รวมข้อมูลของ Tokyo Ghoul ที่ควรรู้
14 ธันวาคม 2559 17:24 น.
Share on FacebookTweet about this on TwitterShare on Google+

Tokyo_Ghoul_Fact_01

 

 

Tokyo Ghoulเป็นผลงานมังงะที่โด่งดังอีกหนึ่งเรื่องทั้งในญี่ปุ่นและบ้านเรา   มีการพูดถึงความคืบหน้าของเนื้อหากันทุกๆ อาทิตย์ตามเว็บบอร์ดต่างๆ แถมเนื้อหาภายในเรื่องก็ทิ้งปริศนาท้าท้ายความคิดของแฟนๆ เอาไว้มากมาย 

 

 

สำหรับบทความนี้จะขอนำเสนอ “ข้อมูลของ Tokyo Ghoul ที่ควรรู้” เอามาให้ได้อ่านกัน  ส่วนจะมีอะไรบ้างนั้น… มาดูกันเลย

 

 

 

Tokyo Ghoul  : Manga

 

 

Tokyo_Ghoul_Fact_02

 

Tokyo Ghoul คือผลงานมังงะที่วาดโดย อ. Ishida Sui ซึ่งผลงานเรื่องนี้ได้วาดออกมาเป็น 2 ภาคด้วยกัน  โดยครั้งแรกใช้ชื่อว่า Tokyo Ghoul ได้รับการตีพิมพ์ครั้งแรกในนิตยาสาร Weekly Young Jump ในเครือของสำนักพิมพ์ Shueisha เมื่อวันที่ 8 กันยายน ปี 2011จนถึงวันที่18 กันยายน ปี 2014  และได้รวมเล่มเป็นหนังสือการ์ตูนออกมาทั้งหมด 14 เล่มจบสำหรับในภาคแรก 

 

 

Tokyo Ghoul ยังได้รับการตีพิมพ์เป็นฉบับภาษาไทย  ซึ่งถือลิขสิทธิ์โดยทาง  Siam Inter Comic ในชื่อ “โตเกียว กูล” ตีพิมพ์ออกมาแล้ว  14 เล่มจบสำหรับในภาคแรกเช่นเดียวกัน 

 

 

Tokyo_Ghoul_Fact_03

 

ผลงานเรื่อง Tokyo Ghoul ที่ตีพิมพ์ลงในนิตยาสาร Weekly Young Jump

 

 

 

 

 

หน้าปกผลงานเรื่อง Tokyo Ghoul ฉบับรวมเล่มของภาคแรก ตีพิมพ์ออกมาแล้ว 14 เล่มจบ 

 

 

 

 

Tokyo Ghoul : re เป็นผลงานมังงะภาคต่อจาก Tokyo Ghoul ที่จบชุดในภาคแรก และเป็นผลงานการเขียนในช่วงปัจจุบันของอ. Ishida Sui โดยตีพิมพ์ลงในนิตยาสาร Weekly Young Jump เช่นเดิม  มีฉบับรวมเล่มออกมาแล้ว 8 เล่มยังไม่จบ  

 

 

Tokyo Ghoul : re  ได้รับการตีพิมพ์เป็นฉบับภาษาไทย  ซึ่งถือลิขสิทธิ์โดยทาง  Siam Inter Comic ในชื่อ “โตเกียว กูล : รี”

 

Tokyo_Ghoul_Fact_04

 

หน้าปกผลงานเรื่อง Tokyo Ghoul : re  ตีพิมพ์ออกมาแล้ว 8 เล่มยังไม่จบ 

 

 

 

 

 

Tokyo Ghoul  : Light Novel 

 

Tokyo_Ghoul_Fact_06

 

หลังจากที่ผลงานมังงะเรื่องนี้ได้จบภาคลงไปแล้ว… Tokyo Ghoul  ได้ถูกนำมาแต่งเป็นนิยาย Light novel จำนวน 3 เล่มด้วยกัน  แบ่งออกเป็น 3 ภาคคือ 

 

 

Tokyo Ghoul-HIBI-(東京喰種トーキョーグール[日々]) หรือในภาคภาษาไทยคือ “โตเกียว กูล [วันคืน]

 

Tokyo Ghoul-KUHARU-(東京喰種トーキョーグール[空白]) หรือในภาคภาษาไทยคือ “โตเกียว กูล [ช่องว่าง]

 

Tokyo Ghoul-SEKIJITSU- (東京喰種トーキョーグール[昔日]) หรือในภาคภาษาไทยคือ “โตเกียว กูล [วันวาน]

 

 

ซึ่งผลงานฉบับนิยาย Light novel ได้รับการแต่งเรื่องโดยอ.Shin Towada และเขียนภาพประกอบโดย อ. Ishida Sui เจ้าของผลงานดั้งเดิม  ถือลิขสิทธิ์ฉบับภาษาไทยโดยทาง Siam Inter Comic 

