แม้ว่าเราจะได้ยินข่าวลืเกี่ยวกับการรีเมค Resident Evil 4 มาอย่างมากมาย แต่ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะมีมูลใดๆจากทาง Capcom เพิ่มเติม แต่ล่าสุด ก็มีการยืนยันออกมาจากทาง คุณคิโยฮิโกะ ซาคาตะ ผู้กำกับ Resident Evil 3 Remake เกี่ยวกับความเชื่อมโยงของ ภาค 3 และ 4 ผ่านความสามารถของ NEMESIS

เราต้องย้อนกลับไปในสมัยที่ RE3 จาก PS1 และ RE4 จาก PS2 เดิม ชินจิ มิคามิ ผู้ให้กำเนิดซีรี่ส์นี้ พยายามอย่างมากที่จะผลักดันให้แฟรนไชส์นี้ไปสู่มิติการเล่นแบบใหม่ๆ จึงได้ยกเครื่องเกมเพลย์ จากมุมมองกล้องวงจรปิดแบบไตรภาคแรก มาเป็นมุมมองบุคคลที่ 3 ผ่านไหล่ซูมยิง พร้อม QTE กดตามจังหวะสำคัญ
และไฮไลท์คือการต่อสู้กับเหล่า ปรสิต Las Plagas ที่จัดให้เป็นเป็นภัยคุกคามหลักของเกมดังกล่าวตามเนื้อหาแล้ว เป็นสิ่งที่ไม่มีความสัมพันธ์กับบริษัทอัมเบรลล่า หรือแม้แต่วิศวกรรมชีวภาพใดๆเลย ตามเนื้อหาดั้งเดิมนั้น Las Plagas เป็นปรสิตยุคก่อนประวัติศาสตร์ ที่ถูกค้นพบในเขตชนบทของสเปน และถูกนักวิจัยชีววิทยา Osmand Saddler มาวิจัยต่อ และเสริมให้มันมีความสามารถในการเป็นอาวุธชีวภาพได้
แต่เมื่อไม่กี่วันมานี้ มีการเปิดเผยบทสัมภาษณ์ตอนหนึ่งของคุณ คิโยฮิโกะ ซาคาตะ ผู้กำกับ Resident Evil 3 Remake ผ่านทาง https://blog.us.playstation.com/ ก็ได้มีการออกมายอมรับว่า “การให้ NEMESIS สามารถสร้างปรสิต” ได้นั้น เพื่อต้องการเชื่อมโยงกับเนื้อหาในภาค 4 นั่นเอง

“โครงการ NEMESIS คือการสร้าง “ปรสิต Plagas เทียม” ซึ่งให้กำเนิดปรสิตที่เรียกว่า NE-α โดยทาง Umbrella Corporations มีฐานการวิจัยงานที่แยกจากกัน ทางฝั่งยุโรป ได้รับผิดชอบในการพัฒนา NEMESIS ส่วนอเมริการับผิดชอบเรื่องการสร้าง T-virus โดยตัวของ NEMESIS ที่มาจากยุโรปนั้น มีความสามารถในการปลูกถ่ายNE-α ปรสิตสายพันธ์ุเทียมที่เพิ่งเริ่มพัฒนา (ในภาค 4 ตัว Ganado เป็นปรสิตพื้นเมืองที่มาต่อยอด) ไอเดียก็คือการหาโฮสต์ร่างต้น ที่เหมาะสมที่อาจมี NE-α ซึ่งจะเปลี่ยนสภาพร่างกาย และเปลี่ยนโฮสต์เป็นอาวุธชีวภาพได้ “
ก็นับว่าเป็นการเชื่อมโยง พากลับเข้าฝั่งที่พอรับได้อยู่บ้าง
ส่วนข่าวคราวภาคใหม่ๆนั้น ก็มีกระแสว่าภาค 4 ไม่ก็ Veronica ที่จะเข้าคิวในการทำรีเมคต่อไป
อยู่ที่ CAPCOM แล้วว่าจะเปิดหัวเรื่องไหนก่อน
ระหว่างภาคเก่ารีเมค กับภาคใหม่ไทม์ไลน์หลัก…
โปรดติดตามตอนต่อไป
แอดมิน AK47
ที่มา
https://blog.us.playstation.com
ไวรัสชนิดต่างๆในเกม Resident Evil
10 พฤติกรรมยอดฮิตในหนังไวรัส/ซอมบี้ถล่ม
หล่อทะลุทีไวรัส 3 ตัวละครชายใน Resident Evil: The Final Chapter

