
เนื่องจากตัวละครอย่าง “บาคุระ เรียว” นั้นเป็นตัวละครที่มีวิญญาณร้ายคอยสิงตัวของเขาอยู่ โดยมีวงแหวนพันปีเป็นสื่อกลาง ซึ่งเราผู้อ่านต่างก็รู้จักกันดีในชื่อของ “บาคุระร่างมืด” หรือ “ยามิ บาคุระ”
โดยการดูเอลทั้งหมดในเรื่องรวมไปถึงเด็คการ์ดของเขาที่กลายมาเป็นหัวข้อภายในบทความนี้ ก็จะมีที่มาและสะท้อนถึงความเป็นตัวของ ยามิ บาคุระ ผู้นี้ผสมกับบาคุระ เรียว เจ้าของร่างนั่นเอง

ตัวตนของบาคุระ เรียวนั้น เขาเป็นเพียงเด็กหนุ่มผู้มีจิตใจอ่อนโยนที่มีความชื่นชอบในบอร์ดเกมเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะ บอร์ดเกมประเภท Role Playing Game (แบบ D&D) ซึ่งในเวลาต่อมาก็ได้เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้เขาได้รับวงแหวนพันปีมาและเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม
วิญญาณร้ายที่อยู่ภายในไอเทมพันปีชิ้นนี้ ก็ได้เริ่มพูดคุยกับบาคุระ และคอยยึดร่างของเขาในการดำเนินแผนการต่างๆที่มันต้องการ
โดยตัวตนของวิญญาณร้ายดังกล่าวก็คือดวงวิญญาณของ “จอมโจรบาคุระ” ผู้เคยเป็นมหาโจรปล้นสุสานของฟาโรห์ในอดีตเมื่อ 3,000ปีก่อน
แต่นอกเหนือจากวิญญานของจอมโจรบาคุระแล้ว ภายในวงแหวนพันปีนั้น ก็ยังมีเศษเสี้ยวของเทพปีศาจอย่าง “โซค เนโกรฟาเดธ” ที่ถูกผนึกรวมอยู่ด้วย ทำให้มีดวงจิตทั้ง 2 รวมกันอยู่ภายในไอเทมพันปีชิ้นนี้
(จิตวิญญาณของจอมโจรบาคุระนั้น ในตอนแรกเขาจะยังจำเหตุการณ์ในอดีตไม่ได้ โดยความทรงจำและเจตนารมณ์ในอดีตของเขา ก็จะค่อยๆฟื้นกลับมาตามที่ได้เห็นกันภายในเรื่อง)
ซึ่งจริงๆแล้ว เนื้อหาของพวกเขาจะไปปรากฏอยู่ในเหตุการณ์ “ความเป็นมาของไอเทมพันปี” ทำให้ทางผู้เขียนจึงไม่ได้นำรายละเอียดหรือความเป็นมาของพวกเขามาใส่ไว้ในบทความนี้
(และหากมีโอกาส ทางผู้เขียนก็จะทำประวัติของไอเทมพันปีและเทพปีศาจอย่างโซค ผู้เป็นด้านตรงข้ามของการ์ดเทพทั้ง 3 และบอสใหญ่สุดของการ์ตูนชุดยูกิโอภาคแรก ออกมาเป็นบทความให้ได้อ่านกันนะครับ)
อย่างไรก็ตามเหตุการณ์การปรากฏตัวของ ยามิ บาคุระ นั้น เป็นการเล่น “Dark Role Playing Game” หรือ เกมแห่งความมืดรูปแบบ RPG Table Top ผ่านเกมที่ชื่อว่า “Monster World” ซึ่งเป็นเกมโปรดของ บาคุระ เรียว
โดยในการเล่นครั้งนั้น ก็ได้มีลาสบอสของเกม เป็นมอนเตอร์ที่ใช้ชื่อว่า “โซค ผู้ครอบครองแห่งความมืด” อันเป็นตัวแทนของยามิ บาคุระ ในเวลานั้นด้วย
ซึ่งโซคในเวอร์ชั่นจากเกม RPG นี้เองก็ได้ถูกทำออกมาเป็นการ์ด ที่ถึงแม้ว่าจะไม่ได้อยู่ในเด็คของ ยามิ บาคุระ แต่อย่างใด แต่ในปัจจุบัน มันก็นับว่าเป็นการ์ดของโซคเพียงรูปแบบเดียวที่ปรากฏของมาเป็นการ์ดให้ได้เล่นกันอีกด้วย
ในทางเด็คการ์ดของยามิ บาคุระ นั้นเขาจะเป็นผู้ใช้เด็คการ์ดสาย “ไสยเวทย์” โดยจะเต็มไปด้วยมอนสเตอร์หน้าตารูปแบบของ “วิญญาณร้าย” ที่สะท้อนถึงวิญญาณร้ายที่ถูกกักขังไว้ในวงแหวนพันปี
(โดยในการ์ดเวทมนต์ กับดัก หลายใบก็ยังมีหน้าตาคล้ายคลึงกับดวงวิญญาณร้ายของชาวบ้านที่ถูกสังเวยในพิธีกรรมสร้างไอเทมพันปี ที่ปรากฏในเนื้อเรื่องส่วนอดีตอีกด้วย)
นอกจากนี้ก็ยังปรากฏให้เห็นถึง ปีศาจที่เป็น “นักเชิดหุ่น” ซึ่งบ่งบอกถึงการที่วิญญาณของจอมโจรบาคุระและโซคชอบใช้ร่างของ บาคุระ เรียว ในการทำเรื่องต่างๆ รวมไปถึงการเห็นคนอื่นในแผนการของพวกเขาเป็นเพียงตัวหมากหรือหุ่นเชิดของตัวเองเท่านั้น

