SILENT HILL f
ระบบ : PlayStation 5 , Xbox Series และ PC
พัฒนาโดย : Konami / Neobards Entertainment
วางจำหน่าย : 25 กันยายน 2025
คลิป Silent Hill f ตัวอย่างสุดท้ายก่อนขายจริง
เกมนี้คือ?!

“Silent Hill f” มีแนวคิดหลักที่ว่า “งดงามในความสยอง” (Beauty in Horror) เกมนี้ต้องการรักษาองค์ประกอบ “ความสยองขวัญทางจิตวิทยา” ที่เป็นเอกลักษณ์ของซีรีส์ Silent Hill แต่จะนำเสนอฉากและสุนทรียศาสตร์แบบ ญี่ปุ่น อย่างเต็มตัว ทีมงานต้องการให้ผู้เล่นได้สัมผัสกับความขัดแย้งระหว่างความงามและความน่ากลัว โดยใช้ฉากและบรรยากาศแบบญี่ปุ่นเป็นเครื่องมือในการเล่าเรื่อง เกมนี้จะพาผู้เล่นเข้าสู่โลกที่เต็มไปด้วยความลึกลับและความสยองขวัญ ซึ่งซ่อนอยู่ภายใต้วัฒนธรรมและสถาปัตยกรรมญี่ปุ่น
เกมนี้มีฉากอยู่ใน ญี่ปุ่นยุค ทศวรรษ 1960 ซึ่งเป็นยุคที่ญี่ปุ่นกำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านทางสังคมและวัฒนธรรม เมืองหลักในเกมชื่อ Ebisugaoka ได้รับแรงบันดาลใจจากเมือง Hida Kanayama ในจังหวัด Gifu ซึ่งเป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานและมีสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิม
ทีมงานได้เดินทางไปยัง Hida Kanayama เพื่อถ่ายภาพและบันทึกเสียงสภาพแวดล้อมจริง เพื่อนำมาสร้างเป็นเมืองในเกมให้มีความสมจริงและมีชีวิตชีวา นอกจากนี้ Ryukishi07 ผู้เขียนเรื่องยังเลือกพื้นที่ Kinomachi ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเมืองสำคัญในเกม เขาประทับใจกับสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิมของ Kinomachi ที่สะท้อนถึงประวัติศาสตร์และการเปลี่ยนแปลงของญี่ปุ่นยุคอุตสาหกรรม ผสานความชนบทท้องถิ่นในอดีตด้วย
เรื่องราวนี้ถูกเขียนโดย Ryukishi07 ผู้สร้างซีรีส์ “แว่วเสียงเรไร” ซึ่งเขาตั้งใจที่จะสร้างเรื่องราวที่ “ตัวละครหญิงสามารถเลือกทางเดินของตัวเองได้” พร้อมกับสอดแทรกความลึกลับและปริศนาให้ผู้เล่นได้ขบคิด เรื่องราวของเกมนี้จะพาผู้เล่นไปสู่การตัดสินใจที่ทั้งสวยงามและน่าสะพรึงกลัว ซึ่งอาจส่งผลต่อชะตากรรมของตัวละครหลัก
Ryukishi07 กล่าวว่าเขาตื่นเต้นที่ได้ร่วมงานกับซีรีส์ SilentHill เนื่องจากเป็นแฟนเกมนี้ เล่นมาแล้วทุกภาค เจ้าตัวเผยว่าตื่นเต้น และตอนแรกคิดว่าคงไปแค่ช่วยงานเล็กๆ แถมยังไม่รู้ว่าจะเป็นเกมแนวทางไหน จนกระทั่งไปถึงที่หน้าบริษัท Konami ก็แปลกใจกับสิ่งที่พวกเขาต้องการจากคุณRyukishi07 เพราะพวกเขาต้องการสร้างเรื่องราวที่ทั้งสวยงามและน่าสะพรึงกลัวในธีมญี่ปุ่นแท้ๆ โดยเขาได้หารือกับทีมงานเกี่ยวกับแก่นแท้ของ SilentHill กับคุณ โมโตอิ โอคาโมโตะ นานนับชั่วโมง เพื่อให้เกมใหม่ยังคงความรู้สึกเดิมแม้ว่าจะอยู่ในฉากญี่ปุ่น
“Silent Hill f” จะนับเป็น “ภาคแยกในซีรีส์ Silent Hill” ซึ่งหมายความว่าผู้เล่นสามารถสนุกกับเกมได้โดยไม่จำเป็นต้องเล่นเกมก่อนหน้าในซีรีส์ เกมนี้ถูกออกแบบมาเพื่อดึงดูดทั้งแฟนเกมเก่าและผู้เล่นใหม่ โดยเน้นที่การสร้างประสบการณ์ใหม่ในโลกของ Silent Hill เน้นหนักที่ความสยองขวัญทางจิตวิทยากับบรรยากาศแบบญี่ปุ่นโบราณ พร้อมกับเรื่องราวที่เต็มไปด้วยความลึกลับและการตัดสินใจที่ท้าทาย
REVIEW 10/10
-เกมเพลย์ 3 /3
-งานภาพ 3/3
-ความชอบ 1 /1
**รีวิวนี้เขียนจากการเล่นในระบบ PC ลง Mod แปลไทยเพื่อความเข้าใจในเนื้อหา**
แต่ละด้านจะมีคะแนนเต็ม 3
1=ไม่ไหว / 2= พอได้ / 3=เยี่ยม
ถ้าจะหาเกมที่ “ตื่นรู้” ในความอัดอั้นตันใจของหญิงสาวยุคเก่าก่อน ที่สังคมตีตราว่าต้องทำอย่างนั้นอย่างนี้ และมีผู้ชายที่ทำตัวแย่ๆ มาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ประเทศญี่ปุ่นในยุคอดีตหลังสงคราม ทุกคนต่องต่อสู้ในภาวะกดดันสารพัด ผู้ชายต้องเข้มแข็ง สตรีต้องสนับสนุนในทุกมิติ…จนหลายบ้านหลงคิดว่าพวกเธอคือทรัพย์สมบัติ ปฎิบัติกับเธอราวกับไม่ใช่คนในครอบครัว…
Silent Hill f คือชื่อของเกมที่สมควรได้รับการจำกัดความว่า “Woke อย่างสร้างสรรค์” เพื่อให้คนที่เล่นได้ตื่นรู้ เห็นอกเห็นใจเพื่อนมนุษย์ด้วยกันไม่ว่าจะเพศสภาพใด แม้ว่าจะฉาบหน้าด้วยความน่าสะพรึงของงานออกแบบตัวละคร และแอคชั่นที่ดุเดือดมันส์มือก็ตาม… แต่ก็ยังไม่ทิ้งปมประเด็นที่เล่นกับจิตใจของสตรีเพศอย่างที่เคยเป็นมาตลอดในภาคหลัก เพียงแค่ว่า บรรยากาศ อาจจะแตกต่างไปจาากภาคก่อนๆเล็กน้อย…
และนี่คือสิ่งที่ตอกย้ำว่า นิยามของ”Silent Hill” ถูกเปลี่ยนไปแล้ว
เพราะ “มันไม่ได้เป็นแค่ชื่อเมือง…แต่เป็นผู้คนที่มีปมบางอย่างในใจ และถูกกระตุ้นให้เป็นรูปลักษณ์ของคำสาปที่น่าสยดสยอง คอยกัดกินจิตใจจนผุพัง”
เมื่อความสยองขวัญในตำนานถูกตีความใหม่ให้ Deep … Dark และ โคตร Fantasy สุดโต่ง

ท่ามกลางเมืองที่ถูกม่านหมอกหนาทึบเข้าปกคลุม เหล่าอสูรกายที่ถือกำเนิดจากความกลัวในจิตใจ และการเผชิญหน้ากับความมืดมิดอันน่ารังเกียจของตนเอง… นี่คือเอกลักษณ์ที่แฟนเกมสยองขวัญต่างคุ้นเคยกันดี และ SILENT HILL f ยังคงสืบทอด DNA และแก่นแท้ของซีรีส์ดั้งเดิมไว้อย่างครบถ้วน เผลอๆจะมันส์มือเกินไปหน่อยด้วยซ้ำ!

