ชื่อภาษาอังกฤษ : Doraemon: Nobita and the Space Heroes
ชื่อภาษาญี่ปุ่น : ドラえもん のび太の宇宙英雄記(スペースヒーローズ)
ชื่อภาษาไทย : โดราเอมอน ตอน โนบิตะผู้กล้าแห่งอวกาศ
ประเภท : ภาพยนตร์อนิเมชั่น
แนว : ผจญภัย
ผู้กำกับ : โยชิฮิโระ โอซุกิ
ผู้แต่ง : ฟูจิโกะ เอฟ. ฟูจิโอะ
ความยาว : 100 นาที
ฉาย : 22 ตุลาคม 2015
ได้ฤกษ์ฉายในไทยอย่างเป็นทางการไปอีกเรื่องแล้ว สำหรับภาพยนตร์อนิเมชั่นในชุดฉลองครบรอบ 35 ปีของโดราเอมอนฉบับภาพยนตร์ และครบรอบ 10 ปีในฉบับการ์ตูนทีวี เมื่อตอนต้นปีที่ผ่านมา หลังจากฉายที่ญี่ปุ่นมาแล้วตั้งแต่ วันที่ 7 มีนาคม 2015 ไป และพี่ไทยเราก็หลุดฉบับแปลมาแล้วอย่างเกลื่อนกลาด ซึ่งดีกรีความน่าดูก็ไม่ใช่เล่น เพราะแค่สัปดาห์แรกที่ออกฉายก็ขึ้น Box office อันดับหนึ่ง ทำลายสถิติของเรื่อง บิ๊กฮีโร่ 6 ในญี่ปุ่นไปเป็นที่เรียบร้อย อีกทั้งในภาคนี้ยังได้นักร้องสาวน่ารักเสียงดีอย่าง miwa ที่เคยฝากผลงานการร้องเพลงประกอบการ์ตูน silver spoon มาขับร้องเพลง “360°” ซึ่งเป็นเพลงประกอบในโดราเอม่อนเดอะมูฟวี่ภาคนี้ด้วย
เรื่องย่อ
เรื่องราวการผจญภัยแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัวของ โนบิตะ และผองเพื่อน กับ หุ่นยนต์แมวสีฟ้าเพื่อนคู่ใจ โดราเอมอน ที่มาพร้อมของวิเศษมากมายเต็มกระเป๋า ซึ่งจุดเริ่มต้นของการผจญภัยครั้งนี้เริ่มต้นจากการเล่นถ่ายภาพยนตร์แบบลับๆ ของ ซึเนโอะ, ไจแอนท์ และ ชิซุกะ โดยที่ไม่คิดจะชวนโนบิตะของเราเอาซะเล้ย!! งานนี้ถึงที… โดราเอมอนออกโรงและงัดหุ่นยนต์ “ผู้กำกับเบอร์เกอร์” ให้ทุกคนได้สัมผัสถึงบรรยากาศการถ่ายทำภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์แบบสมจริง!!

ระหว่างนั้นเอง เรื่องเหนือความคาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อ อารอน เด็กหนุ่มต่างดาวปรากฏตัวขึ้นและร้องขอความช่วยเหลือระหว่างถ่ายทำ จนทำให้ทุกคนเข้าใจผิด หลงคิดว่าเป็นส่วนหนึ่งของการแสดง จนทำให้ทุกคนจับพลัดจับผลูสวมบทฮีโร่ผู้อาสากอบกู้ดวงดาว พ็อคคุรุ ไกลพ้น ที่อยู่สุดขอบช้างเผือกให้รอดพ้นจากการยึดครองของสลัดอวกาศอันชั่วร้าย