และมอนสเตอร์ เอสการ์ดประจำเด็คไสยเวทย์ของยามิ บาคุระนั้นก็คือ “เจ้าผู้ครองโลกแห่งความตาย ดาร์คเนโครเฟีย” มอนสเตอร์ที่มีเอกลักษณ์ในตัวเองตั้งแต่รูปร่างหน้าตาชวนหลอน ไปจนถึงวิธีการอัญเชิญกับวิธีการต่อสู้ที่ไม่เหมือนใครเลยในยุคนั้น
แต่ที่ทำให้การ์ดใบนี้กลายเป็นความทรงจำที่ฝั่งแน่นอยู่ในใจผู้อ่านตลอดมาก็คือ เอฟเฟคการ์ดกระดานอวียา (D.E.A.T.H.) ที่เป็น “เงื่อนไขการชนะเกมการ์ดยูกิแบบพิเศษ” ซึ่งแม้ในปัจจุบันก็ยังนับว่ายังมีวิธีแบบนี้ให้เห็นกันค่อนข้างน้อยนั่นเอง
ในปัจจุบันเด็คการ์ดของบาคุระนั้นก็ได้มีการออกของใหม่(และการ์ดเก่าในการ์ตูนที่ยังไม่เคยออก) ที่ยังคงไว้ซึ่งธีมของวิญญาณร้ายโดยจะเน้นไปที่การอัญเชิญ ดาร์คเนโครเฟีย รวมไปถึง “เคิร์ส เนโครเฟีย” ร่างใหม่ที่ถูกอัพเกรดให้สามารถเล่นในรูปแบบของเกมสมัยใหม่ได้มากขึ้น
อีกทั้งยังได้มีการออกการ์ดของ “เดียบาวด์” มอนสเตอร์ที่เป็น “คา” ประจำตัวของจอมโจรบาคุระในอดีตมาให้ได้หายคิดถึงกันด้วย
ส่วนเสริม

เดียบาวด์นั้นเป็น “คา” หรือ “มอนสเตอร์ประจำตัวของจอมโจรบาคุระในอดีต” ซึ่งเกิดมาจาก ความอาฆาตและแรงแค้นที่ต้องเห็นหมู่บ้านของเขาถูกฆ่าล้างจนหมดเพื่อเป็นเครื่องบูชายัญในการสร้างไอเทมพันปีทั้ง 7ชิ้น
ซึ่งภายในเรื่องเราจะได้เห็นเดียบาวด์ตัวนี้พัฒนาร่างไปตามจิตที่เข้มแข็งขึ้นของจอมโจรบาคุระ จนมันค่อยๆมีหน้าตาเป็นปีศาจร้ายขึ้นเรื่อยๆ โดยจะมีด้วยกันทั้งหมด 5ร่างที่มีรูปร่างหน้าตาดังนี้
ร่างที่ 2

