ย้อนอดีตหนังดัง Battle Royale เกมนรกโรงเรียนพันธุ์โหด
26 กันยายน 2565 11:05 น.
Share on FacebookTweet about this on TwitterShare on Google+

image054
Battle Royale เกมนรกโรงเรียนพันธุ์โหด
ประเภท: ภาพยนตร์
แนว : Action, Thriller
กำกับโดย : Kinji Fukasaku
บทภาพยนตร์โดย : Kenta Fukasaku
จัดจำหน่ายโดย : Toei Company
เข้าฉายวันที่ : 16 ธันวาคม 2000

 

หากจะพูดถึง Battle Royale ในตอนนี้ เราคงจะนึกถึงชื่อของแนวเกมเอาชีวิตรอด ที่ต้องใช้ทักษะและไหวพริบของแต่ละคนเอาชนะอีกฝ่ายและเป็นคนสุดท้ายที่รอดชีวิตคือผู้ชนะ ซึ่งทุกวันนี้เกมประเภทนี้ได้รับความนิยมจนเป็นส่วนหนึ่งในการแข่งกีฬา อีสปอร์ต

 

แต่ถ้าย้อนไปในช่วงยุค 2000 เมื่อเอ่ยชื่อ Battle Royale ทุกคนจะต้องนึกถึงภาพยนตร์สุดโหดจากญี่ปุ่นที่สร้างแรงสั่นสะเทือนไปทั่ววงการ แถมมีคนดังระดับฮอลลีวู้ดเป็นแฟนหนังเรื่องนี้อยู่หลายคน แล้วยังเป็นต้นแบบให้กับหนังแนวเกมล่าชีวิตมาจนถึงปัจจุบัน วันนี้เราจะเปิดคลาสชั้นเรียนย้อนรอยถอยหลังถึงหนังสุดโหดเรื่องนี้กันครับ

 

 

image006
เนื้อเรื่อง (เนื้อหาต่อไปนี้อาจมีภาพความรุนแรง โปรดใช้วิจารณญาณในการชม)

เรื่องราวใน Battle Royale ได้วางเหตุการณ์สมมุติเมื่อประเทศญี่ปุ่นเข้าสู่วิกฤตเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ ผู้คนเกือบ10ล้านคนตกงานจนเกิดอัตราว่างงานสูงขึ้น 15% สังคมเสื่อมโทรมมากขึ้น เด็กๆหลายคนเลือกที่จะไม่ไปโรงเรียน ก่อปัญหาทางสังคมจนเกิดอาชญากรรมสูงขึ้นในทุกๆวัน เด็กวัยรุ่นกลายเป็นปัญหาสำคัญระดับชาติ เหล่าบรรดาพวกผู้ใหญ่มิอาจนิ่งนอนใจได้อีกต่อไป จึงตัดสินใจแก้ปัญหาด้วยการออกกฎที่ชื่อว่า กฎปฏิรูปการศึกษาในศตวรรษหน้า หรือ กฎ Battle Royale (BR)

 

battle-royale-movie (1)

Battle Royale คือเกมเอาชีวิตรอดที่เหล่าพวกผู้ใหญ่สร้างขึ้น เพื่อสั่งสอนวัยว้าวุ่นสุดแสบนี้ ในแต่ละปีจะมีการจับสลากเลือกตัวแทนชั้นเรียน 1 ห้อง จำนวน42คน พวกเขาจะถูกส่งมายังบนเกาะห่างไกล ซึ่งเกาะที่จะใช้เล่นเกมแห่งนี้ได้ทำการอพยพผู้คนออกไปหมดและมีการแบ่งเขตตามจุดต่างๆ ว่าบริเวณจุดไหนที่อันตราย จุดไหนที่ปลอดภัย ซึ่งจะมีการเปลี่ยนแปลงและแจ้งให้นักเรียนทราบตลอดเวลา เพื่อให้เกมมีประสิทธิภาพขึ้นและป้องกันการเอารัดเอาเปรียบนั่นเอง