-
รางวัลสุดยอดเกมแห่งปี Game Awardsเปิดโผผู้เข้าชิง The Game Awards ทุกสาขาอย่างเป็นทางการ
-
Resident Evil 9 : Requiem [Preview / สั่งซื้อแผ่นเกม / ราคา / วันวางขาย]27 กุมภาพันธ์ 2026
-
BEYBLADE X : ผู้ใหญ่ vs เด็ก Mindset ที่ดี… “ใส่เต็มที่ มีประโยชน์ในด้านพัฒนาการเด็ก”เชื่อว่าตามงานแข่ง BEYBLADE X มีหลายครั้งที่เห็น ผู้ใหญ่ลงสนาม แล้วต้องไปเจอกับคู่ต่อสู้เป็นน้องๆเด็กๆ คงมี หลายคนคงแอบมีเสียงในหัวดังขึ้นมาแบบอัตโนมัติว่า “ถ้าชนะ เดี๋ยวก็โดนว่าเก่งแต่กับเด็ก… แต่ถ้าแพ้ก็จะถูกมองว่ากระจอกซะงั้น” ซึ่งเป็น Mindset แบบเดิมที่หลายคนยังติดอยู่ และจริงๆ มันค่อนข้าง “ผิดฝั่ง” กับความจริงของสนามเบย์เบลดพอสมควร การแข่งขันเบย์เบลด แม้จะถูกมองว่าเป็นกิจกรรมสำหรับเด็ก แต่ในความเป็นจริงแล้วเป็นพื้นที่เรียนรู้ทางสังคมที่เปิดโอกาสให้ผู้เล่นทุกวัยสามารถมีส่วนร่วมภายใต้กติกาเดียวกัน อุปกรณ์ใกล้เคียงกัน และโครงสร้างการแข่งขันที่บางรายการไม่มีการแบ่งแยกอายุ ซึ่งมันก็ส่งผลให้เกิดคำถามสำคัญในบริบทแบบไทยๆเราว่า “ผู้ใหญ่เนี่ย ควรแข่งขันเต็มที่กับเด็กขนาดนั้นเลยหรือเปล่า?” แม้แต่ตัวแอดมินผู้เขียนเอง ก็เคยมีความคิดนี้ในหัวครับ จนกระทั่งได้ตกตะกอนหลายๆอย่าง และนั่งพิจารณาตามความเป็นจริงที่ประสบพบเจอ จนออกมาเป็นบทความที่จะพามา ปรับทัศนคติ และเพิ่มมุมมองของ พฤติกรรมของผู้ใหญ่ เด็ก และผู้ปกครองในบริบทของการแข่งขัน BEYBLADE X ซึ่งทางแอดมิน อยากจะเสนอไอเดียที่ว่า “การแข่งขันแบบ ไม่ออมมือกับเด็กๆ” เป็นแนวปฏิบัติที่เหมาะสมกว่า และเป็นประโยชน์ต่อพัฒนาการเด็กในหลายมิติครับ 1. เลิกได้เลิกนะ…ไอ้วัฒนธรรมความคิดในสังคมไทย: “ชนะเด็ก รังแกเด็ก ไม่สมเป็นผู้ใหญ่เอาซะเลย!” ทัศนคติที่พบได้ทั่วไปในสังคมไทย […]


































