5 วิธีถนอมสายตา + หน้าคล้ำจากคอมพิวเตอร์ และสมาร์ทโฟน
11 เมษายน 2565 14:05 น.
Share on FacebookTweet about this on TwitterShare on Google+

 278291830_2213345585470667_3667453089101926960_n

จริงเป็นบทความที่แอดมินอยากจะเอามาเล่าสู่กันฟังนานแล้วครับ เพราะอย่างที่เราๆท่านๆทราบกันดีว่าการใช้ชีวิตทุกวันนี้ เอาจริงๆ เราอยู่กับ “หน้าจอ” มากกว่าครึ่งวัน ไม่ว่าจะจอทีวี จอคอม จอมือถือ หรือการนั่งเล่นเกมเป็นระยะเวลานานๆ ก็อาจจะส่งผลเสียต่อหน้าตาที่ดำขึ้น และสายตาที่แย่ลงได้ครับ 

 

CVS (3)

โดยทาง “ชายล์ดไวส์” (Childwise) ได้ทำการสำรวจเด็กและเยาวชนอายุระหว่าง 5-16 ปี จำนวน 2,000 คนจากที่ต่างๆ พบว่า เด็กวัยรุ่นหญิงใช้เวลากับหน้าจอ ซึ่งหมายถึงทั้ง มือถือ แท็บเล็ต ทีวี คอมพิวเตอร์ เฉลี่ยประมาณวันละ 7 ชม. 30 นาที ขณะที่เด็กวัยรุ่นเพศชายจะใช้เวลาอยู่หน้าจอมากกว่า เฉลี่ยวันละ 8 ชั่วโมง หรือประมาณ 1  ใน 3 ของเวลาในแต่ละวัน  (ข้อมูลจากทาง ไทยรัฐ)

 

 CVS (2)

โดยอาการที่เกิดกับสายตาจากการใช้สมาร์ทโฟน หรือ คอมพิวเตอร์นั้น เราเรียกรวมๆว่า “ซีวีเอส” (CVS -Computer Vision Syndrome)  หรือ “คอมพิวเตอร์ วิชั่น ซินโดรม” ที่ส่งผลถึงการมองเห็น แรกเริ่มคืออาการตาจะแดงๆ  มีอาการระคายเคืองตา ตาแห้ง เนื่องจากการที่กล้ามเนื้อรอบดวงตา และ ประสาทตาต้องทำการเพ่งจอตลอดเวลา 

 

Final F XV Ignis

หรือถ้าหนักขึ้นอีกระดับก็จะมีอาการ “ตาไม่สู้แสง” ประมาณว่าเดินกลางแดดต้องหยิบแว่นกันแดดมาใส่ (อันนี้แอดมินเป็นอยู่ ตามภาพเลย ไม่ได้ใส่เอาเท่นะ) และขั้นสุดท้ายก็จะแยกออกเป็นสองสาย ไม่ “ต้อลม / ต้อกระจก” หรือไม่ก็มีโอกาสถึงขั้น “ตาบอดถาวร” ได้เลย 

 

ซึ่งท่านที่กำลังอ่านบทความนี้ ถึงจะไม่ใช่เรื่องล้อเล่น แต่ก็อย่าเพิ่งตระหนกกันเกินไปครับ แอดมินมีวิธีดูแลสายตาแบบ “ทำเองได้ ง่ายจัง” (เพราะกำลังทำอยู่บางข้อ) มาฝากครับ

 

 

ภาพจาก http://attomanen.deviantart.com/art/The-tree-on-the-silent-hill-268121933

 