 

battle-royale-movie (2)
อีกสิ่งหนึ่งที่ไม่พูดถึงเลยก็คือ นักเรียนจะถูกใส่ปลอกคอไฟฟ้าที่มีเซนเซอร์จับชีพจรและพิกัดที่ทุกคนอยู่บนเกาะนั่นเอง ซึ่งสอดคล้องกับการประกาศแจ้งจุดอันตราย เพราะถ้าใครยังอยู่ระเบิดก็จะทำงาน หรือใครละเมิดกฎกติกาหรือก่อปัญหาระเบิดก็จะทำงานทันที แม้แต่พยายามที่จะแกะปลอกคอก็มีสิทธิ์โดนระเบิดได้เช่นกัน

 

battle-royale-movie (3)
นักเรียน 1 คนจะได้รับเป้สนามคนละ 1 ใบ ข้างในจะมีข้าวที่ต้องใช้ ประกอบด้วย อาหาร, ไฟฉาย, แผนที่กับเข็มทิศ และอาวุธ 1 ชิ้น ซึ่งอาวุธจะถูกสุ่มแจกเพื่อป้องกันความได้เปรียบเสียเปรียบ ก็มีตั้งแต่ ปืน, มีด, ดาบ, กระบอง ไปจนถึงสิ่งที่ไม่น่าจะเป็นอาวุธได้เลยอย่าง ฝาหม้อ เป็นต้น (นักเรียนหญิงสามารถนำข้าวของส่วนตัวไปได้)

 

battle-royale-movie (4)
สำหรับกติกาก็ง่ายๆ คือ นักเรียนจะต้องใช้ทักษะของตัวเองและอาวุธที่ได้รับเข่นฆ่าเพื่อนกันเอง โดยมีเวลาเพียงแค่ 3 วัน ที่จะต้องหาทางเอาชีวิตรอดไปจากเกมล่าชีวิตครั้งนี้ ไม่มีกฎกติกาใดๆทั้งสิ้น นี่คือเกมที่ทดสอบร่างกายและจิตใจ แล้วถ้าครบ 3 วันไม่มีผู้ชนะระเบิดที่ปลอกคอก็จะทำงานทันที!!

 

 

 

battle-royale-movie (5)

นานะฮาระ ชูยะ และ นาคากาวะ โนริโกะ ได้เดินทางไปทัศนศึกษากับเพื่อนๆร่วมชั้นเรียน และก็เผลอหลับไป

พวกเขาตื่นขึ้นมาพบว่าพวกเขาถูกจับมายังสถานที่ๆหนึ่งบนเกาะร้างพร้อมเพื่อนๆ ก่อนที่ทุกคนจะประหลาดใจเมื่อการมาของ อาจารย์ทาเคชิ อดีตอาจารย์ที่ปรึกษาของพวกเขา ซึ่งวันนี้เขามาในฐานะอาจารย์คุมเกม ก่อนจะพูดถึงกฎ Battle Royale หรือเกมล่าชีวิตให้ทุกคนได้ฟัง นอกจากนี้ยังมีเด็กใหม่สองคนมาร่วมเกมล่าชีวิตนั่นคือ คาวาดะ ชูโกะ และ คิริยามะ คัตสึโอะ โดยเฉพาะฝ่ายหลังที่เปิดเกมฆ่าทุกคนแบบไม่ปราณีใคร กลายเป็นเครื่องจักรสังหารประจำเกมนี้ไปทันที

 

ตลอดเกม บางคนร่วมมือกันเพื่อหาทางเอาตัวรอด บางคนก็ถือโอกาสได้เอาคืนคนที่รังแกเรา หรือบางคนไม่เล่นเกมและเลือกที่จะสละชีวิตทันที นี่ล่ะคือ Battle Royale ที่ทำให้ได้เห็นตัวตนที่แท้จริงของแต่ละคน….

