Review : The Long Walk เกมเดินมรณะ [รีวิว / หนังใหม่ / 2025]
09 กันยายน 2568 17:00 น.
Share on FacebookTweet about this on TwitterShare on Google+
The Long Walk_Poster TH_4x5
 

 

ไร้ทางกลับ

 

ไร้ทางหนี

 

ไร้ทางรอด!

 

ยินดีต้อนรับสู่การแข่งขัน #TheLongWalk 
 
 stephen-king-the-long-walk-art-b
จากจินตนาการสุดระทึกของ “สตีเวน คิง” 
ผลงานโดยผู้กำกับแห่งจักรวาล “The Hunger Games” 
 
 
The Long Walk เป็นภาพยนตร์เรื่องราวเกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกาที่กำลังล่มสลาย เนื้อเรื่องจะเกี่ยวกับการแข่งขันเดินระยะไกลซึ่งเป็นการแข่งขันประจำปีที่ถ่ายทอดทางโทรทัศน์ โดยมีชายหนุ่ม 100 คนเดินโดยไม่หยุดตลอดเส้นทางหมายเลข 1 ของสหรัฐอเมริกาโดยพวกเขาถูกเรียกว่า “Walker”
 
The Long Walk_003
Walker แต่ละคนต้องรักษาความเร็วให้เกิน 4 ไมล์ต่อชั่วโมง (6.4 กม./ชม.) หาก Walker เดินด้วยความเร็วต่ำกว่านี้เป็นเวลา 30 วินาทีด้วยเหตุผลใดก็ตามWalker จะได้รับโทษ เป็นคำเตือน 3 ครั้งและไม่สามารถกลับมาเดินต่อได้ใน 30 วินาที “จะถูกยิงทิ้งทันที”

 
 
 
ผู้ชนะคือ Walker คนสุดท้ายที่ยังอยู่ในการแข่งขัน
 
รางวัลจะจะเป็นอะไรก็ได้ ตามที่ผู้ชนะต้องการ 
 
กฏของเกม มีดังนี้ 
 539888556_1231915525632188_3288206803263038739_n
 
 
 
 
 
REVIEW
the-long-walk (1)

อืม… ก็ สไตล์สตีเวน คิง แหละ

อย่าถามหาความสุขจากการรับชมผลงานของปู่แกเลย 55+

 

เราทุกคนล้วนมีช่วงที่สูญเสีย และเสียศูนย์

แต่ชีวิต ต้องเดินต่อไป

บนความโหด และ งดงาม ในเวลาเดียวกัน

ตัวหนังเล่าเรื่องผ่านบทพูดรัวๆ แต่คมคาย ทั้งปรัชญา การเปรียบเปรยกัดแซะสังคม ความยากจน ทางเลือก และการตัดสินใจ กับบรรยากาศเคว้งๆ แต่กว้างใหญ่ด้วยการถ่าย Landscape แล้วมาเน้นให้อึดอัดด้วย Portrait แล้วตบด้วยผลลัพท์ของความผิดพลาดด้วย “ชีวิต” และนั่นทำให้ทุกย่างก้าว ดูอึมครึมแบบไม่ต้องเกรดสีฟิล์มให้มันนัวร์ๆเลย ขึ้นแท่นหนังที่ชอบของปีนี้อีกเรื่องเลยก็ว่าได้ครับ
stephen-king-the-long-walk-art-

The Long Walk ถือเป็นนิยายเล่มแรกที่ สตีเวน คิง ขณะยังเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัย Maine ใช้ชื่อนามปากกา “ริชาร์ด บาคแมน”  เขียนขึ้นในช่วงที่สงครามเวียดนามกำลังทวีความรุนแรง ตอนนั้นปู่แกน่าจะอายุ 18-19 รึไงนี่ละ 

 

