โจ สิงห์สังเวียน Ashita No Joe
20 กรกฎาคม 2563 17:14 น.
Share on FacebookTweet about this on TwitterShare on Google+

 Ashita No Joe  (1)

โจ สิงห์สังเวียน Ashita No Joe 
ประเภท: Sport, Drama
แต่งเรื่องโดย: จิบะ เทตสึยะ
ภาพโดย: อาซาโอะ ทาคาโมริ
สำนักพิมพ์: โคดันชะ (Kondansha)
ตีพิมพ์: 1 มกราคม 1968 – 13 พฤษภาคม 1973 (20เล่ม)
จำนวนตอนอนิเมะ: ภาคแรก 79 ตอน, ภาคสอง 47 ตอน

Ashita No Joe  (1)

ถือว่าเป็นการ์ตูนชกมวยระดับตำนานที่วันนี้กลายเป็นงานอมตะ สำหรับ Ashita No Joe หรือชื่อไทย โจ สิงห์สังเวียน หนึ่งในผลงานชิ้นโบว์แดงของ อ. ชิบะ เทตสึยะ ที่ตีพิมพ์ครั้งแรกในวันที่ 1 มกราคม ปี 1968 ลงนิตยสารโชเน็นรายสัปดาห์ของสำนักพิมพ์ โคดันชะ

 

จากวันแรกจนถึงวันนี้นับเป็นเวลา 50ปี ที่นอกจากจะเป็นการ์ตูนในความทรงจำของใครหลายๆคนแล้ว มันกลายเป็นการ์ตูนญี่ปุ่นที่คนทั้งประเทศรักและชื่นชม การ์ตูนเรื่องนี้ยังทำหน้าที่เป็นจดหมายเหตุกับสะท้อนสังคมประเทศญี่ปุ่นในช่วงนั้นอีกด้วย
วันนี้เราจะพาไปย้อนความทรงจำของยอดนักสู้ผู้ครองใจนักอ่านมา 5 ทศวรรษ ยาบูกิ โจ จากการ์ตูนเรื่อง โจ สิงห์สังเวียนกันได้เลยครับ

 

 

 

แนะนำตัวละครกันก่อน

Ashita No Joe  (2)

ยาบูกิ โจ
พระเอกของเรื่อง เขาเป็นเด็กหนุ่มผู้เลือดร้อนที่หนีออกจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แล้วมาเผชิญโชคในกรุงโตเกียวเพียงลำพัง ที่นี่ให้เขาได้เจอ ทาเกะ ดันเป อดีตเทรนเนอร์นักมวยติดเหล้าที่เห็นแววในตัวของโจเลยอยากจะฝึกให้เขาเป็นยอดนักมวย แต่ทว่ามีเหตุที่ทำให้โจต้องไปอยู่สถานกักกัน ที่ทำให้เขาได้เจอ ริคิอิชิ ชายที่ทำให้เขาก้าวสู่สังเวียนมวยในเวลาต่อมา


Ashita No Joe  (3)ทาเกะ ดันเป
โค้ชมวยตกอับจนต้องพึ่งสุราประทังชีวิต เขาคือคนที่ค้นพบพรสวรรค์ในตัวของโจและตั้งเป้าว่า เขาจะต้องฝึกโจให้เป็นยอดนักมวย แม้ช่วงที่อยู่ในคุกเขาก็ยังส่งแบบฝึกหัดให้โจได้ฝึกฝนตลอดเวลา

Ashita No Joe  (4)
คานิชิ “แมมมอธ” นิชิ
รู้จักกับโจในคุกมาก่อนในฐานะคู่อริแต่เมื่อเวลาผ่านไปเขาจึงเป็นเพื่อนสนิทที่เคียงบ่าเคียงไหล่ร่วมกัน ก่อนจะได้ชกอาชีพตามมาในภายหลังแต่ในการชกครั้งหนึ่งที่ได้รับบาดเจ็บจนต้องเลิกมวย แต่เขาก็คอยช่วยดันเปฝึกโจและนักมวยรุ่นน้องในเวลาต่อมา

 

