5 สิ่งที่ทำให้ Call of Duty : Modern Warfare เป็นเกมเดินหน้ายิงยอดเยี่ยม!
30 มีนาคม 2563 18:55 น.
Share on FacebookTweet about this on TwitterShare on Google+

CODMW (4)

หากพูดถึงซีรี่ส์เกมเดินหน้ายิงที่เชื่อว่า“อยู่ในใจ” ของแอดมิน เกมเมอร์หลายๆคน ชื่อของ Call of Duty จะต้องติดในความทรงจำอย่างแน่นอน แต่ถ้าให้ลงลึกไปอีกว่า “ภาคไหนดีที่สุด” แอดมินเชื่อว่าคำตอบของแฟนๆ COD ส่วนมากก็ต้องบอกว่า Modern Warfare ไตรภาค อย่างแน่นอน…

 

แล้วอะไรที่ทำให้มั่นใจได้ขนาดนั้นล่ะ เรามาดูกันแบบสั้นๆรวบยอด ใน “5 สิ่งที่ทำให้ Call of Duty 4 : Modern Warfare เป็นเกมเดินหน้ายิงยอดเยี่ยม!” กันดีกว่า…

 

CODFMW12

1. หลุดจากสงครามโลก!

ในสมัยที่ COD MW วางขาย เป็นยุคที่เกมเดินหน้ายิงมีมากมายหลายธีมมาก แต่ที่เจอบ่อยสุดๆคือ ธีมสงครามโลกครั้งที่สอง กับธีมแนวไซไฟอวกาศสุดไฮเทค ซึ่งเป็นอะไรที่ตรงกันข้ามมากๆ และการมาของ COD MW ก็ได้ฉีกแนวเกมเดินหน้ายิงในตอนนั้น ด้วยธีมการรบที่สมัยใหม่ ใกล้ตัว และเล่นประเด็นการก่อการร้ายที่กำลังเป็นข่าวในทั่วโลก

 

 

 

COD_MW_03-625x350

 

2. เนื้อเรื่องที่เข้มข้น 

ถือว่าเป็นเกมที่ทำเนื้อเรื่องออกมาได้น่าสนใจ มีความสนุก และฉลาดในการเล่น โดยตัวเกมจะพยายามเล่าเรื่องหลายสถาณการณ์ ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ใกล้ๆกัน พอให้คนเล่นเอาไปปะติดปะต่อเนื้อเรื่องเอา และทวีความพีคในภาคสองที่มีฉากใกล้จบที่หักมุม การไล่ล่าที่เหมือนดูหนังแอคชั่นฟอร์มใหญ่ และแม้ว่าภาค 3 จะจางๆลงไปบ้าง แต่บทสรุปเนื้อเรื่องที่เข้มข้น และสูญเสียตัวละครหลัก ทำให้เกิด Impact กับคนที่ตามซีรี่ส์ MW ตั้งแต่ภาคแรก และจบลงอย่างสวยงามบนซากปรักหักพัง…

 

CODMW22

3. มีซีนน่าจดจำหลายซีน เล่นใหญ่อลังการ

นอกจากเนื้อเรื่องที่เข้มข้นยอดเยี่ยมแล้ว เรายังได้ฉากจำติดตาหลายฉาก นับตั้งแต่ฉากแรกที่โรยตัวจากเฮลิคอปเตอร์ที่ภารกิจกลางทะเล ฉากแรกใน MW ภาคแรก ฉากนิวเคลียร์ดอกเห็ดในตะวันออกกลาง ฉาก No Russian ที่สะเทือนจริยธรรมคนในวงการเกมมาแล้ว ฉากการสู้รบที่เยอรมัน การบังคับเครื่องบินทิ้งระเบิด อเมริกาโดนรัสเซียถล่มยับ หรือแม้แต่ฉากการหักหลังของนายพล และการตายของตัวลเอกในเรื่อง ก็ล้วนเป้นที่จดจำ และยังคงขนลุกได้เสมอเมื่อถูกกล่าวถึง…

 

 

 

4. เพลงประกอบโดย  Hans Zimmer!!

ฉากจำ ซีนขายว่าพีคแล้ว ส่วนที่ทำให้เกมนี้พีคถึงขั้นได้รับการยกระดับให้เป็นเกมที่น่าจดจำ คงหนีไม่พ้นเรื่องเพลงประกอบ ฝีมือของ Hans Zimmer นักประพันธ์เพลงชื่อดังจากวงการภาพยนตร์ นักแต่งเพลงคู่ใจของคริสโตเฟอร์ โนแลน คนนี้ได้สร้างเพลงประกอบที่ติดหูมากๆ โดยเฉพาะในภาค 2 เพลงประกอบ มีส่วนในการดึงอารมณ์ฮึกเหิม ดุดัน ปลุกใจ สิ้นหวัง เรียกว่าใช้งานลุงแกโคตรคุ้มเลยก็ว่าได้…

 

 

Call of Duty  Advance Warfare (4)

5. เกมเพลย์เข้าใจง่าย Gunfight ที่โคตรมันส์

เกมเพลย์คือสิ่งสำคัญของการเล่นในทุกๆเกม ในเกม COD MW ก็เช่นกัน ตัวเกมได้ปรับระบบให้เข้าถึงง่าย เข้าใจง่าย การยิงปืนจากจุด Aไปยังที่กำบังจุด B ทำได้ลื่นไหล ท้าทายมากๆ (ในสมัยนั้น) แถมยังเป้นเกมแรกๆที่ใช้ระบบเข้าที่กำบังแล้ว HP ฟื้นเอง ไม่ต้องวิ่งหากล่องพยาบาลเหมือนเกมยิงในยุคเดียวกัน ทำให้เกมเพลย์ค่อนข้างต่อเนื่อง และมีสมาธิจดจ่อกับสิ่งที่ตัวเกมนำเสนอได้มากขึ้นไม่ต้องพะวงไปกับการหากล่องฟื้นเลือดให้อารมณ์สะดุดกัน…รวมไปถึงระบบมัลติเพลย์ที่ฉับไว ยิงกันนัดสองนัด รู้เรื่องแล้ว แถมยังมีระบบ Streak ที่เป็นรากฐานสำคัญของระบบ multiplayer ของ COD แม้ว่าแผนที่จะเล็ก และยังไม่เร้าใจเท่า Battlefield 2 ที่แมปกว้างใหญ่ เล่นนานๆ เล่นเอามันส์ แถมเสียงปืนแน่นกว่า ฟังดูสมจริงกว่า COD (ที่ไปอัดจากเสียงปืนจริงๆก็ตาม) แต่สิ่งที่ COD ทดแทนคือความเข้าใจง่ายอย่างที่กล่าวมานั่นละครับ แปปๆก็เล่นเป็นละ…

 

 

—————

Official Call of Duty®  Modern Warfare® (4)

จริงๆโพสนี้ไม่มีอะไรมากครับ แค่อยากจะอวยภาค Modern Warfare นั่นแหละ เอาจริงๆมันเป็นเกมที่ทำให้แอดมินเข้าสู่วงการเกมอย่างจริงจังเลยก็ว่าได้ เก็บทุกรายละเอียด ทุกเนื้อหาเส้นเรื่อง เล่นมาก็หลายรอบอยู่เหมือนกัน เลยอยากถ่ายทอดให้เพื่อนๆได้รู้ว่าทำไมเกมนี้มันถึงเจ๋งในความรู้สึกของแอดมิน…

 

 

 

แอดมิน AK47