Sisu: Road to Revenge (2025)
แนว: Action
โปรดิวเซอร์: Petri Jokiranta, ไมค์ กูดริดจ์
ผู้กำกับ: ยัลมารี่ เฮแลนเดอร์
นำแสดงโดย: ยอร์มา ทอมมิลลา, ริชาร์ด เบรค, ไอนาร์ ฮาราล์ดสัน, แจ็คโค ฮัชชิ่ง, เออร์โก คุปปาส์, แอนตัน คลิงก์ และ สตีเฟน แลงก์
บริษัทที่ผลิต: Subzero Film Entertainment, Stage 6 Films, Good Chaos
วันที่ออกฉาย: 21 พฤศจิกายน 2568 (อเมริกา) / 4 ธันวาคม 2568 (ไทย)
นับเป็นภาพยนตร์แอ็คชั่นที่น่าสนใจของปีนี้กับหนังบู๊สัญชาติฟินแลนด์อย่าง Sisu: Road to Revenge ภาคต่อของเฒ่ามหากาฬ Sisu ในปี 2023 ที่ประสบความสำเร็จเกินคาด ทำรายได้จากการเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ทั่วโลกไปทั้งหมด $14 ล้านเหรียญ จากทุนสร้างประมาณ $6 ล้านเหรียญ พร้อมกับเสียงตอบรับด้านคำวิจารณ์อย่างยอดเยี่ยม จากทั้งนักวิจารณ์และผู้ชมทั่วไปของเว็บไซต์ Rotten Tomatoes 94 เปอร์เซ็นต์ และ 88 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับรวมถึงแฟนหนังชุดนี้ต่างยกให้ตัวเอกของเรื่องคือ จอห์น วิค แห่งฟินแลนด์อย่างไร้ข้อกังขา
จากความสำเร็จครั้งนี้ ยัลมารี่ เฮแลนเดอร์ ผู้กำกับจากภาคแรก เตรียมสานต่อเรื่องราวของ เฒ่ามหากาฬ ในภาคต่อที่โหดกว่า แสบกว่าเดิม และแน่นอนว่า ยอร์มา ทอมมิลา ที่จะกลับมาจับปืนบู๊อีกครั้ง
เรื่องย่อ
Sisu: Road to Revenge จะเล่าเหตุการณ์ต่อจากภาคแรก ว่าด้วยเรื่องราวของชายที่ไม่มีวันตาย Aatami ที่กลับไปรื้อบ้านเก่าในคาเรเลีย เพื่อนำไปสร้างใหม่ แต่กลับถูกตามล่าโดยผู้บัญชาการกองทัพแดงที่เคยสังหารครอบครัวของเขาอย่างโหดเหี้ยม ทำให้เกิดการต่อสู้เอาชีวิตรอดและการไล่ล่าที่ดุเดือดข้ามประเทศทั้งการต่อสู้จนตัวตาย เปี่ยมด้วยไหวพริบและฉากแอ็คชั่นที่น่าตื่นเต้นเร้าใจ
Sisu: Road to Revenge ยังคงได้ ยัลมารี่ เฮแลนเดอร์ ผู้กำกับจากภาคแรก กลับมาวาดลวดลายความโหดให้กับเฒ่ามหากาฬในภาคนี้ ได้ออกมาพูดถึงภาพยนตร์เรื่องนี้เอาไว้ในการให้สัมภาษณ์กับทาง เอ็มไพร์ สื่อบันเทิงชื่อดังเกี่ยวกับเรื่องราวคร่าวๆของหนังเรื่องนี้ไว้ว่า
“เขาพยายามที่จะย้ายบ้านของเขา ซึ่งเป็นสัมภาระที่หนักหนาทางด้านอารมณ์เลยทีเดียว และยากที่จะเคลื่อนย้ายมากกว่าถุงทอง ดังนั้นฉากแอ็กชันจึงใหญ่ขึ้น และเดิมพันก็สูงขึ้น”
ในส่วนของนักแสดงนั้นก็ยังคงได้ ยอร์มา ทอมมิลลา กลับมารับบทบู๊ในบท Aatami ชายแก่ที่ต้องสูญเสียครอบครัวจากน้ำมือของเหล่านาซี ทำให้เขาต้องจับปืนและไล่ฆ่าศัตรูที่ขวางหน้า พร้อมด้วยนักแสดงอีกมากมาย อาทิ ริชาร์ด เบรค, ไอนาร์ ฮาราล์ดสัน, แจ็คโค ฮัชชิ่ง, เออร์โก คุปปาส์, แอนตัน คลิงก์
แต่ที่น่าสนใจของหนังเรื่องนี้คือวายร้ายประจำภาคที่ได้นักแสดงแอ็คชั่นลายครามอย่าง สตีเฟ่น แลง มารับบทเป็นหัวหน้าของกองกำกลังทหารโซเวียตที่จะเป็นคู่ปรับคนสำคัญของตัวเอกในภาคนี้ เรียกว่าเป็นมวยถูกคู่เลยทีเดียว
‘ทุกหนี้แค้น..ล้วนมีเจ้าของ!’
