10 เรื่องราวที่น่าสนใจของ John Cena ต้อนรับหนัง Bumblebee

Bumblebee หนังฟอร์มยักษ์ภาคแยกจักรวาลของหนังชุด Tranformers ที่เลือกจะเล่าย้อนกลับไปยังจุดเริ่มต้นของเรื่องราวผ่านตัวละครขวัญใจแฟนๆอย่าง บัมเบิ้ลบี ซึ่งอาทิตย์หน้าก็จะเข้าโรงฉายแน่นอนใครเป็นแฟนเจ้าหุ่นยักษ์สีเหลืองก็ไม่ควรพลาดแน่นอน

 

ความน่าสนใจของหนังเรื่องนี้มีมากมาย ซึ่งหนึ่งในนั้นคือการมารับบทนำในหนังฟอร์มยักษ์ครั้งแรกในชีวิต ของ จอหน์ ซีน่า อดีตแชมป์โลกมวยปล้ำของ WWE ซึ่งถือเป็นเส้นทางใหม่ที่เขาอยากลอง

 

เปิดเพลงนี้ เพื่ออรรถรสในการอ่านบทความ!

สำหรับคนทั่วไปเขาคือนักมวยปล้ำชื่อดัง แต่สำหรับแฟนมวยปล้ำเขาคือยอดมวยปล้ำแห่งยุค 2000 ผู้เปรียบเสมือนซูเปอร์ฮีโร่ขวัญใจเด็กๆ เขาคือนักมวยปล้ำผู้มีแฟนๆที่ชื่นชอบและเกลียดชังมากที่สุดของวงการ ฯลฯ วันนี้เราจะไปทความรู้จักกับเขาผ่าน 10 เรื่องราวที่น่าสนใจของเขาเพื่อให้รู้จักมากขึ้น

ขอต้อนรับสู่เรื่องราวของชายที่ชื่อ John Cena!!

 

 

 

 

 

 10.) วัยเด็กอันแสนสุข

จุดเริ่มต้นของเรื่องราวยอดนักมวยปล้ำอย่างเขา เริ่มจากวันที่ 23 เมษายน 1977 ในเมื่อง เวสต์ นิวเบอร์รี แมสซาชูเซตส์ ในครอบครัวเล็กๆกับพี่น้องอีกสี่คน วัยเด็กเขาก็เหมือนเด็กทั่วๆไป เล่นกีฬา, ปิกนิค, ดูการ์ตูนหรือรายการโปรดทางทีวีในวันเสาร์กับครอบครัว แต่สิ่งที่เขาพบตัวเองว่าอยากเป็นอะไรในอนาคต นั่นคือ มวยปล้ำ

 

ตอนเด็กๆ เขาจะอัดรายการมวยปล้ำลงวีดีโอจนต้องมีตู้เก็บวีดีโอไว้โดยเฉพาะ แล้วยังหากระดาษแข็งแล้วตัดออกมาเป็นเข็มขัดแชมป์ แล้ววาดฝันไว้ว่า เขาจะต้องเป็นแชมป์โลกให้ได้ ซึ่งไม่มีใครรู้เลยว่าความฝันวันนั้นจะทำให้เขาได้ไปถึงฝันวันนี้

 

 

 

 9.) ก้าวแรกสู่สังเวียน

เมื่อย่างเข้าสู่วัยรุ่นเขาก็ได้เป็นนักกีฬาของโรงเรียน ซึ่งช่วงเวลาเดียวกัน ด้วยความที่เป็นนักกีฬาเขาจึงเริ่มเพาะกายอย่างจริงจัง ที่ไม่ใช่แค่ทำให้ร่างกายสวยงามแต่เสริมความแข็งแกร่งให้กับตัวเอง ซึ่งทำให้เขาได้เข้าร่วมแข่งประกวดเพาะกาย ก่อนที่ในปี1999 จึงเริ่มออกเดินทางสู่ความฝันกับการเป็นนักมวยปล้ำอาชีพ ด้วยการไปสมัครเข้าสมาคมที่ชื่อ  Ultimate Pro Wrestling‘s (UPW)  พร้อมย้ายมาอยู่ที่แคลิฟอร์เนีย ซึ่งเขาต้องเรียนรู้และฝึกฝนหลายเดือนจนได้มีโอกาสขึ้นสังเวียน

 

