ชื่อภาษาอังกฤษ : Star Trek Beyond
ชื่อภาษาไทย : สตาร์เทร็ค: ข้ามขอบจักรวาล
ประเภท : ภาพยนตร์
แนว : แอคชั่น / ผจญภัย / วิทยาศาสตร์
ผู้กำกับ : Justin Lin
ค่าย : Paramount Pictures
ฉาย : 20 กรกฎาคม 2016
ช่างเป็นปีที่เต็มไปด้วยภาพยนตร์ภาคต่อที่หลายคนรอคอยเสียจริงๆ เพราะในปี 2016 นี้จะเป็นการกลับมาของมหากาพย์การเดินทางข้ามจักรวาลในโลกอนาคตที่แฝงไปด้วยปรัชญา ในภาพยนตร์เเฟรนไชน์ภาคต่อที่ดำเนินมาถึงครึ่งศตวรรษ อย่าง Star Trek Beyond สตาร์เทร็ค: ข้ามขอบจักรวาล ซึ่งเป็นภาคที่ 13 ของฉบับภาพยนต์ ที่รีบูตมาจากฉบับซีรีย์ที่ทางฉายทางโทรทัศน์อย่าง The Original Series (TOS) ในปี ค.ศ. 1966–1969
โดยในภาคนี้ นอกจากจะมีการเปลี่ยนมือผู้กำกับจาก เจ. เจ. อับรามส์ (Jeffrey Jacob) ซึ่งฝากฝีมือไว้ใน 2 ภาคล่าสุดอย่าง สตาร์ เทรค สงครามพิฆาตจักรวาล (Star Trek) และ สตาร์ เทรค ทะยานสู่ห้วงมืด (Star Trek into Darkness) ในภาคนี้ก็จะได้ผู้กำกับฝีมือเยี่ยมจาก Fast and Furious 4-6 อย่าง จัสติน หลิน (Justin Lin) (ซึ่งถอนตัวจาก Fast and Furious 7) มาใส่ความแรงทะลุพิกัดในห้วงอวกาศนี้แทน แต่ถึงกระนั้นผู้กำกับคนเก่า เจ. เจ. อับรามส์ ก็ยังคงมีบทบาทสำคัญในดูแลงานสร้างภาคนี้เช่นเดิมกับการรับหน้าทื่ผู้อำนวยการสร้างนั่นเอง…
(หน้าตา ผกก. “จัสติน หลิน” ของเรา) Source : trekcore.com
เรื่องย่อ
โดยสำหรับเรื่องราวของ Star Trek Beyond จะเป็นการบอกเล่าเหตุการณ์ที่ไม่เคยถูกพูดถึงมาก่อนเกี่ยวกับการเดินทางสำรวจข้ามห้วงอวกาศเป็นเวลานานถึง 5 ปี ของยานเอ็นเตอร์ไพรซ์ ซึ่งจากฉากบู๊แอคชั่น ที่เปิดมาพร้อมกับเพลงร็อคดิบๆ อย่าง “Sabotage” ของ Beastie Boys ในตัวอย่างแรกที่ปล่อยออกมา ก็ทำให้พอจะเดาทางได้ว่า ในภาคนี้น่าจะเป็นการผสมผสานทั้งปรัชญาและฉากการต่อสู้ที่ “โคตรพังค์!” ให้ผู้ชมได้มันส์ไปพร้อมๆ กับมุกตลกในฉากคอมเมดี้ที่สอดแทกเข้ามาอย่างเช่นตัวอย่างบางช่วงบางตอน

เรื่องราวเริ่มต้นโดยการที่ยานเอ็นเตอร์ไพรซ์กลับสู่ดาวโลกอีกครั้ง และแม้กัปตันเคิร์กจะโหยหาการทะยานกลับสู่ภารกิจสำรวจห้วงอวกาศอย่างไร สิ่งที่เขาค้นพบ ก็คือ สถานการณ์ของโลกที่กำลังย่ำแย่และรอให้เขารวมถึงลูกเรือช่วยเหลือ เมื่อโลกถูกรุกรานโดยกลุ่มเอเลี่ยนนิรนาม การโจมตีเริ่มต้นขึ้น ฝูงบินสตาร์ฟลีทถูกโจมตีจากภายใน จนก่อเกิดเป็นความเสียหายที่ทำให้โลกถึงคราววิกฤต การเบนเข็มภารกิจจึงเกิดขึ้นอีกครั้ง และนำมาสู่มิตรภาพครั้งใหม่ที่ทำให้กัปตันต้องชั่งใจ เมื่อมันอยู่บนความก้ำกึ่งระหว่างมิตรและศัตรู แต่นั่นก็จะเป็นบทพิสูจน์ครั้งสำคัญที่จะให้กัปตันเรียนรู้ถึงคำว่า “ความเชื่อใจ”
สุดท้ายแล้วอนาคตของดาวโลกจะเป็นอย่างไร? สมาชิกยานเอ็นเตอร์ไพรซ์จะใช้วิธีการใดในการหาทางออกของปัญหาที่พวกเขาต้องเผชิญ ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์แห่งการเดินทางและการต่อสู้ห้วงจักรวาลครั้งนี้ได้ ใน Star Trek Beyond สตาร์เทร็ค: ข้ามขอบจักรวาล 20 กรกฏาคม 2016 นี้!