เตรียมพบการไล่ล่าครั้งใหม่ของเฒ่ามหากาฬใน Sisu: Road to Revenge (2025) จึงจะเข้าฉายในบ้านเรา วันที่ 4 ธันวาคมนี้ ทุกโรงภาพยนตร์……
ตัวอย่างหนัง
@P.PETTY
#SisuRoadToRevenge
#เฒ่ามหากาฬ2
ข้อมูลอ้างอิง
-
รางวัลสุดยอดเกมแห่งปี Game Awardsเปิดโผผู้เข้าชิง The Game Awards ทุกสาขาอย่างเป็นทางการ
-
Resident Evil 9 : Requiem [Preview / สั่งซื้อแผ่นเกม / ราคา / วันวางขาย]27 กุมภาพันธ์ 2026
-
BEYBLADE X : ผู้ใหญ่ vs เด็ก Mindset ที่ดี… “ใส่เต็มที่ มีประโยชน์ในด้านพัฒนาการเด็ก”เชื่อว่าตามงานแข่ง BEYBLADE X มีหลายครั้งที่เห็น ผู้ใหญ่ลงสนาม แล้วต้องไปเจอกับคู่ต่อสู้เป็นน้องๆเด็กๆ คงมี หลายคนคงแอบมีเสียงในหัวดังขึ้นมาแบบอัตโนมัติว่า “ถ้าชนะ เดี๋ยวก็โดนว่าเก่งแต่กับเด็ก… แต่ถ้าแพ้ก็จะถูกมองว่ากระจอกซะงั้น” ซึ่งเป็น Mindset แบบเดิมที่หลายคนยังติดอยู่ และจริงๆ มันค่อนข้าง “ผิดฝั่ง” กับความจริงของสนามเบย์เบลดพอสมควร การแข่งขันเบย์เบลด แม้จะถูกมองว่าเป็นกิจกรรมสำหรับเด็ก แต่ในความเป็นจริงแล้วเป็นพื้นที่เรียนรู้ทางสังคมที่เปิดโอกาสให้ผู้เล่นทุกวัยสามารถมีส่วนร่วมภายใต้กติกาเดียวกัน อุปกรณ์ใกล้เคียงกัน และโครงสร้างการแข่งขันที่บางรายการไม่มีการแบ่งแยกอายุ ซึ่งมันก็ส่งผลให้เกิดคำถามสำคัญในบริบทแบบไทยๆเราว่า “ผู้ใหญ่เนี่ย ควรแข่งขันเต็มที่กับเด็กขนาดนั้นเลยหรือเปล่า?” แม้แต่ตัวแอดมินผู้เขียนเอง ก็เคยมีความคิดนี้ในหัวครับ จนกระทั่งได้ตกตะกอนหลายๆอย่าง และนั่งพิจารณาตามความเป็นจริงที่ประสบพบเจอ จนออกมาเป็นบทความที่จะพามา ปรับทัศนคติ และเพิ่มมุมมองของ พฤติกรรมของผู้ใหญ่ เด็ก และผู้ปกครองในบริบทของการแข่งขัน BEYBLADE X ซึ่งทางแอดมิน อยากจะเสนอไอเดียที่ว่า “การแข่งขันแบบ ไม่ออมมือกับเด็กๆ” เป็นแนวปฏิบัติที่เหมาะสมกว่า และเป็นประโยชน์ต่อพัฒนาการเด็กในหลายมิติครับ 1. เลิกได้เลิกนะ…ไอ้วัฒนธรรมความคิดในสังคมไทย: “ชนะเด็ก รังแกเด็ก ไม่สมเป็นผู้ใหญ่เอาซะเลย!” ทัศนคติที่พบได้ทั่วไปในสังคมไทย […]
































