ไมท์ไกน์ หุ่นสายฟ้าประจัญบาน [เรื่องย่อ / ตัวละคร / ของเล่น]
07 มิถุนายน 2559 17:54 น.
Share on FacebookTweet about this on TwitterShare on Google+

Might Gine (2)

ชื่อญี่ปุ่น : 勇者特急マイトガイン (ยูฉะ ทคคิว ไมต์ไกน์)
ชื่อไทย : “ไมท์ไกน์ หุ่นสายฟ้าประจัญบาน
ชื่ออังกฤษ : The Brave Express Might Gaine
ประเภท : แอคชั่น,โรบ็อต ไซไฟ
จำนวน : 47ตอน
ผลิตโดย : บ.Sunrise
ฉายครั้งแรก : 30 มกราคม 1993 – 22 มกราคม 1994
ฉายครั้งแรกในไทย : ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 สี ในชื่อว่า “ไมท์ไกน์ หุ่นสายฟ้าประจัญบาน” โดยออกอากาศช่วงเช้าวันพุธ – ศุกร์ ในปี 2544 และกลับมาฉายซ้ำในปี 2545

 

บทความเก่า

Transformers [Encyclopedia]

Transformers [Autobots Character]

Transformers [Decepticon Character]

 

 

yuusha (7)

หลังจากที่ประสปความสำเร็จจากซีรี่ยส์ผู้กล้าอย่างล้นหลามของการร่วมมือกันของ บ.ซันไรซ์ และทาง Takara ที่ต้องการอนิเมชั่นส่งเสริมการขายของเล่น อย่างที่เคยแนะนำไปในบทความ “ตำนานผู้กล้า” ไปแล้ว คราวนี้ก็มาถึงคิวของ “ผู้กล้าลำดับที่ 4 “ กันบ้าง กับ “ไมท์ไกน์ หุ่นสายฟ้าประจัญบาน “

 

Might Gine (1)

“ไมท์ไกน์ หุ่นสายฟ้าประจัญบาน” หรือ 勇者特急マイトガイン (ยูฉะ ทคคิว ไมต์ไกน์) เป็นการ์ตูนหุ่นยนต์ผู้กล้า ที่ผลิตโดยบ.ซันไรซ์ และ Takara เจ้าของลิขสิทธิ์ Transformers ที่ได้พยายามฉีกแนวจากรถยนต์ในบ้านมาประกอบเป็นหุ่นยนต์ยักษ์ มาเป็น “รถไฟ” ยานพาหนะยอดนิยมของประเทศญี่ปุ่น มาดัดแปลงใส่Themeเรื่องสไตล์ “ฮีโร่บ้านรวย” หรือ เศรษฐีผู้รักความยุติธรรมตามสไตล์อเมริกันฮีโร่ และเรื่องนี้ ยังเป็นเรื่องแรก ที่เหล่าผู้กล้าในเรื่องไม่ได้มาจากต่างดาว แต่เป็นผลงานทางวิทยาศาสตร์ที่มนุษย์สร้างขึ้นทั้งหมด และเรื่องนี้ยังสะท้อนถึง “โลกที่พลังงานไฟฟ้าเป็นสิ่งมีค่า” อีกด้วย

 

 

โดยซีรี่ยส์เรื่องนี้ ออกอากาศครั้งแรกที่ญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 30 มกราคม 1993 – 22 มกราคม 1994

และออกอากาศในประเทศไทยช่วงเช้าวันพุธ – ศุกร์ ช่วงปี 2544 และหยุดออกอากาศชั่วคราวในช่วงเดือนกันยายน (เพราะเหตุการณ์ 911) และได้กลับมาฉายต่อในช่วงเช้าวันอาทิตย์ เวลา 6.30 แทน

—-

 

เรื่องย่อ

Might Gine (22)