Ashita No Joe  (2)
โทรุ ริคิอิชิ
นักชกดาวโรจน์ผู้เป็นความหวังของวงการมวยโลก แต่เพราะเหตุการณ์ร้ายแรงที่ทำให้เขาต้องติดคุกจนได้เจอกับโจในแมตช์พิเศษ ในเวลาต่อมาเขาได้พ้นโทษและรอวันที่โจจะได้เจอกับเขาอีกครั้งหนึ่งบนสังเวียนมวยอาชีพ

 

 

Ashita No Joe  (5)
ชิราอิชิ โยโกะ
ลูกสาวของประธานบริษัทการเงินชิราอิชิและเป็นเจ้าของค่ายมวยชื่อดังซึ่งหนึ่งในนั้นมี ริคิอิชิ สังกัดอยู่ในค่ายด้วย เป็นคนสุภาพและมีความทะเยอทะยานเล็กน้อย แม้ว่าบางอย่างเป็นสิ่งที่ฝืนใจเธอก็ตาม

 

Ashita No Joe  (1)
คาร์ลอส ริเวร่า
รองแชมป์โลกอันดับ 6 ชาวเวเนซูเอล่าที่ได้สมญานามว่า “ราชันย์ไร้มงกุฎ” ซึ่งได้มาอยู่สังกัดค่ายมวยชิราอิชิ จนทำให้ได้มีโอกาสประมือกับ โจ ถึงสองครั้ง แต่ในการเจอกับแชมป์โลกอย่าง โฮเซ่ เมนโดซ่า ที่ทำให้ชีวิตของเขาเปลี่ยนไปตลอดกาล

 

Ashita No Joe  (3)
โฮเซ่ เมนโดซ่า
แชมป์โลกไร้พ่ายชาวเม็กซิกันผู้เป็นเป้าหมายสูงสุดของวงการมวยโลก เป็นคนให้ความสำคัญทั้งวงการมวยและครอบครัว เมื่อเขาได้เปิดโอกาสให้ โจ ได้เจอกับเขาโดยไม่คิดเลยว่า การชกกับผู้ท้าชิงชาวญี่ปุ่นคนนี้จะกลายเป็นการชกที่เขาจะไม่มีวันลืมไปชั่วชีวิต

 

 

เรื่องย่อ

Ashita No Joe  (6)

ยาบูกิ โจ เด็กหนุ่มที่ใช้ชีวิตเร่ร่อนเป็นประจำเพราะว่าเขาหนีออกมาจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าตั้งแต่วัยเด็ก ทำให้เขามีชีวิตแบบปากกัดตีนถีบและเดินทางพเนจร เมื่อเขาได้มาอาศัยอยู่ใน ชุมชนโดยะ ซึ่งเป็นชุมชนสลัมที่เต็มไปด้วยชนชั้นแรงงานในใจกลางโตเกียวก็เกิดเหตุชุลมุนซึ่งทำให้เขาได้เจอกับ ทาเกะ ดันเป อดีตโค้ชมวยที่ครั้งหนึ่งเคยมีชื่อเสียงเคยปั้นดาวรุ่งประดับวงการ

 

แต่เมื่อนักมวยที่เขาดูแลหักหลังทำให้เขาเสียใจจนต้องจมปลักกับขวดเหล้า ซึ่งเขาได้เห็นโจ ไปวิวาทเพื่อช่วยเหลือเด็กที่ถูกนักเลงทำร้าย ทำให้เขาได้เห็นแววในตัวโจทั้งพรสวรรค์และพลังหมัดที่หนักหน่วง เขาจึงอาสาที่จะช่วยเทรนให้โจเป็นนักมวยอาชีพ แต่พระเอกกลับปฏิเสธเพราะเขาไม่เคยคิดจะเอาดีในวงการกำปั้นเลยแม้แต่น้อย ก่อนที่ภายหลังจะให้ดันเปฝึกมวยให้

 

แต่ยังไม่ทันจะได้เรียนแบบจริงจัง โจ ได้ก่อวิวาทจนท้ายที่สุดเขาถูกตำรวจจับกุม ก่อนจะถูกส่งไปอยู่สถานกักกันที่ห่างไกลจากตัวเมือง

 