 

battle-royale-movie (6)

ชูยะ และ โนริโกะ ยังคงพยายามที่จะหาทางรอดชีวิตจากเกมนรกครั้งนี้ ก่อนจะได้เจอกับ คาวาดะ ซึ่งคนหลังตอนแรกมีท่าทีไม่ไว้ใจทั้งคู่และพยายามจะบอกว่า เกมนี้เราไม่อาจไว้ใจใครได้อีกแม้พวกเขาจะเคยเป็นเพื่อนเราก็ตาม จนเมื่อโนริโกะไม่สบายกะทันหัน ชูยะที่จะหาทางช่วยเหลือก็กลับมาเจอคาวะดะอีกครั้ง ก่อนที่เขาจะช่วยเหลือทั้งสองในเรื่องอาหารและยา ก่อนที่เขาจะเล่าความจริงให้ฟังว่า เขาเคยเข้าร่วมเกม Battle Royale เมื่อ3ปีที่แล้ว และเกมนี้ที่ไม่ได้ทำให้เขาสูญเสียคนรักอย่างเดียว แต่ชีวิตของเขาก็เปลี่ยนไปเช่นกัน จึงเป็นเหตุผลที่เขากลับมาเล่นเกมนรกอีกครั้ง

 

battle-royale-movie (7)

ในตอนจบท้ายเรื่อง เมื่อมีกลุ่มนักเรียนที่ยังรอดชีวิตรู้ช่องโหว่ของระบบเกม โดยเฉพาะระบบสัญญาณที่อยู่บนปลอกคอจึงตัดสินใจทำการเจาะระบบ แล้วเตรียมใช้ทำระเบิด ขนใส่รถเพื่อจะไปถล่มศูนย์บัญชาการ

 

แต่ทว่า คิริยามะ เข้ามาสกัดดาวรุ่งก่อนที่ 1ในกลุ่มจะยิ่งไปที่รถขนระเบิดพลีชีพ ซึ่ง ชูยะ และ โนริโกะ รวมถึง คาวาดะที่จะมามาสมทบเห็นเข้าซะก่อน แต่พวกเขาก็พบว่าคิริยามะยังไม่ตายแถมมีสภาพเหมือนตายทั้งเป็นจนเกิดการต่อสู้กัน ก่อนที่คาวาดะจะปลิดชีพตัวอันตรายได้สำเร็จ

 

battle-royale-movie (8)
ในตอนจบแม้จะเหลือรอด 3 คน แต่แล้วคาวาดะก็ตัดสินใจหันปืนใส่ทั้งคู่ แล้วบอกเหตุผลว่า พวกเขาหลอกใช้ทั้งสองเพื่อให้ตัวเองรอดก่อนที่จะลั่นกระสุนใส่ทั้งคู่และเป็นผู้ชนะไปในเกมนี้อีกครั้ง!

 

 

battle-royale-movie (4)

เมื่อคาวาดะ กลับมายังศูนย์บัญชาการเพียงลำพังจนเจอกับ อาจารย์คิตาโนะ ทำให้อีกฝ่ายสงสัยว่าเขาคือตัวการที่ทำให้ระบบรวน ก่อนจะพบว่า ชูยะ และ โนริโกะ ยังรอด ก่อนที่อาจารย์คิตาโนะจะเผยความในใจผ่านรูปวาดของเขาและอยากให้โนริโกะตายด้วยกัน แต่ท้ายสุดเป็นชูยะที่ยิงใส่อาจารย์ (อีกฝ่ายเป็นปืนฉีดน้ำเอามาแกล้ง) แต่ทว่าทุกคนก็ต้องอึ้งกับอาจารย์คิตาโนะ (ผู้ชมเองก็อึ้งเช่นกันถ้าหากได้ดูฉากนี้) แต่ทั้งสามคนก็หนีออกจากเกาะได้สำเร็จ

 

battle-royale-movie (5)
หลังจากที่พวกเขาหนีออกมาจากเกาะได้ ท้ายที่สุดคาวาดะก็เสียชีวิต ส่วนทางด้าน ชูยะ และ โนริโกะ กลายเป็นผู้ต้องหาที่ทางรัฐบาลต้องการตัว ทำให้พวกเขาต้องใช้ชีวิตหลบๆซ่อนๆ แต่ทั้งคู่ก็สัญญากับตัวเองว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นพวกเขาจะต้องวิ่งต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าจะพบคำตอบที่พวกเขาตามหาอยู่…

 

 

 

 

จุดเริ่มต้น “วิชาฆ่าภาคบังคับ”

battle-royale-movie (6)