ตัวอย่างภาพยนตร์
ตัวละคร
Review [No Spoil] 9/10 คะแนน
Star Trek ภาคที่ 3 ที่ “คริสไพน์” รับบทเป็น “กัปตันเคิร์ก”
ก็ยังคงคอนเซ็ปเดิมคือการท่องเที่ยวสำรวจอวกาศเพื่อค้นหาประสบการณ์ใหม่ๆให้กับมวลมนุษย์ชาติ
ด้านบท เล่าเรื่องเร็ว คนที่คุ้นเคยกับตัวละครอยู่แล้วก็เหมือนได้กลับมาท่องเที่ยวอวกาศกับเพื่อนเก่าที่คุ้นเคย
ตอนแรกว่าจะด่าเรื่องความไม่สมเหตุผลหลายๆอย่าง เช่น ดาวดวงใหญ่โตแต่ฐานศัตรูทำไมมันดูเล็กจัง พวกตัวร้ายมีจำนวนน้อยแต่คิดการใหญ่ไปไหมสุดท้ายต้นต่อเรื่องทั้งหมดจะไปเฉลยตอนใกล้จบนู้นเลย
ดาวดวงใหม่ที่ไปสำรวจไม่ค่อยมีไรแปลกตาคล้ายๆโลกเลยแต่ก็มีดาวของสหพันธ์ที่ใช้เทคโนโลยีสร้างขึ้นคล้ายโคโลนี่เจ๋งดีแนวคิดยานศัตรูแปลกและโหดดี ฉากทำลายล้างเวอร์วังอลังการ
ใครชอบแนวเทคโนโลยี ยานอวกาศ สงครามกันดั้มน่าจะชอบเรื่องนี้ ไฮเทคล้ำจินตนาการสุดๆส่วนพล๊อตเรื่องก็เดิมๆพอเดาได้ โดยรวมสนุกดีครับ
By Webmaster
Movie Weekly น้องเบ้นรีวิว
ขอขอบคุณข้อมูลจาก: IMDb | Comingsoon.net
By : Admin@no (แอดมินโนเอง)
-
รางวัลสุดยอดเกมแห่งปี Game Awardsเปิดโผผู้เข้าชิง The Game Awards ทุกสาขาอย่างเป็นทางการ
-
Resident Evil 9 : Requiem [Preview / สั่งซื้อแผ่นเกม / ราคา / วันวางขาย]27 กุมภาพันธ์ 2026
-
BEYBLADE X : ผู้ใหญ่ vs เด็ก Mindset ที่ดี… “ใส่เต็มที่ มีประโยชน์ในด้านพัฒนาการเด็ก”เชื่อว่าตามงานแข่ง BEYBLADE X มีหลายครั้งที่เห็น ผู้ใหญ่ลงสนาม แล้วต้องไปเจอกับคู่ต่อสู้เป็นน้องๆเด็กๆ คงมี หลายคนคงแอบมีเสียงในหัวดังขึ้นมาแบบอัตโนมัติว่า “ถ้าชนะ เดี๋ยวก็โดนว่าเก่งแต่กับเด็ก… แต่ถ้าแพ้ก็จะถูกมองว่ากระจอกซะงั้น” ซึ่งเป็น Mindset แบบเดิมที่หลายคนยังติดอยู่ และจริงๆ มันค่อนข้าง “ผิดฝั่ง” กับความจริงของสนามเบย์เบลดพอสมควร การแข่งขันเบย์เบลด แม้จะถูกมองว่าเป็นกิจกรรมสำหรับเด็ก แต่ในความเป็นจริงแล้วเป็นพื้นที่เรียนรู้ทางสังคมที่เปิดโอกาสให้ผู้เล่นทุกวัยสามารถมีส่วนร่วมภายใต้กติกาเดียวกัน อุปกรณ์ใกล้เคียงกัน และโครงสร้างการแข่งขันที่บางรายการไม่มีการแบ่งแยกอายุ ซึ่งมันก็ส่งผลให้เกิดคำถามสำคัญในบริบทแบบไทยๆเราว่า “ผู้ใหญ่เนี่ย ควรแข่งขันเต็มที่กับเด็กขนาดนั้นเลยหรือเปล่า?” แม้แต่ตัวแอดมินผู้เขียนเอง ก็เคยมีความคิดนี้ในหัวครับ จนกระทั่งได้ตกตะกอนหลายๆอย่าง และนั่งพิจารณาตามความเป็นจริงที่ประสบพบเจอ จนออกมาเป็นบทความที่จะพามา ปรับทัศนคติ และเพิ่มมุมมองของ พฤติกรรมของผู้ใหญ่ เด็ก และผู้ปกครองในบริบทของการแข่งขัน BEYBLADE X ซึ่งทางแอดมิน อยากจะเสนอไอเดียที่ว่า “การแข่งขันแบบ ไม่ออมมือกับเด็กๆ” เป็นแนวปฏิบัติที่เหมาะสมกว่า และเป็นประโยชน์ต่อพัฒนาการเด็กในหลายมิติครับ 1. เลิกได้เลิกนะ…ไอ้วัฒนธรรมความคิดในสังคมไทย: “ชนะเด็ก รังแกเด็ก ไม่สมเป็นผู้ใหญ่เอาซะเลย!” ทัศนคติที่พบได้ทั่วไปในสังคมไทย […]










