ช่วงนั้นตัวเลขทหารอเมริกันที่ล้มตายพุ่งสูงขึ้นทุกปี และแม้ผู้เขียนจะไม่เคยประกาศว่านิยายเล่มนี้คือการเสียดสีการเมือง แต่เส้นเรื่องว่าด้วยกลุ่มชายหนุ่มที่ถูกเกณฑ์ให้เข้าร่วม “เกมมรณะ” ภายใต้คำสั่งของผู้นำทหารชื่อ The Major (ผู้พัน) ก็เป็นภาพสะท้อนของยุคที่อำนาจรัฐ กะเกณฑ์คนไปรบ ไปล้มตาย เพื่ออะไรก็ไม่รู้ในสมัยนั้นอย่างชัดเจน

 

ตอนสมัยเรียนก็เคยอ่านนิยายเล่มนี้นะครับ เป็นนิยายภาษาอังกฤษ มีชั้นวางเรียงรายในห้องสมุด ที่เป็นนิยายแนวๆอ่านยากๆ ศัพท์ Eng เยอะๆ แต่ด้วยความที่เป็นสมาชิกห้องสมุด เลยได้มีโอกาสค่อยๆอ่านทีละเรื่องอ่านไปเปิดดิคฯไป และเรื่องนี้ เป็นอีกความทรงจำลางๆ อีกเรื่องครับ จำรายละเอียดไม่ได้ทั้งหมดหรอก แต่ก็พอจะเก็ทเรื่องที่  “ริชาร์ด บาคแมน” เขียนไว้คร่าวๆ…แต่ยอมรับว่า จบ”ต่างจากนิยาย” ไปพอสมควร

 

the-long-walk  (6)

หลายทศวรรษที่ผ่านไป โปรเจกต์การดัดแปลง The Long Walk ถูกเลื่อนออกไปเรื่อยๆ ก่อนหน้านี้ มี เวอร์ชันที่ George Romero เคยมีเกี่ยวว่าจะมาทำ เคยพยายามสร้างมาแล้ว และก็พับโปรเจคท์ไป

 

ก่อนที่ Francis Lawrence ผู้กำกับ The Hunger Games จะกลายเป็นคนที่ทำได้จริงๆในปี 2025 พร้อมแรงสนับสนุนจาก Lionsgate และตัวหนังก็เต็มไปด้วยความโหด ความสะอิดสะเอียน ความเรียลที่เกิดขึ้นได้จริงๆ จากอุปสรรคในการเดินอย่างยาวนานในระดับร่างกายมนุษย์จะทนไหวได้น่าสนใจมากๆ

 

เรื่องราวในหนังเล่าอย่างเรียบง่าย แต่โหดร้ายเกินกว่าจะทนดูได้ …เมื่อชายหนุ่ม 50 คน ยื่นใบสมัครเข้าแข่งให้ “เดิน” ต่อเนื่องบนถนนไฮเวย์ หากใครหยุด เดินช้าเกิน หรือหมดแรงจะถูกเตือน 3 ครั้ง และในครั้งที่ 4 จะ ถูกยิงทิ้งทันที

 

ไม่มีเส้นชัยใดๆ เกมนี้จะจบก็ต่อเมื่อเหลือผู้รอดเพียงหนึ่งเดียว และผู้ชนะจะได้รับ “พร” หนึ่งข้อพร้อมรางวัลมหาศาล

 the-long-walk  (5)

สิ่งที่ทำให้ The Long Walk แตกต่างจาก The Hunger Games ก็คือผู้เข้าแข่งขันไม่ได้ฆ่ากันเองตรงๆ แต่การอยู่รอดก็หมายถึงการเดิมข้ามศพผู้อื่นอยู่ดี ความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นระหว่างผู้เดินร่วมเส้นทางนั้นเต็มไปด้วยทั้งความโหดเหี้ยมและความงดงาม—บางคนยื่นมือช่วยเหลือราวกับพี่น้อง ขณะที่บางคนเลือกซ้ำเติมทำตัวกวนบาทาได้อย่างน่ายัดหมัดใส่หน้าก็มี

 

เรื่องราวโฟกัสไปที่ เรย์มอน การ์แรตตี้ (Cooper Hoffman) เด็กหนุ่มผู้แบกรับความคาดหวังของครอบครัว และ ปีเตอร์ “พีท” แมควีร์ (David Jonsson) ผู้มีเสน่ห์ คมคาย และเต็มไปด้วยปรัชญา ทั้งคู่พัฒนาความสัมพันธ์แน่นแฟ้นราวกับเพื่อนร่วมรบในสนามสงคราม แม้สุดท้ายเกมนี้จะบังคับให้เหลือผู้รอดเพียงหนึ่ง

the-long-walk  (1)