ก่อนที่จะเป็นภาพยนตร์สุดโหดทุกวันนี้ ต้นทางของ Battle Royale มาจากนวนิยายแอ็คชั่นระทึกขวัญในชื่อเดียวกันเมื่อปี1999จากฝีมือปลายปากกาของ โคชุน ทาคามิ ที่เริ่มลงมือเขียนเมื่อปี 1996 แล้วส่งประกวดหรือเสนอสำนักพิมพ์ แต่ก็ถูกปฏิเสธทุกครั้ง เพราะหลายคนที่ได้อ่านต้นฉบับก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เนื้อหาเต็มไปด้วยความรุนแรง ขัดต่อศีลธรรมอันดีงาม (วลีนี้คุ้นๆนะ ฮ่า!) แต่ท้ายที่สุดก็มีสำนักพิมพ์เจ้าหนึ่ง ยอมเสี่ยงหมดหน้าตักตีพิมพ์ต้นฉบับนิยาย Battle Royale ของเขาในปี1999 ซึ่งผลที่ได้มันกลายเป็นนิยายขายดีของญี่ปุ่น ท่ามกลางเสียงวิจารณ์ แต่ที่ไปไกลกว่านั้นมันยังถูกซื้อลิขสิทธิ์ไปแปลในภาษาต่างๆมากมาย ซึ่งบ้านเราก็มีในชื่อไทยว่า “วิชาฆ่าภาคบังคับ“ของสำนักพิมพ์ Enter Book

ภายหลังก็มีการนำมาดัดแปลงเป็นหนังสือการ์ตูนที่มีภาคต่อตามมาอีก 2 ภาค อย่าง Blitz Royal และ Angels Border รวมถึงได้ถูกดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ที่จะกลายเป็นตำนานของวงการหนังญี่ปุ่นในเวลาต่อมา

 

 

 

 

เบื้องหลัง

battle-royale-movie (9)

คินจิ ฟุคาซากุ (นั่งกลาง) ผู้กำกับหนัง Battle Royale ถ่ายภาพร่วมกับทีมนักแสดงเป็นที่ระลึก

การจะนำนิยายสุดโหดมาดัดแปลงเป็นหนังอย่างเรื่องนี้ ก็ต้องเฟ้นหาผู้กำกับที่จะสามารถเปลี่ยนเรื่องราวในหนังสือให้เป็นหนังที่ยังครบรสชาติและความโหดจนเห็นภาพได้ชัดเจน ซึ่งคนที่เข้ามากุมบังเหียนหนังเรื่องนี้คือ คินจิ ฟุคาซากุ ผู้กำกับระดับหัวแถวของวงการที่เป็นที่รู้จักจากการกำหับหนังแนวยากูซ่า ซึ่ง Battle Royale คือผลงานเรื่องสุดท้ายในอาชีพการกำกับของเขา เพราว่าสองปีต่อมาก็ได้จากโลกไปอย่างสงบในวัย 72ปี (จริงๆลงมือทำภาคต่ออย่าง Battle Royale 2 ก่อนที่ลูกชายจะมาสานต่อที่เหลือจากพ่อ)

 

 

battle-royale-movie (10)
ขึ้นชื่อว่า คินจิ ฟุคาซากุ คือผู้กำกับที่มีสไตล์การกำกับที่ดุดันและทุ่มเทกับผลงานตรงหน้า แล้วยังเข้ากับนักแสดงวัยรุ่นทั้งหมดได้เป็นอย่างดี โดยไม่มีอายุเป็นอุปสรรค เวลาพักกองก็พูดคุยสนุกเฮฮา แต่เวลาทำงานเขาจะกลายเป็นคนละคนทันที เขาจะจริงจังไม่มีเล่น ทำให้ผลงานที่ออกมาดีชัดเจน ฉากไหนที่นักแสดงยังเล่นไม่ได้ก็จะแสดงให้ดูหรือให้การบ้านช่วงพักกองไปฝึกฝนก่อนเข้าฉาก หรือใครดวงดีหน่อย (หรือเปล่า?) ก็ถ่ายจนกว่าจะได้ฉากที่สมบูรณ์

 