เรื่องราวของเกมเกิดขึ้นในทศวรรษ 1960 ณ “เอบิสึกาโอกะ” เมืองชนบทอันเงียบสงบแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น
เราจะได้รับบทเป็น ชิมิสึ ฮินาโกะ เด็กสาวมัธยมปลายที่ดูภายนอกเหมือนจะธรรมดา แต่กลับไม่สามารถใช้ชีวิตให้กลมกลืนกับคนรอบข้างได้ เธอต้องเผชิญหน้ากับความเจ็บปวดและความขัดแย้งในใจที่เกิดจากแรงกดดันรอบตัว ไม่ว่าจะเป็นพ่อที่ใช้อำนาจกดขี่ แม่ที่ยอมจำนนต่อพ่อเสมอ และความสัมพันธ์อันซับซ้อนในกลุ่มเพื่อนผู้หญิง , ความปราถนาของตัวเองที่คลุมเครือ และท่ามกลางความอึดอัดนั้น ฮินาโกะ ยังมี อิวาอิ ชู หรือ “คู่หู” ที่เป็นเพื่อนสนิทมาตั้งแต่เด็กและเป็นที่พึ่งทางใจเพียงหนึ่งเดียว ทว่า แม้แต่ความสัมพันธ์อันบริสุทธิ์นี้ก็ยังสร้างความอิจฉาริษยาจากคนอื่น และกลายเป็นอีกหนึ่งโซ่ตรวนที่พันธนาการเธอไว้
ฮินาโกะพยายามดิ้นรนต่อต้านพันธนาการเหล่านี้ แต่ยิ่งเธอต่อต้าน ก็ยิ่งถูกสังคมตราหน้าว่าเป็น “เด็กผู้หญิงที่ไม่สมหญิง” ทำให้ความทุกข์ทรมานยิ่งทวีคูณ จนกระทั่งวันหนึ่ง ชีวิตประจำวันอันแสนทรมานของเธอก็ได้พังทลายลงโดยสิ้นเชิง เมื่อม่านหมอกลึกลับได้เข้าปกคลุมทั่วทั้งเมือง การเดินทางเพื่อเอาชีวิตรอดและหลบหนีออกจากฝันร้ายในโลกต่างมิติจึงได้เริ่มต้นขึ้น
เกมนี้ จะว่า Woke ก็ใช่ครับ แต่เป็นการ Woke ที่สร้างสรรค์ และน่าสนใจ ด้วยธีมเกี่ยวกับความเป็นผู้หญิง และการแต่งงานถูกโยงอยู่ตลอดทั้งเกม
ฮินาโกะ ถูกนำเสนอให้ต่อต้านภาพลักษณ์แบบแผนของผู้หญิงในขนบเดิม มีความขบถ ไม่ยึดติดใดๆ
จุนโกะ (พี่สาว) ถูกนำเสนอให้เป็นภาพลักษณ์ของผู้หญิงที่สมบูรณ์แบบในความคิดของฮินาโกะ
หน้ากากจิ้งจอก แสดงให้เห็นถึงความหลงไหลของผู้ชายที่มีต่อผู้หญิงแบบไม่สนความต้องการของเจ้าตัวเลย
ขณะที่ พ่อแม่ของฮินาโกะ แสดงให้เห็นว่า ในสังคมยุคเก่า ผู้หญิง ถูกปฏิบัติเหมือนพลเมืองชั้นสอง ออกมาแบบไหนบ้าง…
Pacing การเล่าเรื่อง ตอนแรกอาจดูเชื่องช้าและน่าสับสน ราวกับว่าจังหวะของเรื่องและแรงจูงใจของตัวละครขาดๆหายๆไป แต่เมื่อองค์ประกอบทุกอย่างมาเปิดเผยในช่วงกลางๆเกม ไปจนระเบิดลงในช่วงท้าย ทุกอย่างที่เรารู้สึกหายๆไปนั้น มันสามารถเติมเต็มราวกับเปิดก๊อกน้ำแบบสุดปลอกได้เลย
ที่เหลืออยู่ที่ “เงื่อนไข” ของเกม และ “การรับสานส์” ของผู้เล่น ที่จะตีความฉาก หรือ Hidden Agenda ของเกมในแง่มุมไหน… อีกทั้งตัวเกมยังคง “ธรรมเนียมของซีรีส์” ด้วยงานดีไซน์เหล่าอสูรกายที่เป็น “ภาพสะท้อน” และปมในใจของตัวเอก การออกแบบของพวกมันจึงมีเอกลักษณ์และน่าจดจำ เดี๋ยวเราไปเขียนถึงช่วงท้ายๆบทความ เพื่อเป็นการกันสปอยล์ก็แล้วกันครับ
อย่างไรก็ตาม มีข้อสังเกตว่าตัวเกมค่อนข้างลดทอนการตายที่รุนแรง (Gore) ของตัวผู้เล่นเมื่อ HP หมด เมื่อเทียบกับความน่าขยะแขยงของดีไซน์ศัตรูที่ดูแล้วน่าจะฉีกผู้เล่นเป็นชิ้นๆได้แท้ๆ…แต่นางเอกตายแบบดูไม่หลอนเท่าที่ควร (ยกเว้นฉากวิ่งหนีทุ่งดอกฮิกัง ที่หน้าโดนเจาะเป็นรูๆ อันนี้หลอน เพราะเราได้จ้องตานางเอกบ่อยมาก 555)
เกมเพลย์ SILENT HILL f ยังคงเอกลักษณ์ของซีรีส์ด้วยการสำรวจแผนที่อันซับซ้อน (จนตาลาย) ภายใต้ม่านหมอกที่บดบังทัศนวิสัย การไขปริศนาที่คิดภาพตามว่า เราจะได้วิ่งจาก A-B-C-D-E เพื่อวนกลับไปแก้ในส่วนของ A -C-D-E-B สลับไปมา ชวนมึนมากๆ (รีวิวนี้เขียนในระดับความยากปริศนา HARD)
และการบริหารจัดการไอเทมที่มีอยู่อย่างจำกัด ทั้งยา อาวุธ ที่แสนจะกดดัน เมื่อเข้าสู่ช่วงกลางเกมแล้ว (ต้นเกมหวดกันเดือดไม่สนอาวุธพัง เพราะหาได้เรื่อยๆ) ด้วยระบบพวกนี้ ก็ได้สร้างบรรยากาศแบบ Survival Horror ที่กดดันและตึงเครียดอยู่ตลอดเวลา สมกับเป็น Silent Hill ที่เกมเมอร์ยุคเก่าๆคุ้นเคย แค่ไม่มีปืนให้ใช้เท่านั้นเอง…
และนั่นคือ “สิ่งที่ถูกยกระดับขึ้นมาเป็นพิเศษ” เพราะ ” ระบบการต่อสู้” ถูกใส่ใจมากขึ้น เน้นความดุดันและท้าทายยิ่งขึ้น ผู้เล่นจะใช้อาวุธระยะประชิดเป็นหลัก ตั้งแต่ท่อเหล็กอันเป็นสัญลักษณ์ของซีรีส์ ไปจนถึงอาวุธที่เข้ากับบรรยากาศชนบทอย่างเคียว ขวาน หรือค้อน โดยหัวใจสำคัญของระบบต่อสู้จะอยู่ที่กลไกสองอย่างคือ:
การหลบหลีก คือการหลบหลีกให้ตรงกับจังหวะที่ศัตรูโจมตี ซึ่งไม่เพียงแต่จะหลบได้พ้น แต่ยังช่วยฟื้นฟูค่าพลังกาย (Stamina) จนเต็ม และทำให้เกิดสภาวะสโลว์โมชันชั่วขณะ เปิดโอกาสให้ผู้เล่นตั้งหลักและมองการโจมตีถัดไปได้ง่ายขึ้น

