ย้อนรอยเหตุการณ์ หวีดสุดขีดก่อนไปชม Scream 7

ภาพยนตร์ชุด Scream หรือชื่อไทยที่เรารู้จักในชื่อ ‘หวีดสุดขีด’ คือภาพยนตร์สยองขวัญแห่งยุค 90’s ที่ไม่ใช่แค่ภาพยนตร์ที่ทำให้แนวสยองขวัญที่ผู้คนเริ่มเมินหนี กลับมามีชีวิตชีวา แต่มันยังได้สร้างแม่แบบให้กับหนังสยองขวัญ ทั้งการเล่าเรื่องและการต่อยอดกฎเกณฑ์จากเดิมไปสู่รูปแบบใหม่ๆ รวมถึง ฆาตกรหน้ากากผี หรือ Ghost Face ก็กลายเป็นไอค่อนของหนังสยองขวัญมาจนปัจจุบัน แถมตัวหนังก็ถูกสร้างมาเรื่อยๆจนถึงภาคล่าสุดอย่าง Scream 7 ที่กำลังจะเข้าโรงในปีหน้า

วันนี้เราจะพาย้อนเรื่องราวของหวีดสุดขีด เป็นการเรียกน้ำย่อยก่อนไปชมภาคใหม่กันครับ…

 

**เนื้อหาในบทความต่อไปนี้อาจมีการเผยเนื้อหาสำคัญของหนังชุด Scream หวีดสุดขีด**

 

 

 

 

รู้จัก Ghost Face ฆาตกรหน้ากากผี

ก่อนที่จะไปชมเรื่องราวทั้ง 6 ภาค เราจะขอพาทุกท่านไปร็จักกับตัวละครสำคัญที่เป็นเครื่องหมายการค้าของหนังชุดนี้ นั่นคือ Ghost Face ฆาตกรหน้ากากผี ซึ่งเป็นฆาตกรที่แม้ว่าจะไม่ได้น่ากลัวเหมือนตัวละครหนังสยองขวัญรุ่นพี่ แต่มันก็มีความสามารถอันเอกอุ นั่นคือความเป็นแฟนพันธุ์แท้หนังสยองขวัญ ที่จะเล่นถามคำถามเหยื่อไม่ใช่แค่ความสนุดแต่มันจะกดดันเหยื่อจนไม่อาจทำอะไรได้ และมันจะวางแผนมาเป็นอย่างดี

 

ส่วนภาพจำคือหน้ากากผีซึ่งเป็นหน้ากากที่สามารถซื้อได้ตามร้านค้าทั่วไป โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจาก ภาพวาดของศิลปินที่ชื่อว่า เอ็ดวาร์ด มุนช์ แต่ก่อนหน้านั้นทางทีมงานได้มีการดีไซน์หน้ากากผีหลายร้อยแบบให้เลือก ภายใต้โจทย์จากบทที่เขียนว่า ฆาตกรจะสวมหน้ากากไล่เชือดผู้คน ซึ่งทีมงานบังเอิญเจอหน้ากากตรงตามภาพที่วาดไว้ และนั่นมันจะกลายเป็นหน้ากากสยองขวัญที่เราจำได้จนทุกวันนี้นี่เอง

 

ในส่วนของเสียงฆาตกรสุดโหดผู้นี้ ได้ โรเจอร์ แจ็คสัน นักพากย์เสียงที่ให้เสียงทั้งในการ์ตูนและวีดีโอเกมจำนวนมากมาย โดยมีเกร็ดน่าสนใจว่า ระหว่างการถ่ายทำทีมนักแสดงแทบจะไม่เคยได้เจอเขาเลยซักครั้ง เพื่อคงความรู้สึกความกลัวของเหล่าตัวละครและเต็มไปด้วยความลึกลับนั่นเอง เรียกว่าเป็นผลงานให้เสียงตัวละครที่สร้างชื่อกับเขามากที่สุดจากผลงานทั้งหมดที่ผ่านมา

 

 

Scream (1996)

เรื่องราวเริ่มต้นในเมือง วูดส์โบโร่ เมื่อเกิดเหตุฆาตกรรมสุดสะเทือนขวัญ เมือสองวัยรุ่นดวงซวยนามว่า เคซี และ แฟนหนุ่มของเธอถูกฆ่าอย่างเลือดเย็น จากฝีมือของ Ghost Face ฆาตกรหน้ากากผี ที่ชื่นชอบหนังสยองขวัญและชอบไล่เชือดผู้คน ย้อนกลับไปคืนที่เกิดเหตุ เธอได้รับโทรศัพท์จากปลายสายลึกลับที่เข้ามาคุยเรื่องหนังสยองขวัญ ก่อนที่มันจะกลายเป็นเกมไล่ล่า 13 นาที แล้วเธอกลายเป็นศพสังเวยหลังจากนั้น (หนึ่งในฉากสับขาหลอกผู้ชมในตำนาน เพื่อบอกกลายๆว่า มันจะไม่ใช่สิ่งที่ทุกคนคิดหลังจากนี้แน่นอน!)