เมืองนีโอโตเกียว เป็นเมืองที่พลุกพล่านด้วยผู้คน และชีวิตชีวา แต่ทว่าในความสุขและรอยยิ้มนั้น ก็ได้มีเงาร้ายของอาชญกรได้คุกคามเมืองอันเต็มไปด้วยสีสันนี้ “เซมปูจิ ไมโตะ” เด็กหนุ่มผู้พัดพาสายลมแห่งความยุติธรรมสู่นีโอโตเกียว ด้วยพลังของเหล่า AI ที่พัฒนาโดย “กลุ่มบริษัทเซมปูจิกรุ๊ป” บริษัทเดินรถที่ไมโตะนั่งแท่นเป็นประธานบริหารเต็มตัว และมีสิทธิ์ขาดในบริษัทแต่เพียงผู้เดียว ได้เห็นถึงความสำคัญของภัยอาชญกรรม ที่ตำรวจไม่มีประสิทธิภาพพอที่จะจัดการได้นั่นเอง

 

 Might Gine (10)

ไมโตะ ต้องรับมือกับวายร้ายในเรื่องมากมายหลายกลุ่ม ทั้วนักวิทยาศาสตร์สติแตก โจรปล้นพลังงาน จอมโจรสาวสุดเซ็กซี่ มาเฟียจากจีน ฯลฯ

 

Might Gine (31)

และสุดยอดนักล่าค่าหัว “ไรวัล.เอซ.โจ” ที่ได้รับงานจากกลุ่มวายร้าย ลงขันกันจ้างให้มากำจัดไมโตะ แต่ก็พ่ายแพ้ไป ซึ่งต่อมา เอซ โจ คนนี้ ก็คือคนที่สามารถทำลายไมต์ไกน์จนยับเยิน ด้วยหุ่นรบทรงพลัง “ฮิริว” แต่หุ่นของเขาก็พังตามไปด้วยฝีมือของไมโตะ ที่บังคับ “ไมท์ไคเซอร์” ที่ไม่พึ่งระบบ AI เลยในการต่อสู้ครั้งนั้น และเอซ โจ ก็หายตัวไป…

 

Might Gine (25)

ต่อมา เมื่อเอซ โจ ได้เข้าต่อสู้เพื่อตามหา “ดร.ชิชิโดะ” พ่อของเขา แต่ก็มาได้รู้ความจริงว่า “เอ็กซ์เซฟ” นายจ้างคนปัจจุบันของเขาเป็นคนสังหารพ่อของเขา ทำให้เอซ โจ กลับมาช่วยไมโตะ และเข้าสละชีพของตนเพื่อจัดการกับเอ็กซ์เซฟด้วยการพุ่งชนเข้าที่ห้องบังคับ

 

Might Gine (26)

“เอ็กซ์เซฟ” วายร้ายของเรื่องตายท่าเดียวกับซีร๊อคโค่ ใน Z Gundam เลย

 

 

Might Gine (28)

ไมโตะไม่ยอมให้การเสียสละของเอซ โจ สูญเปล่าแน่นอน เพราะเขาต้องไปต่อสู้กับวายร้ายตัวจริง ที่บงการเอ็กเซฟ และมีเป้าหมายในการครองโลก ด้วยพลังงานด้านมืดของ “แบล็คนัวร์” ปิศาจร้ายจากอีกมิติหนึ่ง อยู่ในรูปแบบของพลังงานสีดำ ที่มีใบหน้าเป็นมนุษย์ และเมื่อหลายปีก่อน มันได้รู้ถึงแผนการสร้างหุ่นยนต์ระบบ AI ของ “เซมปูจิ อาซาชิ” พ่อของไมโตะ จึงได้ส่งคนไปทำการลอบสังหาร

 

Might Gine (27)

ไมโตะเริ่มมีอาการย่ำแย่ หลังจากที่ได้พบกับพลังที่แข็งแกร่งของแบล็คนัวร์ แต่ด้วยพลังจิตอันบริสุทธิ์ “อินโนเซ้นส์ เวฟ” ของ “โยชินากะ แซลลี่” นางเอกของเรื่อง ที่เป็นพลังงานด้านตรงข้ามกับแบล็คนัวร์ และเป็นการกลบพลังด้านมืด 