การสวนกลับ คือการใช้ “โจมตีหนัก” ให้ถูกจังหวะกับการโจมตีบางรูปแบบของศัตรู (ศัตรูจะมีภาพซ้อนคลื่นสเปคตรัมสีรุ้งแว้บๆให้เห็น) หากกดสำเร็จ จะสามารถล้มศัตรูลงและสร้างความเสียหายได้อย่างมหาศาล นับเป็นกุญแจสำคัญในการเผชิญหน้ากับอสูรกายที่แข็งแกร่ง
นอกจากนี้ยังมีระบบ “การรวบรวมสมาธิ (Concentration)” ที่จะใช้เกจ “พลังจิต” เพื่อช่วยให้ผู้เล่นมองจังหวะของศัตรูได้ง่ายขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ถนัดเกมแอ็กชัน แต่ก็มาพร้อมกับความเสี่ยง หากถูกโจมตีระหว่างรวบรวมสมาธิ ขีดจำกัดสูงสุดของเกจพลังจิตจะลดลง เป็นระบบที่ต้องใช้ให้ถูกที่ถูกเวลา
และการที่ไม่มีแถบพลังชีวิต (HP) ของบอส ก็อาจเป็นความท้าทายสำหรับผู้เล่นบางคน แต่มันก็ช่วยเสริมความตึงเครียดในการต่อสู้ได้เป็นอย่างดี
ตัวเกมมีระดับความยากให้เลือกหลายระดับ แต่บอกเลยว่าง่ายสุดของเกมนี้ ก็ยังยากนะครับ เพราะผู้เล่นจะต้องโฟกัสกับการต่อสู้ไม่ต่างกันมาก แม้ว่าจะโดนดาเมจเบากว่า และของหาง่ายกว่าใน “โหมดเน้นเนื้อเรื่อง”
แต่ก็ทำเอาแอดฯดับคาจอมาหลายรอบไม่ต่างกับโหมด Hard ในเกมตลาดเลย
เพราะแก่นของระบบการต่อสู้ที่เน้นการอ่านจังหวะยังคงอยู่ครบถ้วนอย่างที่บอก แม้ว่าทีมพัฒนาจะออกมาบอกว่า “นี่ไม่ใช่เกมโซลนะครับ” แต่เอาเข้าจริง มันมีความคล้ายครับ ส่วนตัวยังมองเกมนี้ว่าเป็น Soul แต่มาแค่แบบเบาๆเท่านั้นเอง ถือเป็นการลองตลาด ลองอะไรใหม่ๆด้วย ก็ดีครับ เพราะเท่ากับว่า นอกจากลุ้นเนื้อเรื่องที่โคตรมันส์แล้ว ยังต้องมาลุ้นกับการดวลบอสด้วย
โชคดีที่เกมมีระบบอัพ Stats เล็กน้อย จากการเก็บป้ายขอพรที่ดรอปตามฉาก (แบบลึกลับ) และก็ยังมีการใส่ Omamori ถุงเครื่องรางสารพัดแบบที่ได้จากการสุ่มที่ศาลเจ้า ก็ช่วยให้กรต่อสู้สนุกขึ้น มีบัฟ มีกิมมิคเพิ่มเติมด้วย แนะนำว่าควรปลดล๊อกช่องใส่ถุง Omamori ให้เต็ม3 ช่องให้เร็วที่สุดครับ จะได้จัดคอมโบได้หลากหลาย และทำให้การต่อสู้สะดวกขึ้นมาบ้าง…
ส่วนงานภาพ ตัวเกมใช้ Unreal Engine 5 ที่การันตีเรื่องความสวยงาม และแม้คอมแอดฯจะเป็นสเปคเก่าเมื่อ 8 ปีที่แล้ว ( i5 Gen6 / Ram 8 / GTX 1070) ปรับกลางทุกค่า สามารถเล่นเกมนี้ได้อย่างลื่นไหล 35-60 fps แบบสวิงๆ และแอดมินได้มีโอกาสเห็นเครื่องคอมที่แต่งเต็ม และรันเกมนี้ ที่ 4k60fps บอกเลยว่าสวยตาแตกมาก แสงเงา ทุกอย่างดีงามไปหมด แต่ก็ยังมีจังหวะโหลดวัตถุช้าบ้าง ตามสไตล์ UE5 ครับ ซึ่งคอมแรงๆยังเจอ แล้วนี้คอมแอดฯสเปคเก่ารุ่นคุณลุง นี่เจอบ่อยครับ มีอาการเฟรมเรทร่วงอย่างเห็นได้ชัด…
ส่วนที่คิดว่าเป็นจุดสังเกตจริงๆ คือ “มุมกล้อง” และการจัดองค์ประกอบของช่วงการต่อสู้ โดยเฉพาะในที่แคบ กำลังนัวๆ พวกมาซวบข้างหลังแบบไม่เห็นตัว กลับเซฟหลายรอบมาก และยิ่งเรายืน “หันหลังให้วัตถุ” ด้วยหวังจะให้หลังพิงฝาเพื่อเซฟการโจมตีจากด้านหลัง กลายเป็นว่าหลายจังหวะเอง ก็เกิดมุมภาพอับสายตามากๆ แม้จะเป็นซีนกลางแจ้งก็ตาม…อันนี้โทษตัวเกมทั้งหมด100%ไม่ได้ ถ้ารู้ว่าเจอแบบนี้ พยายามอย่าเอาตัวเองไปอยู่ในมุมนั้นก็พอ 55+
สรุปโดยรวม Silent Hill f เป็นเกมที่เล่นแล้วถ้าคุณคิดตาม คุณจะได้อะไรกลับไปพอสมควร หรือย่างน้อยที่สุด คุณอาจจะได้ฉุกคิดถึงการ “ถนอมใจคน” ให้มากขึ้น เริ่มง่ายๆ…อย่าทำตัว “ส้นTeen แบบพ่อฮินาโกะ” ครับ 55+
ส่วนเกมเพลย์ที่เน้นไปที่ความเป็นแอคชั่นที่มีความยาก (แม้จะปรับง่ายสุดก็ตาม) แถมกว่าจะเล่นเก่งก็ใช้เวลาไม่น้อยเพื่อจับจุด รวมไปถึงข้าวของต่างๆมีวันหมด มีเสื่อมสภาพด้วย ทำให้มีความระทึกตื่นเต้นไม่น้อยในการบริหารจัดการ
ส่วนปัญหางานภาพก็ตามสไตล์ UE5 อย่างที่กล่าว แต่ก็ไม่ได้แย่ซะทีเดียว Optimize มาโอเค ไม่เจอปัญหาเกมเด้ง ค้าง แครช แม้จะเป็นคอมเก่า และคอมใหม่สเปคแรงก็รีดศักยภาพออกมาได้สวยงามน่าประทับใจในทุกองค์ประกอบ
เป็นอีกเกมที่เราอยากให้ 10/10 แบบไม่คิดมากครับ!
แอดมิน AK47
ข้างล่างนี้ สปอยล์เนื้อเรื่องจนจบแต่เล่าแบบย่อๆ นะครับ
เล่นไม่จบ ข้ามได้ข้ามเลย
-
-
-
-
-
-
-
-
-
เราเตือนคุณแล้ว
-
-
-
-
-
-
-
-
-
-
-
-
-
-
-
-
-
-
-
-
-
-
-
-
-
-
-
-
-
-
-
-
-
-
-
-
Spoiler Alert
เนื้อหาส่วนต่อไปนี้มีการเปิดเผยรายละเอียดสำคัญของเนื้อเรื่องทั้งหมด
เรื่องราวของ ฮินาโกะ เด็กสาวที่โตมาในบ้านของพ่อขี้เมาที่ก่อหนี้สิน แต่ทำตัวกร่างกับคนในบ้าน ไม่เคยยอมรับว่าตัวเองพลาดสร้างปัญหาจนครอบครัวแทบไม่เหลืออะไรเลย แม้แต่เงินเก็บของลูกเมีย และแม่ที่เอาแต่ยอมพ่อมาตลอด อีกทั้งพยายามให้ฮินาโกะยอมตามไปด้วย…พี่สาวก็แต่งงานออกเรือนไม่มารับรู้ปัญหาอะไรแล้ว..ทั้งๆที่พี่สาวเธอคือแสงสว่างในชีวิตของฮินาโกะที่มีในบ้านอันแสนเลวร้ายนี้ก็ตาม…
**ฉากคัตซีนแรกใน Silent Hill f เริ่มต้นด้วยฮินาโกะที่รำลึกถึงอดีตของเธอ ซึ่งเพื่อนๆ ของเธอปฏิเสธเธอเพราะเธอเล่นกับเพื่อนชายบ่อยมาก จนไม่มีเพื่อสาวในรุ่นเดียวกัน ทำให้ฮินาโกะต้องเล่นกับตุ๊กตาที่บ้าน…
ฉากตัดกลับมาที่ปัจจุบัน ฮินาโกะไปส่ง จุนโกะ พี่สาวเธอ ซึ่งตอนนี้แต่งงานแล้วและกำลังจะย้ายออกไป
ก่อนเกมจะเริ่มขึ้น มีฉากหนึ่งที่พ่อของเธอซึ่งเมาสุรากำลังโต้เถียงกับฮินาโกะ ฉากนี้สื่อให้เห็นว่าพ่อของเธอตัดสินใจให้ฮินาโกะแต่งงานเพื่อปลดหนี้ของครอบครัว
จากบันทึกประจำวันของเธอ ฮินาโกะมองพ่อแม่ว่าเป็นคนเห็นแก่ตัวอย่างมาก และเกลียดพ่อ ที่ตัดสินใจแทนเธอ
การแต่งงานแบบคลุมถุงชนครั้งนี้น่าจะเป็นต้นตอของความแค้นของฮินาโกะ ซึ่งเธอพยายามดิ้นรนเพื่อหลุดพ้นจากการควบคุมของพ่อ