และเมื่อความจริงที่ว่า… สถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นทั้งหมด ล้วนแต่เป็นเรื่องจริง อีกทั้งชะตากรรมของประชากรในดวงดาวพ็อคคุรุก็ขึ้นอยู่กับการกระทำของผู้มาเยือนใหม่ทั้ง 6 ชีวิต (รวม “ผู้กำกับเบอร์เกอร์” ด้วย) นี่จึงถึงเวลาแล้วที่พวกเขาจะต้องร่วมมือกันและใช้พลังพิเศษของแต่ละคนจัดการเหล่าวายร้าย ไม่ว่าจะเป็นจาก “พลังหมัดเหล็ก” ของโดราเอมอน , “พลังมือพันด้าย” ของโนบิตะ, “พลังน้ำ” ของชิซุกะ, “พละพลังเหนือธรรมชาติ” ของไจแอนท์ และ “พลังแขนสว่านทะลวงสวรรค์” ของซึเนโอะ

ตอนจบของการผจญภัยนี้จะเป็นอย่างไร? ติดตามกันได้ในโรงภาพยนตร์ 22 ตุลาคม 2015 นี้.
เพลงประกอบ
ตัวอย่างภาพยนตร์
ขอขอบคุณที่มา : majorcineplex.com
By : Admin@no (แอดมินโนเอง)
-
รางวัลสุดยอดเกมแห่งปี Game Awardsเปิดโผผู้เข้าชิง The Game Awards ทุกสาขาอย่างเป็นทางการ
-
Resident Evil 9 : Requiem [Preview / สั่งซื้อแผ่นเกม / ราคา / วันวางขาย]27 กุมภาพันธ์ 2026
-
BEYBLADE X : ผู้ใหญ่ vs เด็ก Mindset ที่ดี… “ใส่เต็มที่ มีประโยชน์ในด้านพัฒนาการเด็ก”เชื่อว่าตามงานแข่ง BEYBLADE X มีหลายครั้งที่เห็น ผู้ใหญ่ลงสนาม แล้วต้องไปเจอกับคู่ต่อสู้เป็นน้องๆเด็กๆ คงมี หลายคนคงแอบมีเสียงในหัวดังขึ้นมาแบบอัตโนมัติว่า “ถ้าชนะ เดี๋ยวก็โดนว่าเก่งแต่กับเด็ก… แต่ถ้าแพ้ก็จะถูกมองว่ากระจอกซะงั้น” ซึ่งเป็น Mindset แบบเดิมที่หลายคนยังติดอยู่ และจริงๆ มันค่อนข้าง “ผิดฝั่ง” กับความจริงของสนามเบย์เบลดพอสมควร การแข่งขันเบย์เบลด แม้จะถูกมองว่าเป็นกิจกรรมสำหรับเด็ก แต่ในความเป็นจริงแล้วเป็นพื้นที่เรียนรู้ทางสังคมที่เปิดโอกาสให้ผู้เล่นทุกวัยสามารถมีส่วนร่วมภายใต้กติกาเดียวกัน อุปกรณ์ใกล้เคียงกัน และโครงสร้างการแข่งขันที่บางรายการไม่มีการแบ่งแยกอายุ ซึ่งมันก็ส่งผลให้เกิดคำถามสำคัญในบริบทแบบไทยๆเราว่า “ผู้ใหญ่เนี่ย ควรแข่งขันเต็มที่กับเด็กขนาดนั้นเลยหรือเปล่า?” แม้แต่ตัวแอดมินผู้เขียนเอง ก็เคยมีความคิดนี้ในหัวครับ จนกระทั่งได้ตกตะกอนหลายๆอย่าง และนั่งพิจารณาตามความเป็นจริงที่ประสบพบเจอ จนออกมาเป็นบทความที่จะพามา ปรับทัศนคติ และเพิ่มมุมมองของ พฤติกรรมของผู้ใหญ่ เด็ก และผู้ปกครองในบริบทของการแข่งขัน BEYBLADE X ซึ่งทางแอดมิน อยากจะเสนอไอเดียที่ว่า “การแข่งขันแบบ ไม่ออมมือกับเด็กๆ” เป็นแนวปฏิบัติที่เหมาะสมกว่า และเป็นประโยชน์ต่อพัฒนาการเด็กในหลายมิติครับ 1. เลิกได้เลิกนะ…ไอ้วัฒนธรรมความคิดในสังคมไทย: “ชนะเด็ก รังแกเด็ก ไม่สมเป็นผู้ใหญ่เอาซะเลย!” ทัศนคติที่พบได้ทั่วไปในสังคมไทย […]





