ซึ่งเขาได้สร้างคาแร็คเตอร์นักมวยปล้ำกึ่งคนเหล็กในชื่อ Prototype ก่อนที่จะคว้าแชมป์ของสมาคมในปี 2000 ซึ่งจังหวะเดียวกันเขาก็ลองไปทดสอบฝีมือที่สมาคม World Wrestling Entertainment หรือ WWE หลายครั้ง จน Jim Ross อดีตผู้บรรยายและเป็นแมวมองให้สมาคมในตอนนั้น จึงพาเขาเซ็นสัญญาเป็นนักมวยปล้ำฝึกหัดและส่งไปชุบตัวที่สมาคมเครือข่ายในเวลานั้นอย่าง Ohio Valley Wrestling หรือ OVW (ปัจจุบันไม่ได้อยู่ในเครือแล้ว) ซึ่งที่แห่งนี้ได้ฝึกกับดาวรุ่งที่ตอนหลังกลายเป็นดาวเด่นในวันนี้ อาทิ Randy Orton, Batista  ฯลฯ

 

Cena สร้างความประทับใจให้กับแฟนๆและทีมงาน ด้วยคาแร็คเตอร์ที่โดดเด่นบวกกับฝีมือที่แกร่งและสวยงาม ที่เต็มไปด้วยความดุดัน แต่ที่โดดเด่นคือสำบัดสำนวนในสกิลการพูดที่ลื่นไหล ซึ่งทำให้ทีมงานที่ติดตามผลงานทั้งใน OVW และ WWE ลงความเห็นว่า สมควรเลื่อนชั้นไปสู่สมาคมใหญ่เสียที

 

27 กรกฎาคม 2002 คือวันที่ John Cena ได้มายังสมาคม WWE โดยเป็นสมาชิกใหม่ของรายการ Smackdown ซึ่งเขาออกมาตอบรับคำท้าของ Kurt Angle ก่อนจะโชว์ฟอร์มดุและยืนหยัดสู้กับฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิค ราวกับผู้ท้าชิงอันดับหนึ่งซึ่งจบลงที่ Cena พ่ายแพ้ แต่ก็ประทับใจแฟนๆมวยปล้ำจนชื่อของเริ่มเป็นที่รู้จักวินาทีนั้นขึ้นมา

 

หลังแมตช์ครั้งนั้นเขาก็ได้เจอคู่ต่อสู้เก่งๆ ทั้งแบบเดี่ยวและทีม แตว่าด้วยคาแร็คเตอร์ที่ติดตัวตั้งแต่เข้าวงการแม้จะขายได้ แต่ก็มีหลายคนบอกว่ามันก็จะระยะสั้นๆ นั่นทำให้เขาต้องเริ่มคิดคาแร็คเตอร์ที่จะทำให้ชื่อของเขาเป็นที่จดจำ

 

 

 

 

 

8.) The Rap Is Cena

ช่วงที่คิดคาแร็คเตอร์ใหม่นั้น เขานึกถึงสมัยวัยรุ่นที่เขาชื่นชอบเพลงของแร็พเปอร์ผิวขาวอย่าง Vanilla Ice เขาชอบถึงขนาดเวลาไปงานแฟนซีมักจะแต่งเป็นนักร้องคนโปรดก่อนจะพัฒนาร้องตาม ทำให้เขาสามารถร้องแร็พแบบๆสดได้  ซึ่งทำให้คาแร็คเตอร์ใหม่ของเขาคือ เด็กแร็พปากเสีย ผู้นำเทรนด์แฟชั่นเสื้อกีฬาแบบย้อนยุค, ใส่สร้อยโซ่ที่มักจะใช้เป็นอาวุธตอนกรรมการเผลอ โดยมี Vanilla Ice เป็นแบบ จนกลายเป็นคาแร็คเตอร์ฝ่ายอธรรม ที่สร้างกระแสและทำให้ชื่อของ John Cena เป็นที่รู้จัก 

ตอนแรกก็จะมีคู่หูคือ Bull Bulchanan หรือ B2 ค่อยช่วยเหลือแต่ในปี 2003 Cena ก็ลุยเดี่ยวได้เจอคู่ต่อสู้ทั้ง Eddie, Guerrero, The Undertaker, Brock Lesnar

 

แต่หลังจากนั้นด้วยคาแร็คเตอร์ที่สามารถแร็พต่อปากต่อคำไม่ว่าจะฝ่ายธรรมะหรือธรรม เขาก็กลายเป็นฝ่ายธรรมะแถมได้แฟนคลับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