หรือแม้แต่ในสังคมโรงเรียน เธอมีเพื่อนร่วมชั้น ที่เคยเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน แต่ก็มีอะไรในใจที่ไม่ชอบฮินาโกะอยู่
ทั้ง “รินโกะ” เพื่อนสนิท ที่เป็นเด็กเรียบร้อย หัวดี บ้านมีฐานะ อดีตที่บ้านเป็นศาลเจ้าประจำเมือง แต่แอบอิจฉาฮินาโกะที่สนิทกับ “ชู” เพื่อชายที่รินโกะหลงรัก
“ซาคุโกะ” เด็กสาวที่กลัวความมืด ปราถนาที่จะมีเพื่อนที่ดี ฮินาโกะเลยเข้ามาในชีวิตของเธอ แต่ทั้งคู่ก็เริ่มระหองระแหงกัน จากเหตุที่เธอไม่ยอมอ่อนข้อให้ในการวิ่งแข่งในคาบพละ ทั้งที่ตกลงกันแล้ว และนั้นทำให้เธอไม่ค่อยชอบฮินาโกะตั้งแต่นั้นมา แถมยังติดหนี้ 500 เยนฮินาโกะด้วย แต่ก็ไม่ได้ทวงอะไร…
และ “ชู” เพื่อนชายของฮินาโกะ ที่เป็นเพื่อนสมัยเด็ก ชูปฎิบัติต่อเธอด้วยความเป็นเด็กผู้ชาย ไม่ได้มองเธอเป็นเด็กผู้หญิงเลย ชอบเล่นเกมสู้กับเอเลี่ยน จากอิทธิพลของหนังสือการ์ตูน ดูเหมือนจะดี แต่หลายๆครั้งก็ทำให้ฮินาโกะอึดอัดใจ ซึ่งจริงๆแล้ว ชูแอบชอบฮินาโกะ และหวังจะปกป้องเธอจากทุกอย่างที่โดนกระทำมา…
ฮินาโกะเก็บกดความรู้สึกอึมครึมในหมู่เพื่อนนี้มาตลอด ตั้งแต่ม.ต้น จนเข้าม.ปลาย…
ทุกคน ยังอาศัยอยู่ในเอบิสึงาโอกะแห่งนี้…อีกทั้ง ฮินาโกะเองก็มักจะถูกสายตาของคนอื่นๆที่ทั้งรู้จัก และไม่รู้จักจ้องมอง เพราะความที่เธอหน้าตาดี และมีดีกรีนักวิ่งด้วย นั่นก็ยิ่งทำให้เธออึดอัดมากขึ้น…

วันหนึ่ง เมืองเอบิสึงาโอกะ ก็ถูกหมอกปกคลุมจนเป็นเมืองหมอก ที่มีอสูรกายเพ่นพ่าน และไล่เอาชีวิต ชู / รินโกะ และ ฮินาโกะ ต้องวิ่งหนีพวกมัน ไปพร้อมๆกับการไขความลับอันดำมืดในใจ…การไล่ล่าของพวกมันมีทุกที่…และหลายครั้งที่ฮินาโกะพลาดท่าจนสลบไป…
ทุกครั้งที่ฮินาโกะเกิดภาพตัด หรือมีอาการปวดหัว…เธอก็จะตื่นขึ้นมาใน “มิติศาลเจ้าแห่งความมืด” ที่นั่นมี “ชายสวมหน้ากากจิ้งจอก” นาม “โคโตยูกิ”ที่มีน้ำเสียงอ่อนโยน เป็นมิตร ค่อยปลอบประโลมจิตใจของฮินาโกะ จนเธอเริ่มรู้สึกคล้อยตามไปด้วยความหลงไหล…
สึเนกิ โคโตยูกิ มีควมเกี่ยวข้องกับฮินาโกะ โดยถูกระบุว่าโคโตยูกิเคยเป็นเพื่อนเล่นสมัยเด็กของเธอ โคโตยูกิถูกแกล้งเป็นประจำ และฮินาโกะก็คอยช่วยจากเด็กเกเรที่มาแกล้งเขาบ่อยๆ
มีครั้งหนึ่งเขาถูกจิ้งจอกไล่กัดในหมู่บ้าน ก็ได้ฮินาโกะเป็นคนไล่ไป จึงเกิดความประทับใจ แต่สุดท้ายต้องย้ายออกไปเพราะปัญหาส่วนตัว
-หากสังเกตใน Art Work โคโตยูกิ ร่างในโลกจริง จะมีแผลเล็กๆที่หน้า มาจากการถูกจิ้งจอกกัดในวัยเด็กนั่นเอง และภาพหน้ากากจิ้งจอก ก็น่าจะเป็นมโนภาพของฮินาโกะสร้างขึ้นมาจากความกลัวการเป็นเจ้าสาว แล้วมาแทนตัวโคโตยูกิที่จะเป็นเจ้าบ่าวของเธอจากการคลุมถุงชนครั้งนี้
- อนึ่ง ชื่อตระกูลสึเนกิ เล่นคำมาจากคำว่า คิสึเนะ ที่แปลว่า จิ้งจอก
เธอยอม โคโตยูกิ ทุกอย่าง ด้วยน้ำเสียงที่นุ่มละมุน พร้อมกล่าวว่าจะมอบทุกอย่างที่ทำให้เธอมีความสุข …ชีวิตที่ไร้สีสัน ไร้คนเหลียวมอง จะไม่เป็นแบบนั้นอีก และให้คุณค่าตัวเธอในฐานะผู้หญิงคนหนึ่ง ฮินาโกะเองก็เริ่มที่จะทำตามคำแนะนำของเขา…

ผู้นำทางปริศนาคนนี้ที่ดูเหมือนจะเข้าใจความเจ็บปวดของเธอ และเขาก็ได้ทำสิ่งที่เรียกว่า “พิธีชำระล้าง” ซึ่งแท้จริงแล้วคือการทรมานกายใจ และดัดแปลงเธออย่างโหดเหี้ยม เพื่อปลดปล่อยเธอจากพันธนาการ
ตั้งแต่ให้เธอทำการลงมือฆ่าเพื่อนทีละคนๆ ที่ถูกขังไว้ในศาลเจ้า ภาพสะท้อนถึงการทำลายความอาลัยอาวรณ์ของฮินาโกะ
ตัดแขนตัวเอง เปลี่ยนเป็นกงเล็บเทพจิ้งจอก สื่อถึงการตัดอำนาจการลงมือทำ การตัดสินใจ มอบให้เจ้าบ่าว
ตีตราประทับกลางหลังด้วยเหล็กร้อน สื่อถึงการยอมเป็นของเจ้าบ่าว
ถลกหนังหน้า เพื่อสวมหน้ากากจิ้งจอกเข้าไปแทน อันเป็นการยืนยันว่าเธอจะละทิ้งโลกเดิมของเธอ เพื่อพบกับความสุขกับโคโตยูกิ แบบที่ไม่มีสิทธิ์คิดอ่านใดๆได้
แม้จะเจ็บปวดเกินจินตนาการ และค่อยๆ สูญเสียความเป็นคน…แต่ฮินาโกะก็ใจอ่อน ยอมจำนนต่อคำพูดที่แสนดี และพลังที่มอบให้จากชายคนนี้โดยสิ้นเชิง เพราะสิ่งนี้ คือสิ่งที่เธอไม่เคยได้รับมาก่อน…
จาก “ชิมิสึ ฮินาโกะ” ที่เคยดิ้นรนต่อสู้ หัวขบถ ไม่ยอมเป็นแบบแม่ที่เชื่อฟังผู้ชายจนโงหัวไม่ขึ้น…เหลือเพียง “ฮินาโกะ” ที่ไร้ตัวตนและเป็นเพียงสิ่งของของเขา ไม่ต่างจากแม่ตัวเองเลย…

