Geek’s Diary EP 22
06 พฤศจิกายน 2560 21:34 น.
Share on FacebookTweet about this on TwitterShare on Google+

สวัสดีค่า มาพบกับรายการ “กีคไดอารี่” กับ เมโย่ว กันอีกแล้วนะคะ  วันเมโย่วก็จะขอเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับภาพยนตร์ชื่อดังของทางมาร์เวลที่กำลังฉายอยู่ในตอนนี้เลย  นั่นก็คือ ทอร์ แร็คนาร็อค ศึกอวสานเทพเจ้านั่นเอง…

 

โดยเรื่องราวในภาคนี้เป็นภารกิจของ ทอร์ ในการหาเบาะแสของ อินฟินิตี้ สโตน ขณะเดียวกันก็ต้องรับมือกับการเกิด แร็คนาร็อค สงครามที่จะนำมาสู่การล่มสลายของ แอสการ์ดดินแดนของเหล่าเทพ  และผู้ที่อยู่เบื้องหลังก็คือ เฮล่า เทพีแห่งความตายนั่นเอง  และแน่นอนว่าใน ทอร์ แร็คนาร็อค ก็เต็มไปด้วยเรื่องราวน่ารู้ที่อยากให้เพื่อนๆ ได้ดูกัน  ส่วนจะมีเรื่องอะไรบ้างนั้น  มาดูกันเลยค่า!!  อ้อ… ในบทความอาจมีสปอยอยู่บ้าง  หากผิดพลาดอย่างไปต้องขออภัยด้วยนะคะ

 

 

 

 

เรื่องแรกก็คือ อาวุธธอร์หลังค้อนแตก?

 

ค้อนโยเนีย ที่ถือเป็นสุดยอดอาวุธเทพที่แข็งแกร่งที่สุดของเทพทอร์  ถูกทำลายได้อย่างง่ายดายโดยเฮล่า ศัตรูตัวฉกาจของภาคนี้  ซึ่งในความจริงแล้ว… ค้อนโยเนียตามท้องเรื่องเป็น “อาวุธที่ใช้ในการดึงพลังสายฟ้าของเทพทอร์” เท่านั้น  ซึ่งพลังสายฟ้าของทอร์จริงๆ แล้วสามารถ “ปลุกพลัง” ให้ตื่นขึ้นมาได้   ซึ่งในภายหลังทอร์สามารถใช้พลังแห่งสายฟ้าได้เองโดยไม่ต้องพึ่งพาอาวุธใดๆ อีกแล้ว…

 

 

นอกจากค้อนโยเนียแล้ว  ธอร์ยังมี จานบียอน อาวุธที่เป็นขวานที่มีพลังมากพอที่จะสามารถสังหารเทพเจ้าด้วยกันได้  และยังสามารถตัดเสื้อเกราะของฝ่าย เซเลสเทียล ได้ด้วย

 

 

 

 

เรื่องต่อมาคือ เฮล่า

 

ในหนังเรื่อง ธอร์ แร็คนาร็อค การมาของ เฮล่า (Hela) ได้ทำให้นครเทพเจ้าแอสการ์ดขึ้นคราวต้องล่มสลายลง  ซึ่งการมาของเธอตรงกับคำทำนาย แร็คนาร็อค อันกล่าวถึงสงครามสุดท้ายของเหล่าทวยเทพ  ซึ่งตามเนื้อหาของเวอร์ชั่นคอมมิกแล้ว… เฮล่าปรากฏตัวครั้งแรกในคอมมิกตอนที่มีชื่อว่า เจอนี่ อินทู มิสที่ (Journey into Mystery)เล่มที่ 102 ในปี 1964 โดย สแตนลี และ แจ็คเคอร์บี้ ผู้วาดได้นำเอา เฮล่า หรือ เฮล (Hel) บุตรีของโลกิในตำนานนอส  ที่มีรูปโฉมครึ่งหนึ่งเป็นมนุษย์และอีกครึ่งหนึ่งเป็นซากศพ   เธอถูกโอดินกักขังเอาไว้ในนครแห่งคนตายอย่าง นิฟเฮม (Niflheim) เพื่อยับยั้งการเกิดสงครามแร็คนาร็อค  มาดัดแปลงเป็นตัวร้ายสุดแกร่งที่ธอร์ต้องรับมือด้วย  ที่มีความสามารถในการเรียกคมดาบออกมาได้อย่างไม่จำกัด  และมีพลังที่ไม่ลดถอยหากเธออยู่ในแอสการ์ด

 

 

ส่วนในเวอร์ชั่นของภาพยนตร์นั้น… ได้ดัดแปลงให้เธอเป็น “ลูกสาวของโอดิน” ผู้มีศักดิ์เป็นพี่สาวของธอร์  ผู้ที่มีความทะเยอทะยานหวังจะยึดครองดวงดาวทุกๆ ดวง  จนถูกโอดินกักขังเอาไว้จนกว่าอายุไขของโอดินจะสิ้นสุดลง  