 

 

 

 

ในปี 2013 ทางสำนักพิมพ์ Shueisha ก็ได้นำเอาผลงาน Tokyo Ghoul [Jack] ซึ่งเป็นผลงานที่อ.Ishida SuiวาดลงในApp ดูมังงะออนไลน์อย่าง  Jump Live มาตีพิมพ์เป็นรวมเล่มเพียง 1 เล่มจบ

 

 

Tokyo_Ghoul_Fact_07

 

หน้าปกมังงะ Tokyo Ghoul [Jack]

 

 

 

 

Tokyo Ghoul  Anime 

 

ผลงาน Tokyo Ghoul ยังได้ถูกนำมาสร้างเป็นอนิเมชั่นทีวีซี่รี่ย์และ OVA  ซึ่งประกอบด้วย 

 

 

 

Tokyo Ghoul  TV Series 

 

Tokyo_Ghoul_Fact_08

 

Tokyo Ghoul ผลงานฉบับอนิเมชั่นทีวีซี่รี่ย์ในครั้งแรกที่สร้างโดยทาง Pierrot ออกฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม – 19 กันยายน ปี 2014 จำนวน 12 ตอนจบ

 

 

 

 

Tokyo Ghoul √A 

 

Tokyo_Ghoul_Fact_09

 

Tokyo Ghoul √A (Root A) ผลงานฉบับอนิเมชั่นทีวีซี่รี่ย์ใน Season ที่ 2 สร้างโดยทาง Pierrot  ออกฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 9 มกราคม – 27 มีนาคม 2015 จำนวน 12 ตอนจบ  

 

 

 

Tokyo Ghoul [Jack]

 

Tokyo_Ghoul_Fact_11

 

Tokyo Ghoul [Jack] ผลงานฉบับอนิเมชั่นในรูปแบบของ OVA สร้างโดยทาง Pierrot ออกวางจำหน่ายเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2015

 

 

Tokyo Ghoul : PINTO

 

Tokyo_Ghoul_Fact_12

 

Tokyo Ghoul : PINTO ผลงานฉบับอนิเมชั่นในรูปแบบขอ งOVAสร้างโดยทาง Pierrot ออกวางจำหน่ายเมื่อวันที่ 25 ธันวาคมปี 2015

 

 

 

 เอาล่ะ… เกริ่นข้อมูลกันมาคร่าวๆ แล้ว  ทีนี่จะขอแนะนำข้อมูลที่มีภายในเรื่อง  ซึ่งอ้างอิงจากหนังสือการ์ตูนเป็นหลักนะครับ

 

 

================================== 

 

 

 

 

กูลคืออะไร ?

 

Tokyo_Ghoul_Fact_05

 

หากกล่าวว่า… มนุษย์คือผู้อยู่บนจุดสูงสุดของห่วงโซ่อาหารด้วยแล้ว  สิ่งที่คอยสร้างสมดุลเพื่อไม่ให้มนุษย์มีอำนาจเหนือกว่าสิ่งมีชีวิตอื่นก็คือ “กูล” นั่นเอง

 

 

กูล เป็นสิ่งมีชีวิตประเภทกินเนื้อไม่ต่างจากสัตว์กินเนื้อประเภทอื่นๆ  เพียงแต่อาหารของกูลคือ “มนุษย์” และเป็นอาหารเพียงไม่กี่อย่างที่พวกกูลสามารถกินและรับรู้ถึงรสชาติได้  (พวกกูลสามารถรับรู้รสชาติของ “กาแฟ”ได้)  มีลักษณะรูปร่างภายนอกเหมือนกับมนุษย์ปรกติทั่วไปทุกๆ ประการ  หากอยู่ท่ามกลางคนหมู่มาก… โดยไม่มีทางที่จะแยกออกไปได้ว่าใครเป็นมนุษย์หรือใครเป็นกูล?  เมื่อกูลกินเนื้อของมนุษย์จะสามารถอยู่ได้นานเป็นเดือน  โดยที่ไม่ต้องกินเพิ่ม  แต่ถ้าหากพวกกูลหิวจัดเมื่อไหร่… มันจะเป็นอะไรที่อันตรายอย่างมากเลยทีเดียว

 

 

 

 Tokyo_Ghoul_Fact_48

 

อาหารหลังของกูลกินได้คือเนื้อมนุษย์  ซึ่งก็ไม่ต่างจาก “สัตว์ใหญ่กินสัตว์เล็ก” ตามธรรมชาตินั่นเอง

 

 