ในขณะที่ ฮินาโกะ ได้สติหลุดจากความฝันนั้น เธอตื่นมาในเมืองหมอก ก็พบว่าเมืองเริ่มถูกอสูรกายกลืนกินหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ แถมการเดินทางออกจากเมืองเหมือนจะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ก่อนหน้าเธอได้รับโทรศัพท์ที่บ้านของชู และรู้ว่าปลายสายคือบ้านของเธอเอง และมีเสียงของชูแทรกมา ทำให้คิดได้ว่า ชู และ รินโกะ อยู่ที่นั่นด้วย ก็เลยว่าจะกลับไปตั้งหลักที่บ้าน เพื่อพบพ่อแม่เธอ…
เมื่อไขปริศนาปมในใจที่ฉายภาพความรุนแรงในครอบครัวที่เกิดจากพ่อ
สุดท้ายปลายทาง เธอพบว่า ชู , รินโกะ , ซาคุโกะ ถูกฆาตกรรมอย่างโหดเหี้ยม
และพ่อแม่เธอ กลายเป็นอสูรกายที่น่าเกลียดรอต้อนรับฮินาโกะ…
พ่อแม่ที่พ่ายแพ้ต่อฮินาโกะ เดินออกจากบ้านไปโดยสงบในร่างเดิม ทันทีที่ทั้งสองออกจากประตูบ้าน ก็พบกับ ปีศาจสาวไร้หน้าในชุดแต่งงานสีขาว มันลงมือฆ่าพ่อแม่ของฮินาโกะต่อหน้า

เมื่อไล่ตามปีศาจไร้หน้าในชุดแต่งงานตัวเท่าบ้านที่ฮินาโกะเห็น จนในที่สุดเธอก็ได้รู้ว่า นี่คือ “ฮินาโกะ” ตัวตนอีกคนหนึ่งที่มาจากมิติศาลเจ้าแห่งความมืด เป็น “ปีศาจฮินาโกะ” ที่ยอมรับในโชคชะตาในการเป็นเครื่องสังเวยเทพเจ้า …ท้ายที่สุดแล้ว ร่างของ “ชิมิสึ ฮินาโกะ” ที่ต้องการมีชีวิตในแบบของตัวเอง และ “ฮินาโกะ” ที่ยอมจำนนต่อโชคชะตาในการเป็นเจ้าสาวของโคโตยูกิ ก็ได้แยกออกจากกันและต้องมาต่อสู้กันเอง
และ ฮินาโกะในร่างมนุษย์ ถูก ฮินาโกะร่างปีศาจ ฆ่าตาย…
**ความทุกข์ทรมานของฮินาโกะไม่ได้เกิดจากปมในใจของเธอเพียงคนเดียว (แบบใน SILENT HILL 2) แต่เกิดจาก “ความสัมพันธ์กับผู้อื่น” และ “บรรทัดฐานทางสังคม” ที่พยายามตีกรอบ “ความเป็นผู้หญิง” ให้กับเธอ ไม่ว่าจะเป็นพ่อที่กดขี่, แม่ที่ยอมจำนน, หรือเพื่อนที่อิจฉาริษยา , การบังคับแต่งงาน สิ่งเหล่านี้คือที่มาของเหล่าอสูรกายที่เธอต้องเผชิญหน้า พวกมันคือภาพสะท้อนตัวตนของคนที่สร้างบาดแผลให้กับเธอนั่นเอง
ผีตุ๊กตาผู้หญิงที่ถือของมีคม สื่อถืงเพื่อนหญิงที่คอยทำร้ายด้วยการกระทำ และคำพูดมาตลอด
ผีเลียหน้าที่ไม่มีหน้าตา สื่อถึงผู้ชายในเมืองที่ชอบส่งสายตามองเธอจนอึดอัด
ผีบางตัว สื่อให้เห็นถึงความเป็นป้าข้างบ้าน ที่ชอบนินทา
ผีหุ่นไล่กา คือภาพสะท้อนการหลงทิศทางของเพื่อนร่วมชั้นที่เกลียดฮินาโกะ จากข่าวลือปากหอยปากปูที่ส่งต่อๆกันไป โดยที่ฮินาโกะเองก็ไม่รู้ว่าไปทำอะไรให้
ผีตุ๊กตาร้องไห้หลายหน้า สื่อถึงความเป็นสตรีเพศที่สังคมอยากให้เธอเป็น (เพราะเด็กผู้หญิง ต้องเล่นตุ๊กตาในค่านิยมนั้น แต่เธอเกลียดมัน และทิ้งไปนานมากแล้ว)
ผีท้องแก่ คลอดดักแด้ คือการสะท้อนความเป็นแม่คน ที่เจ็บปวดของสตรีในยามคลอดบุตร และยังสื่อว่า เหล่าหญิงสาวที่แต่งเข้าตระกูลคนอื่นไปแล้ว ก็มีหน้าที่แค่เป็นเครื่องผลิตเด็กออกมา โดยไม่รู้ว่าผลลัพท์เด็กที่ออกมาจะรอดหรือไม่ มีชีวิตที่ดีหรือไม่ ซึ่งมีโน้ตของฮินาโกะ ตอนไปเยี่ยมพี่สาวที่กำลังตั้งท้อง หลังจากแต่งงานไปได้ราวๆปีกว่า สภาพพี่สาวแสนสวยของเธอในอดีต ดูโทรม และแตกต่างจากที่เธอรู้จักไปเยอะจนฮินาโกะกลัวตัวเองจะเป็นแบบนั้นไปด้วย
ความกังวลใจ ไม่สบายใจ กลัว เกลียด โกรธ ผสมปนเปจนออกมาเป็นภาพของปีศาจสารพัดรูปแบบที่ฮินาโกะเจอตลอดท่างนั่นเอง….
โดยฮินาโกะร่างอสูรกายนั้นสวมชุด “ชิโรมุคุ” (ชุดแต่งงานสีขาว) ซึ่งควรจะเป็นสัญลักษณ์ของความสุข แต่ในบริบทนี้มันคือสัญลักษณ์ของการถูกบังคับและสูญเสียตัวตนโดยสมบูรณ์**
และฮินาโกะในร่างปีศาจ ได้เดินทางกลับบ้าน ไปหาพ่อแม่เธอในอีกช่วงเวลาก่อนหน้า และกลับไป ฆ่าพ่อแม่อีก ครั้งด้วยเจตจำนงของเธอจริงๆ
(และถือเป็นตอนจบปกติของเกม แสดงให้เห็น ฮินาโกะ กำลังกลับบ้านไปหาพ่อแม่ เธอถูกพ่อปฏิเสธ โดยพ่อบอกว่า เธอน่ะไม่มีที่อยู่ในบ้านของพวกเขาแล้ว (เพราะเธอออกเรือนแล้วถือเป็นคนบ้านอื่น) จากนั้นเธอก็แปลงร่างเป็นปีศาจในชุดแต่งงานที่ฆ่าพ่อแม่ของตัวเอง)
- พ่อ ที่นอกจากจะโดนต้มตุ๋นจนเงินหมดบ้านแล้ว ยังมีการไปกู้เงินบางส่วนเพิ่มเติม เพื่อรักษาแม่ของฮินาโกะที่เป็นมะเร็งด้วย ทำให้การเงินที่บ้านขัดสน จนต้องยอมให้ฮินาโกะเป็นเจ้าสาวของตระกูลสึเนกิ เพื่อเอาสินสอดมาปลดหนี้
และตระกูลสึุเนกิ ก็จะได้ฮินาโกะที่เป็นหญิงสาวผู้เกิดในวันเดือนปีที่ดวงแข็งมาเสริมบารมีตระกูลตามความเชื่อด้วย
- อันที่จริงแล้ว พ่อที่โวยวายใส่ทุกคนในบ้าน แท้จริงแล้วเป็นการแสดงของพ่อที่ถูก “แม่” กดหัวอยู่ตลอดเวลา แต่ต่อหน้าลูก ต่อหน้าเพื่อนบ้าน จะต้องแสดงท่าทีที่เจ๋งแจ๋วตลอด มีในบันทึกหนึ่งระบุว่า แม่เกลียดพ่อมากๆถึงขั้นเอาน้ำผ้าขี้ริ้วมาชงชา หรือใส่อะไรแปลกๆในหม้อซุปให้พ่อกิน จากเอกสารนี้ ทำให้รู้ว่า “แม่ก็ไม่ใช่คนดีอะไรนัก” เพียงแต่ฮินาโกะมารู้ทีหลัง จากการเก็บบันทึกที่บ้านในการเล่นรอบหลังๆ
แต่ทว่า…ฮินาโกะในร่างมนุษย์ ตื่นขึ้นมาในมิติศาลเจ้าแห่งความมืด ราวกับถูกใครบางคน ส่งเธอช่วงเวลามาเพื่อแก้ไขบางอย่าง …
ที่นั่น ฮินาโกะได้เห็นโต๊ะหมู่พิธีบูชาเทพ เธอเดินตรงเข้าไปพังมัน พร้อมกล่าวโทษว่ามันคือต้นตอของความวิบัติที่เธอต้องพบเจอ ฮินาโกะพร่ำถึงการถูกช่วงชิงไป ทั้งเพื่อน พ่อแม่ เมืองที่เธอโตมา กลายเป็นแดนปีศาจไปแล้ว
ปีศาจ “ฮินาโกะ” ปรากฎตัวขึ้น และต่อสู้กัน
ฮินาโกะเอาชนะปีศาจลงได้…เธอกำลังจะเดินออกจากศาลเจ้าแห่งความืด พร้อมๆกับภาพหลอนที่มาจาก “ยา” ที่ชูให้เธอกินมาตลอด (ยาเม็ดฟื้น HP ไอเทมในเกม คาดว่าเป็นสารเสพติดประเภทกดประสาท)
ปลายประตูนั้น ฮินาโกะ ได้พบกับแสงสีแดง สลับน้ำเงิน ราวกับไฟรถตำรวจ… และ “ปีศาจฮินาโกะ” รออยู่ที่ปลายทาง
ฮินาโกะกรีดร้องด้วยความคลั่งแค้นให้กับทุกสิ่ง…
-END 1st-
ฉากหลังเครดิตเผยให้เห็น ภาพของสถานที่เกิดเหตุ และมีเครื่องหมายของตำรวจเข้ามาดูพื้นที่…
ส่วนฮินาโกะในฐานะผู้ต้องสงสัยก่อเหตุสังหารหมู่ในงานแต่งงาน และอยู่ในระหว่างการตามตัวมาดำเนินคดี
ซึ่งบ่งบอกเป็นนัยว่า เธอสติแตก จากการเสพยาเกินขนาด จนไล่ฆ่าคนในงานแต่ง…รวมไปถึงพ่อแม่ด้วย
**ยาที่ว่า ก็คือ กล่องยาระงับประสาท ที่ชูได้ยื่นกล่องแคปซูลให้ตอนเริ่มเกม ในเอกสารเกมระบุว่า ครอบครัวของชู เป็นคนจัดหายาตัวนี้ ให้ฮินาโกะมาตลอด**
ขยายความเรื่องยาของฮินาโกะที่ได้จากชูแบบเต็มๆ >> www.metalbridges.com/silent-hill-f-connects-main-canon/
สรุปคือ “ฮินาโกะ มีตัวตนอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริง” ปัจจุบันมีอายุ 20 ปี กำลังจะเข้าพิธีแต่งงาน และอาจเป็นผู้ก่อเหตุฆาตกรรมในวันพิธี โดนเธอลงมือทำร้ายชายสองคน
โดยหนึ่งในฝ่ายชายเสียชีวิตคาที่ และอีกรายชีพจรอ่อนมาก ซึ่งในคัตซีนนี้ ไม่ได้ระบุว่าใครตาย แต่มีความเป็นไปได้ว่าผู้ตายคือ โคโตยูกิ ที่เป็นเจ้าบ่าว ส่วนฝ่ายชายอีกคนไม่ทราบชื่อ แต่คาดว่าน่าจะเป็น ชู ที่เข้ามาห้ามปราม ซึ่งจะสอดคล้องภับภาพใน Ending 2
กล่าวคือ เรื่องราวทั้งหมดที่เราเล่นในเกม คือ “ภาพทับซ้อนความทรงจำครั้งเมื่อสมัยเรียน ม.ปลาย ที่ถูกบูลลี่ , ความไม่ชัดเจนของความสัมพันธ์ , ผสมปนเปไปกับอาการหลอนยา ที่เธอได้รับมาจากชูตั้งแต่ช่วงอายุ 16 และ เรื่องราวเหนือธรรมชาติของเมือง”
ซึ่งในตัวอย่างของเกมที่ปล่อยออกมา และช่วงกลางเกม ก็มีบทพูดของรินโกะกำลังหนีไปกับชู ที่บอกว่า “ก็ฮินาโกะ น่ะตายไปแล้ว”
ก็น่าจะหมายถึง “การตายของบุคลิกเดิมของเธอ” ไม่ได้ตายจริงๆโดยเธอเริ่มเก็บตัวและแทบจะไม่ยิ้มเลย ต่างจากในบันทึกประจำวันที่เธอดูจะเป็นคนมีอารมณ์ขันบ้าง ผ่านภาพการ์ตูนอธิบายเหตุการณ์ต่างๆ

