Rurouni Kenshin Ibun: Ashitarou Zenka Ari

(เรื่องอื่นๆ ของซามูไรพเนจร: อาชญากรอาชิทาโร่)

หรือ 

Rurouni Kenshin Hokkaido-hen Jomaku: Ashitarou Zenka Ari

(ปฐมบทซามูไรพเนจรภาคฮอกไกโด: อาชญากรอาชิทาโร่)

ประเภท : Manga / เรื่องสั้น

แนว : แอคชั่น /ย้อนยุค

วาดโดย : โนบุฮิโระ วาสึกิ

ความยาว : 2 ตอนจบ ในนิตยสาร  Jump Square

หลังจากห่างหายไปสิบกว่าปี กับเรื่องราวของมือสังหารกลับใจ “ฮิมุระ บัตโตไซ” หรือ “ฮิมุระ เคนชิน” กับการ์ตูนเรื่อง “ซามูไรพเนจร” ผลงาน Masterpiece ของอ.โนบุฮิโระ วาสึกิ ที่มีช่วงหนึ่งถูกนำไปดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ Live Action และกวาดเงินมาทั่วเอเซียทั้งสามภาค 

และนี่คือเรื่องราวหลังจากจบศึกกับ “เอนิชิ” (ภาคทัณฑ์มนุษย์) โหมโรงก่อนเข้าภาคตะลุยฮอกไกโด ซึ่งเป็นภาคใหม่ไม่เคยตีพิมพ์ที่ไหนมาก่อน โดยมีกำหนดลงในปี 2017 นี้ครับ

(เหมือนอ.วาสึกิ อยากจะแก้ไทม์ไลน์หลังจบเอนิชิ เพื่อมาทำภาคใหม่โดยเฉพาะด้วย)

แต่ก่อนหน้านั้น นี่คือการ์ตูนเรื่องสั้น 2 ตอนจบที่ชื่อ  Rurouni Kenshin Ibun: Ashitarou Zenka Ari (เรื่องอื่นๆ ของซามูไรพเนจร: อาชญากรอาชิทาโร่)

เรื่องย่อ 

หลังจากจบศึกกับเหล่าลูกสมุนของเอนิชิในภาคทัณฑ์มนุษย์แล้ว ทุกอย่างก็กลับมาสงบอีกครั้ง แต่อีกฟากหนึ่ง ณ เรือนจำโตเกียว ก็เป็นที่ๆชายสองคนออกจากคุก และรับอิสรภาพ…

คนแรกคือ “ฮาเซกาว่า อาชิทาโร่” เด็กรับใช้ในฐานลับของ “ชิชิโอ มาโคโตะ” ที่โดนโทษทางกฎหมายเพราะขโมยของกินเพื่อเอาชีวิตรอด จนต้องติดคุกไป 5 ปี

อีกคนหนึ่งคือ “อิโนะอุเอะ อลัน” เด็กหนุ่มที่โดนข้อหาลักลอบขึ้นเรือไปอเมริกา ทั้งสองต้องตกกระไดพลอยโจน ออกเดินทางร่วมกันทั้งๆที่ไม่มีเงินติดตัวแม้แต่แดงเดียว แน่นอนว่าการเดินทางแบบไร้จุดหมายของคนทั้งสองก็เพื่อเอาตัวรอดไปวันๆเท่านั้น

ทั้งสองถูกจับตามองจาก “อาซาฮิ” กบฎผู้เหลือรอดจากการก่อปฏิบัติการณ์ “เกียวโตทะเลเพลิง” ของชิชิโอ มาโคโตะเมื่อ 5 ปีก่อน ที่ปัจจุบันเปลี่ยนเป็น “กลุ่มกบฎใหม่” โดยเธอต้องการ “สมบัติ” ของผู้เหลือรอด เป็นของสำคัญที่อาชิทาโร่เท่านั้นที่รู้ที่ซ่อน และทางกลุ่ม ก็ต้องการสมบัติชิ้นนี้ในการปลุกขวัญเหล่าผู้ที่เหลือรอดของชิชิโอที่กำลังทำการสะสมกำลังเพือก่อการใหญ่อีกครั้งเช่นกัน

ทำให้สองหนุ่มต้องต่อสู้กับ “คันบาระ อดีตหัวหน้าหน่วยหนึ่ง” พลหอกผู้แข็งแกร่งของชิชิโอ ที่มีบทบาทเพียงสองหน้ากระดาษ ก็โดนอาชิทาโร่เล่นงานอย่างง่ายดาย ทั้งคู่จึงหนีรอดมาได้ และมุ่งตรงไปยังที่ซ่อนสมบัติดังกล่าว