 

 

7.)เส้นทางสู่ตำแหน่งแชมป์

หลังจากบ่มเพาะประสบการณ์มาโชกโชน ในปี 2004 John Cena ก็เริ่มไล่ตามตำแหน่งแชมป์ โดยเส้นแรกที่ได้คือ แชมป์ U.S ด้วยการสยบ Big Show ใน Wrestlemania XX(หลังจากนั้นได้อีก 4 สมัยในเวลาต่อมา) แล้วในปี 2005 ใน Wrestlemania 21 เขาเอาชนะ John Bradshaw Layfield จนคว้าแชมป์โลกสมัยแรก ก่อนที่เขาจะกลายเป็นยอดมวยปล้ำชั้นนำแห่งยุค และได้แชมป์ถึง 16 สมัย เทียบเท่ากับ Ric Flair ตำนานมวยปล้ำที่เคยทำไว้ก่อนหน้านี้

ส่วนตำแหน่งแชมป์อื่นๆที่เคยได้ ทั้งแชมป์แท็กทีม 4 สมัย, ผู้ชนะ Royal Rumble 2008, 2013, ผู้ชนะ Money In the Bank ปี 2012 แล้วยังได้ Slammy Awards ถึง 10 ครั้ง

 

 

 

6.)My Time Is now

หลังจากที่ John Cena ประสบความสำเร็จกับการคว้าแชมป์โลกสมัยแรกได้สำเร็จ ทำให้ชื่อเสียงโด่งดังพลุแตกและมีงานเข้ามาไม่ขาดสาย ซึ่งหนึ่งในนั้นคือการมีอัลบั้มเพลงเป็นของตัวเอง โดยในปี 2005 เขาได้บันทึกเสียงอัลบั้มของตัวเองในชื่อ MY Time Is Now ซึ่งเป็นชื่อเดียวกับเพลงที่ใช้เปิดตัวขึ้นสังเวียนของเขานันเอง ซึ่งผลงานเพลงได้ Trademarc นักร้องผู้เป็นลูกพี่ลูกน้องค่อยช่วยเกลาเนื้อเพลงให้ ซึ่งเปิดตัวในวันที่ 8 สิงหาคมในรายการ Raw  ก่อนที่เพลงจะทะยานขึ้นบิลบอร์ดในอันดับที่ 15 ซึ่งถือว่าเปิดตัวไม่ธรรมดาเลยทีเดียว

 

 

 

5.) Rise Above Hate เจิดจรัสเหนือความเกลียดชัง

ด้วยคาแร็คเตอร์จากเด็กแร็พกลายเป็นฮีโร่ราวกับซูเปอร์ไซย่า และด้วยภาพลักษณ์และสไตล์ที่ยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง จนเกิดแฟนคลับสองกลุ่ม กลุ่มแรกคือกลุ่มแฟนมวยปล้ำรุ่นใหม่ แล้วเด็กๆกับสาวๆ กับแฟนมวยปล้ำเดนตายที่รู้สึกว่ามันน่าเบื่อไม่มีการพัฒนา รวมถึงความเทพเกินในช่วงหลังๆ จนเกิดเสียงเชียร์ Let’s Go Cena…Cena Sucks ซึ่งภายหลังกลายเป็นเสียงเชียร์เอกลักษณ์

 

ช่วงที่ถูกเกีลยดทั้งในและนอกบท เคยมีการออกเสื้อ Rise Above Hate เพื่อตอบรับกระแสดังกล่าว จนกลายเป็นสินค้าที่ขายดี ซึ่งความหมายของมันคือการที่ตัวเขายังคงทำหน้าที่ในฐานะดาวเด่นสมาคม ไม่ว่าจะมีคนชอบหรือเกลียดก็ตาม เขาก็จะสู้ต่อท่ามกลางเชียร์เหล่านี้นี่เอง

 

 