กูลมีลักษณะทางกายภาพที่เหนือกว่ามนุษย์ปรกติทั่วไปอย่างมหาศาล 4 ถึง 7 เท่าตัว  ภายในร่างกายของกูลนั้นจะประกอบด้วย RC Cells (Red Child) ซึ่งเป็นโครงสร้างทางโมลิกุล  ซึ่งโดยทั่วไปแล้วมนุษย์ธรรมดาที่มีสุขภาพดีจะมีค่าเฉลี่ยของ RC Cells ในร่างกายอยู่ที่ 200-500 แต่ในร่ายกายของกูลจะมีค่าเฉลี่ยถึง 1,000-8,000  เลยทีเดียว  ซึ่งค่า RC Cells พวกกูลที่มีสูงจะช่วยให้ฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บได้รวดเร็วก็คนธรรมดาทั่วๆ ไป ซึ่งการจะแยกแยะค่าRC Cellsระหว่างมนุษย์ทั่วไปกับกูล  สามารถทำได้โดยใช้เครื่องสแกน RC ที่ติดตั้งเอาไว้ในสำนักงาน CCG ทุกๆ สาขาทั่วโตเกียว 

 

 

กูลมีสามารถเปลี่ยนและแปรสภาพของเซลล์เม็ดเลือดแข็งตัวได้  อาจจะเรียกได้ว่าเป็น “กล้ามเนื้อแข็ง” ที่สามารถยื่นออกมาจากร่างกายได้อย่างอิสระ  โดยจะมีอวัยวะที่เรียกว่า “คาคุโฮว”(赫包 Kakuhou = Red Wrap) ทำหน้าที่คอยเก็บกัก RC Cells  ในร่างกาย  เพื่อสร้าง “อาวุธของกูล” ที่เรียกว่า “คากุเนะ” นั่นเอง   

 

 

Tokyo_Ghoul_Fact_14

 

หนึ่งในลักษณะของ “คากุเนะ” ของกูล

 

 

ในช่วงที่พวกกูลตั้งใจจะล่าเหยื่อหรือใช้คากุเนะ  ดวงตาของพวกกูลจะเปล่งประกายเป็นสีแดงฉานราวกับปิศาจ  ซึ่งจะเรียกว่า “คาคุเก็น” (赫眼Kakugan = Red Eye) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสิ่งเฉพาะที่บอกความเป็นกูลอีกเช่นกัน  

 

 

 

Tokyo_Ghoul_Fact_47

 

 

ดวงตา “คาคุเก็น” ของพวกกูล

 

 

 

 

ประเภทของกูล 

 

Tokyo_Ghoul_Fact_49

 

ฮินามิ กูลที่เกิดระหว่างกูลด้วยกัน  ซึ่งถ้าพ่อแม่เป็นกูลที่มา “คากุเนะ” คนละสาย  คนลูกจะได้จุดเด่นของสองสายมารวมกันได้ด้วย

 

 

กูลเป็นสิ่งมีชีวิตที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ  และอยู่ร่วมกันกับมนุษย์มาอย่างยาวนาน  ถึงแม้จะเป็นสิ่งมีชีวิตที่แยกสายพันธุ์ออกมาจากมนุษย์  แต่มันก็ไม่ใช่การแยกออกอย่างสิ้นเชิง… เพราะกูลกับมนุษย์สามารถ “สืบทอดทายาทร่วมกันได้”  โดยกูลสามารถมีลูกกับมนุษย์ได้  หากเพียงแต่ถ้าฝ่ายแม่นั้นเป็นมนุษย์… โดยส่วนมากทารกจะเสียชีวิตตั้งแต่ในครรภ์  เพราะทารกกูลที่มีแม่เป็นมนุษย์จะไม่ได้รับอาหารที่เพียงพอ  เพราะทารกกูลเองต้องกินเนื้อมนุษย์เช่นเดียวกันกับกูลทั่วๆ ไป  เว้นแต่ว่าผู้เป็นแม่ที่เป็นมนุษย์จะกินเนื้อของมนุษย์เพื่อเลี้ยงดูทารกกูลในครรภ์  ทารกกูลจึงสามารถมีชีวิตรอดอยู่มาได้

 

 

 

Tokyo_Ghoul_Fact_16

 

 

เอโตะ โยชิมุระกูลลูกครึ่งระหว่างมนุษย์และกูล

 

 

และกูลยังสามารถ “สร้าง” ขึ้นมาได้โดยการ “ตัดแต่งพันธุ์กรรม” จนเกิดเป็นพวกลูกผสม  กูลจำพวกนี้จะความสามารถและลักษณะการใช้คากุเนะเช่นเดียวกับกูลในแบบธรรมชาติ  ทว่า… สิ่งที่สังเกตได้ว่าเป็นกูลที่ถูกตัดแต่งพันธุ์กรรมก็คือ “มีคาคุเก็นเพียงข้างเดียว” เท่านั้น  จะเรียกอีกหนึ่งชื่อได้ว่า “กูลตาเดียว” นั่นเอง   