 

battle-royale-movie (11)
ในส่วนของนักแสดง ส่วนใหญ่ก็ทำการคัดเลือกเด็กมัธยมต้นเกือบ 6000 คน ก่อนจะคัดอีก 800 คนที่ผ่านด่านแรก เพื่อให้เหลือ 42 คน ซึ่งผู้กำกับเป็นคนคัดเลือกเองกับมือ แล้วยังมีการทดสอบร่างกาย (เหมือนจะออกไปรบ ฮ่า!) นอกจกานี้ยังได้นักแสดงชั้นครู อย่าง บีท ทาเคชิ หรือ ทาเคชิ คิตาโนะ ที่ใครหลายคนคุ้นภาพพิธีกรสุดฮาจาก Takeshi’s Castle ซึ่งนอกจากผลงานตลกแล้ว แกก็เป็นนักร้องและนักแสดง ที่แกเองก็เล่นบทจริงจังได้ ซึ่งใน Battle Royale เรียกได้ว่ากลายเป็นหนึ่งในบทที่น่าจดจำ สามารถเล่นได้โหดและฮาในเวลาเดียวกัน

 

 

 

 

กระแสตอบรับและสิ่งสืบเนื่องที่ได้จาก Battle Royale

battle-royale-movie (12)

หลังจากที่ถ่ายทำตัดต่อเสร็จเรียบร้อย วันที่ 16 ธันวาคม 2000 Battle Royale ก็ได้เข้าฉายในญี่ปุ่น แน่นอนว่าด้วยชื่อเสียงจากต้นฉบับนิยายและการ์ตูน เมื่อมันกลายเป็นหนังกระแสตอบรับถล่มทลายพร้อมเก็บรายได้ 30.6ล้านเยน กลายเป็นหนึ่งในหนังทำเงินสูงสุดของญี่ปุ่นและเปิดศักราชหนังสุดโหดที่ทำให้กลายเป็นต้นแบบหนังแนวสุดโหดให้กับหนังเรื่องอื่นๆจนปัจจุบัน

มีเรื่องเล่าสนุกๆว่า ตอนที่หนังเข้าฉายนั้นคำวิจารณ์ก็เหมือนนิยาย เพราะด้วยเนื้อหารุนแรง ฉากฆ่าเลือดสาดกระจาย ฉากล่อแหลมทีอาจทำให้วัยรุ่นเลียนแบบได้ แต่ที่ดูจะรุนแรงหน่อยก็คือเป็นงานไร้รสนิยม ซึ่งแม้ว่าทางกองเซนเซอร์จะให้เรท 15+ แต่ด้วยความเกรียนของผู้กำกับที่รู้สึกหมั่นไส้นักวิจารณ์หรือใครที่วิจารณ์งานของเขา จึงท้าผ่านสื่อว่า “ใครที่อายุต่ำกว่า 15ปี ก็แอบมาดูเรื่องนี้กันได้ ผมขอท้าจริงๆ”

นอกจากนี้เขายังให้สัมภาษณ์ว่า เขาต้องการจะสะท้อนถึงปัญหาอาชญากรรมของวัยรุ่นที่เกิดขึ้นบ่อยๆ ซึ่งเวลานั้นเป็นประเด็นที่ทันสมัยและน่าสนใจเป็นอย่างมาก

 

battle-royale-movie (13)
ส่วนชื่อเสียงในต่างประเทศนั้น Battle Royale ก็ได้ไปอาละวาดความโหดเกือบ 20 ประเทศ แต่ก็มีหลายประเทศที่สั่งแบนหนัง ก่อนจะได้เข้าฉายจำกัดโรงในอีก 11ปีให้หลัง ซึ่งวันที่ฉายเหล่าแฟนหนังที่ได้ยินกิตติศัพท์ความโหดตีตั๋วเข้าไปชม ส่วนหนึ่งมาจากคำบอกเล่าของผู้กำกับชื่อดังอย่าง เควนติน ทาลันติโน่ ที่ยกให้เป็นหนังโปรดในดวงใจเลยทีเดียว

 

 