ร่างที่ 3
ร่างที่ 4
ร่างที่ 5
แต่อย่างไรก็ตาม เดียบาวด์ที่เราเห็นนี้แม้จะมีหน้าตาที่เหมือนกับเทพปีศาจโซค “แต่มันก็ไม่ใช่โซค” เนื่องจากภายในเรื่องเดียบาวด์นั้นถูกจอมเวทย์มนต์ดำทำลายลงได้ก่อนที่ อาคุนาดินจะเข้ามาทำการ “อัญเชิญโซค” ออกมาทีหลังในช่วงเวลาที่ไล่เลี่ยกัน
นอกจากนี้ในช่วงย้อนอดีตความทรงจำของฟาโรห์ที่เป็นช่วงสุดท้าย รวมถึงศึกตัดสินกับยามิ บาคุระและโซค ที่เป็นลาสบอสของการ์ตูนเรื่องนี้นั้น ก็ยังเป็นการใช้กิมมิคกลับไปยังศึกแรกของพวกเขาในเกม Monster Wolrd ที่เป็นการ Role Play โดยมีโซคเป็นลาสบอสบนกระดานเหมือนกันอีกด้วย

และหากในบทความนี้มีเนื้อหาหรือข้อมูลที่ผิดพลาดหรือตกหล่นไปประการใด ทางผู้เขียนก็ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ
บทความโดย WolfTales
-
รางวัลสุดยอดเกมแห่งปี Game Awardsเปิดโผผู้เข้าชิง The Game Awards ทุกสาขาอย่างเป็นทางการ
-
Resident Evil 9 : Requiem [Preview / สั่งซื้อแผ่นเกม / ราคา / วันวางขาย]27 กุมภาพันธ์ 2026
-
BEYBLADE X : ผู้ใหญ่ vs เด็ก Mindset ที่ดี… “ใส่เต็มที่ มีประโยชน์ในด้านพัฒนาการเด็ก”เชื่อว่าตามงานแข่ง BEYBLADE X มีหลายครั้งที่เห็น ผู้ใหญ่ลงสนาม แล้วต้องไปเจอกับคู่ต่อสู้เป็นน้องๆเด็กๆ คงมี หลายคนคงแอบมีเสียงในหัวดังขึ้นมาแบบอัตโนมัติว่า “ถ้าชนะ เดี๋ยวก็โดนว่าเก่งแต่กับเด็ก… แต่ถ้าแพ้ก็จะถูกมองว่ากระจอกซะงั้น” ซึ่งเป็น Mindset แบบเดิมที่หลายคนยังติดอยู่ และจริงๆ มันค่อนข้าง “ผิดฝั่ง” กับความจริงของสนามเบย์เบลดพอสมควร การแข่งขันเบย์เบลด แม้จะถูกมองว่าเป็นกิจกรรมสำหรับเด็ก แต่ในความเป็นจริงแล้วเป็นพื้นที่เรียนรู้ทางสังคมที่เปิดโอกาสให้ผู้เล่นทุกวัยสามารถมีส่วนร่วมภายใต้กติกาเดียวกัน อุปกรณ์ใกล้เคียงกัน และโครงสร้างการแข่งขันที่บางรายการไม่มีการแบ่งแยกอายุ ซึ่งมันก็ส่งผลให้เกิดคำถามสำคัญในบริบทแบบไทยๆเราว่า “ผู้ใหญ่เนี่ย ควรแข่งขันเต็มที่กับเด็กขนาดนั้นเลยหรือเปล่า?” แม้แต่ตัวแอดมินผู้เขียนเอง ก็เคยมีความคิดนี้ในหัวครับ จนกระทั่งได้ตกตะกอนหลายๆอย่าง และนั่งพิจารณาตามความเป็นจริงที่ประสบพบเจอ จนออกมาเป็นบทความที่จะพามา ปรับทัศนคติ และเพิ่มมุมมองของ พฤติกรรมของผู้ใหญ่ เด็ก และผู้ปกครองในบริบทของการแข่งขัน BEYBLADE X ซึ่งทางแอดมิน อยากจะเสนอไอเดียที่ว่า “การแข่งขันแบบ ไม่ออมมือกับเด็กๆ” เป็นแนวปฏิบัติที่เหมาะสมกว่า และเป็นประโยชน์ต่อพัฒนาการเด็กในหลายมิติครับ 1. เลิกได้เลิกนะ…ไอ้วัฒนธรรมความคิดในสังคมไทย: “ชนะเด็ก รังแกเด็ก ไม่สมเป็นผู้ใหญ่เอาซะเลย!” ทัศนคติที่พบได้ทั่วไปในสังคมไทย […]






