 

 

Might Gine (30)

ไมโตะ รอดกลับมาหาคนที่รักเขา และยังช่วยปกป้องเมืองอันเป็นบ้านเกิดของเขาได้ด้วย…

 

Might Gine (29)

แม้จะไร้ซึ่งวายร้ายตัวจริงอย่างแบล็คนัวร์ที่ถูกกำจัดไป เมืองนีโอโตเกียว ก็ยังคงดำเนินไปในแบบที่ควรเป็น ความสงบ สีสัน มีชีวิต และอาชญากรรม ก็ไม่ได้หนีหายไปไหน ไมโตะก็ยังคงทำหน้าที่พิทักษ์เมืองต่อไปร่วมกับเพื่อนๆ และ”แซลลี่”คนที่เขารักต่อไป…

 

—-

 

ตัวละคร

 

Might Gine (14)

เซมปูจิ ไมโตะ
เด็กหนุ่มอายุ 15 ที่ต้องรับภาระในการบริหาร”กลุ่มบริษัทเซมปูจิกรุ๊ป” เป็นเศรษฐีจอมอัจฉริยะ ที่พ่วงตำแหน่งหัวหน้าหน่วย Brave Express team หลังจากที่พ่อแม่ของเขาประสปอุบัติเหตุ (ฝีมือของแบล็คนัว)โดยหลัก เขาจะขึ้นบังคับ ไมท์วิง และ ไมท์ไคเซอร์ โดยจะออกคำสั่งเหล่าผู้กล้าผ่านทางอุปกรณ์ติดข้อมือ ในการประกอบร่าง

 

Let’s Might Gaine!!

Might Gine (3)Might Gine (17)

หลังจากจบศึกกับแบล็คนัวร์ เขาก็ได้แต่งงานกับ “โยชินากะ แซลลี่” สาวน้อยผู้อดทนสู้ชีวิต ที่ทำให้ไมโตะประทับใจตั้งแต่แรกพบ อีกทั้งยังเป็นผู้ที่ช่วยให้ไมโตะเอาชนะแบล็คนัวร์ได้ด้วย

 

 

 

 

 Might Gine (15)

โยชินากะ แซลลี่
สาวน้อยสู้ชีวิต ที่ถูกบรรดาแฟนๆซีรี่ยส์ผู้กล้าจัดอันดับว่า “น่ารักที่สุดเท่าที่เคยมีมา” แซลลี่เป็นเด็กขยัน ทำงานหนักรับจ้างสารพัดหลังเลิกเรียน เพื่อนำมารักษาพ่อ เลี้ยงน้องชาย ค่าเช่าบ้าน และค่าพลังงานต่างๆที่ใช้ในแต่ละวัน

 

Might Gine (23)

เธอพบกับไมโตะครั้งแรกในโรงงานที่เธอทำงานพิเศษ แต่ดันถูกพวกของ”โวลฟ์กัง” นักวิทยาศาสตร์สติหลุดเข้าโจมตี และหลังจากนั้น เธอกับไมโตะก็เจอกันบ่อยขึ้น (ส่วนใหญ่จะเป็นที่ๆเธอทำงานพิเศษ แล้วดันไปอยู่กลางวงหุ่นยักษ์ตีกันมากกว่าการเจอกันแบบปกติ)

 

แซลลี่เป็นคนที่มีพลังจิตระดับสูง ที่เรียกว่า Innocense Wave มีอำนาจสลายพลังงานด้านมืดที่ปล่อยมาจากมิติอื่นได้ ส่งผลให้หุ่นยนต์ปีศาจที่ไมโตะสู้ด้วยนั้น อ่อนแรงลงอย่างไม่น่าเชื่อ

 

Might Gine (36)

