One Plus One The Flagship Killer [สเปค/ราคา/เปิดตัว/เรือธง]
29 มกราคม 2558 13:08 น.
Share on FacebookTweet about this on TwitterShare on Google+

OnePlus-One-(26)

One Plus One 

ขนาด :152.9 x 75.9 x 8.9 mm.

น้ำหนัก : 162 g

ระบบปฏิบัติการ :CyanogenMod11S (Android 4.4)

หน่วยประมวลผล : Snapdragon 801 Quad-Core 2.5 GHz / GPU : Adreno 330 / Ram : 3GB

หน่วยความจำภายใน :16 / 64GB

กล้องหลัง :13 MP (f/2.0 , Flash LED คู่ , รองรับการถ่ายวีดีโอ 4K)/ กล้องหน้า :5 MP

แบตเตอรี่ :3100 mAh

เชื่อมต่อ :3G / 4G LTE , รองรับ USB-OTG , Dual-band Wi-Fi (2.4G / 5G) 802.11 b/g/n/ac , Bluetooth 4.0 , NFC

 

 

OnePlus-One-(18) OnePlus-One-(19)

ช่วงปีนี้เราจะเห็นได้ว่ามีค่ายมือถือน้องใหม่เริ่มส่งสมาร์ทโฟนของตัวเองเข้ามาร่วมแบ่งเค้กในตลาดด้วยการสู้ราคาที่ถูกกว่าค่ายอื่น ๆ แต่ว่าจัดสเปคมาให้แรงไม่แพ้กัน ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ ค่าย One Plus One ที่เปิดตัวมือถือตัวแรกของค่ายภายใต้ชื่อรุ่น One Plus One มาลงตลาดด้วยสเปคอัดแน่นเทียบเท่ากับรุ่นเรือธงของค่ายดัง ๆ ในตลาดขณะนี้ที่สนราคาเริ่มต้นที่ไม่ถึงหมื่นบาท

 

 

OnePlus-One-(20) OnePlus-One-(21)

ค่าย One Plus นั้นเกิดขึ้นจาก Pete Lau อดีตผู้บริหารจากค่าย Oppo ที่แยกตัวออกมาสร้างแบรนด์ใหม่ แต่ว่าตัวสมาร์ทโฟนยังคงรูปลักษณ์และความสามารถต่าง ๆ ที่คล้ายคลึงกับสมาร์ทโฟนค่าย Oppo อยู่มากแถมยังเรียกเสียงฮือฮาจากเหล่า Geek ด้วยการดึงเอา CyanogenMod มาเป็นผู้พัฒนารอมให้ ซุ่งรายนี้เขาก็เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะผู้พัฒนารอมที่ลื่นไหลและเป็นที่ถูกใจบรรดาคนที่เล่น Custom Rom กันอยู่แล้ว และเมื่อประกอบกับปัจจัยเรื่องสเปคและราคาตามที่กล่าวมาจึงไม่น่าแปลกที่ One Plus One จะกลายมาเป็นหนึ่งในมือถือที่หลาย ๆ คนอยากลองใช้กันครับ

 

 

OnePlus-One-(22) OnePlus-One-(23)

แม้กระแสตอบรับจะค่อนข้างดีแต่กระนั้นทางค่ายกลับไม่เปิดขาย One Plus One อย่างเป็นทางการแบบค่ายอื่น ๆ สักที ทำให้มือถือรุ่นนี้ยิ่งกลายเป็นของหายากที่น่าจับจอง โดยหากใครอยากได้มือถือรุ่นนี้ จะต้องใช้ Invite เพื่อไปสั่งซื้อเครื่องแล้วรอให้ทางค่ายจัดส่งกลับมาให้เท่านั้น ซึ่ง Invite เหล่านี้จะได้มาหลังจากการสั่งซื้อเครื่อง One Plus One ครับ นั่นหมายความว่าหากอยากได้มือถือก็จะต้องไปตามล่าหา Invite จากคนที่เคยซื้อเครื่องไปก่อนหน้าแล้วนั่นเอง นอกจากนี้อีกหนึ่งวิธีที่จะได้ Invite มาคือเสี่ยงดวงไปเล่นกิจกรรมที่เขาจัดขึ้นมาเป็นระยะ ๆ และหากเมื่อได้ Invite มาแล้วก็ยังจะต้องหาที่จัดส่งเครื่องให้ตรงกับประเทศที่เขารองรับการจัดส่งนั่นก็คือ ออสเตรีย , เบลเยียม , แคนาดา , เดนมาร์ก , ฟินแลนด์ , ฝรั่งเศส , เยอรมนี , ฮ่องกง , อิตาลี , เนเธอร์แลนด์ , โปรตุเกส , สเปน , สวีเดน , ไต้หวัน , สหราชอาณาจักร หรือสหรัฐอเมริกา

 

 

