเดียวกัน อุปกรณ์ใกล้เคียงกัน และโครงสร้างการแข่งขันที่บางรายการไม่มีการแบ่งแยกอายุ ซึ่งมันก็ส่งผลให้เกิดคำถามสำคัญในบริบทแบบไทยๆเราว่า “ผู้ใหญ่เนี่ย ควรแข่งขันเต็มที่กับเด็กขนาดนั้นเลยหรือเปล่า?” แม้แต่ตัวแอดมินผู้เขียนเอง ก็เคยมีความคิดนี้ในหัวครับ จนกระทั่งได้ตกตะกอนหลายๆอย่าง และนั่งพิจารณาตามความเป็นจริงที่ประสบพบเจอ จนออกมาเป็นบทความที่จะพามา ปรับทัศนคติ และเพิ่มมุมมองของ พฤติกรรมของผู้ใหญ่ เด็ก และผู้ปกครองในบริบทของการแข่งขัน BEYBLADE X ซึ่งทางแอดมิน อยากจะเสนอไอเดียที่ว่า “การแข่งขันแบบ ไม่ออมมือกับเด็กๆ” เป็นแนวปฏิบัติที่เหมาะสมกว่า และเป็นประโยชน์ต่อพัฒนาการเด็กในหลายมิติครับ 1. เลิกได้เลิกนะ…ไอ้วัฒนธรรมความคิดในสังคมไทย: “ชนะเด็ก รังแกเด็ก ไม่สมเป็นผู้ใหญ่เอาซะเลย!” ทัศนคติที่พบได้ทั่วไปในสังคมไทย […]













