มัตสึบาระ อิสึมิ
เลขาส่วนตัวของไมโตะ เป้นคนที่มีเสน่ห์แบบแปลกๆ รักและเอ็นดูไมโตะเหมือนน้องชายคนนึง วันๆของอิสึมิ จะวนเวียนอยู่กับการเตรียมเอกสารสารพัดที่ไมโตะต้องเซ็นอนุมัติ และในยามคับขัน เธอก็มีความแกร่งพอที่จะเข้าไปช่วยเหลือไมโตะได้

 

Might Gine (37)

เคนอิจิโร่ อาโอกิ
พ่อบ้านจอมแทงกั๊ก พูดจา วกวน ชวนงงๆมึนๆไปบ้าง แต่ก็ทำหน้าที่ดูแลไมโตะเหลือนลูกชายคนนึง และบรรดาพนักงานในกลุ่มบริษัทเซมปูจิ มักจะให้ความเคารพในฐานะคนเก่าแก่ตั้งแต่สมัยล้มลุกคลุกคลานกับพ่อของไมโตะ

 

Might Gine (32)

ไรวัล “เอซ” โจ
นักล่ารางวัลระดับเทพ ที่มีความสามารถรอบด้าน เป็นนักบินของหุ่น “ฮิริว” จาก “โวลฟ์กัง” เป็นคนที่มอบความปราชัยครั้งแรกให้กับไมต์ไกน์ แต่ก็มาแพ้ฝีมือการขับหุ่น “ไมต์ไคเซอร์” หุ่นรบตัวใหม่ของไมโตะที่ไม่พึ่งพาระบบ AI เลย

 

เพื่อแก้มือกับไมโตะ งานนี้โวลฟ์กังจึงได้มอบหุ่นยนต์ตัวที่สอง “โกริว” ที่มีปีระสิทธิภาพด้านการบินที่เหนือกว่าหุ่นทุกตัวบนโลก จัดเป็นคู่ปรับที่ตึงมือมากๆของไมโตะ ในภายหลังก็เป็นมิตรสหายที่ดีของไมโตะ และระเบิดตัวเองไปพร้อมๆกับ “เอ็กซ์เซฟ” วายร้ายที่สังหารพ่อของเขา และเป็นศัตรูของไมโตะ เพื่อเปิดทางให้ไมโตะไปสู้กับแบล็คนัวร์

 

สุดท้าย ในงานแต่งงานของไมโตะ กับแซลลี่ เอซ โจ ก็มายืนส่งทั้งคู่อย่างเงียบๆ เพื่อบอกกับทั้งสองคนว่า เขายังไม่ตาย และรอวันที่จะดวลกับไมโตะอีกครั้ง เพื่อแก้มือในฐานะมิตร และคู่แข่งตลอดกาลของเขา…

 

Might Gine (33)

โวลฟ์กัง
นักวิทยาศาสต์สติแตกที่ต้องการพลังงานไปใช้ในงานวิจัยของตัวเอง ในอดีตมีลูกน้องเต็มห้องวิจัย แต่เมื่อผลงานของเขาเริ่มออกทะเล และแพ้ไมต์ไกน์บ่อยขึ้น ลูกน้องก็ทยอยลาออกทีละคน จนกระทั่งตัวเองถังแตก และออกไปทำงานในโรงงานซ่อมหัวรถจักรของเซมปูจิกรุ๊ป จนกลับมามีไฟอีกครั้ง

 

ในตอนสุดท้าย โวลฟ์กังได้เล่าเรื่องของเอ็กซ์เซฟที่ฆ่าพ่อของโจให้ฟัง จนโจรู้เรื่องราวต่างๆ และนำไปสู่การต่อสู้แบบพลีชีพของโจกับเอ็กซ์เซฟในภายหลัง และยังเป็นผู้คิดค้นระบบ “เครื่องกระตุ้นกระแสจิต” ให้แซลลี่ด้วย หลังจบศึกกับแบล็คนัวร์ โวลฟ์กังกลับตัวเป็นคนดี และรับลูกน้องมาทำงานวิจัยต่อไป…