 

battle-royale-movie (7)
Battle Royale ที่นอกจากจะสร้างกระแสและจุดประกายก่อให้เกิดหนังหรือทีวีซีรีส์ ที่เล่าถึงเกมล่าชีวิตออกมามากมาย ไม่ว่าจะได้แรงบันดาลใจหรือแนวคิด ที่สำคัญยังต่อยอดทำให้เกิดเกมแนว Battle Royale เกิดขึ้นมากมายจนถึงปัจจุบัน แต่สำหรับวงการภาพยนตร์นี่คือหนังที่เข้าขั้นคลาสสิคเป็นที่เรียบร้อย

 

ขณะที่ต้นตำรับก็สานความโหดต่อใน Battle Royale 2 : REQUIEM หรือชื่อไทย เกมนรก สถาบันพันธุ์โหด เป็นผลงานของ เคนตะ ฟุคาซากุ ลูกชายของ คินจิ ฟุคาซากุ ผู้กำกับภาคแรกที่เสียชีวิตก่อนเปิดกล้อง เคนตะจึงเข้ามาสานงานต่อจากพ่อ ว่าด้วยเหตุการณ์ 3ปีหลังภาคแรก เมื่อ นานะฮาระ ชูยะ รวมกลุ่มกับเหล่าผู้แข่งขัน BR ในนามกลุ่ม Wild 7 ประกาศสงครามกับผู้ใหญ่

 

จนพวกผู้ใหญ่จึงสร้างกฎ Battle Royale 2 ขึ้นโดยเปลี่ยนให้ ห้องเรียนที่ถูกคัดเลือกร่วมมือกันจัดการกับชูยะและพรรคพวกภายใน 3 วัน ซึ่งผลตอบรับของหนังเรื่องนี้กลับไม่ประสบความสำเร็จเหมือนภาคแรก

 

 

battle-royale-movie (14)

ได้รถ Skyline GTR เป็นของขวัญวันเกิด

ในวันเลิกกองของหนัง Battle Royale ผู้กำกับ คินจิ ฟุคาซากุ ก็ได้รับเซอร์ไพรส์จากเหล่าทีมงานและนักแสดงทุกคนนั้นคือได้มีการจัดงานวันเกิดอายุครบรอบ 70ปี ซึ่งความพิเศษอีกอย่างก็คือ ทีมงานได้สานฝันให้ผู้กำกับท่านนี้ ด้วยการมอบรถสปอร์ต Nissan Skyline GTR เป็นของขวัญเพราะคนใกล้ชิดเผยว่า เขาชื่นชอบรถคันนี้เป็นอย่างมาก

 

 

battle-royale-movie (15)
ภาพวาดโนริโกะ

ในฉากช่วงท้ายเรื่อง เราจะได้เห็นความในใจของ อ.คิตาโนะ ต่อ โนริโกะ นางเอกเรื่องผ่านภาพวาดฝีมือของเขา ซึ่งภาพวาดชิ้นนี้ ทาเคชิ คิตาโนะ เจ้าของบทอาจารย์คิตาโนะ ลงทุนแสดงฝีมือวาดภาพ ซึ่งนอกจากจะวาดในฉากแล้วช่วงพักกองก็จะใช้เวลาวาดเล่นซึ่งทำให้ได้เห็นอีกมุมหนึ่งของตำนานวงการบันเทิงญี่ปุ่นที่มีความสามารถรอบด้าน

 

 

 

 battle-royale-movie (16)

นักแสดงอาวุโสที่สุดในก๊วนเด็กม.ปลาย

เมื่อพูดถึงสองตัวละครที่ขโมยซีนในหนังเป็นที่จดจำก็ต้องนึกถึง คาวาดะ ชูโกะ นักเรียนที่มีอดีตอันเจ็บปวดจนต้องกลับมาเล่นเกมอีกครั้ง และ คิริยามะ คัตซึโอะ ตัวอันตรายประจำเกม ซึ่งสองนักแสดงที่รับบทคือ ทาโร่ ยามาโมโตะ (คาวาดะ) และ มาซาโนบุ อันโดะ (คิริยามะ) มารับบทในวัย25ปี กลายเป็นสองนักแสดงอาวุโสของเหล่าวัยรุ่น ปัจจุบันทาโร่หันหลังให้กับวงการบันเทิงแล้วหันมาเล่นการเมือง ส่วน อันโดะ ก็ยังมีงานแสดงให้เห็นอยู่บ้าง