ซิดนีย์ เด็กสาวในเมืองวูดส์โบโร่ ซึ่งเธอและเพื่อนๆ ประกอบไปด้วย เททั่ม เพื่อนสนิท, บิลลี่ แฟนหนุ่ม. สตู เพื่อนสนิทของบิลลี่ และ แรนดี้ เพื่อนผู้เป็นติ่งหนังสยองขวัญ ต่างก็ให้ความสนใจของข่าวฆาตกรรมที่เกิดขึ้น ซึ่งเธอก็เริ่มหวดกลัว นั่นเพราะว่าช่วงเวลาดังกล่าว ใกล้จะครบรอบเหตุการณ์ที่แม่ของเธอเสียชีวิตจากการถูกฆาตกรรม จนวันหนึ่งเธอได้รับสายจากใครบางคนและถามเธอเกี่ยวกับหนังสยองขวัญ แม้ว่าเธอจะหลีกเลี่ยงตอบ แต่เมื่ออีกฝ่ายข่มขู่โดยเฉพาะฆาตกรผู้นี้เหมือนจะรู้เรื่องราวของเธอเป็นอย่างดี !?

แต่ยังไม่ทันจะวางสาย ฆาตกรหน้ากากผีก็ปรากฏตัวต่อหน้าเธอ ซึ่งเธอพยายามทำทุกวิถีทาง ก่อนที่จะหาทางเอาชีวิตรอด โชคดีที่แฟนหนุ่มอย่างบิลลี่เข้ามาช่วย แต่กลายเป็นว่าซิดนีย์เห็นเขามีหน้ากาก ก่อนที่ดิวอี้ ตำรวจประจำเมืองที่กำลังไล่สืบคดีนี้อยู่ เข้ามาพอดี จึงพาบิลลี่ไปขังรอสอบปากคำต่อไป (ภายหลังพ้นข้อกล่าวหา)

 

จากสองเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ข่าวฆาตกรรมแห่งเมืองวูดส์โบโร่ กลายเป็นที่ถูกกล่าวขาน ผู้คนในเมืองต่างก็หวาดผวาไม่หยุดจนไม่กล้าไปข้างนอกยามดึก ทางตำรวจก็พยายามจะหาทางจัดการกับฆาตกรรายนี้ ซึ่งในเวลาเดียวกัน ฆาตกรหน้ากากผีก็เริ่มรุกคืบจัดการสังหารเพื่อนหรือคนที่เกี่ยวข้องกับซิดนีย์คนแล้วคนเล่า

 

ในช่วงเวลานั้น ซิดนีย์ ก็ได้รับความช่วยเหลือจาก ดิวอี้ ตำรวจที่กำลังไล่สืบคดีนี้อยู่ พร้อมกับถูกนักข่าวสาวอย่าง เกล ที่สนใจในคดีนี้จนเธอต้องการจะติดตามข่าวอย่างใกล้ชิด

 

ตอนนี้เป้าหมายของหน้ากากผี คือซิดนีย์ ที่หวังจะส่งวิญญาณลงนรก ขณะที่ซิดนีย์ก็ยังคงถูกฆาตกรหน้ากากผีปั่นประสาทเธอไม่เลิก และยังจ้องล่างของผลาญเพื่อจะเอาชีวิตให้ได้ นอกจากนี้ เกล นักข่าวสาวที่ตอนแรกเธอถูกซิดนีย์ต่อยด้วยความโมโห ที่นอกจากเล่นประเด็นข่าวแม่ของเธอพร้อมเขียนเรื่องราว ซึ่งเธอได้บอกว่า ฆาตกรที่ซิดนีย์สงสัยในตอนแรกอย่าง คอตตอน แวรี่ ที่ถูกจับกุม เธอบอกว่า เขาเพียงแค่แพะรับบาป ซึ่งสอดคล้องกับแรนดี้ที่ใช้กฎของหนังสยองขวัญกับคดีนี้และบอกเพื่อนๆว่า “ทุกคนมีสิทธิเป็นผู้ต้องสงสัยได้ตลอดเวลา!”