 

ผลงานระดับเทพของโวล์ฟกัง ก็คือ “ฮิริว” และ “โกริว” หุ่นที่มีสเกลพลังใกล้เคียงกับไมต์ไกน์นั่นเอง…

 

Might Gine  (34)

โชกุน มิฟุเนะ

ชาวอเมริกันที่คลั่งในวัฒนธรรมญี่ปุ่นมากๆ จนถึงขั้นเปิดสวนสนุก “เอโดะแลนด์” เพือบังหน้าแผนการล้มล้างรัฐบาลญี่ปุ่น แล้วเปลี่ยนสังคมญี่ปุ่นให้เป็นยุคซามูไรอีกครั้ง ด้วยการสร้างความหวาดกลัวแก่ผู้คนด้วยหุ่นยนต์ยักษ์

 

แต่แผนการก็ถูกขัดขวางโดยไมต์ไกน์หลายต่อหลายครั้ง และก็พลาดท่าถูกตำรวจจับเข้าคุก และก็แหกคุกออกมาในตอนอวสานของเรื่อง ปัจจุบันยังจับตัวไม่ได้เลย…

 

แคทรีน วิคตองส์
จอมโจรสาวสุดเซ็กซี่จากฝรั่งเศส ที่ชื่นชอบการขโมยอัญมณี แต่หลังจากแพ้ไมโตะบ่อยครั้ง ก็เลิกเป็นโจร มาทำงานสุจริตแทน

 

 

Might Gine (6)

ฮุย เกาลู
มาเฟียจีน ที่มีนิสัยเจ้าเล่ห์ ทำทุกอย่างเพื่อการยึดญี่ปุ่นให้เป็นของคนจีน วีรกรรมที่เจ๋งของอาเหล่าแป๊ะคนนี้ ก็คือการสร้างหุ่นยนต์ AI ก๊อปปี้ไมต์ไกน์ที่มีชื่อว่า “แบล็คไกน์” แต่ด้วยระบบเสียหายหรืออะไรก็ไม่ทราบได้ ทำให้ระบบวงจรของแบล็คไกน์ไม่มีความปราถนาที่จะทำลายเมืองตามคำสั่งของเกาลู และกลายเป็นพวกของไมต์ไกน์ และด้วยความเจ้าเล่ห์ของอาแป๊ะเกาลู จึงได้สร้างไวรัส AI ทำให้แบล็กไกน์อาละวาด และถูกทำลายลงในที่สุด ซึ่งเป็นเรื่องที่ไมโตะเจ็บแค้นที่ทำกับหนึ่งในมิตรสหายของเขาแบบนั้น…

 

Might Gine (35)

ต่อมาอาแป๊ะเกาลู ที่เริ่มหมดหวังกับชีวิต เพราะแพ้ไมต์ไกน์บ่อยขึ้น จึงได้กลับไปยึดอาชีพ “ขายก๋วยเตี๋ยว”เหมือนเดิม โดยมีแซลลี่มาทำงานพิเศษให้ แถมไมโตะที่จำอาแปะไม่ได้ก็เป็นลูกค้าประจำซะอย่างนั้น ทำให้เกาลูหันมาประกอบอาชีพสุจริต ละเลิกเป็นมาเฟียไปตลอดกาล…

 

 

 Might Gine (38)

เพอร์เพิล
นักร้องเพลงร๊อค มือขวาขององค์กรก่อการร้ายของ “เอ็กซ์เซฟ” ด้วยเทคนิคการโซโล่กีต้าร์ไฟฟ้า ก็ได้ไปปั่นป่วนระบบ AI ของพวกผู้กล้าได้มาก เป็นคนที่ไร้ฝีมือการขับหุ่น แต่เก่งเรื่องวางแผน สุดท้ายโดนไมโตะใช้ปืนใหญ่”เพอร์เฟ็คท์แคนน่อน” ของเกรทไมต์ไกน์ เพอร์เฟคท์โหมด ยิงใส่ตายอนาถ