 

 

battle-royale-movie (17)

ได้รับเลือกให้ไปเล่น Kill Bill เพราะผู้กำกับเป็นแฟนพันธุ์แท้หนัง Battle Royale

อย่างที่ได้เล่าไปว่า Battle Royale มีแฟนหนังมากมายทั่วโลก หนึ่งในนั้นคือ เควนติน ทาลันติโน่ ที่ยกให้เป็นหนังโปรดในดวงใจเลยทีเดียว แล้วเมื่อเขาได้ทำหนัง Kill Bill เขาจึงเลือกหนึ่งในนักแสดงสาวจาก Battle Royale อย่าง ชิอากิ คุรายามะ ที่รับบทเป็น ชิคุสะ ทาคาโกะ สาวโหดมือมีด ที่ใครจำได้ดีซึ่ง เควนตินได้มอบโอกาสให้เธอมารรับบทเป็นนักฆ่า ทำให้เธอยกระดับเป็นนักแสดงแนวหน้าของญี่ปุ่นจนปัจจุบัน

 

 

battle-royale-movie (8)

อาชีพของพ่อคาวาดะ

อีกหนึ่งมุขตลกเล็กๆที่ใส่มาคือ ฉากตอนที่คาวาดะตัดสินใจช่วยพระนางอย่าง ชูยะและโนริโกะ ที่กำลังไม่สบาย ก่อนจะช่วยรักษาจนไข้ลดลง ชูยะเลยถามว่าทำไมถึงช่วย? คาวาดะตอบไปว่า “พ่อฉันเป็นหมอ จะไม่เชื่อก็ตามใจ” ต่อมาก็ฉากที่ทำกับข้าวให้ทั้งสองคนทาน โนริโกะที่ชมฝีมืออาหารที่เขาทำ คาวาดะก็ตอบไปว่า “ที่มันอร่อยก็พ่อฉันเป็นกุ๊ก!” แล้วตอนจบที่ทั้งสามหนีออกจากเกาะได้สำเร็จ ชูยะถามว่าคาวาดะบังคับเรือได้ยังไง เขาก็ตอบว่า “พ่อฉันเป็นชาวประมง”

 

ทำให้เราสงสัยว่าตกลงพ่อเขาทำอาชีพอะไรกันแน่ แต่ที่รู้คือคำตอบที่เขาตอบแสดงถึงบุคลิกกวนๆของคาวาดะได้เป็นอย่างดี

 

 

 battle-royale-movie (18)

กว่าจะได้ฉายที่อเมริกาต้องรอคอยถึง 11ปี

Battle Royale ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในหนังที่อุดมไปด้วยความรุนแรง ทำให้ถูกแบนห้ามฉายในหลายประเทศ ซึ่งรวมถึงสหรัฐอเมริกาที่ทางค่ายโตเอะ (Toei) เจ้าของสิทธิ์หนังปฏิเสธที่จะไม่จำหน่ายหนังในประเทศ เพราะว่าช่วงปี1999-2000 คนอเมริกันยังคงหวาดผวาเหตุการณ์กราดยิงในโรงเรียน ทำให้ทางโตเอะจึงไม่ยอมที่จะจำหน่ายหนังในอเมริกา

 

แต่เมื่อผ่านไป 11ปี โตเอะก็สามารถบรรลุข้อตกลงกับผู้แทนจัดจำหน่ายในอเมริกาได้สำเร็จ จนได้ฉายจำกัดโรง ซึ่งสร้างปรากฏการณ์คนแน่นโรงเมื่อหนังฉาย เพราะชื่อเสียงและคำบอกเล่าของหนังเรื่องนี้นี่เอง

 

 

 battle-royale-movie (19)

กลายเป็นแม่แบบให้กับเกมแนว Battle Royale

นอกจากหนัง Battle Royale จะสร้างกระแสและเป็นแม่แบบให้กับหนังแนวเกมไล่ล่าชีวิตแล้ว ใครจะคิดว่าอีก10ปีให้หลังมันก่อให้เกิดแนวเกมสุดฮิตในแบบ Battle Royale มากมาย อาทิ

 

PlayerUnknown’s Battlegrounds, Fortnite Battle Royale, ARMA 3, H1Z1: King of the Kill, Knives Out, Rules of Survival, Garena Free Fire, Apex Legends, Realm Royale, Call of Duty: Warzone.