Mark Hamill สลัดภาพ ลุค สกายวอล์คเกอร์ จาก Star Wars มาสวมบท “ผู้พัน” ได้อย่างเยือกเย็นและน่ากลัว แค่ปรากฏตัวพร้อมแว่นกันแดดสะท้อนเงา ก็ทำให้ผู้ชมรู้สึกเหมือนกำลังเผชิญหน้ากับอำนาจรัฐที่ไร้หัวใจ และสำเนียงภาษาอังกฤษของลุงแก ก็กวนประสาทใช่ย่อยเลย ถือว่าเป็นบทที่ร้ายลึกๆ อีกเรื่องที่แกรับงานมา นอกจากการพากย์เป็น Joker ในซีรีส์อนิเมะ Batman 

The Long Walk_001

Francis Lawrence ใช้เทคนิคถ่ายทำแบบ landscape เพื่อสร้างความรู้สึกเวิ้งว้างไร้ที่สิ้นสุด ก่อนจะบีบคั้นผู้ชมด้วย portrait close-up ที่เผยให้เห็นเหงื่อ ความเจ็บปวด และการล้มลงของแต่ละชีวิต ทุกย่างก้าวถูกถ่ายทอดอย่างดิบและจริง เน้นการถ่ายตามลำดับเวลา (chronological shooting)

 

ทำให้นักแสดงแสดงออกถึงความเหนื่อยล้าได้สมจริง ตั้งแต่ 5 ไมล์แรก..จนถึง 300ไมล์ และเฮือกสุดท้ายของชีวิตแต่ละตัวละคร อีกทั้งตัวหนังเลือกจะเขียนฉากจบใหม่ให้ต่างจากนิยายที่ถ้าใครเคยอ่านจะรู้ว่ามันเคว้ง และหน่วงมาก…และเวอร์ชั่นหนัง ส่วนตัวให้เคว้ง หนักหนากว่านั้นเยอะ (ไว้จะเล่าตอนจบเวอร์ชั่นนิยาย หลังหนังออกฉายซักระยะนึงครับ)

 

the-long-walk  (4)

The Long Walk ไม่ใช่หนังสยองขวัญแบบมีผี คอย Jump Scare แต่เป็นโศกนาฏกรรมที่กัดกินใจผู้ชมช้าๆ ระดับ Sloww Burn ผกก.ต้องการให้เรา รัก ชอบ เกลียด เอาใจช่วยตัวละครในเรื่อง และประเคนความตายใส่แบบไม่มีเยื่อใย เพราะทุกการล้มของผู้เข้าแข่งขัน 1 คน คือบาดแผลทางใจใหม่ ๆ และ สะเทือนทุกมิตรภาพที่ก่อตัวขึ้น ด้วยกระสุนที่พร้อมจะปลิดชีพใครก็ตามที่หลุดจากเกมนี้โดยไม่สนเหตุผลใดๆเลย


นี่ไม่ใช่หนังที่ให้ความหวังแบบตรงไปตรงมา แม้จะมีรางวัลปลายทาง แต่สารหลักคือ “ชีวิตคือการเดินต่อ แม้เต็มไปด้วยความเจ็บปวด”

The Long Walk_สตีเวน 

ส่วนตัวคิดว่า สตีเวน คิง คงเขียนนิยายเรื่องนี้ เพื่อเป็นเสียงสะท้อนของยุคสงครามเวียดนาม แต่ในขณะเดียวกัน หนังก็สอดแทรกการตีความใหม่ในเชิงจิตวิทยา ความสัมพันธ์ การเติบโต และการเลือกจะก้าวต่อแม้ไม่มีใครอยู่ข้างๆ 

 

the-long-walk  (3)

The Long Walk ไม่ใช่หนังที่ดูสนุกหรือทำให้ผู้ชมมีความสุข แต่เป็นประสบการณ์ภาพยนตร์ที่คมคาย เข้มข้น และชวนให้ครุ่นคิดต่อหลังจากเครดิตจบ