 

 

 

Tokyo_Ghoul_Fact_17

 

คาเนกิ กูลที่เกิดจากการดัดแปลงร่างกาย

 

 

และแม้ว่าจะมีความเป็นลูกผสม  แต่การกินของกูลตาเดียวก็ต้องทานเนื้อมนุษย์เช่นเดียวกันกับกูลในแบบธรรมชาติเช่นกัน 

 

 

อาวุธของกูล “คากุเนะ” มีกี่ประเภท

 

Tokyo_Ghoul_Fact_28

 

 

คาคุโฮว (赫包) คือ คากุเนะของกูลจะแบ่งออก 4 ประเภท ได้แก่

 

 

 

อูคาคุ (羽赫)

 

Tokyo_Ghoul_Fact_29

 

เป็นคากุเนะที่มีลักษณะของ “ปีก” ที่โผล่ออกมาจากด้านหลัง  มีความสามารถในการต่อสู้ระยะใกล้กับไกล  ทั้งยังมีความคล่องตัวที่สูงกว่าสายอื่นๆ  แต่มีจุดด้อยคือ  “การใช้พลังในการเปล่งออกมาค่อนข้างมาก”  ทำให้ไม่เหมาะกับการต่อสู้แบบยืดเยื้อ

 

 

ซึ่งกูลที่ใช้คากุเนะสายอูคาคุ  ก็มี คิริชิม่า โทวกะ, คิริชิม่าอายาโตะ, คายะ อิริมิ ฯลฯ

 

 

 

 

โควคาคุ (甲赫)

 

Tokyo_Ghoul_Fact_30

 

เป็นคากุเนะที่มีลักษณะของ “เปลือก” มีความสามารถในการป้องกันการโจมตี  ซึ่งเรียกได้ว่าแข็งแกร่งมากที่สุดในหมู่คากุเนะด้วยกัน  แต่มีจุดด้อยคือ “น้ำหนักที่มาก” ของโควคาคุทำให้ไม่ค่อยเหมาะในการต่อสู้เมื่อเจอคากุเนะสายโจมตีอย่างรุนแรงอย่าง รินคาคุ

 

 

ซึ่งกูลที่ใช้คากุเนะสายโควคาคุ ก็มี ชู ซึกิยาม่า, อาราตะ คิริชิม่า, คุคิ อูริเอะ ฯลฯ

 

 

 

 

รินคาคุ (鱗赫)

 

Tokyo_Ghoul_Fact_31

 

เป็นคากุเนะที่มีลักษณะของ“กงเล็บ” มีความสามารถในการโจมตีที่รุนแรงและยังมีความสามารถในการฟื้นฟูร่างกายจากการบาดเจ็บได้อย่างรวดเร็วมากกว่าทุกๆ สาย  แต่มีจุดด้อยคือ “ความอ่อนแอ” ทางร่างกายมีมากกว่าสายอื่นๆ

 

 

ซึ่งกูลที่ใช้คากุเนะสายรินคาคุ ก็มี คาเนกิ เคน, คิมิชิโระ  ริเสะ, ยาคุโมะ  โอโอโมริ ฯลฯ

 

 

 

 

บิคาคุ (尾赫)

 

Tokyo_Ghoul_Fact_32 

 

เป็นคากุเนะที่มีลักษณะของ “หาง” จัดเป็นคากุเนะที่มีความสามารถที่สมดุลมากที่สุดในทุกๆ สาย  ซึ่งค่อนข้างได้เปรียบมากในการต่อสู้  หากได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี

 

 

ซึ่งกูลที่ใช้คากุเนะสายบิคาคุ ก็มี มาทาซากะ คามิชิโร่ (ซาจิ), โทรุ  มัตซึริ, โนโร ฯลฯ

 

 

 

 

 

คาคุจ

 

Tokyo_Ghoul_Fact_18

 

Kakuja จัดเป็นกูลประเภทพิเศษกว่ากูลทั่วๆ ไป  และไม่ได้เกิดขึ้นมาเองโดยความเป็นธรรมชาติ   กูลที่จะเป็นคาคุจานั้นต้องเกิดจาก “การกินเนื้อพวกกูลด้วยกัน”  ซึ่งโดยปรกติในร่างกายของกูลจะมีค่าของRC Cells ที่สูงอยู่แล้ว… การกินเนื้อของพวกเดียวกันจะยิ่งทำให้ความเข้มข้นของ RC Cellsในร่างกายสูงขึ้น  เมื่อยิ่งสูงก็ยิ่งจะทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงจนเกิด “การกลายพันธุ์” จากความเป็นกูลทั่วๆ ไป ซึ่งการกลายพันธุ์นั้นจะมีความสามารถที่เพิ่มเติมมากขึ้นของคากุเนะ  ทั้งยังมีความเป็นอันตรายอย่างมากกว่ากูลทั่วๆ ไปอย่างยิ่งยวด  นั่นจึงเรียกว่า Kakujaซึ่งแปลได้ว่า “การตื่นขึ้น” นั่นเอง