OnePlus-One-(24) OnePlus-One-(25)

แต่ว่านอกจากรุ่น International ที่ต้องผ่านวิธีการที่ยุ่งยากวุ่นวายอย่างที่กล่าวไปแล้ว ในบ้านเราเองก็ยังมีเครื่องหิ้วที่มาจากจีนให้เลือกซื้อกันได้ง่าย ๆ ด้วยซึ่งความต่างระหว่างสองเวอร์ชั่นนี้ ก็คือ เรื่องของราคา เพราะว่าเครื่องหิ้วจากจีนเมื่อเข้ามาขายในบ้านเราจะมีราคาแพงกว่าการที่สั่งเครื่องเวอร์ชั่น International จากหน้าเว็บไซต์แล้วรวมค่าจัดส่งกลับมายังไทย นอกจากนี้ก็จะมีความต่างเรื่องของรอม ที่จะมาพร้อมรอม Color OS ของ Oppo แทน และเมื่อเป็นเช่นนี้ก็จะไม่มีคำว่า CyanogenMod ที่ฝาหลังของตัวเครื่องด้วย แต่ทั้งนี้เมื่อซื้อมาแล้วก็สามารถเอามาลงรอมของ CyanogenMod เองในภายหลังได้เช่นกันครับ

 

 

OnePlus-One-(27) OnePlus-One-(28) OnePlus-One-(29)

ซึ่งจากสเปคข้างต้นนั้นช่วยหนุนเรื่องของประสบการณ์การใช้งานได้มาก ทั้งหน้าจอที่ใหญ่ , หน่วยประมวลผล Ram ที่ให้มาเต็ม และ Rom ที่ทำออกมารองรับการปรับแต่งได้หลากหลายแถมยังทำงานได้อย่างลื่นไหลทำให้สามารถใช้งานได้ครบทุกด้านแบบไม่มีหน่วง ไม่ว่าจะเป็นการท่องเว็บ , อัพเดตโลกโซเซียล ไปจนถึงการใช้งานเล่นเกมหนัก ๆ แถมงานนี้ยังมาพร้อมแบตเตอรี่ความจุถึง 3100 mAh ทำให้สามารถใช้งานต่อเนื่องได้จนจบวันโดยไม่ต้องกังวลเรื่องการหาที่ชาร์จแบตเตอรี่เลยครับ

 

 

OnePlus-One-(8) OnePlus-One-(10) OnePlus-One-(31)

แต่ทั้งนี้ไม่ว่าอะไรจะดีแค่ไหนก็ยังคงต้องมีจุดด้อย หรือข้อเสียกันบ้าง สำหรับ One Plus One เองนอกจากเรื่องเวอร์ชั่น International ที่มีขั้นตอนการเป็นเจ้าของที่ยุ่งยากแล้วก็จะมีปัญหาเรื่องขอบหน้าจอด้านล่างเหลือเป็นเส้นบาง ๆ ตัวรอมยังมี bug อยู่บ้างเช่นชอบเปิดแอพ Music Player เองเป็นต้น นอกจากนี้เรื่องของแอพกล้องที่ติดมากับเครื่องยังมีปัญหาในการถ่ายภาพที่แสงน้อยเนื่องจาก Software เพราะว่าจะเจอ Noise เยอะมาก ถ้าเกิดจะถ่ายภาพแนะนำให้เลือกดาวน์โหลดแอพะนอกอย่าง Google Camera มาใช้ทำช่วยให้ได้ภาพที่ดีขึ้นและข้อที่ควรคิดอีกหนึ่งข้อคือ One Plus ไม่มีศูนย์ในบ้านเรา ดังนั้นการส่งซ่อมจะยุ่งยากพอสมควร

 

 

OnePlus-One-(16) OnePlus-One-(30)

หลังจากที่รู้ข้อดีและข้อเสียของมือถือน้องใหม่ค่ายนี้กันไปแล้วหากใครสนใจอยากจะเป็นเจ้าของ One Plus One นั้นเขาก็มีวางจำหน่ายกัน 2 สีทั้งสีขาว Silk White สำหรับรุ่นหน่วยความจำภายใน 16GB ที่มีราคา $299 หรือประมาณ 11,000 บาทไทย และ สีดำ Snadstone Black สำหรับรุ่น 64GB ที่มีราคา $349 หรือประมาณ 12,850 บาทไทยเท่านั้นเอง

 

 

OnePlus-One-(2) OnePlus-One-(3)

OnePlus-One-(1) OnePlus-One-(4) OnePlus-One-(13) OnePlus-One-(15)

OnePlus-One-(6) OnePlus-One-(11) OnePlus-One-(17)

OnePlus-One-(9) OnePlus-One-(7) OnePlus-One-(12)

OnePlus-One-(14) OnePlus-One-(32) OnePlus-One-(5)

 

 

 

Credit : fotoinfo , oneplus

By Admin Park