
ในเวลานี้ หลายๆคนคงเริ่มเห็นแนวทาง การเปลี่ยนแปลงของการเล่น BEYBLADE X กันบ้างแล้ว หลายๆคนเริ่มเข้าสู่ความเข้มข้น จริงจัง เพื่อเตรียมตัวสู่การแข่งขันที่มีรางวัลมากขึ้น จะเป็นงานแข่งทางการ หรืองานแข่งอื่นๆที่มีจัดกันแทบทุกสัปดาห์ สิ่งหนึ่งที่หลายคนฝึกฝน คือเทคนิคการชู้ต หรือการแสวงหาคอมโบที่สุดยอด เหมาะกับตัวเองกันไม่น้อย…แต่มีหลายๆคนติดปัญหาเรื่องนึงครับ…“ชู้ตไม่มีแรงเลย”

ในบทความนี้จะพามาเจาะลึกกับเรื่องราวของ “กล้ามเนื้อ” ที่ใช้เล่น BEYBLADE X อย่างจริงจัง นอกเหนือจากคลิป หรือเทคนิคที่ทาง TAKARA TOMY ที่ออกมาสอนไว้ก่อนหน้า (ย้อนกลับไปอ่าน คลิก) โดยแอดมิน ที่เป็นสายเข้ายิมอยู่แล้ว และพอจะมีความรู้ บวกกับประสปการณ์ส่วนตัว จึงขอนำมาถ่ายทอด แชร์กันให้อ่านครับ

ร่างกายเรา เรารู้ดี…ไม่ใช่แค่แขน แต่คือทั้งร่างกาย!
รู้จักกับ “ห่วงลูกโซ่ของร่างกาย” (The Kinetic Chain)
ด้วยแนวคิด “Gear Sports” ที่ผลักดันให้ Beyblade กลายเป็นกีฬาที่มีการแข่งขันจริงจัง มีทักษะ และต้องใช้สมรรถภาพทางกายเข้ามาเกี่ยวข้อง บทความนี้จะพาคุณเจาะลึกถึงเบื้องหลังการปล่อยเบย์ (Launch) ที่ทรงพลัง ผ่านมุมมองของวิทยาศาสตร์การกีฬา ตั้งแต่กล้ามเนื้อที่เล็กที่สุด ไปจนถึงการฝึกซ้อมอย่างเป็นระบบเพื่อสร้างพลังสูงสุด

จากประสปการ์ณส่วนตัว สามารถบอกได้เลยว่า คุณต้องใช้ “ทั้งตัว” ในการเล่นนั่นละครับ เพียงแต่จะไปหนักโฟกัสที่ “แขน” มากที่สุดนั่นเอง แต่ความลับของพลังที่แท้จริงนั้นซับซ้อนกว่านั้น มันคือการทำงานประสานกันของร่างกายทั้งระบบที่เรียกว่า “ห่วงลูกโซ่ของร่างกาย” (The Kinetic Chain) ซึ่งเป็นหลักการเดียวกับการขว้างของนักเบสบอล หรือ การหวดวงสวิงของนักกอล์ฟ ที่ใช้แรงส่งจากทุกส่วนของร่างกาย โดยที่พลังทั้งหมดไม่ได้มาจากแขน แต่ถูกสร้างและส่งต่อกันเป็นทอดๆ
ในการเล่นเบย์เบลด 1 ชู้ต จะใช้กล้ามเนื้อดังต่อไปนี้ครับ
เฟสที่ 1: ความมั่นคง (Legs & Hips)
ทุกอย่างเริ่มต้นจากการยืน…จุดกำเนิดของพลังทั้งหมด
กล้ามเนื้อ: สะโพก (Glutes), ต้นขา (Quadriceps, Hamstrings)
หลักการทำงาน: ขณะที่คุณเตรียมปล่อยเบย์ คุณจะย่อตัวลงเล็กน้อยเพื่อ “โหลด” พลังงานศักย์ไว้ที่ช่วงล่าง กล้ามเนื้อขาและสะโพกจะทำหน้าที่เป็นฐานที่แข็งแรงเพื่อเตรียมสร้างแรงบิดในลำดับต่อไป — บางทีก็นั่งคุกเข่าก็ได้ แล้วแต่ถนัด
เฟสที่ 2: แกนกลางลำตัว (Core & Torso Rotation)
นี่คือหัวใจของการสร้างพลัง! ลำตัวของคุณคือเครื่องยนต์ที่ทำหน้าที่แปลงพลังจากช่วงล่างส่งต่อไปยังแขน
กล้ามเนื้อ: กล้ามเนื้อแกนกลางลำตัว (Core), กล้ามท้องท้องด้านข้าง (Obliques)
การทำงาน: การเคลื่อนไหวที่สำคัญที่สุดคือ การบิดแยกส่วนระหว่างสะโพกและหัวไหล่ (Hip and Shoulder Separation)