 

 

 

กูลที่เป็นคาคุจาตามท้องเรื่องจะมีอยู่ด้วยกัน 8 คนคือ  

 

 

 

โยชิมุระ 

 

Tokyo_Ghoul_Fact_19

 

ในฉายาว่า “นกฮูก” ลักษณะแบบ “มีดขนาดใหญ่ที่ดูคล้ายปีก”

 

 

 

ยาคุโมะ  โอโมริ

 

Tokyo_Ghoul_Fact_20

 

ในฉายาว่า “เจสัน” ลักษณะแบบ “กงเล็บ”

 

 

 

คิริชิม่า อาราตะ

 

Tokyo_Ghoul_Fact_21

 

ในฉายาว่า “นักเก็บศพ”  ลักษณะแบบ “เกราะ”

 

 

 

 

คาเนกิ เคน

 

Tokyo_Ghoul_Fact_22

 

ในฉายาว่า “ผ้าปิดตา”  ลักษณะแบบ “ตะขาบ”

 

 

 

เอโตะ  โยชิมุระ

 

Tokyo_Ghoul_Fact_23

 

ในฉายาว่า “นกฮูก” ลักษณะแบบ “สัตว์ประหลาดขนาดใหญ่”

 

 

 

ทากิซาว่า เซย์โดะ

 

Tokyo_Ghoul_Fact_24

 

ในฉายาว่า “นกฮูก”

 

 

 

 

ยาสุฮิสะ คุโรนะ 

 

Tokyo_Ghoul_Fact_25

 

ในลักษณะ “กงเล็บ”

 

 

ทาทาระ 

 

Tokyo_Ghoul_Fact_26

 

 

ในลักษณะ “พ่นไฟ”

 

 

 

 

 

ทำไมพวกกูลต้องอยู่ในเขต“โตเกียว” มีที่อื่นไหม? มีประเทศอื่นไหม? 

 

Tokyo_Ghoul_Fact_27

 

หากมองในเรื่องของพล๊อตเรื่องที่อ.Ishida Sui วางเอาไว้ตั้งแต่เริ่มเขียน   เรื่องราวในการ์ตูนเรื่องนี้มีเวทีเป็นเมืองโตเกียวนั้นจะช่วยในเรื่องของการจำกัดวงและเชื่อมต่อการดำเนินเรื่องให้อยู่ในที่ๆ เดียว   โดยที่คนอ่านไม่ต้องสนใจมองไปที่เมืองๆ อื่นในประเทศญี่ปุ่น  อีกทั้งเมืองโตเกียวเองก็มีประชากรมากถึง 37,126,000 คน (ตัวเลขอ้างอิงจากความเป็นจริงในเดือน สิงหาคม ปี 2014) ซึ่งด้วยจำนวนคนขนาดนี้  มากพอจะสร้างเหตุการณ์เชื่อมต่อเรื่องราวต่างๆ ในการ์ตูนได้

 

 

โตเกียวจะถูกแบ่งออกเป็น 23 เขตตามท้องเรื่อง

 

 

 

 

 

หากมองตามความเป็นจริงที่เป็นไปได้… กูลเองก็ไม่ได้อยู่เพียงแค่ในเขตเมืองโตเกียวเท่านั้น  (ซึ่งในความเป็นจริงแล้วอาจมีกูลในจังหวัดอื่นๆ ก็ได้)  เพราะในการ์ตูนได้กล่าวถึงกูลที่อยู่ในประเทศเยอรมัน  รวมไปถึงแหล่งซ่องซุ่มของกลุ่ม “ต้นอาโอกิริ” บนเกาะลู (Lou Island)  ที่อยู่นอกชายฝั่งอ่าวโตเกียวอีกด้วย  

 

 

 

 

 

CCG

 

ย่อมาจาก The Commission of Counter Ghou (CCGเป็นหน่วยงานที่จัดตั้งขึ้นเพื่อการปราบปรามเหล่ากูลโดยตรง  CCG นั้นจะมีเจ้าหน้าที่คอยออกสืบหาและเฝ้าระวังเหล่ากูลที่อาจก่อให้เกิดภัยต่อความปลอดภัยของประชาชน ซึ่งตามลักษณะการออกปฎิบัติการของเจ้าหน้าที่ CCG นั้นจะเหมือน “นกพิราบ” ที่มีอยู่เต็มไปทั่วทุกๆ ที่ในเมืองโตเกียว  ดังนั้นพวกเขาจึงถูกเรียกในอีกชื่อว่า “โดฟส์” (Doves) นั่นเอง  CCG มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เขตที่ 1 และสาขาแยกในเขตที่ 20