แม้ว่าเหตุการณ์สะเทือนขวัญจนมีมาตรการให้ทุกคนอยู่แต่ในบ้าน แต่สำหรับวัยว้าวุ่นในเมืองวูดส์โบโร่ ซึ่งสตูจึงชวนทุกคนมางานปาร์ตี้ โชคดีที่ดิวอี้ต้องอยู่ดูแลความปลอดภัย ซึ่งประจวบเหมาะที่เกลเองก็ตามมาด้วยโดยได้ซ่อนกล้องเพื่อจะรอดูฆาตกรหน้าผีปรากฎตัว ส่วนเหล่าบรรดาเด็กวัยรุ่นก็นั่งดูหนังสยองขวัญพร้อมฟังแรนดี้สาธยายกฎต่างๆในหนังสยองขวัญ ซึ่งดูเหมือนว่าทุกคนจะละเมิดกฎทุกข้อกันเลยทีเดียว จนกระทั่งแรนดี้ได้ข่าวว่าผ็อำนวยการโรงเรียนถูกฆาตกรหน้าผีสังหารไปอีกศพ งานนี้เพื่อบางส่วนวงแตกขอกลับบ้านกับไปดูสถานที่เกิดเหตุ โดยที่ไม่รู้ว่า ทาทั่มเพื่อนซี้ของซิดนีย์ที่ลงไปเอาเบียร์ข้างล่างเพิ่งจะโดนสังหารไปก่อนหน้านี้

 

ในช่วงเวลาเดียวกัน บิลลี่ ที่พ้นข้อกล่าวหาก็แวะมาที่นี่ในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน ก่อนจะเจอกับซิดนีย์และเคลียร์ใจก่อนจะมีอะไรไปมากกว่านั้น (แฮ่ม!)

เมื่อเหลือไม่กี่คนที่อยู่ในบ้าน สบโอกาสให้ฆาตกรหน้าผีเข้ามาโจมตีซิดนีย์ โดยการเชือดบิลลี่ให้เธอดู ก่อนกลายเป็นเกมจับหนู หลังจากนั้นเธอจึงไปขอความช่วยเหลือจากตากล้องของเกลที่กำลังจับภาพเหตุการณ์ ก็ถูกฆาตกรหน้าผีตามถึงรถแล้วฆ่าตากล้องไปอีกศพ ในเวลาไล่เลี่ยกัน เกลและดิวอี้ที่ไปสืบเบาะแส เมื่อกลับมา ดิวอี้ก็ถูกจัดการหมดสติหน้าบ้าน ส่วนเกลที่ตกใจ ก่อนจะขับรถหนีแต่ก็หนีไม่พ้น เพราะซิดนีย์ขอความช่วยเหลือ เธอเลยขับออกนอกถนนจนชนต้นไม่ ซิดนีย์จึงต้องกลับไปตั้งหลักที่บ้าน จนได้เจอ สตู และ แรนดี้ ที่รอดอยู่

ตอนนี้เธอไม่อาจเชื่อใจใครได้ โชคดีที่บิลลี่ยังมีแรงพอจะปกป้องได้ จึงให้ทุกคนมาหลบในบ้าน

แต่แล้วบิลลี่ กลับใช้ปืนยิ่งใส่แรนดี้ต่อหน้าต่อตาเธออย่างเลือดเย็น!!

แล้วความจริงก็เปิดเผยทันทีว่า ฆาตกรหน้าผีคือ บิลลี่ นั่นเอง โดยมีสตู เพื่อนสุดฮาเป็นผู้ช่วยเขาอีกทีและได้บอกแรงจูงใจว่า เขาต้องการจะล้างแค้นแทนพ่อของเขาที่ตายไป เพราะแม่ของซิดนีย์มีสัมพันธ์เชิงชู้ โดยที่เขามารู้ในภายหลัง แล้วทำให้แม่ของเขาหนีและทิ้งเขาไว้อยู่กับพ่อที่ไม่เอาไหน นั่นทำให้เขาสั่งสมความแค้นฝังอก ก่อนจะร่วมมือกับสตู ฆ่าทุกคนรวมถึงจัดฉากให้ คอตตอน แวรี่ กลายเป็นแพะรับบาป แต่ความจริงบิลลี่ต้องการจะฆ่าซิดนีย์ให้ตายเหมือนเหตุการณ์แม่ของเธอนั่นเอง