4.) สไตล์การแต่งตัว

ว่าด้วยสไตล์การแต่งตัวของ John Cena นั้นอย่างที่ทราบกันว่าในช่วงคาแร็คเตอร์แรกๆในมาดเด็กแร็พนั้นเราจึงได้เห็นแฟชั่นชุดกีฬาทีมดัง ร้องเท้าผ้าใบ (รองเท้าแบบปั๊มลม) แต่เมื่อกลายเป็นด่นเด่นสมาคม ทำให้ได้เห็นเสื้อหลากสีสัน โดยที่ยังคงเอกลักษ์แบบของเขา จนทำให้ The Rock เคยเอาเรื่องนี้ไปแซวขำๆแต่แอบเจ็บเมื่อครั้งทั้งคู่พบกัน ว่า ตัว Cena คือ Fruity Pebbles ชามยักษ์ที่เคลื่อนไหวได้ จนบริษัทอาหารเช้าที่ว่านี้ก็ใช้โอกาสนี้จับCenaเป็นพรีเซนเตอร์แทนตัวการ์ตูน Fred Flinestone ในที่สุด

 

อีกแนวแฟชั่นที่เห็นบ่อยๆคือแนวทหาร ส่วนหนึ่งคงมาจากการที่เขาได้แสดงหนัง The Marine และได้ไปปล้ำโชว์ในโชว์ปลุกขวัญทหารที่อิรัก ทำให้เขาได้รับอิทธิพลจนเคยออกแบบเสื้อ You Can’t see me ลายทหารมาแล้ว

 

 

3.) Once In A life Time CENA VS THE ROCK

ในช่วงที่ John Cena อยู่ในกระแสทั้งคนชอบและคนเกลียดในเวลาเดียวกันนั้น ก็มีการตั้งคำถามว่าเขาสมควรจะได้รับการยอมรับว่าเป็นยอดมวยปล้ำแห่งยุค หรือยิ่งกว่าคือเป็นหนึ่งในสุดยอดนักมวยปล้ำเฉกเช่นเดียวกับตำนานรุ่นพี่ได้หรือไม่?

 

นั่นจึงเป็นที่มาของการเจอของสองยอดฝีมือระหว่างสุดยอดปัจจุบันอย่างเขากับตำนานซูเปอร์สตาร์รุ่นพี่ ที่ได้ชื่อว่า The Great One และยังเป็นมูฮัมหมัด อาลีแห่งวงการมวยปล้ำอาชีพพ่วงด้วยตำแหน่งดารายอดนิยมเขาคือ Dwyane “The Rock” Johnson

 

The Rock คือหนึ่งในนักมวยปล้ำที่ได้รับความนิยม ที่เคยเป็นแชมป์โลก แล้วด้วยลีลารวมถึงสำบัดสำนวนที่เผ็ดร้อน จึงเหมาะสมที่จะเป็นบททดสอบเพื่อพิสูจน์ฝัมืออย่างแท้จริง ซึ่งทาง WWE  มีการปูเรื่องราวตั้งแต่ WM27 ไปจนถึง WM29 ที่กินเวลานานส่วนหนึ่งเพราะ The Rock มีคิวถ่ายหนัง จนเมื่อเคลียร์คิวได้เขาจึงกลับคืนสังเวียนจนสามารถกลับมาคว้าแชมป์ WWE ในปี 2013 เอาชนะ CM Punk ถึง 2 ครั้ง

 

การพบกันครั้งแรกของทั้งคู่คือ Wrestlemania 28 ที่ ไมอามี่ บ้านเกิดของ The Rock ซึ่งทำให้กองเชียร์เลือกที่จะเชียร์ฮีโร่ขวัญใจร่วมบ้าน แต่แมตช์ก็ออกมาสนุกก่อนที่ The Rock จะเอาชนะไป ก่อนที่อีก 1 ปีต่อมา ในครั้งที่ 29 ซึ่งจัดที่ New Jersey  ซึ่งก่อนหน้านั้นก็มีการปูเรื่องราว ก่อนใกล้ถึงศึกจึงมีการข่มขวัญรวมถึงแต่งเพลงด่ากันไปมา

 

เมื่อศึกที่ทุกคนรอคอยมาถึง ซึ่งกันพบกันคราวนี้มีแชมป์ WWE เป็นเดิมพันของ The Rock ยิ่งทำให้แมตช์นี้ได้รับความสนใจมากยิ่งขึ้น และสำหรับ Cena คือตั๋วเที่ยวเดียวที่พลาดแล้วพลาดเลย ทำให้การต่อสู้ครั้งนี้เขาจะไม่ซ้ำรอยเหมือนครั้งที่แล้ว ซึ่งผลจบลงที่ Cena พลิกสถานการณ์ก่อนจะจับกดนับ 3 กลับมาเป็นแชมป์ได้อีกครั้ง ซึ่งแน่นอนว่ามีทั้งคนชอบและไม่ชอบเช่นเคย

 