 

 

ลำดับชั้นของเจ้าหน้าที่ของ CCG จะแบ่งออกเป็น เจ้าหน้าที่ระดับหนึ่ง, เจ้าหน้าที่ระดับอาวุโส และ เจ้าหน้าที่ชั้นพิเศษ  

 

 

 

 

อาวุธของหน่วยพิราบ

 

Tokyo_Ghoul_Fact_34

 

ชื่อเรียกว่า “ควิกเก้” (Quinque)เนื่องจากผิวหนังของกูลไม่สามารถใช้อาวุธธรรมดาทำให้บาดเจ็บได้ CCGจึงได้คิดค้นและพัฒนาอาวุธพิเศษนี้ขึ้นมา  ซึ่งควิกเก้นั้นสร้างมาจากคากุเนะของกูล  และใช้การกระตุ้นด้วยกระแสไฟฟ้า  เพื่อสร้างรูปร่างของคากุเนะของกูลขึ้นมาได้  โดยปรกติแล้วควิกเก้จะเก็บซ่อนเอาไว้ในกระเป๋าเอกสารที่เจ้าหน้าที่ของCCGถือในระหว่างการออกปฏิบัติหน้าที่นั่นเอง 

 

 

 

 

Quinx

 

Tokyo_Ghoul_Fact_36

 

“ควิงซ์” คือหน่วยพิเศษของ CCGที่คอยประสานงานร่วมกับทีมปฏิบัติการของมาโดะ   โดยสมาชิกของหน่วย Quinx ทุกคนจะเป็นมนุษย์กึ่งกูลที่ได้รับการผ่าตัด โดยใช้เซลล์จากกูลปลูกถ่ายเข้าสู่ร่างกาย ภายใต้การดูแลของ Dr. Shiba ทำให้สามารถใช้คากุเนะในการต่อสู้ได้  ทั้งยังมีคาคุเก็นข้างเดียวเหมือนกับพวกกูลตาเดียวอีกด้วย   ซึ่งแน่นอนว่าแม้จะเป็นกูลแต่ก็สามารถควบคุมได้   

 

 

 

 

โคคูเลีย

 

Tokyo_Ghoul_Fact_37

 

Cochlea (コクリア) เป็นศูนย์กักกันกูลที่อยู่ในเมืองโตเกียวเขตที่ 23 ที่แห่งนี้ใช้ในการควบคุมเหล่ากูลที่ถูกจับได้และกูลบางส่วนจะถูกนำมาเป็นอะไหล่ในการสร้าง

 

 

 

โครงสร้างของ โคคูเลียจะประกอบด้วย

 

LEVEL 0  เป็นชั้นแรกสำหรับใช้สำหรับกักกันกูลทั่วๆ ที่ไม่มีอันตรายมากนัก

LEVEL 1  เป็นชั้นที่สองสำหรับใช้สำหรับกักกันกูลระดับความอันตรายLV ขั้นA  

LEVEL 2  เป็นชั้นที่สามสำหรับใช้สำหรับกักกันกูลระดับความอันตรายLV ขั้นS

LEVEL 3  เป็นชั้นที่สามสำหรับใช้สำหรับกักกันกูลระดับความอันตรายLV ขั้นSS

Disposal Room เป็นชั้นล่างสุดซึ่งห้องการกำจัด

 

 

(โคคูเลีย หมายถึง อวัยวะส่วนที่ทำหน้าที่ในการได้ยินของหู  โดยการเปลี่ยนคลื่นเสียงให้เป็นการเคลื่อนไหวในเชิงกลของกระดูกทั้งสามชิ้นเป็นกระแสไฟฟ้า เพื่อส่งผ่านไปตามเส้นประสาทเข้าสู่สมอง  ซึ่งสมองจะแปลความหมายสัญญาณไฟฟ้านั้นเป็นการได้ยินนั่นเอง)

 

 

 

 

ร้าน “อันเทย์กุ”

 

Tokyo_Ghoul_Fact_38

 

รูปจาก : aniSearch.com

 

 

อันเทย์กุ (あんていく) เป็นร้านกาแฟที่ตั้งอยู่ในกรุงโตเกียวเขตที่ 20 ซึ่งร้านนี้เป็นร้านที่เหล่ากูลจะเข้ามาแวะเวียนใช้บริการและหาข่าวสารระหว่างกูลด้วยกันในย่านนี้  โดยร้านนี้บริหารโดย “โยชิมุระ” (Yoshimura) ผู้เป็นกูลอาวุโสประจำเขตที่ 20