แน่นอนว่าความห้าวเป้งในตัวโจทำให้มักมีเรื่องทะเลาะวิวาทอยู่บ่อยครั้ง ที่นี่ทำให้เขาได้เจอกับ คานิชิ “แมมมอธ” นิชิ ที่ภายหลังเป็นเพื่อนรักในเวลาต่อมาแล้วยังได้เจอกับคู่ปรับตลอดกาลของโจอย่าง โทรุ ริกิอิชิ นักมวยผู้เป็นดาวรุ่ง แต่ไปวิวาทกับคู่กรณีจึงถูกส่งมาที่นี่และกำลังอยู่ในช่วงใกล้จะพ้นโทษ

Ashita No Joe  (7)

วันหนึ่ง ชิราอิชิ โยโกะ ลูกสาวของประธานบริษัทการเงินในเครือชิราอิชิแล้วยังเป็นเจ้าของค่ายมวยที่ริกิอิชิสังกัดอยู่ ได้เดินทางมาที่สถานกักกันเพื่อคุยกับพัศดีในการที่จะนำโครงการฝึกมวยให้กับผู้ต้องขัง โดยจะมีการจัดแมตช์พิเศษ ซึ่งโจจะต้องเจอกับ ริกิอิชิ

 

แน่นอนว่าคนในสถานกักกันต่างเทใจเชียร์นักชกคนดัง และรอดูโจเพลี้ยงพล้ำเพราะว่าพลังหมัดคนละชั้น เมื่อการชกมาถึงก็เป็นไปตามที่หลายคนคาดไว้ โจ โดนอัดชนิดว่าถ้าเป็นคนอื่นคงจอดร่วงแค่ยกแรก แต่ไม่ใช่กับคนชื่อโจเพราะโดนหมัดริกิอิชิไปหลายครั้งจนหน้าบวมเป่งแค่ไหน โจก็ลุกขึ้นมาได้จนทำให้อีกฝ่ายเริ่มจะเดือดดาลจึงตัดสินใจประเคนหมัดใส่โจหลายครั้งก่อนที่อีกฝ่ายจะปิดเกมด้วยหมัดสวน ซึ่งต่างฝ่ายใช้หมัดนี้ซัดเข้าไปที่หน้าจนทำให้การชกจบลงที่เสมอกันในที่สุด

 

หลายวันผ่านไป ริกิอิชิ ที่ครบกำหนดโทษก็ได้ออกจากสถานกักกัน เมื่อได้เจอกับโจเขาให้คำมั่นสัญญาว่าจะรอเจอกันอีกครั้งที่สังเวียนมวยอาชีพ ก่อนที่ในภายหลัง โจ ก็ได้พ้นโทษก่อนตัดสินใจจะใช้สองกำปั้นเข้าสู่วงการมวยเพื่อเจอกับริกิอิชิเช่นกัน

 

Ashita No Joe  (4)
ริคิอิชิ ประเดิมสังเวียนไปก่อน โจ ซึ่งสร้างผลงานชนะอย่างต่อเนื่องจนมีชื่อติดอันดับโลกในรุ่นไลต์เวต โดยมี โยโกะ เป็นผู้สนับสนุนและผลักดันสู่ตำแหน่งแชมป์ ขณะที่ทางด้านโจก็ได้ ดันเป และ แมมมอธ นิชิ  มาช่วยฝึกเขาพร้อมกัน

 

โดยโจประเดิมสังเวียนชัยชนะรวดด้วยการใช้หมัดสวนน็อคทุกครั้ง จนทำให้ชื่อของ โจ เริ่มเป็นที่พูดถึง

 

ขณะที่ทางด้านของริกิอิชิ ก็ตั้งตารอคอยที่จะได้สู้กับโจ แต่ก็ถูกโยโกะคัดค้านมาตลอดเพราะชื่อเสียงของริกิอิชิไม่คุ้มที่จะเอาอันดับโลกไปเสี่ยงกับโจ แถมทั้งสองคนก็ชกในคนละรุ่น (โจชกในรุ่นแบนตั้มเวต)

 

ไฟต์ต่อมาของโจเรียกได้ว่าเป็นกระดูกชิ้นโตเพราะต้องเจอกับ วูลฟ์ คานากุชิ นักมวยจอมโหดโดยส่วนหนึ่งเป็นแผนของโยโกะเพราะว่าถ้าโจแพ้ จะได้ไม่ต้องเจอ ริกิอิชิ เรียกว่าสกัดาวรุ่งเลยทีเดียว(แสบมาก ฮ่า) ซึ่งการชกครั้งนั้น โจเกือบจะแพ้เต็มประตูเพราะมัวแต่ลดการ์ดและพยายามจะใช้หมัดสวน ไม้ตายคู่ใจ แต่ก็โดนแก้เกมทุกครั้ง แต่ในท้ายสุด โจ ก็เอาชนะด้วยหมัดสวนที่พัฒนาไปอีกขั้น ก่อนที่ศึกล้างตาของทั้งคู่ได้เจอกันอย่างแน่นอน