ลองนึกภาพตาม: คุณเริ่มบิดสะโพกและลำตัวนำไปก่อน ในขณะที่หัวไหล่และแขนยังอยู่ด้านหลัง (แบบภาพล่าง) การทำแบบนี้เปรียบเสมือนการ “ขึงหนังสติ๊ก” กล้ามเนื้อแกนกลางลำตัวจะถูกยืดออกและเก็บพลังงานไว้มหาศาล และเมื่อคุณปลดปล่อยมันออกมา พลังนั้นจะถูกส่งต่อไปยังแขนอย่างรวดเร็วและรุนแรง
เฟสที่ 3: กระชาก! (Shoulder & Arm)
แขนของคุณคือส่วนสุดท้ายของโซ่พลัง ทำหน้าที่เหมือน “ปลายแส้” ที่จะปลดปล่อยพลังทั้งหมดออกไป
กล้ามเนื้อหลัก (Prime Movers):
-กล้ามเนื้อหลังส่วนกว้าง (Latissimus Dorsi) และ อก (Pectoralis Major): เป็นกล้ามเนื้อมัดใหญ่ที่ทรงพลังที่สุดในการดึงและหมุนหัวไหล่เข้ามาด้านใน (Internal Rotation) ซึ่งเป็นหัวใจของความเร็วในการดึงสายปล่อย
-กล้ามเนื้อหัวไหล่ (Deltoids): โดยเฉพาะ หัวไหล่ส่วนหลัง (Rear Deltoid) ที่ทำงานหนักขณะแขนเคลื่อนไปด้านหลัง (Shoulder Extension)
กล้ามเนื้อรอง (Synergists):
-ไบเซ็ปส์ (Biceps): ช่วยในการงอข้อศอกเพื่อดึงสายปล่อย
-ปลายแขน (Forearms): สร้างแรงจับที่มั่นคงบน Launcher และสายปล่อย
โปรแกรมฝึกซ้อมฉบับแอดมินแนะนำ

เมื่อเข้าใจการทำงานของร่างกายแล้วจากตัวอย่างด้านบน เรามาสร้างความแข็งแกร่งให้โซ่พลังทุกส่วนกัน โดยเน้น พื้นฐานความแข็งแรง
โดยมีคำแนะนำว่า “น้ำหนัก และจำนวนครั้งที่ใช้ต่อ 1 เซต” คือตัวกำหนดทิศทางการฝึก ครับ
–การฝึกจำนวนครั้งที่มาก แต่น้ำหนักเบา (15-20 ทีหมดแรง)
จะเน้นเสริมความทนทานของกล้ามเนื้อ เนื่องจากการใช้งานหนัก ยาวนาน ต่อเนื่อง เล่นแล้วไม่เมื่อยไม่เหนื่อยง่ายในระยะยาว
–การฝึกจำนวนครั้งกลางๆ น้ำหนักกลางๆ (12-15ที หมดแรง)
จะเน้นเสริมความใหญ่ของกล้ามเนื้อ เป็นการฝึกเพื่อ เพิ่มขนาดกล้ามเนื้อ (Hypertrophy) โดยจะเน้นการสร้างกล้ามเนื้อให้มีขนาดใหญ่ขึ้น หล่อเท่ 55
–การฝึกจำนวนครั้งน้อยๆ แต่น้ำหนักมาก (6-8ทีหมดแรง)
เน้นเสริมพลังอย่างตรงไปตรงมา รีดเค้นแรงทั้งหมดที่มี อัดใส่ในการฝึกทั้งหมด ผลที่ได้คือ พลังระเบิดในระยะเวลาสั้นๆ
ทั้งนี้ ทุกท่า ทุกการฝึก จำเป็นจะต้องมีผู้เชี่ยวชญ หรือเทรนเนอร์คอยให้คำแนะนำฟอร์มการเล่นที่ถูกต้อง เพื่อการโฟกัสไปที่กล้ามเนื้อที่ต้องการอย่างตรงจุดนั่นเอง และพึงระลึกเสมอว่า “เล่นเท่าที่ไหว” อย่าฝืนเกินกำลังไปมาก เพราะเสี่ยงต่อการบาดเจ็บ , เสียเวลาเล่น และอันตรายในกรณีที่เล่นผิดฟอร์ม
วิธีเช็กง่ายๆคือ ลองหาน้ำหนักที่คิดว่าเล่นไหว แล้วไปยกให้ได้ “12-15ทีแล้วหมดแรง” นับเป็น 1 เซต / เล่นทั้งหมด 3-4 เซต ตามสะดวก นั่นคือใช้ได้ครับ เพราะแต่ละคนยกได้หนักเบาไม่เท่ากัน ดังนั้น อย่าไปซีเรียสครับ เพราะเป้าหมายของบทความนี้คือการสร้างความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อทุกส่วนในโซ่พลัง เพื่อให้ร่างกายสามารถสร้างและทนทานต่อแรงกระชากสายของแต่ละคนได้