โดย ฉากจบทั้งหมดนี้ ทางผู้เขียนเรื่องอย่าง Ryukishi07
ผู้สร้างซีรีส์ “แว่วเสียงเรไร” ได้ออกมายืนยันแล้วว่า…
“ทุกแบบ คือ TRUE ENDING
อยู่ที่ว่า ผู้เล่นจะพอใจกับฉากจบแบบไหน”
————————————————
ตอนจบ Ending 2
สามารถปลดล็อก The Fox Wets Its Tail ได้โดยการไม่กินยา Red Capsules แม้แต่เม็ดเดียว และ รับ Sacred Sword โดยไม่ต้องทำการชำระล้าง
The Fox Wets Its Tail เป็นฉากจบที่ดีในมุมของ ฮินาโกะ
เธอยืนหยัดต่อสู้กับ โคโตยูกิ ในร่าง “จิ้งจอกเจ็ดหาง” (ชิจิบิ) และ ความรักที่เขามีต่อเธอ
ฮินาโกะ ยืนหยัดเพื่อตัวเอง , ยืนยันความปรารถนาของตัวเอง แทนที่จะยอมจำนนต่อความต้องการของพ่อแม่ ที่จะให้ออกเรือน ทำให้โคโตยูกิต้องจำใจบังคับสู้
โคโตยูกิที่รักจริงจากปมวัยเด็ก แต่ได้ใช้อำนาจตระกูลมาสร้างสถานการ์ณให้เขาได้สมหวัง เป็นเหตุทำให้ฮินาโกะไม่พอใจมาก แต่ในฉากจบที่ 5 ฮินาโกะก็เปิดช่องให้โคโตยูกิพิสูจน์ตัวเองว่า วันหนึ่งถ้าจริงใจก็อาจจะตอบรับความรู้สึกได้…
ตลอดการต่อสู้ โคโตยูกิ เล่นบทเหยื่ออยู่ตลอด โดยกล่าวว่าเขาทำทุกวิถีทางเพื่อให้เธอมีความสุข โดยไม่ฟังความปรารถนาของฮินาโกะที่จะมีชีวิตเป็นของตัวเอง แม้ว่าฮินาโกะจะเอาชนะเขาได้ ยอมรับในความใจดีของเขาหลังการต่อสู้ แต่ความรักที่เขาต้องการจากฮินาโกะ กลับไม่ใช่สิ่งที่ฮินาโกะมีให้
ฮินาโกะ วิ่งออกจากศาลเจ้าแห่งความมืดไปพร้อมกับชู และเดินเล่นพูดคุยต่อในเมืองหมอกเอบิสึงาโอกะ และไม่ทราบชะตากรรมอีกเลย
ในฉากหลังเครดิต
รายการวิทยุชุมชนประกาศว่า มีน้ำพุร้อนเริ่มปะทุขึ้น และมีก๊าซพิษลอยฟุ้ง (เอกสารระบุว่า นี่คือต้นเหตุของโรคระบาดในเมืองเอบิสึงาโอกะ จนทำให้ผู้คนล้มตาย บ้างก็ย้ายออก)
*น้ำพุร้อนในเอบิสึกะโอกะมีปริมาณสารหนูสูงดังที่ได้กล่าวไว้ในเอกสารเมืองตอนต้นเกม *
**นี่อาจหมายความว่า โคโตยูกิ ที่เป็นจิ้งจอกเจ็ดหาง สูญเสียพลังการปกป้องเมือง เรื่องนี้เชื่อมโยงกับคำพูดของเขาที่ว่า “เขาบังคับตัวเองให้ปฏิบัติตามกฎของมนุษย์” เพื่อฮินาโกะ และทุกคน**
ตอนจบ Ending 3
สามารถปลดล็อกได้โดยการ ไม่กินยา Red Capsules แม้แต่เม็ดเดียว และรับ Agura no Hotei-sama ในศาลเจ้าแห่งความมืด หากผู้เล่นได้รับ Sacred Sword แล้วจำเป็นต้องชำระล้างเพื่อปลดล็อก
ตอนจบชื่อ “Fox’s Wedding” งานแต่งเจ้าสาวจิ้งจอก -เป็นฉากจบที่แย่ในมุมของ ฮินาโกะ
ฮินาโกะร่างมนุษย์ พ่ายแพ้ ถูกโคโตยูกิทำให้ดวงจิตแตกสลายจากโลกนี้ และปีศาจฮินาโกะยอมรับชะตากรรมของเธอในฐานะภรรยาของ โคโตยูกิ ตามความปรารถนาของพ่อแม่ การตัดสินใจครั้งนี้ส่งผลให้ ชู รับไม่ได้