 

Ashita No Joe  (8)
ริกิอิชิ ตัดสินใจลดน้ำหนักถึงสามรุ่นเพื่อขอเจอกับโจโดยเฉพาะ เรียกได้ว่าเดิมพันชื่อเสียงและศักดิ์ศรีครั้งใหญ่ แต่การลดน้ำหนักของเขาสร้างความทรมานร่างกายเป็นอย่างมาก ทั้งทานแต่มะเขือเทศไปจนถึงอยู่ที่ตู้อบซาวน่าแบบรีดน้ำหนักจนสุดชีวิต ทำให้ในวันชั่งน้ำหนักทุกคนตกใจกับสภาพร่างกายของเขาที่ผอมเหลือแต่กระดูก จนสามารถทำน้ำหนักในพิกัดได้หวุดหวิด แล้วก่อนการชกไม่กี่วัน โยโกะไปหาโจะถึงที่ค่ายเพื่อขอให้ยกเลิก รวมถึงขอให้ริกิอิชิอย่าฝืนชกในสภาพร่างกายที่ไม้พร้อม แต่ทั้งสองก็ไม่เปลี่ยนใจและขอสู้ตามโปรแกรมด้วยเหตุผลคือ พันธะสัญญาของลูกผู้ชาย!

 

เมื่อถึงวันชกทั้งคู่ยังคงแลกหมัดอย่างดุเดือด โดยเฉพาะริกิอิชิที่แม้จะลดน้ำหนักอย่างอ่อนล้าแต่พลังหมัดก็ยังรุนแรงและเฉียบคม ขณะที่โจก็ไล่ชกที่ศรีษะอยู่บ่อยๆ จนมาถึงยกอวสานในยกที่ 8 ริกิอิชิ ปิดฉากน็อคโจคาเวทีเป็นฝ่ายเอาชนะไปในที่สุด!

 

หลังการชกโจก็เข้ามาจับมือแสดงความยินดี แต่ทว่าริกิอิชิกลับหมดสติล้มลงสร้างความตกใจแก่ผู้ชมในสนามก่อนจะถูกหามส่งโรงพยาบาลและเสียชีวิตจากการถูกชกรวมถึงลดน้ำหนัก ทำให้เหตุการณ์ครั้งนี้โจเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และกลายเป็นฝันร้ายจนทำให้เขาพ่ายแพ้อีกครั้งในการเจอกับ ไทเกอร์ โอซากิ ในยกที่6 หลังดันเปโยนผ้ายอมแพ้ ทำให้โจตัดสินใจเลิกมวยและหายไประยะหนึ่งเพื่อเลียแผลใจก่อนจะกลับมาสู่วงการมวยอีกครั้ง

 

Ashita No Joe  (9)
หลังจากนั้นโจก็ได้ต่อยอุ่นเครื่องเก็บชัยชนะ ในช่วงเวลาเดียวกัน โยโกะ ได้เซ็นสัญญานักชกดาวรุ่งจากเวเนซูเอล่านามว่า คาร์ลอส ริเวร่า รองแชมป์โลกอันดับ 6 ที่โยโกะโปรโมตว่าจะเป็นริกิอิชิคนใหม่ของวงการ โดยสร้างผลงานชนะมวยญี่ปุ่นถึงสามคน (หนึ่งในนั้นคือชนะ ไทเกอร์ โอซากิ คู่ปรับของโจ)

คาร์ลอสได้มีโอกาสพิสูจน์กำปั้นกับโจ ซึ่งในฉบับหนังสือการ์ตูนผลการชกทั้งคู่คือไม่มีการตัดสิน ขณะที่ฉบับอนิเมะการชกจบลงที่เสมอกัน ก่อนที่คาร์ลอสจะกลับบ้านเกิดเพื่อเตรียมตีวทำศึกกับยอดมวยโลกเจ้าของเข็มขัดแชมป์ชาวเม็กซิกันที่ชื่อ โฮเซ่ เมนโดซ่า