ท่าที่แนะนำให้เล่น

Deadlift: จัดเป็น “ท่า King of การออกกำลังกาย” ที่สร้างความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อทั้งร่างกาย ตั้งแต่ขา สะโพก ไปจนถึงหลังส่วนล่าง
แต่ถ้าไม่สะดวก หรือเสี่ยงต่อการปวดหลัง ให้ใช้เป็น Linear Leg Press ได้ ซึ่งเป็นแมชชีนจะมีความปลอดภัยกว่า ในกรณีที่ไม่มีเทรนเนอร์ หรือผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำ (ส่วนตัวผู้เขียนก็ไม่เล่น Deadlift เพราะมีอาการหลังบาดเจ็บ 55+) จึงไปเล่นแมชชีนแนวนอนเล่นมากกว่า
Plank: สร้างความมั่นคงให้แกนกลางลำตัว ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งในการส่งผ่านพลังงาน …เอาเท่าที่ไหว ทำวนไป 4รอบ
Abdominals : เครื่องเล่นที่ช่วยในการทำซิทอัพ เป็นเครื่องที่ทำให้เราโฟกัสกับหน้าท้อง และแกนกลางลำตัวได้ดีมากๆ
Pull-ups ดึงข้อ : สร้างความแข็งแกร่งให้กล้ามเนื้อหลัง (Lats) ซึ่งเป็นแหล่งพลังหลักในการดึง
ดึงไม่ไหว ใช้แมชชีน Assist Pull-ups แบบในภาพเพื่อทดน้ำหนักได้ (จุดที่ลงสี คือกล้ามเนื้อที่ควรจะถูกใช้งาน)
Lat Pulldowns : ถ้าดึงข้อไม่ไหว จากน้ำหนักตัว และกล้ามเนื้อหลังยังไม่แข็งแรง ให้เล่นท่านี้ได้ หรือเอามาต่อเป็นท่าเล่นหลังอีกท่าก็ดีครับ
Seat Cable Row : อันนี้เน้นหลังด้านใน ช่วงสะบัก เสริมให้หลังเราหนา และแน่นขึ้นได้ครับ โดยใช้หลังออกแรงดึง ไม่ใช่แขนเป็นหลักครับ แรกๆอาจจะยาก แต่พอจับจุดได้ บอกเลยว่าสนุก
อ่อ…ท่านี้ มีไว้แก้อาการออฟฟิซซินโดรมด้วยนะครับ
Smith Machine- Bench Press /Dumbbell Bench Press : เสริมความแข็งแรงให้กล้ามเนื้ออก (Pecs) และหัวไหล่ โดยโฟกัสให้ “อก” เป็นส่วนที่ออกแรงผลักขึ้นไป ส่วนตัวเล่น 2 ท่านี้คู่กันครับ
Pectoral Machine Fly: เสริมความแข็งแรงให้กล้ามเนื้ออกโดยรวม (Pecs) ให้แน่นขึ้น โฟกัสไปที่การบีบของหน้าอกจากด้านนอก โกยมาด้านใน
Cable Face Pull /Rear Delt Machine Fly : เน้นกล้ามเนื้อหัวไหล่ส่วนหลัง เพื่อการเคลื่อนไหวของแขนที่สมบูรณ์ และช่วงไหล่หลังจะดูเต็มขึ้น ใช้เครื่องแบบภาพบนก็ได้ครับ แค่หันหน้าเข้าหาเบาะ แล้ววาดแขนเหมือนว่ายน้ำ อันนี้จะเป็นท่า Rear Delt Machine Fly
Bicep Curls : ถือดัมเบลในแนวชี้ไปทางปลายเท้าเสริมความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อไบเซ็ปส์ (แนะนำให้เล่นแบบ Alternate หรือสลับข้างเล่น เพื่อโฟกัสได้ดีกว่า)
Hammer Curls : โดยท่านี้ แค่เปลี่ยนมุมถือดัมเบล เป็นแนวขวาง จะเน้นไปที่แขนท่อนล่างเป็นหลัก เพื่อการดึงและการจับที่สมบูรณ์แบบ (แนะนำให้เล่นแบบ Alternate หรือสลับข้างเล่น เพื่อโฟกัสได้ดีกว่า)