 

Might Gine (24)

เอ็กซ์เซฟ
เจ้าของบริษัท TR ที่เป็นบริษัททำหุ่นยนต์เพื่อใช้ในการสงคราม เป็นคู่แข่งกับกลุ่มบริษัทเซมปูจิกรุ๊ป โดยเอ็กซ์เซฟ เป็นนายจ้างเอซ โจ และโวลฟ์กัง อีกทั้งยังเป็นมาเฟียที่ฆ่าพ่อของโจด้วย เมื่อได้รู้ความจริง โจจึงตัดสินใจขับโกริวร่างยานบินพุ่งเข้าชนห้องบังคับ ตายอนาถอีกราย!

 

Might Gine (39)

แบล็คนัวร์
จอมปีสาจจากมิติด้านหลัง มันมาในรูปแบบของพลังงานด้านมืด ที่คอยบงการบริษัท TR อีกที มีความสามารถในการซ่อมแซมหุ่นยนต์ที่พังลงได้ด้วยพลังไอปีศาจ และเป็นผู้ที่ส่งคนไปจัดการกับพ่อของไมโตะจนถึงแก่ความตาย และมันก็แพ้ทางพลังจิตอันบริสุทธิ์ของแซลลี่อย่างมาก และพ่ายแพ้ให้กับไมต์ไกน์ที่ใช้ดาบโดริงเคนสองปลายฟันจนระเบิดไปพร้อมกับยานแม่ของมัน…

 

 

 

หุ่นยนต์

Might Gine Robot (4)

“สามัคคีคือพลัง พิทักษ์ความสงบ รักษาคุณธรรม ผู้กล้าฉุกเฉินไมท์ไกน์ ปรากฏตัวเพื่อปราบเหล่าร้าย ให้สิ้นซากไป !!”

ในเรื่อง ไมต์ไกน์ และเพื่อนๆ เป็นหุ่นยนต์ที่ถูกสร้างด้วยมือมนุษย์ ที่ติดตั้งระบบ AI ที่ช่วยในการคิด วิเคราะห์สถาณการณ์ต่างๆ ในรูปแบบของหุ่นยนต์ที่สามารถแปลงร่างเป็นรถไฟได้ เพื่อความสะดวกในการเข้าถึงพื้นที่เกิดเหตุอย่างรวดเร็ว เพราะกลุ่มบริษัทเซมปูจิได้วางรากฐานของรางรถไฟความเร็วสูงไว้ทั่วญี่ปุ่น และนีโอโตเกียวไว้แล้วนั่นเอง

 

 

Might Gine Robot (3)

ไมต์ไกน์
เป็นร่างรวมระหว่าง “ไกน์” รถไฟAIที่มีระบบแปลงร่าง + ไมต์วิง + โลโคโมไลเซอร์ มีท่าไม้ตายคือ “ดาบกงล้อ โดริงเคน” มีห้องนักบินอยู่ที่ส่วนปากของหุ่นสำหรับไมโตะขึ้นบังคับ ในตอนอวสาน โลโคโมไลเซอร์ ก็ได้ถูกทำลายไปพร้อมๆกับแบล็คนัวร์ และไม่ได้รับการซ่อมแซมเหมือนหุ่นตัวอื่นๆอีกเลย…

ไมต์ไกเซอร์
หุ่นรบที่ไร้ระบบ AI บังคับโดยไมโตะ เกิดจากการรวมร่างของไกเซอร์แมชชีนทั้ง 5 ลำ มีความสามารถในการบินเป็นรองแค่โกริวเท่านั้น มีท่าไม้ตายคือ “หมัดสว่าน ดริล แครชเชอร์”