อาชิทาโร่เล่าว่า ก่อนฐานลับของชิชิโอจะถล่ม สมบัติที่ติดมือเขามา มีเพียงดาบเก่าๆเล่มหนึ่งที่ชื่อว่า “ดาบมุเก็นจิน” หรือ ดาบฟันเลื่อย ของชิชิโอ แต่ตอนนี้สภาพของมันไม่ต่างกับดาบที่ไร้ราคา จึงคิดว่าจะเอาไปขายแลกข้าวกิน

ส่วนอีกทางหนึ่ง หน้าเรือนจำโตเกียว ก็ถูก “หัวหน้ากลุ่มกบฎใหม่” เข้าถล่มหวังที่จะเจอ “ดาบมุเก็นจิน “แต่ก็คว้าน้ำเหลว

ยุคนี้เป็นยุคของการส่งออกสินค้าทางวัฒนธรรม เครื่องปั้นดินเผา เครื่องดนตรี หรือแม้กระทั่งดาบ ที่เหมือนจิตวิญญาณของซามูไร ก็ถูกขายให้กับตะวันตกไว้ประดับบ้าน ทำให้ทางด้านอาชิทาโร่ กับ อลัน คิดจะเอาดาบไปขายให้กับ “ซึคายามะ ยูทาโร่” (เคยปรากฎตัวในฐานะคู่แข่งยาฮิโกะเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ตอนนี้เป็นพ่อค้าของตะวันตกแทน) แต่ยูทาโร่ปฏิเสธเพราะดาบเก่าเกินไป และสภาพก็ไม่ได้ดีถึงขั้นเอาไปตั้งโชว์ได้

ในตอนนั้นเอง พวกของ “กลุ่มกบฎใหม่” ที่ต้องการดาบมุเก็นจินก็พบอาชิทาโร่ จึงเกิดการต่อสู้กัน ทั้งคู่หนีมาจนถึงโรงฝึกร้างกลางป่า (น่าจะเป็นที่ๆยูทาโร่เคยฝึกดาบ ก่อนที่เคนชินจะกระชากหน้ากากของ”ครูดาบเก๊”ที่สอนยูทาโร่แบบผิดๆในภาคหลัก) คราวนี้ หัวหน้ากลุ่มกบฎมาด้วยตัวเอง การต่อสู้จึงเกิดขึ้น

ในนาทีที่อาชิทาโร่พลาดท่า อลันก็ได้เข้ามาขวางการต่อสู้ จนได้รู้ว่าตัวตนจริงๆของอลันก็เป็นเพียงลูกของโสเภณี กับพวกพ่อค้าฝรั่งที่มาเที่ยวเท่านั้น (ในยุคนั้นไม่มีใครยอมรับพวก ลูกครึ่ง หรือ ไกจิน ทำให้คนกลุ่มนี้แทบไม่มีที่ยืนในสังคมเลยก็ว่าได้) อาชิทาโร่สามารถสัมผัสถึงความกดดันที่อลันแบกรับ ซึ่งก็ไม่ได้ต่างจากตนที่แค่หาข้าวกินรอดตายไปวันๆเช่นกัน 

ด้วยความโกรธถึงขีดสุด อาชิทาโร่นึกถึงคำสอนของชิชิโอ ที่สอน “ให้แข็งแกร่งขึ้น หรืออยู่อย่างน่าสมเพช” และความคาดหวังที่จะให้เป็น “จูอิปปงคาตานะ” (ดาบที่สิบเอ็ด หนึ่งในสุดยอดมือสังหาร)… บัดนี้…ดาบฟันเลื่อย มุเก็นจิน ถูกชักออกมาจากฝักแล้ว!! 

ในตอนนั้นเอง ชายที่มีแผลกากบาทข้างซ้ายก็มาปรามไว้ พร้อมกับดาบสลับคม…”ฮิมุระ เคนชิน” ปรากฎกายตามคำขอของ “ซึคายามะ ยูทาโร่”  เพื่อไม่ให้อาชิทาโร่ใช้ดาบเพื่อฆ่าคน ซึ่งเป็นก้าวแรกที่จะพาเขาเข้าสู่โลกของมือสังหาร

***เคนชินที่ตอนนี้ได้มอบดาบสลับคมให้ยาฮิโกะ แต่ครั้งนี้เคนชินต้องเป็นฝ่ายขอยืมใช้แทน จุดที่น่าสังเกตุก็คือ ในเมื่อหมอบอกว่าเคนชินจะใช้เพลงดาบล่องนภาไม่ได้แล้ว แต่ในเรื่องสั้นนี้กลับใช้ เพลงดาบล่องนภา นาคาทะยานฟ้า ได้เหมือนปกติ? ..