สุดท้ายฮินาโกะก็ไม่ได้ชอบ หรือรักชู ในแบบหนุ่มสาว แต่ก็ยอมรับว่าเธอก็ไม่อยากเสียชูในฐานะเพื่อนคู่หูไปด้วย…
ชูขอร้องให้เธอช่วยเกลียดเขา อย่างน้อยจะได้ทำใจได้…หมอกสีดำคลุมร่างของชู…
ปีศาจฮินาโกะ ได้ต่อสู้กับ ชู ที่ฮินาโกะเห็นเป็นร่างจำแลงเทพ “ซึคุโมะงามิ”
ปีศาจฮินาโกะเอาชนะได้ ชู ยอมรับ โคโตยูกิ
จึงฝากฝังฮินาโกะให้เขาดูแล…
สองหนุ่มเคลียร์ใจกันได้ ปีศาจฮินาโกะเดินเข้าไปสวมกอดชายทั้งสอง และมองพระอาทิตย์ด้วยกันสามคน
ในฉากหลังเครดิต…
โคโตยูกิกำลังคุยกับฮินาโกะในชุดแต่งงาน แต่หนังหน้าของ ฮินาโกะ ที่ถูกทิ้งไว้กับพื้น กำลังกรีดร้องขอความช่วยเหลือ พร้อมบอกว่าเธอไม่อยากลงเอยเหมือนแม่ และก็ถูกเหยียบเละไป…
**ในความเป็นจริง ชูน่าจะพยายามทำลายงานแต่งงานของเธอโดยจัดหายาระงับประสาท (แคปซูลสีแดง) ให้เธอเพื่อทำให้ดูเป็นคนหลอนขี้ยา เพื่อที่เขาจะได้เก็บฮินาโกะไว้เอง
ซึ่งในโลกแห่งความจริง สามารถตีความได้ว่า ฮินาโกะแต่งงานสำเร็จ ชูยอมรับความจริงได้ว่าเธอไม่ได้รักเขา
ส่วนหน้าฮินาโกะที่กองกับพื้น อาจจะเป็นเสียงสะท้อนในใจที่เธอกดมันไว้ในงานแต่งงาน**
และนี่อาจจะเป็นฉากจบที่ดีที่สุด ในแง่ที่ไม่มีใครสูญเสีย เพียงแต่หวังว่า โคโตยูกิ จะรัก และดูแลฮินาโกะ เยียวยาจิตใจด้วยความดีของเขา
ฉากจบ Ending 4
สามารถปลดล็อกได้ในการเล่นรอบที่ 3 ขึ้นไป , ไม่กินยา Red Capsules แม้แต่เม็ดเดียว , ชำระล้าง “ดาบศักดิ์สิทธิ์” และ “มอบเข็มกลัด” ให้กับรูปปั้นจิโซ
ฉากจบนี้ มีชื่อว่า Ebisugaoka in Silence โดยฮินาโกะได้ท้าทายโชคชะตาครั้งใหญ่เพื่อใช้ชีวิตของตัวเอง , เธอเข้าใจในตัวโคโตยูกิ , และปีศาจฮินาโกะ ที่ถือเป็นตัวตนอีกด้านของเธอ และได้เรียนรู้ถึงพลังเทพเจ้าที่สูงกว่าที่เธอจะเข้าใจได้ ฮินาโกะจะได้ต่อสู้กับเหล่าเทพเจ้า ที่ปกป้องเมืองทั้ง 2 องค์ ได้แก่ “จิ้งจอกเก้าหาง” (คิวบิ)และ “สึคุโมะงามิ”

**การต่อสู้กับบอสในจบนี้ จริงๆ แล้วเป็นการต่อสู้กับบอสแบบ 6 เฟสโดยตัวละครที่ควบคุมจะสลับไปมาระหว่าง ฮินาโกะที่ต่อสู้กับเก้าหาง และฮินาโกะที่ต่อสู้กับสึคุโมงามิ โดยบอสแต่ละตัวมี 3 เฟส และคุณจะต้องสลับการควบคุมหลังจากผ่านไปแต่ละเฟส**