 

 

 

เพลงประกอบหนังฉบับภาษาไทย

หากใครได้ดูหนังจนจบจะรู้ว่ามีนักร้องไทยได้มีโอกาสแต่งเพลงให้กับหนังเรื่องนี้ด้วย นั่นคือเพลง มิตรภาพชั่วนิรันดร์ ของวง THE OLARN PROJECT ที่ได้เสียงร้องของ พี่โป่ง – ปฐมพงษ์ สมบัติพิบูลย์ ส่วนเพลงปิดของหนังในญี่ปุ่นจะเป็นเพลง Shizukana Hibi no Kaidan wo ของ Dragon Ash

 

 

 

battle-royale-movie (21)
ความแตกต่างระหว่างฉบับการ์ตูนกับภาพยนตร์

ถ้าพูดถึงความแตกต่างระหว่างตัวหนังกับการ์ตูน ถือว่ามีหลายจุดมาก เนื่องจากเวลาและข้อจำกัด ซึ่งหนึ่งในนั้นที่เห็นชัดคือปูมหลังของตัวละครอย่าง โซมะ มิตสึโกะ รับบทโดย โค ชิบาซากิ ซึ่งในหนังไม่ได้ใส่ดีเทลตามต้นฉบับ แต่ถ้าใครได้อ่านการ์ตูนจะรู้ว่าตัวละครตัวนี้มีด้านที่เจ็บปวด

 

แต่ภายหลังในฉบับ Director Cut เราจะได้เห็นอดีตที่ทำให้เธอกลายเป็นคนที่เลือดเย็น และพร้อมจะฆ่าได้ตลอดเวลา สำหรับ โค ชิบาซากิ ภายหลังก็เป็นอีกคนที่ได้โกอินเตอร์ไปแสดงภาพยนตร์ร่วมกับ คีอานู รีฟ ใน 47 Ronin แล้วยังมีผลงานโลดแล่นจนถึงปัจจุบัน

 

 battle-royale-movie (1)

รอวันเปิดชั้นเรียนฆ่าอีกครั้ง

เคยมีข่าวอยู่หลายครั้งว่าทางฮอลลีวู้ด มีความพยายามที่จะนำ Battle Royale มาสร้างในแบบของพวกเขาเอง แต่เมื่อเวลาผ่านไป โครงการก็ถูกพับเก็บ เพราะว่าตอนนี้กระแสหนังเกมล่าชีวิตอย่าง The Hunger Games ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากซึ่งเรื่องหลังมักจะถูกพูดถึงควบคู่ไปกับหนังเรื่องนี้เสมอ แต่ก็ต้องดูว่าฮอลลีวู้ดจะสร้างหรือจะปล่อยให้เป็นตำนานต่อไป

 

และนี่คือเรื่องราวของหนังดังอย่าง Battle Royale เกมนรก โรงเรียนพันธุ์โหดที่มาเล่าสู่กันฟัง ก่อนเลิกเรียนก็มีการบ้านให้ทุกคนครับว่า ความทรงจำที่มีต่อ Battle Royale เป็นอย่างไรบ้าง ลองแชร์ความทรงจำมาเล่าสู่กันฟังได้ครับ…

@P.PETTY

 

 

 

 

ข้อมูลอ้างอิง

 

-          https://en.wikipedia.org/wiki/Battle_Royale_(novel)

 

-          https://en.wikipedia.org/wiki/Battle_Royale_II:_Requiem

 

-          https://en.wikipedia.org/wiki/Battle_Royale_(manga)

 

-          https://entertainment.trueid.net/detail/DzDNbvLx8MrB

 

-          https://www.imdb.com/title/tt0266308/trivia/?ref_=tt_trv_trv

 

-          https://entertainment.trueid.net/detail/YgLGaJeqKP5b

 

-          https://pantip.com/topic/32359005

 

-          https://pantip.com/topic/38080010