 

Ashita No Joe  (10)

เมื่อการชกชิงตำแหน่งแชมป์โลกของคาร์ลอสกับเมนโดซ่ามาถึง ปรากฎว่าฝั่งแชมป์โลกใช้ความเหนือชั้นบดขยี้ก่อนจะยิงหมัดใส่ผู้ท้าชิงน็อคเพียงแค่ยกแรก ทำให้แชมป์ยังอยู่ที่เอวของเมนโดซ่า ส่วนคาร์ลอสก็มีสภาพเป็นคนอาการเมาหมัดจนไม่เหลือภาพของนักชกดาวรุ่งอีกเลย

Ashita No Joe  (11)
ทางด้านโจ ที่ตอนนี้ทางโยโกะได้ออกเงินส่วนหนึ่งสร้างค่ายมวยแห่งใหม่ใกล้กับค่ายเก่าใต้สะพาน นอกจากนี้ชื่อเสียงของโจตั้งแต่ชกกับคาร์ลอสทำให้มีเด็กหนุ่มเข้ามาสมัครชกมวยที่ค่ายมากมาย ตอนนี้โจตั้งเป้าหมายใหม่นั่นคือการเจอกับ เมนโดซ่า และคว้าเข็มขัดแชมป์โลกมาครอง แต่ก่อนที่จะถึงตรงนั้นโจต้องเจอกับยอดฝีมือเพื่อไต่อันดับโลก

 

โดยไฟต์แรกเจอกับ คิม ยอง บิล แชมป์เอเชียแปซิฟิกชาวเกาหลีใต้ จากนั้นก็เจอศึกหนักกับนักชกจากมาเลเซียที่ชื่อ ฮาริเมา ก่อนจะข้ามแบบก้าวกระโดดด้วยการเจอกับ ลีออง สมายลี่ รองแชมป์โลกอันดับหนึ่ง ที่การชกครั้งนี้ทำให้โจเริ่มจะมีอาการเมาหมัดเหมือนริกิอิชิ แต่ก็ชนะลีอองจนคว้าตั๋วชิงแชมป์โลกกับเมนโดซ่าในที่สุด

 

เมื่อศึกชิงแชมป์โลกมาถึง ศึกครั้งนี้ถือเป็นศึกใหญ่เพราะมีผู้ชมแน่นเต็มสนามต่างมาให้กำลังใจโจในฐานะความหวังใหม่ของวงการกำปั้นและแชมป์โลกที่ยอมหาญกล้ามาป้องกันตำแหน่งแชมป์ในถิ่นของผู้ท้าชิง โดยตลอด 15 ยก (กฎมวยสมัยก่อน) ทั้งคู่ต่างไม่มีการอ่อนข้อ โดยเฉพาะโจที่เริ่มจะมีอาการเมาหมัดก็กัดฟันสู้เพื่อจะสยบแชมป์โลกจนครบยก แมตช์ครั้งนี้จะถูกจารึกว่าเป็นแมตช์ดุเดือดที่สุดเท่าที่วงการมวยเคยมีมา

เมนโดซ่า เอาชนะไปได้แบบสะบักสะบอมแถมผมของเขากลายเป็นผมสีขาวสื่อถึงแสดงความกลัวอย่างเห็นได้ชัดว่า โจ คือคู่ต้อสู่คนแรกที่ทำให้เขาสะท้านถึงขั้วเลยทีเดียว ส่วนทางด้านโจก็นั่งอยู่ที่มุมอย่างสงบโดยที่ไม่มีใครรู้เลยว่า โจได้จากโลกนี้ไปแล้ว….ปิดฉากยอดนักสู้นามว่าโจในวันนั้น…

 

 

 

 

 

ความทรงจำที่ยิงใหญ่ส่งต่อปัจจุบัน

Ashita No Joe  (12)