เหล่าทวยเทพได้เปิดเผยว่าฮินาโกะเป็นเด็กหายากที่ได้รับพลังศักดิ์สิทธิ์ซึ่งมาจากการเกิดของเธอภายใต้วันที่พระจันทร์สีน้ำเงิน ทำให้ทายาทของตระกูลสึเนกิตามหาเธอและ โคโตยูกิต้องรับเธอเป็นภรรยา เพื่อเสริมพลังให้เทพอินาริ
แต่ “เก้าหาง” และ “สึคุโมงามิ” คือเทพสององค์ที่ประทับอยู่ใน เอบิสึงาโอกะ มีความขัดแย้งกันมายาวนานนับพันๆปี
สุดท้าย ในตอนนั้นสึคุโมงามิเก็บงำความโกรธแค้นที่มีต่อเก้าหางไว้ แต่ไม่แสดงออกมานาน และก็อยู่แบบเขม่นกันไปเรื่อยๆ
ในเอกสารบันทึกของ ศาลเจ้าเซนเนน ระบุว่าครั้งหนึ่งศาลเจ้าแห่งนี้เคยบูชาต้นไม้พันปีในฐานะภาชนะศักดิ์สิทธิ์ จนกระทั่งถูกฟ้าผ่า เหตุนี้เองที่ทำให้ศาลเจ้าแห่งนี้หันไปบูชา “สิ่งเก่าแก่รองลงมา” ในเอบิสึงะโอกะนั่น คือ ศาลเจ้าอินาริ
ซึ่ง ซาคุโกะ ยืนยันในบันทึกของศาลเจ้าที่ถูกลืมว่า นี่คือศาลเจ้าเซนเนนดั้งเดิม พร้อมกับพรรณนาถึงต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ที่คำจุนเมืองนี้ไว้ในความเชื่อบรรพบุรุษ
เหตุการณ์นี้ทำให้ศรัทธาแห่งสึคุโมงามิ หลอมรวมกับศรัทธาแห่งอินาริ ซึ่งอาจทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่างเทพทั้งสอง อีกครั้ง (อาจเป็นเพราะว่ามนุษย์ ไปไหว้เทพกันแบบมั่วๆ ปนๆกันนั่นละ เหมือนเอาคนไม่ถูกกันมาอยู่ที่เดียวกัน) จนเริ่มมีปัญหากันในยุคนี้
และกลายเป็นต้นตอของความขัดแย้งใน Silent Hill f เพราะ พ่อแม่ของฮินาโกะก็ยกเธอให้แต่งงานกับโคโตยูกิ ดังที่เป็นนัยยะแฝงของฉากจบแรกสุด และทำให้ สึคุโมงามิ ไม่ถูกใจสิ่งนี้ ทำให้สองสาวฮินาโกะ กลายเป็นตัวกลางที่ต้องหยุดความขัดแย้งระดับเทพเจ้าไปโดยปริยาย
ฮินาโกะตอนนี้ มี สองคน “คนที่เป็นมนุษย์” และ “คนที่เป็นร่างปีศาจ” หลังจากเอาชนะเหล่าทวยเทพแล้ว โคโตยูกิ ได้ให้สองสาวออกจากศาลเจ้าไป ส่วนเรื่องเทพเดี๋ยวเขาจะไปเจรจากันเองภายหลัง
ก่อนจาก ฮินาโกะได้เปิดช่องไว้ว่า ถ้าความรักที่ โคโตยูกิ มีให้กันจริงๆ ซักวันเราคงได้เจอกันอีก
ทั้งสามคนสวมกอดกัน และภาพตัดมาที่ฮินาโกะได้กลับมายังเอบิสึงาโอกะ พร้อมกับปีศาจฮินาโกะ
ทั้งสองนั่งพูดคุยกันคว่าจะใช้ชีวิตต่อไปอย่างไร
ฮินาโกะร่างปีศาจ ยังคงรอวันที่จะได้พบกับโคโตยูกิ…
ฮินาโกะร่างมนุษย์ ไม่ได้ถูกผูกมัดด้วยโชคชะตาอีกต่อไป
เพราะตอนนี้เธอสามารถเลือกอนาคตของตัวเองได้แล้ว ยังคิดไม่ออกว่าจะเอายังไง…
เพียงแต่ เอบิสึงาโอกะ ยังคงจมอยู่ในหมอกสีเทาไม่มีวันจาง…
—————————————
“ชีวิตของผู้หญิง คือคุกชั่วนิรันดร์”
“กฎเกณฑ์แห่งบรรพกาล แข็งแกร่งยิ่งกว่าศิลา”
–เพลงจากฉากจบ 1st Ending–
ฉากจบ 5 : UFO

คำถามนึงในใจเลย น้องตุ๊กตาเป็นใคร!? ดูจะรู้ดีไปหมด แถมโผล่มาในจังหวะดีหลายรอบละ

เมืองแห่งประวัติศาสตร์และโบราณสถานที่เพิ่มความลี้ลับ
Ryukishi07 กล่าวถึงคานายาม่า ว่าเป็นเมืองที่สะท้อนการเปลี่ยนแปลงของกาลเวลา และหากพิจารณาในแง่ประวัติศาสตร์ เมืองนี้ก็เต็มไปด้วยร่องรอยของอารยธรรมโบราณ โดยมีการค้นพบโบราณวัตถุจากยุคโจมง (ประมาณ 14,000 – 300 ปีก่อนคริสต์ศักราช)
หนึ่งในจุดที่น่าสนใจที่สุดคือ หินใหญ่คานายาม่า ซึ่งเป็นหินขนาดใหญ่ที่นักวิจัยด้านโบราณดาราศาสตร์เชื่อว่า อาจเป็นหนึ่งในปฏิทินสุริยคติที่หายากของญี่ปุ่นโบราณ สิ่งเหล่านี้ยิ่งทำให้ คานายาม่ามีความลึกลับมากขึ้นไปอีก

นี่คือภาพร้านขนมจริงๆ ที่คานายาม่าในยามค่ำคืน (ไม่ใช่ภาพสกรีนช็อตในเกม)
คนพื้นที่ตื่นเต้นกับการถูกนำเสนอใน Silent Hill f
ชาวเมืองคานายาม่า ที่คุ้นเคยกับฉากในตัวอย่าง Silent Hill f ต่างให้ความเห็นว่าภาพในเกมนั้นเก็บรายละเอียดของเมืองได้อย่างแม่นยพ ผู้ใช้ X @sinonomeimori ยังกล่าวอีกว่า
“คานายาม่าไม่มีสถานที่ท่องเที่ยว ไม่มีความบันเทิง อากาศก็หนาว และประชากรเบาบาง ฉันเคยคิดว่าเมืองนี้คงค่อยๆ ร้างไปเรื่อยๆ แต่พอเห็นคนมากมายแสดงความสนใจในบรรยากาศของที่นี่และอยากมาเยี่ยมชม ฉันรู้สึกดีใจมาก ขอบคุณจริงๆ”
(ที่มา @sinonomeimori )
เรื่องราวนี้บอกอะไรเรา?

เรื่องราวของคานายาม่า สะท้อนให้เห็นว่าแหล่งท่องเที่ยวที่ไม่เป็นที่รู้จักหรือถูกมองข้าม อาจมีเสน่ห์และคุณค่าในตัวเองที่รอการค้นพบ เมืองชนบทแห่งนี้ไม่มีแหล่งบันเทิงหรือสถานที่ท่องเที่ยวตามกระแสนิยม แต่กลับมีบรรยากาศ ความลี้ลับ และประวัติศาสตร์ที่ดึงดูดความสนใจของผู้คนได้เมื่อถูกนำเสนอผ่านสื่อเกม หรือสื่อบันเทิง ในที่นี้คือเกม Silent Hill f
สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าประสบการณ์การเดินทางไม่ได้ขึ้นอยู่กับความโด่งดังของสถานที่เพียงอย่างเดียว แต่ยังขึ้นอยู่กับมุมมองของนักเดินทางที่พร้อมเปิดรับเรื่องราวใหม่ๆ อีกด้วย นอกจากนี้ ความสนใจจากภายนอกยังช่วยให้ชาวเมืองตระหนักถึงคุณค่าของชุมชนตนเอง ซึ่งอาจเป็นโอกาสในการพัฒนาให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีเอกลักษณ์
นอกจากนี้ เรื่องนี้ยังเป็นตัวอย่างของพลังของสื่อบันเทิง (Soft Power ที่แท้จริง) ที่มีอิทธิพลต่อการท่องเที่ยว ไม่แน่ว่า เกม Silent Hill f อาจทำให้ คานายาม่ากลายเป็นจุดหมายที่แฟนเกมและนักเดินทางต้องการมาสัมผัสด้วยตัวเอง เช่นเดียวกับกรณีของ ชิราคาว่า ที่กลายเป็นที่รู้จักมากขึ้นจาก”แว่วเสียงเรไร”
สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าเกม ภาพยนตร์ หรือวรรณกรรมสามารถทำให้สถานที่หนึ่งๆ เป็นที่สนใจและส่งเสริมเศรษฐกิจท้องถิ่นได้ นอกจากนี้ยังเตือนให้นักเดินทางลองมองหาสถานที่ที่ไม่ได้เป็นจุดหมายปลายทางกระแสหลัก แต่อาจเต็มไปด้วยเสน่ห์และเรื่องราวที่รอการค้นพบ ซึ่งอาจนำไปสู่ประสบการณ์ที่มีคุณค่าและแตกต่างจากการท่องเที่ยวแบบเดิมๆ
แอดมิน AK47

#SILENTHILL #KONAMI
©Konami Digital Entertainment
-
Super Space Sheriff Gavan Infinityตำรวจอวกาศเกียบันร่างสีแดง ประเดิมความมันปี 2026
-
Ani-One เตรียมจัดรอบ Premiere Screening อนิเมะฟอร์มยักษ์ “Sentenced to Be a Hero ผู้กล้าโทษประหาร” ฉายตอนแรก “พากย์ไทย” 60 นาทีเต็มดูก่อนใครในโลก 8 ธ.ค. นี้!
-
Samurai Troopers: Armored Troopers [อนิเมะใหม่ / ซามูไรทรูเปอร์ / 2026]#News #Anime #SamuraiTroopers #Yoroiden #サムライトルーパー #Sunrise #อนิเมะใหม่2026 #BANDAI #Plamo






































