1 จำกัดการใช้งานในแต่ละวัน

เอาล่ะ จะเริ่มดูแลตัวเอง ก็ต้องเริ่มที่ตัวเองก่อนเลย ถ้าไม่ได้เป็นการทำงานที่เกี่ยวข้องกับหน้าจอทั้งวัน หรือนั่งเล่นเกมส์ ทำคอนเท้นท์ ดูตัวเลข สถิติ บลาๆๆๆ ก็น่าจะพอจำกัดการใช้งานได้ง่ายกว่าผู้ที่ทำงานสายดังกล่าว ในทางกลับกัน ต่อให้ทำงานหนักๆ เกี่ยวกับหน้าจอ จนเกิดอาการล้าสายตา ปวดตา  ก็น่าจะลองหาเวลาออกไปเดินเล่น ดูพวก “วัตถุระยะไกลๆ” หรือ “ต้นไม้ที่มีสีเขียว” หรือจะพักสายตาด้วยการกระพริบตารัวๆ หรือหลับตาซัก 1 นาที ก็น่าจะช่วยได้ ครับ อันนี้เชื่อว่าทุกท่านน่าจะลองทำได้ไม่ยากนัก

 

 

ภาพจาก https://betanews.com/wp-content/uploads/2016/10/Bored-gamer.jpg

 

2.การปรับความสว่างหน้าจอโทรศัพท์ / จอคอมพิวเตอร์ / หรือมอนิเตอร์

นอกจากการจำกัดเวลา หรือมองที่ไกลๆแล้ว เราเองก็ต้องสำรวจพื้นที่ๆเรากำลังใช้งานสมาร์ทโฟน หรือคอมพิวเตอร์ด้วยว่ามีแสงส่วางที่เพียงพอหรือไม่ เพราะถ้าใช้งานกับที่ๆมีแสงสว่างน้อย หรือห้องมืดๆ จะทำให้เราใช้สายตามากกว่าปกติ (พวกเกมเมอร์ห้องมืดนี่ต้องระวังเลย) 

 

แต่ในขณะเดียวกัน เราก็ไม่ควรใช้อุปกรณ์เหล่านี้ในที่ๆมีแสงสว่าง หรือแสงสะท้อนมากจนเกินไป เพราะแสงที่ว่า ก็จะรบกวนสายตา ทำให้เราต้องเพ่งหนักขึ้นกว่าเดิม ควรลองปรับค่าความเข้มของจอ และแสงสว่างในห้องให้เหมาะสมกับสายตา ซึ่งตรงนี้บอกยากครับ เพราะบ้านของแต่ละท่านก้มีความสว่างมากน้อยต่างกัน เอาเป็นว่า “เอาที่สบายตาก็แล้วกัน”

 

 

 

3.ปรับระดับความห่างของหน้าจอ กับระยะสายตา

อันนี้มีผลพอสมควร เพราะการที่เรานั่งชิดติดจอในระยะ 24cm. หรือหนึ่งไม้บรรทัด อาจจะไม่พอ เพราะจอคอมทุกวันนี้มีสีค่อนข้างสด และมีค่าความเข้มสูงกว่ายุคก่อนๆ ดังนั้น ให้เราลองเพิ่มระยะห่างออกมาอีกซักหน่อย และนอกจากนั้น เราควรปรับความสูงต่ำของหน้าจอให้อยู่ในระยะสายตา ถ้าให้ดี ก็ติดตั้งแผ่นกรองแสง หรือสวม “แว่นกรองแสงสีฟ้า” ก็จะทำให้สบายตามากขึ้น 

 

อันนี้ขออนุญาตหยิบยกท่อนหนึ่งของ รศ.นพ.นริศ กิจณรงค์ ภาควิชาจักษุวิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล คุณหมอท่านได้กล่าวในงานเสวนาสุขภาพซึ่งจัดโดย Dr.Eyes Film by Vox  ว่า

 

“วิธีป้องกันจอประสาทตาเสื่อมจากการใช้คอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต และสมาร์ทโฟน คือใส่แว่นตาที่ป้องกันแสงยูวี หรือลดความสว่างหน้าจอคอมพิวเตอร์ เพราะความสว่างหน้าจอที่มากปริมาณยูวีก็มากขึ้นด้วย อีกทางเลือกหนึ่งคือติดฟิล์มที่หน้าจออุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่ช่วยลดแสง UV400/UVA1 เป็นการป้องกันไม่ให้ดวงตาสัมผัสแสงเหล่านี้โดยตรง และควรพักสายตาทุก 12 ชั่วโมง ประมาณ 5 นาที” (ที่มา สสส.)