 

ร้านนี้เป็นอาคารแบบสองชั้น  มีโซนสำหรับใช้บริการลูกค้า  มีห้องพักสำหรับพนักงานและมีชั้นใต้ดินเพื่อใช้สำหรับเนื้อมนุษย์ที่จัดหามาจากคนที่ฆ่าตัวตาย (อันเทย์กุจะไม่ลงมือสังหารเหยื่อมนุษย์อย่างพร่ำเพื่อเด็ดขาด)

 

สำหรับกฎเกณฑ์ของอันเทย์กุกับเขตที่ 20 นั้นจะตกลงกับเหล่ากูลในเรื่องของเขตพื้นที่การหากิน  และจะไม่มีการล้ำเส้นระหว่างกันทั้งภายในเขตหากินและบริเวณร้านอันเทย์กุ  ทว่าร้านอันเทย์กุที่โยชิมุระบริหารนั้นถูกทาง CCG ทำการกวาดล้างไปจนสิ้นแล้ว หลังจากที่ได้ทราบข่าวว่าที่แหล่งนี้เป็นสถานที่กบดานของเหล่ากูลตามท้องเรื่อง  ก่อนที่ “คิริชิม่า โทวกะ” จะรับช่วงต่อมาเปิดร้านอันเทย์กุอีกครั้งในภาค : RE

 

 

Tokyo_Ghoul_Fact_39

 

ร้านอันเทย์กุถูกเผาหลังจากการ CCG เข้าทำการกวาดล้างไปในช่วงท้ายของอนิเมะซีซั่นสอง

 

 

คำว่า “อันเทย์กุ” (Anteikuเป็นคำพ้องเสียงมาจากภาษาอังกฤษนั่นก็คือ Antique ที่แปลได้ว่า ศิลปวัตถุ นั่นเอง

 

 

 

 

 

ต้นอาโอกิริคืออะไร?

 

Tokyo_Ghoul_Fact_40

 

ต้นอาโอกิริ(アオギリの樹) เป็นองค์กรกูลที่เคลื่อนไหวในเชิงการก่อการร้าย  ที่รวบรวมเอาเหล่ากูลที่กระหายเลือดมาอยู่ในกลุ่มเดียวกัน  มีเป้าหมายเพื่อเคลื่อนไหวสร้างความไม่สงบต่ออำนาจรัฐ  ต้นอาโอกิริเป็นองค์กรที่โตขึ้นอย่างรวดเร็วและแตกกิ่งก้านสาขาออกไปหลายๆ เขตในกรุงโตเกียว  โดยจุดที่เป็นแหล่งซ่องซุ่มใหญ่ๆ ของต้นอาโอกิริคือ เขตที่ 11, เขตที่ 18 และ เกาะลู

 

 

ผู้นำของเหล่าต้นอาโอกิริคือ “ราชาตาเดียว” (隻眼の王) ซึ่งแม้ในปัจจุบันยังไม่มีการบอกว่าเป็น “ผู้ใด?” แต่มีผู้รักษาการณ์คือ “เอโตะ” (ปัจจุบันไม่ได้เป็นแล้ว) และ “ทาทาระ” (ปัจจุบันตายแล้วโดยฝีมือของทากิซาว่า)  

 

 

ปัจจุบันต้นอาโอกิริสูญเสียกองกำลังกูลไปเป็นจำนวนมากจากการวาดล้างครั้งล่าสุดของ CCGบนเกาะลู แต่นั่นก็ทำให้ทางCCGต้องถูกฝ่ายต้นอาโอกิริใช้แผนตลบหลังจากเข้าโจมตีโคคูเลีย  เพื่อแหกคุกให้กับกูลระดับอันตรายอย่าง “บาทหลวง” และยังได้บุกสำนักงานสาขาใหญ่ของCCGสังหาร “โยชิโทกิ วาชู” ได้สำเร็จอีกด้วย(จากการช่วยเหลือของคนในตระกูลวาชูด้วยกันเอง)

 

 

 

ตัวตลกคือใคร?