สุดท้าย ซิดนีย์ที่ได้รับความช่วยเหลือจาก เกล และ ดิวอี้ที่รอดชีวิต รวมถึง แรนดี้ จัดการสองหนุ่มโรคจิต ก่อนที่ซิดนีย์จะลั่นกระสุนใส่บิลลี่ ปิดฉากฆาตกรหน้ากากผีแห่งเมืองวูดส์โบโร่ ทุกคนที่เหลือรอดชีวิตไปแบบสะบักสะบอม แถมแกลเองก็ได้ข่าวเด็ดหน้าหนึ่งจากคดีครั้งนี้ไปแบบเต็มๆ

 

 

 

 

Scream 2 (1997)

2ปีหลังเหตุการณ์สะเทือนขวัญในเมืองวูดส์โบโร่ ซิดนีย์ และ ดิวอี้ สองคนที่รอดจากเหตุการณ์ครั้งนี้ ทั้งสองได้เข้าไปเรียนมหาวิทยาลัยเดียวกัน โดยได้เพื่อนใหม่ อาทิ มิคกี้ เพื่อนที่ชอบดูหนังสยองขวัญแบบเดียวกับแรนดี้, เดเร็ค แฟนหนุ่มคนใหม่ของซิดนีย์ และ ฮัลลี่ เพื่อนใหม่

สำหรับเธอเองการได้ย้ายมาเรียนนอกเมืองของตัวเองก็อาจจะช่วยเกลาจิตใจตัวเองไม่ให้กลับไปนึกถึงเหตุการณ์ในอดีตอย่างแน่นอน

 

ส่วน เกล นักข่าวสาวที่ภาคที่แล้วนอกจากจะได้สกู๊ปข่าวหน้าหนึ่ง เธอยังนำประสบการณ์และเรื่องราวของเหตุการณ์ครั้งนี้มาตีพิมพ์เป็นหนังสือขายดี ก่อนที่หนังสือเล่มนี้จะกลายเป็นวัตถุดิบให้ทีมสร้างหนังนำเหตุการณ์มาสร้างเป็นหนังเรื่อง STAB และนี่คือจุดเริ่มต้นของหวีดสุดขีดครั้งใหม่

ในวันฉายรอบปฐมทัศน์หนังเรื่อง STAB มีคู่รักได้ไปชมหนังเรื่องนี้ ก่อนที่ทั้งคู่จะกลายเป็นเป็นเหยื่อของเกมไล่เชือดครั้งใหม่ของหน้ากากผี ที่ฆ่าทั้งสองคนกลางงานปฐมทัศน์ ซึ่งผู้ชมคิดว่าเป็นการโปรโมตหนัง แต่กว่าจะรู้อีกทีก็สายเสียแล้ว และนั่นคือการกลับมาของฆาตกรตัวฉกาจกลับมาไล่ฆ่าอีกครั้ง

 

จากเหตุการณ์ครั้งนี้ ดูเหมือนว่าผู้รอดชีวิตจากครั้งก่อนจะกลับมารวมตัวกัน ตั้งแต่ ดิวอี้ ที่ตัดสินใจมาดูแลความปลอดภัยให้ซิดนีย์ แล้วก็ เกล ที่ตอนนี้กลายเป็นนักข่าวและนักเขียนที่ประสบความสำเร็จ ก็ยังคงนิสัยหิวแสงเหมือนทุกครั้ง แต่คราวนี้เธอไม่ได้มาคนเดียว เธอได้พาซิดนีย์รู้จักกับ คอตตอน แวรี่ ซึ่งซิดนีย์รู้จักเขาดี เพราะเขาคือคนที่ถูกใส่ความว่าเป็นคนฆ่าแม่ของเธอ แม้ว่าเขาเองก็เคยมีสัมพันธ์กับแม่ของซิดนีย์ก็ตาม โดยคอตตอนหวังจะใช้เหตุการณ์นี้สร้างชื่อให้กับตัวเองเช่นกัน