 

 

 

4.กินอาหารบำรุงสายตา

การกินอาหารบำรุงสายตา สามารถหากินได้ไม่ยากในกรณีอาหารหลักในแต่ละมื้อ เพราะผักทุกชนิดมีคุณสมบัติที่เสริมสร้างเกลือแร่ การซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ และการเติมเต็มสารต่างๆที่อยู่ในร่างกาย ดังนั้น หากเป็นไปได้ ควรหาผักต่างๆมาทานในมื้อเย็น โดยเฉพาะพืช ผักที่มีสีเหลือง หรือสีส้มที่ให้ค่าวิตามินA  ซึ่งนอกจากสรรพคุณที่กล่าวมาแล้ว ยังมีส่วนช่วยในระบบขับถ่าย และสร้างให้ผิวพรรณดีขึ้นอย่างช้าๆ 

 

หรือการทานอาหารเสริมก็ช่วยได้ ทั้งน้ำผลไม้รวม วิตามินรวมอัดเม็ก แต่ก้ต้องเน้นไปที่ค่าวิตามิน A สูงๆ ถ้ามีการทานควบคู่ พร้อมกับการพักผ่อนที่เพียงพอ ก็จะยิ่งดีต่อตัวคุณแน่นอนครับ อ้อ เกือบลืม การดื่มน้ำเปล่าเยอะๆ ก็ช่วยได้มากเหมือนกันนะครับ

 

 

ภาพจาก https://d6u22qyv3ngwz.cloudfront.net/ad/7Ni7/gold-bond-mens-lotion-the-face-large-4.jpg

 

5.หาครีมลดความหมองคล้ำของใบหน้า

มาถึงข้อนี้แล้ว แอดมินไม่ได้จะโปรโมทขายครีมหรืออะไรอย่างที่เกลื่อนในหน้าเฟซบุ๊กแน่นอน แต่ก็ต้องยอมรับว่าตัวเองห่างจากของพวกนี้เยอะ (เกมเมอร์หลายๆท่านก็คงเป็น) แต่ตามข้อมูลที่ได้มา ถึงแม้ว่าแสงจากจอคอมจะไม่ได้มีความแรง และโหดเทียบเท่าแสงอาทิตย์ แต่ถ้าเราใช้จอคอม จอสมาร์ทโฟนเป็นเวลานานๆทุกๆวัน ซ้ำไปซ้ำมา มันก็เกิดอาการสะสม จนหน้าดำ ถุงใต้ตาหย่อน ตาโพลงเป็นผีจูออนก็ไม่ดีแน่

 

 สิ่งที่ต้องทำก็คือการใช้ครีมบำรุงที่มีค่า SPF ค่า PA หรือ PABA ที่เหมาะสม หรือไม่ก็พวก “ซันบล๊อก” (ครีมกันแดด) ที่ขายในเซเว่นก็ดีครับ เพราะพวกนี้มีมาตรฐานความปลอดภัยสูงกว่า(สูงกว่าพริตตี้ขายครีมบนเฟซละกัน เอางี้ดีกว่า) 

 

แต่ว่าก็ต้องระวังครับ ไม่ควรใช้บ่อยๆ และใช้ไม่เยอะครับ (เอามาทาหน้า ไม่ได้ทาตัว) เพราะในครีมประเภทนี้บางชนิดก็มีสารก่อมะเร็งได้ เดี๋ยวกลายเป็นว่า สายตาดี แต่เป็นมะเร็งตายซะก่อน ก็ไม่ไหวนะครับ 555+

 

 

—————————-

 

ทั้งหมดนี้เป็นวิธีดูแลสายตา และกันหน้าดำ (55) เราอาจจะไม่ต้องเป๊ะทุกข้อ ทำตามเท่าที่จำเป็น ทำตามเท่าที่ทำได้ครับ ค่อยๆเป็นค่อยๆไป แล้วสายตาของเราจะไม่เสีย(มากไปกว่านี้) แน่นอนครับ

 

 

แอดมิน Ak47