เกรทไมต์ไกน์
ร่างรวมสุดยอดของเครื่องจักรของเครือเซมปูจิ 8 ลำ (ไกเซอร์แมชชีน 5ลำ + ไกน์ + ไมต์วิง + โลโคโมไลเซอร์) และถ้าติดตั้ง “ไมต์กันเนอร์” ก็จะกลายเป็น “เกรทไมต์ไกน์ เพอร์เฟคท์โหมด”

 

 —-

Might Gine Robot (1)

ทีมบอมเบอร์
เป็นทีมผู้กล้าที่แยกย่อยออกมาจากไมต์ไกน์ โดยพวกเขามีความสามารถในการเปลี่ยนร่างได้ถึง 3 รูปแบบ

(ภาษาแฟนๆทรานส์ฟอร์เมอร์สเรียกกันว่า “ทริปเปิ้ลเชนเจอร์” เป็นหนึ่งในคลาสของชาวไซเบอร์ตรอน โดยบางคลาสสามารถเปลี่ยนร่างได้สูงสุด 6 แบบ เรียกว่า “ซิกส์เชนเจอร์”)

 

ทีมบอมเบอร์มีความคิดเป็นของตัวเอง ด้วยระบบ AI รุ่นต้นแบบของไกน์นั่นเอง และพวกเขาถูกสร้างเอาไว้นานมาก แต่ก็ยังไม่สมบูรณ์ จนกระทั่ง “ฮามาดะ มิตสึฮิโกะ” เพื่อนร่วมชั้นของไมโตะที่เป็นวิศวกรรุ่นจิ๋วจับเอาพวกบอมเบอร์มาสานโปรเจคท์ต่อจนกลายเป็นบอมเบอร์ทีมอย่างที่เห็น

 

สมาชิกในทีมบอมเบอร์ได้แก่ ไลโอบอมเบอร์ / เบิร์ดบอมเบอร์ / ไดโนบอมเบอร์ และ ฮอร์นบอมเบอร์ โดยทั้งสี่สามารถรวมร่างเป็น “แบทเทิล บอมเบอร์” ได้

 

 

—-

 

Might Gine Robot (2)

ทีมไดรเวอร์
หุ่นยนต์ที่ติดตั้งระบบ AI แบบเดียวกับไกน์ ที่ถูกออกแบบเพื่องานอพยพชาวบ้านให้ออกจากเขตสู้รบ และร่างยานพาหนะจะเป็นร่างที่เน้นไปในเรื่องของการกู้ภัยมากกว่า

สมาชิกในทีมไดรเวอร์ได้แก่ โปลิซไดรเวอร์ / ไฟร์ไดรเวอร์ / เจ๊ทไดรเวอร์ และ ดริลลี่ไดรเวอร์ และทั้งสี่สามารถรวมร่างกันเป็นสุดยอดหุ่นกู้ชีพ “การ์ดไดรเวอร์”

 

Might Gine Robot 5

ฮิริว (มังกรทะยานฟ่้า)
หุ่นที่เอซ โจ เป้นคนขับ พัฒนา และสร้างโดยโวลฟ์กัง เป็นหุ่นที่บินได้เร็วมาก มีความสามารถในการต่อสู้บนอากาศที่เหนือกว่าไมต์ไกน์หลายขุม และเป็นหุ่นที่ทำให้ไมต์ไกน์เข้าตาจนมาแล้วหลายครั้ง จนกระทั่งไมต์ไกเซอร์ออกโรง ฮิริวก็กลายเป็นซากในระยะเวลาไม่กี่ตอนเท่านั้น

 

 Might Gine Robot 6

โกริว (มังกรอสุนีบาต)
ถูกสร้างมาเพื่อการต่อสู้บนอากาศที่เหนือกว่าฮิริว เรียกว่าเป้นคู่ปรับที่สูสีกับเกรทไมต์ไกน์ โดยรวมคุณสมบัติของไมต์ไกเซอร์ ที่บินได้เร็วในร่างยานรบ และพลังขับเคลื่อนสูงพร้อมอาวุธหนักของร่างมนุษย์แบบเกรทไมต์ไกน์