แต่แล้วความหวาดผวาก็รุกคืบเมื่อฆาตกรหน้าผีได้สังหารนักศึกษาที่อยูหอเพียงคนเดียว ด้วยการจับโยนลงจากที่สูงก่อนจะเสียชีวิต ทำให้งานปาร์ตี้ครั้งนี้ทุกคนต่างไปดูเหตุการณ์ ซึ่งเกลและดิวอี้ที่มาจุดเกิดเหตุพร้อมกัน ก็มองว่าครั้งนี้มันกลับมาแล้วจริงๆ เช่นเดียวกับซิดนีย์ที่รับสายจากฆาตกร ก่อนจะท้าทายให้มาเจอกัน แม้ในใจของเธออยังหวาดกลัวก็ตาม

แต่ดูเหมือนว่าเจ้าหน้ากากผีจะเล่นงานและปั่นประสาทซิดนีย์ต่อเนื่องก่อนที่ แรนดี้, ฮัลลี่ จะถูกฆ่าต่อนหน้าต่อตาเธอ ส่วนดิวอี้และเกลที่พยายามหาเบาะแสจากรถตู้จุดที่แรนดี้เสียชีวิต ก่อนจะพบม้วนวิดีโอที่บันทึกเหยื่อแต่ละคนไว้ ซึ่งสองคนนี้คือเหยื่อล่าสุด ก่อนที่ดิวอี้จะถูกจัดการเป็นครั้งที่สอง

ส่วนซิดนีย์ที่หนีมาได้ จึงกลับไปตั้งหลักที่โรงละครของมหาวิทยาลัย ก่อนที่จะพบว่าแฟนหนุ่มของเธอ เดเร็คถูกจับมาขึงไว้กลางเวที ก่อนที่ฆาตกรหน้าผีจะใช้จิตวิทยาปั่นหัวซิดนีย์ ก่อนที่จะลั่นกระสุนใส่เดเร็คตายกลางเวที แล้วเฉลยความจริงว่าใครอยู่เบื้องหลังหน้ากากผี

 

ผู้ที่อยู่เบื้องหลังหน้ากากผีคือ มิคกี้ เพื่อนสนิทของเธอเอง โดยเผยว่า เขาชื่นชอบหนังสยองขวัญเข้าไส้มากๆ และอยากถูกจับเข้าคุกหวังสร้างชื่อเสียงให้กับตัวในฐานะฆาตกร และได้เผยว่า เด็บบี้ นักข่าวสาวที่ติดตามเกลตลอด เธอคือ แนนซี่ ลูมิส แม่ของบิลลี่นั่นเอง ซึ่งเธอหวังจะแก้แค้นให้ลูกชาย ประจวบเหมาะที่มิคกี้อยากสร้างชื่อเลยได้พูดคุยผ่านเว็บบอร์ดจึงให้เขาจัดฉากฆาตกรรมเพื่อให้เกิดเหตุเหมือนที่เมืองวูดสโบโร่นั่นเอง โดยแลกว่าเธอจะออกค่าใช่จ่ายเล่าเรียนให้มิคกี้อีกด้วย

ในตอนจบ คอตตอน แวรี่ เข้ามาช่วยเหลือ ซิดนีย์ เช่นเดียวกับ เกล ที่ถูกแนนซี่ ยิงแต่รอด ก่อนที่ทั้งสามจะจัดการสองฆาตกรโดยไม่ลืมที่จะยิงซ้ำเพื่อไม่ให้ตื่นอีกเป็นครั้งที่สอง

 

เป็นอันว่า ซิดนีย์, เกล และ ดิวอี้ รอดเหตุการณ์ฆาตกรรมหวีดสุดขีดได้อีกครั้ง และเมื่อนักข่าวถามซิดนีย์เธอจึงยกความดีความชอบให้กับ คอตตอน ที่ทำให้เขาได้ล้างความผิดของตัวเอง ก่อนที่เธอจะเดินจากไป

 

 

 

Scream 3 (2000)

สองปีหลังจากเหตุการณ์ในภาคสอง ซิดนีย์จึงตัดสินใจย้ายไปอยู่นอกเมือง ไม่สุงสิงกับใครโดยทำงานที่บ้าน ในฐานะผู้ให้คำปรึกษาแก้ไขปัญหาความรุนแรงของสตรี ซึ่งเธอใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังทุกฝีก้าว แต่แล้วความกลัวที่เธอคิดก็กลับมาเมื่อได้ข่าวของฆาตกรหน้ากากผีที่ไปทำร้าย คอตตอน แวรี่ ที่ตอนนี้กลายเป็นพิธีกร ซึ่งเขาและภรรยาถูกฆาตกรหน้าผีฆ่าอย่างเลือดเย็นเหมือนเป็นสาส์นส่งไปยังซิดนีย์ เพื่อจะล่อเธอและทุกคนที่เคยรอดกลับมาอีกครั้ง