แต่หลังการต่อสู้จบลง The Rock จึงชูมือให้ Cena ในฐานะผู้ชนะ และเป็นการยืนยันว่าเขาพร้อมส่งไม้ต่อให้กับผู้ชนะในฐานะดาวเด่นคนต่อไปของสมาคมนั่นเอง

 

 

 

2.) เส้นทางสู่วงการมายา

เส้นทางวงการบันเทิงของ John Cena เริ่มต้นเมื่อเข้าได้เล่นหนังให้กับ WWE Studios นั่นคือ The Marine ซึ่งได้แสดงร่วมกับ Robert Patrick กับเรื่องราวของนาวิกโยธินหนุ่มที่ต้องไปช่วยแฟนสาวให้พ้นจากมือของโจรทมิฬ ซึ่งยังเป็นหนังเรื่องแรกของบริษัทในเครือสมาคม WWE โดย 20th Century Fox รับหน้าที่จัดจำหน่าย ซึ่งหนังที่ใช้ทุน 15 ล้านเหรียญฯ แต่กวาดรายได้ถึง 22 ล้านเหรียญ

 

หลังจากนั้นในปี 2009 จึงได้กลับมารับบทนำ ใน 12 rounds ซึ่งจากทุน 22 ล้านเหรียญ แต่ทำรายได้ถึง 29 ล้านเหรียญ ซึ่งทั้งสองเรื่องยังคงสร้างกระแสยังไม่ถึงในวงกว้าง ก่อนที่หลังจากนั้นก็เล่นหนังให้กับค่ายส่วนใหญ่จะเป็นหนังส่งตรงลงแผ่น ทั้งแสดงและให้เสียง อาทิ 

Legendary, The Reunion,Scooby-Doo! WrestleMania Mystery,The Flintstones & WWE: Stone Age SmackDown!

 

ในปี 2015-2017 เขาเริ่มมีผลงานมากขึ้นแต่จะเป็นบทสมทบไม่ก็รับเชิญ อาทิ Trainwreck, Sisters, Daddy Home 1-2, The Wall, Ferdinand และ Blockers  รวมถึงไปรับเชิญตามรายการทีวกับซีรีส์อีกมากมาย

 

ล่าสุดกับหนังฟอร์มยักษ์ครั้งแรกของเขา แล้วยังเป็นหนังระดับบล็อกบัสเตอร์กับบท Agent Burns ในหนังจักรวาลทรานฟอร์มเมอส์อย่าง Bumblebee ซึ่งต้องจับตาดูว่าบทบาทเขาจะเป็นเช่นไร คงต้องไปหาคำตอบในโรงภาพยนตร์

 

 

1.)เจ้าพ่อ Meme

ส่วนหนึ่งที่ทำให้ John Cena โด่งดังไม่ใช่แค่นักมวยปล้ำเท่านั้นแต่มีแฟนๆหรือนักท่องอินเตอร์เน็ตได้สร้างมุขตลกหรือ Meme จะเป็นการล้อเลียนหรือสดุดีในความเก่งกล้าก็ตาม ซึ่งหนึ่งในมุขที่ทุกคนคุ้นเคยคือ Unexpected Cena หรือ  And His Name is John Cena ที่เป็นการล้อวลีของเขาพร้อมเพลงเปิดตัว จนกลายเป็นมุขที่น่าจดจำไปโดยปริยาย ถ้าใครอยากรู้ลองค้นกูเกิ้ลแล้วตามด้วย Unexpected Cena แล้วจะพบว่ามีเพียบบบ ฮ่าๆ

 

และทั้งหมดนี้คือ 10 เรื่องราวที่น่าสนใจของ John Cena ยอดนักมวยปล้ำที่กำลังจะมีผลงานหนังฟอร์มยักษ์ Bumblebee ที่กำลังจะเข้าฉายในอาทิตย์หน้า ก่อนจากกัน ถ้าพูดถึง John Cena จะนึกถึงอะไร ลองคอมเม้นต์แล้วแชร์กันได้ครับ

 

@P.PETTY

 

 

ข้อมูลประกอบ

-          WWE home video My Life John Cena

-          https://en.wikipedia.org/wiki/John_Cena

-          https://fox8.com/2013/01/09/john-cena-replaces-fred-flintstone-on-cereal-boxes/

-          https://www.wwe.com/superstars/john-cena

-          http://www.onlineworldofwrestling.com/gallery/cena-b.html