สิ่งหนึ่งที่ทำให้การ์ตูนเรื่องนี้กลายเป็นหนึ่งในการ์ตูนระดับตำนานของญี่ปุ่นจนปัจจุบัน เพราะการ์ตูนได้เล่าถึงเรื่องราวสู้ชีวิตของตัวเอกในช่วงเวลาที่ญี่ปุ่นกำลังฟื้นตัวจากสงคราม โจ เปรียบเสมือนตัวแทนคนชายขอบที่พยายามลุกขึ้นเปลี่ยนแปลงเพื่อไปสู่จุดหมาย เฉกเช่นภาพยนตร์ชกมวยชื่อดังอย่าง Rocky นอกจากนี้ด้วยเนื้อหาเข้มข้นและเข้าถึงคนทุกชนชั้น เพราะเนื้อหาของการ์ตูนเต็มไปด้วยอารมณ์ร่วมต่างๆมากมาย จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้การ์ตูนเรื่องนี้ถูกยกให้เป็นการ์ตูนในตำนานอันดับต้นๆเลยทีเดียว

 

 

งานศพริกิอิชิในชีวิตจริง

Ashita No Joe  (13)

เป็นเรื่องที่ฟังแล้วอาจจะดูแปลกๆจนถึงกับบอกว่า “แบบนี้ก็ได้หรือ?” ครั้งหนึ่งตอนที่การ์ตูนโจ สิงห์สังเวียนโด่งดังมากโดยเฉพาะตอนที่ โทรุ ริกิอิชิ คู่ปรับของโจ ได้เสียชีวิตซึ่งทำให้ผู้อ่านจำนวนมากอินไปกับเรื่องราวจนถึงขั้นมีแฟนๆการ์ตูนโทรศัพท์หรือมาหา อ.ชิบะ ถึงบ้านทั้งต่อว่าและถามว่า “คุณฆ่าริกิอิชิทำไม!?”

อ.ชิบะ มองว่าเป็นกระแสตอบรับที่ตัวเขาทึ่งไม่น้อย เพราะว่า เวลาวาดการ์ตูนนั้น เขามีแรงกดดันเสมอ ว่าแฟนๆจะเข้าใจสิ่งที่เขาต้องการจะสื่อหรือไม่และเขาจะต้องทำอย่างไรให้แฟนๆเข้าใจจุดประสงค์นั้นได้ ตอนที่ริกิอิชิตาย เขาได้เห็นว่า แฟนๆหนังสือนั้น จิตใจบริสุทธิ์ขนาดไหน พวกเขาร้องไห้ให้กับตัวละครที่พวกเขารัก เด็กๆพวกนั้นยังหนุ่มยังสาวและพวกเขาก็เต็มเปี่ยมไปด้วยความรักจริงๆ

จากเหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้สำนักพิมพ์ โคดันชะ ได้ใช้พื้นที่ของสำนักงาน จัดเป็นงานศพจริงๆให้แฟนการ์ตูนได้มาไว้อาลัยซึ่งเป็นปรากฎการณ์ที่ฮือฮาอย่างมาก

 

 

 

สืบสานตำนาน 50ปี

Ashita No Joe  (14)

ปัจจุบันนี้การ์ตูนเรื่องโจ สิงห์สังเวียน มีอายุครบ 50ปี จนถึงทุกวันนี้ตำนานต่างๆยังถูกคาราวะผ่านการ์ตูนหลายเรื่องทั้งล้อเลียนบูชาครูไปจนถึงกล่าวถึง แล้วยังมีการสร้างการ์ตูนชกมวยที่ชื่อ Megalobox เมื่อปี 2018 ซึ่งเป็นการเฉลิมฉลองครบรอบ 50ปีของ การ์ตูนเรื่องโจ สิงห์สังเวียน อีกด้วย นอกจากนี้ยังเคยถูกสร้างเป็นภาพยนตร์ถึงสองครั้งเมื่อปี 1971 กับปี 2011และดัดแปลงเป็นละครเวทีมาแล้วเช่นกัน

 

 

ทั้งหมดนี้คือเรื่องราวของ โจ สิงห์สังเวียนที่นำมาฝากในวันนี้ หากขาดตกบกพร่องก็ขอ อภัย มา ณ ที่นี้ด้วย หรือถ้าใครจะเสริมก็ลองแชร์เข้ามาได้ครับ

 

 

@P.PETTY

 

 

 

 

ข้อมูลอ้างอิง

-         https://en.wikipedia.org/wiki/Ashita_no_Joe#Live-action_films

-         https://joe.fandom.com/

-         https://yesterdaysjoe.com/best-manga-1968/

-         https://www.mainstand.co.th/

-         https://pantip.com/topic/31140023