หรืออ.วาสึกิแกอยากจะแก้ไขอะไรบางอย่างในช่วงท้ายเรื่อง…*** 

ทุกอย่างจบลงใน 1 หน้ากระดาษ เหล่ากบฎถูกรวบยกแก๊ง แต่ “อาซาฮิ” หนีไปได้ ยาฮิโกะ ปรึกษากับเคนชินว่าจะรับสองคนนี้เข้าเป็นศิษย์สำนักคามิยะ

โดยดาบมุเก็นจินก็ได้อาชิทาโร่สืบทอดต่อจากชิชิโอ..โดยที่เคนชินยังสงสัยว่า ดาบเลือกอาชิทาโร่ หรือว่า อาชิทาโร่เลือกที่จะใช้ดาบเล่มนี้กันแน่…

ไม่แน่…บางอย่างอาจจะหาคำตอบได้ในการเดินทางไปยัง ฮอกไกโดก็ได้…

จบริบูรณ์

-

-

-

ตัวละคร 

ฮาเซกาว่า อาชิทาโร่

เด็กหนุ่มที่เพิ่งออกจากคุก ข้อหาลักขโมยของกิน จนติดคุก 5 ปี ในอดีต เป็นเด็กที่เกิดมาในครอบครัวฐานะยากจน อดมื้อกินมื้อ วันหนึ่งอาชิทาโร่เข้ามาในฐานทัพของชิชิโอ แต่ถูกจับได้ และด้วยแนวคิดเพื่อปากท้อง ความอยู่รอดของเขา ก็ไปถูกใจชิชิโอเข้า จึงรับเข้ามาทำงานเป็นเด็กรับใช้

ในวันที่เคนชินบุกเข้ามาที่ฐานลับ และเอาชนะชิชิโอได้ ที่นั่นกำลังจะถูกไฟเผาวอด แต่อาชิทาโร่เลือกที่จะหยิบ“ดาบมุเก็นจิน” ดาบฟันเลื่อยของชิชิโอติดมือมา แล้วหลบหนีไปใช้ชีวิตใน “หมู่บ้านคนไร้ราก” (ที่ๆ เอนิชิ เคยอาศัยอยู่ ก่อนที่จะหายสาบสูญไป) และมาถูกจับเข้าคุกข้อหาลักขโมยดังกล่าว  ปกติเป็นคนที่เห็นแก่กิน เห็นแก่ตัว จนมาพบกับอลัน ก็ทำให้เขาคิดถึงผู้อื่นมากขึ้น เพราะลึกๆแล้วอาชิทาโร่เองก็เป็นคนที่มีจิตใจดีเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว

อิโนะอุเอะ อลัน

เด็กหนุ่มลูกโสเภณีในโตเกียว โดยมีเลือดชาวตะวันตกครึ่งหนึ่งในตัว ใฝ่ฝันที่จะไปอเมริกา เพื่อที่จะออกไปแตะขอบฟ้าสู่โลกกว้าง ที่ๆยอมรับตัวตนที่เป็นลูกครึ่งของเขา (เพราะอย่างที่บอก สังคมญี่ปุ่นสมัยนั้นยังแอนตี้พวกลูกครึ่ง หรือสิ่งที่สังคมมองว่าจะมาทำลายวัฒนธรรมญี่ปุ่น)

เป็นคนที่มองความเป็นจริง มีความรู้ เรียกได้ว่าเป็น “พวกญี่ปุ่นหัวก้าวหน้า” ก็คงจะไม่ผิดนัก เป็นคนที่เข้ากับใครก็ได้ง่ายๆ เข้าใจความเจ็บปวดที่สังคมมอบให้กับอาชิทาโร่เป็นอย่างดี

อาซาฮิ 

สายลับสาวของกลุ่มกบฎใหม่ มีหน้าที่คอยหลอกล่อเป้าหมายด้วยหน้าตาน่ารัก ซึ่งเป้าหมายที่แท้จริงยังคงเป็นปริศนา เพราะในช่วงที่เคนชินมาช่วยอาชิทาโร่ เธอก็หลบหนีไปได้…

และทั้งหมดนี้…คือเรื่องราวแบบสรุปรวบรัด ของ “ปฐมบท” ซามูไรพเนจร ภาคฮอกไกโด ก็จบลงแต่เพียงเท่านี้ รออ่านภาคต่อเต็มๆกลางปี 2017 ได้เลย!

แอดมิน Ak47