เรื่องราวในภาคนี้เหล่าผู้รอดชีวิตทั้งสามคน ซิดนีย์ , เกล และ ดิวอี้ ต้องกลับมาเจอกับฆาตกรหน้ากากผีอีกครั้ง โดยได้เบาะแสสำคัญว่าคราวนี้ฆาตกรหน้ากากผี ได้เล็งเป้าไปยังเหล่าทีมงานและนักแสดงจากหนังเรื่อง STAB 2 ก่อนจะเริ่มมหกรรมการไล่เชื่อดครั้งใหญ่ ซึ่งทั้งสามได้เบาะแสจากแรนดี้ที่อัดเป็นวิดีโอก่อนจะตาย รวมถึงปมเรื่องราวของแม่ซิดนีย์ที่เคยเป็นนักแสดงและมีเหตุการณ์บางอย่างที่ทำให้เกิดเรื่องราวในหนังชุดนี้

แล้วในที่สุดฆาตกรหน้ากากผีก็เผยโฉม เขาคือ โรมัน บริดจ์เจอร์ ผู้กำกับหนัง STAB 2 ผู้เป็นพี่ชายต่างสายเลือดของซิดนีย์ เพราะว่าอิจฉาริษยาในตัวเธอ และวางแผนแก้แค้นด้วยการอยู่เบื้องหลังให้กับเหล่าบรรดาฆาตกรจากสองภาคที่ผ่านมา (ยืมมือฆ่า) แล้วเขานี่แหละจะเป็นคนจัดการกับซิดนีย์ แต่สุดท้ายซิดนีย์ที่มีประสบการณ์โชกโชนจึงจัดการและสำเร็จโทษโรมันไปอีกรายในที่สุด คราวนี้ดูเหมือนว่าทุกอย่างคงจะจบลงเสียที

 

เช่นเดียวกับซิดนีย์ที่ตัดสินใจ กลับมาใช้ชีวิตแบบเดิมอีกครั้ง โดยทิ้งความโหดร้ายไว้ในเบื้องหลัง

 

 

 

Scream 4 (2011)

เกือบ 1 ทศวรรษหลังเหตุการณ์คดีสะเทือนขวัญในเมืองวูดส์โบโร่ ดูเหมือนตำนานฆาตกรหน้าผีจะถูกลืมเลือนไปจากผู้คน เช่นเดียวกับ ซิดนีย์ ที่ได้กลับมาบ้านเกิดเพื่อมาโปรโมตหนังสือเล่มใหม่ ดิวอี้ ที่ตอนนี้ได้เป็นนายอำเภอของเมือง แล้วแต่งงานกับเกลที่ลาออกจากงานนักข่าว หันมาเขียนหนังสือ

 

แต่แล้วลางร้ายได้หวนกลับมาหาทั้งสามในรอบ 11 ปี เมื่อมีฆาตกรที่แต่งตัวเป็นหน้ากากผีในตำนานออกมาอาละวาดไล่ฆ่าผู้คนในเมืองอีกครั้ง ดูเหมือนว่าเหตุการณ์ทั้งหมดจะเหมือนกับเมื่อปี 1996 ทำให้ทั้งสามต้องมาเผชิญหน้ากับฆาตกรอีกครั้งพร้อมกับ จิล และเพื่อนๆ

 

ซึ่งจิล เป็นลูกพี่ลูกน้องของ ซิดนีย์  เธอก็ได้เสียเพื่อนๆไปจากฆาตกรหน้ากากผีคนดัง ที่รอบนี้ดูเหมือนคนที่อยู่เบื้องหลังหน้ากากจะใช้กฎใหม่ๆ และเทคโลยีใหม่ในการไล่ฆ่าผู้คน

 

แล้วความจริงก็ถูกเปิดเผยว่าผู้เปิดศักราชไล่เชือดครั้งใหม่นี้คือ จิล ลูกพี่ลูกน้องของซิดนีย์

 

