หลังจากตอนจบของ Transformers: Rise of the Beasts ทาง Paramount ได้ออกมายืนยันอย่างเป็นทางการที่งาน CinemaCon 2024 ว่าภาพยนตร์ครอสโอเวอร์ระหว่าง Transformers และ GI Joe จะเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ในปี 2025 -2026
แม้ว่าเราไม่ได้รู้อะไรเพิ่มเติมเกี่ยวกับภาพยนตร์เรื่องนี้ แต่ก็ได้รับการยืนยันแล้วว่า สตีเว่น สปีลเบิร์ก จะเป็นผู้บริหารฝ่ายอำนวยการสร้างของโปรเจ็กต์นี้ และ ลอเรนโซ ดิ โบนาเวนตูรา /ไมเคิล เบย์ จะรับหน้าที่เป็นผู้อำนวยการสร้าง
ช่วงเวลาสุดท้ายของภาพยนตร์ Transformers: Rise of the Beasts ถือเป็นจุดเริ่มต้นของครอสโอเวอร์แฟรนไชส์ที่น่าสนใจ ตัวละครหลักของภาพยนตร์เรื่องนี้อย่าง โนอาห์ (แอนโทนี่ รามอส) ได้ถูกเชิญให้เข้าร่วมทีมลับสุดยอดของ จีไอ โจ
และตอนนี้The Hollywood Reporterได้รายงานว่า ดีเรค คอนนอลลี่ มือเขียนบทจาก Jurassic World, Kong: Skull Island และ Detective Pikachu จะมาทำบทภาพยนตร์เรื่องนี้ ซึ่งมีข่าวลือมาว่าอาจนำแสดงโดย คริส เฮมเวิร์ธ และยังไม่ระบุบทด้วย
ภาพยนตร์เรื่องนี้จะตั้งเป้าไปที่การควบรวมแฟรนไชส์ของเล่นดังของฮาสโบร กับการเอาหุ่นยนต์ มารวมกับฟิกเกอร์ทหารที่มีคาแรคเตอร์ระดับคลาสสิคขวัญใจอเมริกันชน ซึ่งพล๊อตไม่ต้องเดาอะไรมาก ทีมออโต้บอทส์และจีไอโจต้องร่วมมือกันเพื่อต่อสู้กับ “คอบร้า” และ “ดิเซปติคอนส์” ถ้าอิงจาก หนังสือการ์ตูนในช่วงหลายทศวรรษที่ Marvel และ IDWเขียนมาหลายเล่ม ก็น่าจะมีเนื้อหาที่ย่อยง่าย แต่มีความซับซ้อนในแง่ของความสัมพันธ์ตัวละครไม่มากก็น้อย
ย้อนกลับไปที่ Rise of the Beasts ที่มีเซตติ้งเกิดขึ้นในปี 1994 ดังนั้นจึงมีพื้นที่เหลือเฟือให้ทำงานภายในไทม์ไลน์ เนื่องจากภาพยนตร์ Transformers ภาคแรกเริ่มต้นในปี 2008
จริงๆแล้ว Transformers เคยครอสโอเวอร์ข้ามเรื่องกันมาแล้วกับแฟรนไชส์อื่นนอกจาก จีไอโจ เช่น Ghostbusters, My Little Pony และ Star Trek แต่หมดอยู่ในรูปแบบหนังสือการ์ตูน และการมาของโปรเจคท์นี้ ทำให้แฟนๆหุ่นเหล็กจักรกลเอเลี่ยน ต่างพากันตั้งความหวังเอาไว้สูง เพราะสองแฟรนส์ไชส์ที่ว่า ก็มีฐานแฟนที่เหนียวแน่น และพร้อมจะรุมสับแหลก ถ้าไม่ถูกใจขึ้นมา