 

 

 

 

 

เรื่องต่อมาคือ เฟนรี อสูรกายปิศาจหมาป่า

 

หมาป่าสีดำขนาดใหญ่ที่ปรากฏในภาพยนตร์เรื่อง ธอร์ แร็คนาร็อค ซึ่งเจ้าหมาป่าตัวนี้คือ “เฟนรี”เป็นฝ่ายของเฮล่า  สัตว์คู่ใจของเธอ…   เฟนรีปรากฎตัวครั้งแรกในคอมมิกตอนที่มีชื่อว่า เจอนี่ อินทู มิสที่ เล่มที่ 114 ในปี 1965 ซึ่งเป็นสัตว์เทพเจ้าในนครแอสการ์ด  โดยมีเจ้านายคือ โลกิ  และยังมี เฮล่า, ยอมุนกาน เป็นพรรคพวกอีกด้วย

 

 

 

ในตำนานของนอร์ส เฟนรี หรือ คือลูกชายของโลกิ  และยังไปผู้สังหารโอดินในสงครามแร็คนาร็อคอีกด้วย

 

 

 

 

 

เรื่องต่อมาคือ ฮัค ในภาพยนตร์เรื่อง ธอร์ แร็คนาร็อค

 

 

ฉากไฮไลท์เด็ดอีกฉากหนึ่งที่ปรากฏในภาพยนตร์เรื่อง ธอร์ แร็คนาร็อค ก็คือ ฉากการต่อสู้ระหว่าง ธอร์ กับ ฮัค ในสังเวียนแบบกลาดิเอเตอร์  โดยฮัคที่ขึ้นยานหลงทางมายัง ดวงดาวซาคาห์ แล้วโดนจับมาเป็นนักสู้อย่างมึนๆ จนมาพบกับธอร์นั่นเอง

 

 

 

โดยฮัคที่ปรากฏตัวในภาพยนตร์ของธอร์ภาคนี้อ้างอิงมาจาก แพลนเน็ต ฮัค  ที่เป็นอนิเมชั่นของทาง ไลอ้อนเกด ในปี 2010 นั่นเอง

 

 

 

 

เรื่องต่อมาคือ ท็อค

 

 

ในฉากการแสดงละครที่สดุดีการสละชีวิตของ โลกิในภาคที่แล้ว มีการพูดถึงตอนที่เขาสาปให้ ธอร์กลายเป็นกบ  ซึ่งเป็นการอ้างอิงถึง ท็อคหรือ ซิมม่อน เวลเทอสัน (Simon Walterson)นักอเมริกันฟุตบอลตกอับที่ถูกหญิงลึกลับสาปให้กลายเป็นกบชื่อ เพดเดิ้ล กูป และได้เจอกับ ธอร์ที่ถูก โลกิสาปให้กลายเป็นกบและร่วมกันต่อสู้กับพวกหนู  เหตุการณ์เลยเถิดไปจน เพดเดิ้ล กูปดันไปยกเศษค้อน โยเนีย ที่หลุดออกมาแล้วได้พลังของ ธอร์มาด้วยซะอย่างนั้น จากนั้นเจ้ากบของเราก็ใช้ชื่อว่า ท็อค และยังตั้งทีม เดอะ เพด อเวนเจอร์  ทีมรวมเหล่าสัตว์ในมาร์เวลที่มีพลังพิเศษออกปกป้องโลกอีกด้วยนะ

 

 

 

 

 

เรื่องต่อมาคือ สแกรปเปอร์  หนึ่ง-สี่-สอง

 

 

ในภาพยนตร์เราจะเห็น แกรนมาสเตอร์เรียก วาคิรี่ที่ทำหน้าที่หาตัวนักสู้มามอบให้เขาว่า สแกรปเปอร์  หนึ่ง-สี่-สอง ซึ่งมันเป็นการอ้างถึงคอมมิค ดิ อินเคดิเบิ้ล ฮัค เล่มที่ 142 ผลงานของ รอยโทมัส ที่ถูกตีพิมพ์ในปี 1971 ซึ่งเป็นเล่มที่มีการปรากฏตัวครั้งแรกของ วาคีรี่ในจักรวาลมาร์เวลเลยนะ

 

 

 

เรื่องต่อมาคือ เนื้อเพลง อิมมิแกรนท์ ซอง (Immigrant Song)

 