โดยมี ชาร์ลี แฟนหนุ่มของเธอร่วมมือกันด้วยเหตุผลคือความอิจฉาในตัวซิดนีย์ที่รอดจากเหตุการณ์จนกลายเป็นคนดัง ทั้งสองจึงวานแผนที่จะสร้างตำนานบทใหม่ให้หน้ากากผีเป็นที่พูดถึงพร้อมลูกเล่นใหม่ๆ กฎใหม่ที่ได้จากการดูหนังสยองขวัญ ไล่ฆ่าคน และวางแผนให้ จิล เป็น Final Girls แต่ก็ถูกซิดนีย์และพวกปิดตำนานไปได้สำเร็จอีกครั้งตามระเบียบ

 

 

 

Scream 5 (2022)

25ปี หลังเหตุการณ์สะเทือนขวัญในเมืองวูดส์โบโร่ ดูเหมือนว่ามใครบางคนต้องการสานตำนานฆษตกรหน้ากากผีอีกครั้ง คราวนี้จะเป็นเรื่องราวของ ซามานธ่า ที่ต้องกลับมาพร้อมแฟนหนุ่ม หลังรู้ว่าน้องสาวเธอ ทาร่า กำลังถูกฆาตกรหน้ากากผีออกไล่ล่าอีกครั้ง เธอและเพื่อนๆได้รับความช่วยเหลือจาก สามผู้รอดชีวิตในตำนานอย่าง ซิดนีย์, เกล และ ดิ้วอี้ ซึ่งทั้งหมดได้กลับมายังบ้านที่เคยเป็นสถานที่เกิดเหตุในภาคแรก แถมซามานธ่า ก็เห็นภาพหลอนของ บิลลี่ ลูมิส ฆาตกรในภาคแรกก่อนจะเผยว่าคือพ่อของเธอนั่นเอง

 

แล้วในที่สุดฆาตกรเผยตัวว่าคือ ริชชี่ แฟนหนุ่ม และ แอมเบอร์ ฟรีแมน เพื่อนของเธอ โดยแรงจูงใจก็คือ ทั้งคู่เป็นแฟนตัวยงของหนังตระกูล Stab และต้องการสร้าง “Requels” (การสร้างภาคต่อกึ่งรีเมค) โดยใช้เรื่องราวของแซมเป็นแรงบันดาลใจ เพื่อกลับไปสู่รากเหง้าของ Stab อย่างแท้จริง นั่นคือการพาซิดนีย์และทุกคนมายังบ้านของบิลลี่จากภาคแรก

ท้ายสุดทั้งสองก็ถูกกำจัดเหมือนเช่นทุกครั้ง…

 

 

 

Scream 6 (2022)

หลังจากเหตุการณ์ในภาคที่แล้วสองพี่น้องคาร์เพนเตอร์อย่าง ซาร์มานธ่า และ ธาร่า ก็ตัดสินใจไปย้ายใช้ชีวิตให่มในเมืองใหญ่อย่างนิวยอร์ค แต่แหมือนว่าฆาตกรหน้ากากผียังไม่มีวันตายง่ายๆ คราวนี้ตามเธอไปถึงเมืองใหญ่ก่อนจะเริ่มไล่เชือดครั้งใหม่อีกครั้ง ก่อนที่จะเฉลยว่าเบื้องหลังฆาตกรหน้ากาผีนั้นคือในที่สุด ฆาตกรก็ถูกเปิดเผยว่าเป็น ครอบครัวของริชชี่ (ตัวร้ายในภาคที่ 5) ซึ่งประกอบด้วย พ่อ (นักสืบเวย์น เบลีย์), พี่สาว (ควินน์ เบลีย์) และ น้องชาย (อีธาน แลนดรีย์) ต้องการจะแก้แค้นให้ริชชี่นั่นเอง

 

 

ทั้งหมดนี้คือเรื่องราวย่อๆทั้ง 6 ภาค ของ Scream หวีดสุดขีดที่นำมาฝากกัน เรียกน้ำย่อยก่อนไปชมภาค 7 ในปีหน้า ใครมีโมเม้นต์หรือภาคที่ชอบของหนังชุดหวีดสุดขีดมาเล่าสู่กันฟังได้ครับ….

 

 

@P.PETTY

 

 

อ่านเพื่มเติม
5 ความสามารถอันร้ายกาจของฆาตกรหน้าผี The Ghostface จาก Scream

10 เรื่องใต้หน้ากากจอมโหด จากหนังชุด SCREAM หวีดสุดขีด

 

 

ข้อมูลอ้างอิง
https://pantip.com/topic/41218095