สุดท้ายแล้ว โกริวก็ถูกทำลายไปพร้อมๆกับหุ่นของเอ็กซ์เซฟ ปิดฉากความแค้นของโจลงได้ในที่สุด…

 

 

 

ของเล่น

ของเล่นเก่า ยังคงได้รับการผลิตจาก Takara ที่ทำทรานส์ฟอร์เมอร์ โดยคราวนี้จะเน้นไปที่การผลิตของใหม่ แทนการใช้แม่พิมพ์จากซีรี่ยส์ทรานสฟอร์เมอร์สย้อมแมวแบบในยุคแรกๆของหุ่นผู้กล้าแล้ว ซึ่งโดยรวม จะเป็นหุ่นที่เน้นการแปลงร่างเป็นรถไฟมากกว่าเอาสเกลที่สมส่วนสวยงามแบบในการ์ตูน 

เครดิตภาพโดย : http://www.collectiondx.com/

Might Gaine Toy Takara (1) Might Gaine Toy Takara (2) Might Gaine Toy Takara (3) Might Gaine Toy Takara (4) Might Gaine Toy Takara (5) Might Gaine Toy Takara (6) Might Gaine Toy Takara (7)

เครดิตภาพโดย : http://www.collectiondx.com/toy_review/1994/great_might_gaine_perfect_mode

 

 

 

 Might Gaine Candy Toy

ต่อมาหลายปี พวก Candytoy ก็ทำของเล่นออกมาบ่อยมาก เรียกได้ว่า “ถูกนำมาผลิตซ้ำวางตลาดบ่อยที่สุดอีกหนึ่งซีรี่ยส์” เลยก็ว่าได้

 

 

Might Gaine Toy SRC (2)Might Gaine Toy SRC (1)

 

Might Gaine Black toy

บันไดก็ไม่น้อยหน้า ไม่รู้ไปคุยอีท่าไหน ได้สิทธิ์ในคาแรคเตอร์ไมต์ไกน์ ลงให้ไลน์ Super Robot Chogokin – Might Gaine แต่ตัดลูกเล่นเปลี่ยนร่างนะ แต่แค่นี้แฟนๆไมต์ไกน์ และหุ่นผู้กล้าถึงกับซี้ดปากกันเลย ราคาไม่แรงนะ ยังพอหาได้อยู่ อ่อ…ตัวพิเศษ แบล็คไมต์ไกน์ก็มีขายนะเออ!!

 

 

 

Might Gaine SD (10)

และล่าสุด กับโมเดลจากทาง Kotobukiya ที่ทำ SD ไมต์ไกน์ออกมา ยังคงลูกเล่นแปลงร่างที่ทำออกมาได้สวยงาม (แต่ต้องเปลี่ยนชิ้นส่วนเอานะ) มีกำหนดวางขาย 2016 

 

Might Gaine SD (9)

 

 

 

 Might Gaine SD (1) Might Gaine SD (8) Might Gaine SD (7) Might Gaine SD (6) Might Gaine SD (5) Might Gaine SD (4) Might Gaine SD (3) Might Gaine SD (2)

 

 

Might Gaine post (1)Might Gaine post (4)

Might Gaine post (3) Might Gaine post

โดยรวมแล้วเป็นการ์ตูนเช้าช่อง 7 อีกเรื่องที่สนุกครบรสขึ้นหิ้งไปแล้ว ส่วนลิขสิทธิ์ หรือแผ่น DVD Bluray ในบ้านเรา ก็คงต้องทำใจ ไลน์นี้ไม่เห็นมีค่ายไหนใจถึงซื้อเข้ามาซักเรื่องเลย (ถ้าไม่นับกาโอไกก้าร์ละนะ)

 

 

แอดมิน Ak47

 

 

เพลงเปิด

 

ตอนจบ เสียงพากย์ช่อง 7 ปี 2545