เพลงประกอบที่ถูกเลือกมาประกอบภาพยนตร์ Thor: Ragnarok นั่นคือเพลง อิมมิแกรนท์ ซอง ผลงานของวงเลซ เซปเปอร์ลิ้น (Led Zeppelin)นั่นมีเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับตำนานเทพนอร์ส ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของตัวละครอย่าง ทอร์นั่นเอง โดยในเนื้อเพลงนั้นมีท่อนที่พูดถึง “Hammer of the gods” หรือค้อนของเทพเจ้าอยู่ด้วยและจะบังเอิญหรือตั้งใจก็ตามมันดันไปตรงกับชื่อคอมมิคของที่เล่าถึงช่วงเวลาของ Ragnarok ในชื่อ Hammer of the Gods พอดิบพอดีเลย

 

 

 

 

 

เรื่องต่อมาคือ เอรีส แมนติง  บิบีส และ เบต้า เรย์ บิล

 

 

 

ในฉากบนดาวซาคาร์เราจะเห็นหอคอยใหญ่ตรงกลางเมืองที่อยู่ของ เดอะ แกรนมาสเตอร์  ที่ประดับประดาด้วยรูปปั้นหน้าของเหล่าแชมป์เปี้ยนที่ชนะการต่อสู้ในอดีตที่นอกจากจะมี ฮัคแล้วยังมี

 

 

 

 

เอรีส เทพแห่งสงครามของมาร์เวล

แมนติง  อสูรแห่งหนองน้ำ

บิบีส วายร้ายจอมพลังที่ต่อกรกับ ฮัคได้อย่างสูสี

และ เบต้า เรย์ บิล ชาวดาวคอร์บินิท (Korbinite)ที่เคยต่อสู้กับ ทอร์จน โอดินยอมรับในฝีมือและมอบค้อนกับพลังแบบเดียวกับลูกชายให้

 

 

 

 

เรื่องต่อมาคือ Old King Thor

 

 

บทสรุปของการต่อสู้ใน Thor : Ragnarok ที่พระเอกของเราต้องสูญเสียดวงตาไปหนึ่งข้างแต่จากการทุ่มเทสุดตัวเพื่อปกป้องประชาชนแห่ง แอสการ์ดเขาก็ได้พิสูจน์ตัวเองแล้วว่าคู่ควรกับการขึ้นเป็นราชาแห่งเหล่าเทพสักที และจุดนี้เองมันดันไปตรงกับ Old King Thor ในคอมมิคซึ่งเขาคือ ทอร์ในอีกความเป็นไปได้ที่ขึ้นเป็นกษัตริย์และสูญเสียดวงตาไปเช่นกัน

 

 

 

 

 

 

และเรื่องสุดท้ายคือ ตอนจบของแร็คนาร็อคตามตำนานของนอร์ส

 

 

 

ธอร์ ในภาคนี้ถือเป็นภาคที่ 3 แล้วใช้ชื่อภาคว่า แร็คนาร็อค ซึ่งนั่นหมายถึงศึกสุดท้าย เมื่อเฮล่าผู้แสนชั่วร้ายได้หมายจะยึดครองดินแดนแห่งเทพเจ้าแอสการ์ดจนได้เข้าสู่ศึกการตัดสินเพื่อชี้ชะตาการอยู่รอด  โดยคำว่า แร็คนาร็อค ตามตำนานนอร์สได้กล่าวถึง “ชะตากรรมของเหล่าทวยเทพ” ที่สงครามใหญ่ระหว่างเหล่าทวยเทพแห่งแอสการ์ดและเหล่ายักษ์น้ำแข็ง  ซึ่งศึกครั้งนี้ได้ทำให้ทวยเทพระดับสูงอย่างเทพโอดิน, ธอร์, เทียร์, เฟรย์, เฮมดอล, และรวมไปถึง โลกิ ได้สิ้นชีพลงในสงคราม  สร้างความเสียหายไปถึงสามโลก

 

 

 

โดยที่มาดั้งเดิมของตำนาน แร็คนาร็อค ก็เป็น บทกวีเอ็ดดา ที่ได้มีการบันทึกเอาไว้เมื่อคริสต์ศตวรรษที่ 13 นั่นเองค่ะ

 

 

 

และนี่ก็เป็นเรื่องน่ารู้ในทอร์ แร็คนาร็อค ที่ได้นำมาฝากกัน บทความต้นฉบับเขียน มิสเตอร์ฟ็อก และ แอดมิน เซฟสายเปย์ จากเว็บไซต์เมทัลบริด  ข้อมูลต้นฉบับจาก inverse.com และ screencrush.com ให้เสียงบรรยายโดย เมโย่ว เองค่ะ

 

 แล้วมาพบกับเรื่องราวเจาะลึกแบบ กีค กีค กันได้ใหม่ในรายการ กีคไดอารี ในคลิปหน้า สำหรับวันนี้ เมโย่ว ต้องขอลาไปก่อนนะคะ แล้วเจอกันใหม่  สวัสดีค่ะ  บ๊ายบาย…