 

มันคือผลงานที่ทั้ง โหด และ งดงาม ในเวลาเดียวกัน

และคงไม่เกินจริงหากจะบอกว่า

นี่คือหนึ่งในงาน “ดัดแปลง” จากนิยายของ สตีเวน คิง ที่แอดมินชอบที่สุดในรอบหลายปี

 

(คือ ไอ้หนังลิง “จ๋อจัดตาย” ที่เป็นผลงานก่อนหน้านี้ ก็จะแบบอิหยังหวะไปหน่อย 555)

 
 
แอดมิน Ak47
————————————–
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

the-long-walk (6)

สั่นสะเทือนทุกย่างก้าว เมื่อเหล่า “วอล์กเกอร์” เดินเท้าถึงไทย

“The Long Walk เกมเดินมรณะ” รอบไทยแลนด์พรีเมียร์

ทุกเสียงการันตีความโหดระทึก เข้มข้น กดดันทุกวินาที

11 กันยายนนี้ ในโรงภาพยนตร์

        

            เปิดฉากความระทึกครั้งใหม่กับเกมเดินตายที่เดิมพันด้วยชีวิต “The Long Walk เกมเดินมรณะ” ภาพยนตร์น่าจับตาแห่งปีที่เรียกเสียงฮือฮาตั้งแต่การประกาศสร้างโปรเจกต์นี้ด้วยการร่วมมือกันครั้งแรกของสองเจ้าพ่อสายระทึกขวัญ “สตีเวน คิง” และ “ฟรานซิส ลอว์เรนซ์” ผู้กำกับจากแฟรนไชส์ “The Hunger Games” (2012-2023) ร่วมด้วย “รอย ลี” โปรดิวเซอร์มือทองผู้สร้างผลงานสุดสยองไฮคอนเซปต์อย่าง “Barbarian” (2022), “Companion” (2025) และ “Weapons” (2025) พร้อมทวีคูณความน่าดูขั้นสุดด้วยปรากฏการณ์รีวิวเชิงบวกจากสื่อนอกหลายสำนักกับคะแนนเปิดตัวสูงลิ่วบนเว็บไซต์ Rotten Tomatoes ล่าสุดอยู่ที่ 96% (ข้อมูล ณ วันที่ 9 กันยายน 2025)

 

แอดฯก็มากะเค้านะค้าบ 555+

 

            “มงคลเมเจอร์” ไม่รอช้าจัดรอบท้าผู้กล้ากลุ่มแรกเข้าสู่เกมเดินมรณะกับ The Long Walk ไทยแลนด์พรีเมียร์” เมื่อวันจันทร์ที่ 8 กันยายนที่ผ่านมา ณ โรงภาพยนตร์เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ รัชโยธิน พร้อมจัดลู่เดินเพื่อให้เหล่าวอล์กเกอร์ในไทยได้สัมผัสความเรียล ดิบ โหด บิลด์อินเนอร์เสมือนว่าได้เดินเท้าร่วมกับเหล่าวอล์กเกอร์ในเกมท้าตายนี้

 the-long-walk (3)

            โดยงานนี้ได้รับเกียรติจากเหล่านักแสดง-ศิลปิน อาทิ “สิตา ธีรเดชสกุล”, “อิมเมจ-สุธิตา ชนะชัยสุวรรณ์” และ “โอ-อนุชิต สพันธุ์พงษ์” พร้อมด้วยสื่อมวลชน แขกรับเชิญ และคอหนังสายระทึกที่มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในปรากฏการณ์ความยิ่งใหญ่

 

ซึ่งทุกเสียงต่างการันตีว่านี่คือ “ภาพยนตร์คุณภาพแห่งปี” ที่ “โหดระทึก โคตรกดดัน ลุ้นเอามันส์จนวินาทีสุดท้าย” 

 

คอหนังชาวไทยเตรียมมุ่งหน้าสู่เกมเดินตายไร้เส้นชัยที่ทุกก้าวและทุกไมล์ต้องเดิมพันด้วยชีวิตใน “The Long Walk เกมเดินมรณะ” 11 กันยายนนี้ ในโรงภาพยนตร์