 

Tokyo_Ghoul_Fact_41

 

ตัวตลก (ピエロ= The Clowns) เป็นกลุ่มกูลที่เคลื่อนไหวในเชิงทางลับ  แทรกซึมอยู่ในกลุ่มของกูลอื่นๆ อย่างต้นอาโอกิริ, กลุ่ม V  ทั้งยังให้ความช่วยเหลือ “โชตะ ฟุรุตะ” ในการโค่นล้มผู้นำตระกูลวาชู “โยชิโทกิ วาชู” อีกด้วย  ถือว่าเป็นกลุ่มกูลที่กว้างขว้างในเชิงลึกอย่างมาก 

 

 

ทั้งยังมีส่วนในการก่อเหตุการณ์ “ริเสะ” ในช่วงเล่มแรกๆ อีกด้วย  ปัจจุบันยังไม่รู้ว่าเป้าหมายที่แท้จริงของเหล่าตัวตลกต้องการสิ่งใดกันแน่? หรือจะมีความเป็นไปได้ว่า… ต้องการสร้าง “ราชาตาเดียวคนใหม่” ขึ้นมาเพื่อล้มราชาตาเดียวคนเดิม?

 

สมาชิกในกลุ่มประ

กอบด้วย หัวหน้าใหญ่, อูตะ, นิโกะ, โรมะ โฮอิโต้, โชวตะ, อิโทริ และ กุนโบ้

 

 

 

 

V คือใคร?

 

Tokyo_Ghoul_Fact_42

 

เป็นองค์กรของกูลที่อยู่เบื้องหลังของกรุงโตเกียว  เท่าที่มีการเปิดเผยมานั้น… พวกเขาทำหน้าที่ในการ “รักษาสมดุล” ระหว่างมนุษย์และกูล  พวกเขาคอยประสานงานร่วมกับตระกูลวาชู  และสามารถเปลี่ยนแปลงได้หากมีการเปลี่ยนผ่านทางอำนาจภายในตระกูลวาชู (กรณีของโชตะ ฟุรุตะ)

 

 

ในอดีตนั้น… โยชิมุระเคยทำงานให้กับ V ในฐานะมือสังหารชื่อของ “คุเซ็น” มาก่อน 

 

 

 

 

ตระกูลวาชู

 

Tokyo_Ghoul_Fact_43

 

ตระกูลวาชู (和修家) เป็นตระกูลที่ถือครองและควบคุมองค์กรCCG โดยถือเป็นตระกูลที่เก่าแก่มาตั้งแต่ปี 1890 เป็นตระกูลที่คอยกวาดล้างเหล่ากูลที่แหกคอกต่อกฎเกณฑ์  ทั้งยังมีพันธมิตรอย่าง Vคอยหนุนด้วย

 

 

ตระกูลวาชูมีลำดับของฝังครอบครัวที่ซับซ้อนการสืบทอดอำนาจการบริหารงานจากรุ่นสู่รุ่นนั้นจะสืบให้กับทายาทสายหลักเท่านั้น  ส่วนทายาทสายรองจะได้เพียงงานที่ไม่ได้จับชิ้นใหญ่หรือที่เกี่ยวในส่วนการบริหารอะไร  ทายาทของตระกูลวาชูนั้นมีทั้งสายเลือดจากฝั่งมนุษย์และกูลอยู่ร่วมกัน 

 

 

 

 

ราชาตาเดียวคือใคร?

 

Tokyo_Ghoul_Fact_44

 

ราชาตาเดียว (隻眼の王) ผู้นำคนปัจจุบันของต้นอาโอกิริแม้จนถึงปัจจุบันยังไม่มีทราบว่าเป็นใครกันแน่  แต่จากข้อมูลภายในเรื่องและคำพูดของ “เอโตะ โยชิมุระ” ได้บอกถึงตัวตนของราชาตาเดียวเป็น “คนที่อยู่ใกล้ตัวมากๆ”  ตามท้องเรื่องมีการแทรกคำใบ้ที่พยายามให้คนอ่านตีความไปต่างๆ นานา

 

 

ตัวตนของราชาตาเดียวคือผู้ที่อยู่ “จุดสูงสุดของเหล่ากูลทั้งปวง”  ด้วยอำนาจบงอย่างที่ไม่รู้ว่ามีมากแค่ไหน  แต่มันน่าจะมากพอที่จะ “สร้างความสั่นสะเทือน” ให้กับหลายๆ ฝ่ายอย่างมาก  ซึ่งผู้ที่รู้ตัวตนจริงๆ ของราชาตาเดียวคนปัจจุบันในเวลานี้มีไม่กี่คน  และมีการคาดหมายถึง “แผนการแต่งตั้งราชาตาเดียวคนใหม่” เพื่อล้มล้างคนเก่า  โดยคาดหมายว่า “คาเนกิ เค็น” จะเป็นราชาตาเดียวคนใหม่นั่นเอง  

 

 

 

=======================================

 

 

 

เนื่องจากการ์ตูนเรื่องนี้ยังไม่จบและมีเนื้อหาที่สามารถพลิกความคาดหมายของคนอ่านได้อยู่ทุกๆ อาทิตย์  หากมีข้อมูลเพิ่มเติมจะนำมาอัพเดทกันให้ได้อ่านนะครับ

 

 

 

miraclesaven