Forearm Cable Curl Reverse Grip : ท่าไฮไลท์ที่ชาวเบย์เบลดต้องเล่นจริงๆ เพราะท่านี้ส่งผลโดยตรงไปถึงกล้ามเนื้อ ปลายแขน (Forearms) เพิ่มแรงกำ แรงจับ หรือแรงกระชาก นอกจากเรื่องแรงและสมรรถนะในการเล่นแล้ว ยังเป็นการเติมให้แขนท่อนล่างดูเต็ม สมส่วน เพราะเราเล่นไบเซปส์ / อก / หลัง มาแล้ว ถ้าไม่เล่นตรงนี้ แขนก็จะลีบๆเล็กๆ ไม่สมมาตรกันนั่นเอง
ไม่ต้องเข้ายิมก็ได้ครับ เล่นตามนี้เลย ไม่มีอุปกรณ์วุ่นวาย
ทั้งหมดทั้งมวลนี้ ลองนำไปปรับใช้ หรือหาเพิ่มเติมดูนอกเหนือจากท่าเหล่านี้ (ที่แอดมินใช้เล่นประจำ) โดยมีหลายท่าที่ไม่ต้องใช้แมชชีนก็ได้ จะบอดี้เวทก็มีครับ พวก วิดพื้น / ซิทอัพ / Burpee / ฟรีเวทต่างๆ … แต่ส่วนตัว ถนัดแมชชีนมากกว่า เพราะส่วนตัวสามารถโฟกัสได้ครับ
โดยคำแนะนำเพิ่มเติม คือการจดชื่อท่า จดน้ำหนัก และจำนวนครั้ง แล้วเมื่อเล่นไปได้ระยะหนึ่ง ให้ลองเพิ่มจำนวนครั้ง หรือจำนวนน้ำหนักทีละเล็กน้อย เพื่อการทำ “Progressive Overload” ที่จะส่งเสริมให้มีพัฒนาการในการแบกน้ำหนัก หรือความทนทานมากขึ้น พยายามอย่าหยุดกับที่เป็นระยะเวลานานๆ 1 เดือน ควรเพิ่มนิดหน่อยๆเป็นเควสท์ชาเล้นจ์ตัวเองไปด้วยครับ
แต่สุดท้ายแล้ว “พลัง ก็ไม่ใช่ทุกสิ่ง”

สิ่งสำคัญที่ต้องย้ำคือ แม้การฝึกร่างกายให้แข็งแกร่งจะช่วยเพิ่ม “เพดานพลัง” ของคุณให้สูงขึ้นอย่างมหาศาล แต่ในโลกของเบย์เบลดแล้ว “เทคนิค” ก็ยังคงเป็นสิ่งที่สำคัญกว่าเสมอ พลังที่มากมายแต่ไม่สามารถควบคุมทิศทาง หรือหาจังหวะการปล่อยที่ลงตัวได้ก็ไร้ประโยชน์
การฝึกฝนการปล่อยจริงซ้ำๆ เพื่อสร้างความแม่นยำและเข้าใจในตัวเบย์ของคุณจึงยังเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้…
ส่วนการมอง Beyblade ผ่านมุมมองของวิทยาศาสตร์การกีฬาไม่เพียงแต่ทำให้การเล่นสนุกขึ้น แต่ยังเปิดประตูสู่การ “พัฒนาตัวเอง” อย่างไม่มีที่สิ้นสุด
หวังว่าบทความนี้ จะทำให้คุณผู้อ่านที่สนใจอยากจะพัฒนาร่างกายเพื่อการเล่นเบย์เบลด ได้สาระไปไม่มากก็น้อยครับ …
เตรียมร่างกายให้พร้อม แล้วไปลุยกันเลย 3 2 1 GOOO SHOOOOT!!!
แอดมิน AK47
MB เมทัลบริดจ์ มีกลุ่ม เบย์เบลด แล้วนะครับ แวะไปร่วมพูดคุยหาเพื่อนเล่นกันได้ กับ
“เบย์เบลด BeyBladeX พูดคุย แบ่งปันข้อมูล หาเพื่อนร่วมเล่น by Metalbridges”
https://www.facebook.com/groups/878938780699006
#beybladex #kctoysbeybladex #beybladexthailand #ベイブレードX
-
Super Space Sheriff Gavan Infinityตำรวจอวกาศเกียบันร่างสีแดง ประเดิมความมันปี 2026
-
Ani-One เตรียมจัดรอบ Premiere Screening อนิเมะฟอร์มยักษ์ “Sentenced to Be a Hero ผู้กล้าโทษประหาร” ฉายตอนแรก “พากย์ไทย” 60 นาทีเต็มดูก่อนใครในโลก 8 ธ.ค. นี้!
-
Samurai Troopers: Armored Troopers [อนิเมะใหม่ / ซามูไรทรูเปอร์ / 2026]#News #Anime #SamuraiTroopers #Yoroiden #サムライトルーパー #Sunrise #อนิเมะใหม่2026 #BANDAI #Plamo




















