นี่คือการเดิมพันที่เสี่ยงมากๆอีกครั้งของทีมสร้างภาพยนตร์ ทั้งตัวสปีลเบิร์กเอง หรือแม้แต่ตัวไมเคิล เบย์ ที่เป็นผู้อำนวยการสร้างก็ตาม…
ภาพยนตร์เรื่องนี้มีแนวโน้มอย่างมากที่จะเป็นภาคต่อไปของแฟรนไชส์ Transformers ต่อจาก Rise of the Beasts และเล่าเรื่องต่อจากฉากจบทันที แต่อาจจะมีการเล่าข้ามไทม์ไลน์มากน้อยแค่ไหน อันนี้ต้องติดตามกันให้ดี หากมีอัพเดทจะนำเสนอในโอกาสต่อไป
แอดมิน AK47
#Transformers #RiseoftheBeasts #TransformersxGIJOE
-
รางวัลสุดยอดเกมแห่งปี Game Awardsเปิดโผผู้เข้าชิง The Game Awards ทุกสาขาอย่างเป็นทางการ
-
Resident Evil 9 : Requiem [Preview / สั่งซื้อแผ่นเกม / ราคา / วันวางขาย]27 กุมภาพันธ์ 2026
-
BEYBLADE X : ผู้ใหญ่ vs เด็ก Mindset ที่ดี… “ใส่เต็มที่ มีประโยชน์ในด้านพัฒนาการเด็ก”เชื่อว่าตามงานแข่ง BEYBLADE X มีหลายครั้งที่เห็น ผู้ใหญ่ลงสนาม แล้วต้องไปเจอกับคู่ต่อสู้เป็นน้องๆเด็กๆ คงมี หลายคนคงแอบมีเสียงในหัวดังขึ้นมาแบบอัตโนมัติว่า “ถ้าชนะ เดี๋ยวก็โดนว่าเก่งแต่กับเด็ก… แต่ถ้าแพ้ก็จะถูกมองว่ากระจอกซะงั้น” ซึ่งเป็น Mindset แบบเดิมที่หลายคนยังติดอยู่ และจริงๆ มันค่อนข้าง “ผิดฝั่ง” กับความจริงของสนามเบย์เบลดพอสมควร การแข่งขันเบย์เบลด แม้จะถูกมองว่าเป็นกิจกรรมสำหรับเด็ก แต่ในความเป็นจริงแล้วเป็นพื้นที่เรียนรู้ทางสังคมที่เปิดโอกาสให้ผู้เล่นทุกวัยสามารถมีส่วนร่วมภายใต้กติกาเดียวกัน อุปกรณ์ใกล้เคียงกัน และโครงสร้างการแข่งขันที่บางรายการไม่มีการแบ่งแยกอายุ ซึ่งมันก็ส่งผลให้เกิดคำถามสำคัญในบริบทแบบไทยๆเราว่า “ผู้ใหญ่เนี่ย ควรแข่งขันเต็มที่กับเด็กขนาดนั้นเลยหรือเปล่า?” แม้แต่ตัวแอดมินผู้เขียนเอง ก็เคยมีความคิดนี้ในหัวครับ จนกระทั่งได้ตกตะกอนหลายๆอย่าง และนั่งพิจารณาตามความเป็นจริงที่ประสบพบเจอ จนออกมาเป็นบทความที่จะพามา ปรับทัศนคติ และเพิ่มมุมมองของ พฤติกรรมของผู้ใหญ่ เด็ก และผู้ปกครองในบริบทของการแข่งขัน BEYBLADE X ซึ่งทางแอดมิน อยากจะเสนอไอเดียที่ว่า “การแข่งขันแบบ ไม่ออมมือกับเด็กๆ” เป็นแนวปฏิบัติที่เหมาะสมกว่า และเป็นประโยชน์ต่อพัฒนาการเด็กในหลายมิติครับ 1. เลิกได้เลิกนะ…ไอ้วัฒนธรรมความคิดในสังคมไทย: “ชนะเด็ก รังแกเด็ก ไม่สมเป็นผู้ใหญ่เอาซะเลย!” ทัศนคติที่พบได้ทั่วไปในสังคมไทย […]





























