REDMI Note 8 Pro

ราคา 7,999 บาท

อุปกรณ์ภายในกล่อง
อุปกรณ์ภายในกล่องจะมี ตัวเครื่อง, หม้อแปลงชาร์จเร็ว 18 วัตต์, สาย USB C (หัวอีกข้างเป็น USB A), เคสสีดำใส (ซึ่งไม่คลุมเลนส์กล้องที่ด้านหลัง) และ เข็มจิ้มซิม

การออกแบบ
จากขนาดหน้าจอ 6.53” จึงทำให้บอดี้ของ Redmi note 8 pro มีขนาดค่อนข้างใหญ่ ขนาดตัวเครื่อง 161.35 x 76.4 x 8.79 มิลลิเมตร น้ำหนัก: 199.8 กรัม

หน้าจอ IPS LCD ความละเอียด FHD+ (2340 x 1080 พิกเซล) คุณภาพค่อนข้างดีทีเดียว สีสันคมชัด ทัชลื่นติดนิ้วดีทีเดียว สู้แสงกลางแดดสบาย

ด้านบนมีติ่ง (Dewdrop) สำหรับกล้องหน้า 20 ล้านพิคเซล และ ด้านข้างๆกล้องหน้ามีไฟแจ้งเตือน โดยขอบจอ (Bezel) ค่อนข้างบางตามยุคสมัย เล่นเกม ดูหนังเต็มตา สีที่ได้มารีวิวเป็นสี Mineral Gray ดูหรูหราสวยงามเกินราคา งานประกอบแน่นหนาเทียบเท่ามาตรฐานมือถือเรือธงได้เลย

ต้านหน้าและด้านหลังเป็นกระจก Corning Gorilla Glass 5 ช่วยเพิ่มความหรูหราและ ความทนทานให้กับโทรศัพท์ ด้านล่างมีพอร์ทเชื่อมต่อ Type-C รูหูฟัง 3.5 และช่องลำโพง ด้านขวามีถาดใส่ซิม ซึ่งเป็น ไฮบริด สล็อต สามารถใส่ได้ 1 เม็ม 1 ซิม หรือ 2 ซิม ด้านซ้าย มีปุ่มเพิ่มลดเสียง และ ปุ่มเปิดปิดเครื่อง ส่วนด้านบนมี IR Sensor และ ไมค์

ประสิทธิภาพการทำงาน
Redmi Note 8 Pro มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 9 Pie ครอบทับด้วย MIUI 10 ชิปเซ็ตที่ใส่มาเป็น Helio G90T ซึ่งทาง MediaTek แจ้งมาว่าเป็นชิปสายเกมมิ่ง ซึ่งสามารถทำคะแนนทดสอบจาก AnTuTu ได้ถึง 224,612 มีความแรงน้องๆ Snapdragon 845 เลยทีเดียว

การใช้งานทั่วไป social media ต่างๆลื่นไหลดีมาก การเข้า application ต่างๆเป็นไปอย่างลื่นไหล ไม่ห่างจากมือถือระดับเรือธงเท่าไหร่เลย จากการที่เครื่องนี้ใส่ Ram มาถึง 6 GB และ Rom 128 GB จึงทำให้ไม่รู้สึกถึงความหน่วงความช้าแต่อย่างใดแม้จะเปิดหลายๆแอปพร้อมกันก็ตาม การเชื่อมต่อ รองรับทั้ง Wifi 2.4G และ 5G เลยทีเดียว ระบบนำทาง GPS ก็ค่อนข้างมีความแม่นยในระดับที่น่าพอใจ มั่นใจได้ว่าไปไหนไม่หลงแน่นอน

หน้าจอสีสันสวยงาม ทัชสกรีนลื่นไหลติดนิ้วดีเลยทีเดียว การแจ้งเตือนต่างๆมาทันทีไม่พบอาการไม่แจ้งเตือนแต่อย่างใด แต่มีข้อสังเกตนิดนึงคือ เรื่องอุณหภูมิของเครื่อง ซึ่งจากการลองเล่นมา ถ้าเล่นติดต่อกันเป็นเวลานานๆเครื่องค่อนข้างอุ่น แต่ข้อดีคือ ถ้าทิ้งไว้ซักครู่ อุณหภูมิจะลดลงค่อนข้างเร็ว น่าจะมาจากอานิสงส์ของ Liquid Cool ที่ติดตั้งมาให้ภายในเครื่อง

การเล่นเกมส์

จากการทดสอบเล่นเกมส์ยอดนิยมอย่าง ROV, PUBG และ Call Of Duty ทุกเกมส์สามารถเปิดกราฟฟิคได้สูงสุด และ สามารถเล่นได้จริง ลื่นไหลไม่มีกระตุก ซึ่งจุดนี้ Redmi Note 8 Pro ทำมาได้ดีมาก กล้าพูดได้ว่าประสิทธิภาพการเล่นเกมส์ไม่น้อยหน้ามือถือระดับเรือธงแต่อย่างใด แต่ยังมีข้อสังเกตเดิมคือเรื่องความร้อน ซึ่งความร้อนมาค่อนข้างไว เล่นไปประมาณ 1 ชั่วโมง ความร้อนขึ้นถึงกว่า 40 องศา ร้อนจนรู้สึกได้ แต่เฟรมเรทยังไม่ตกนะครับ ยังสามารถเล่นต่อได้ และ เหมือนเดิม ถ้าทิ้งไว้ไม่นานอุณหภูมิก็ลดลงมาเป็นปกติ

กล้องถ่ายรูป

อีกหนึ่ง Highlight ของ Redmi Note 8 Pro นอกจากเรื่องความแรงของชิปเซ็ท ก็น่าจะเป็นเรื่องกล้องนี่แหละ ครั้งนี้ Redmi จัดเต็มกล้องมาได้ไม่น้อยหน้าใคร จุดเด่นอยู่ที่กล้องหลัก 64 ล้านพิกเซล ซึ่งต้องบอกว่าสามารถใช้งานได้จริง โดยกล้องหลังมีถึง 4 ตัว แบ่งเป็น เลนส์หลัก 64 ล้านพิกเซล, เลนส์ Ultra wide 8 ล้านพิกเซล, เลนส์ Depth Sensor 2 ล้านพิกเซล และ เลนส์ Macro 2 ล้านพิกเซล

ส่วนกล้องหน้า ก็มีความละเอียดถึง 20 ล้านพิกเซล

การถ่ายภาพมีแสงทั่วไปใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีเอไอมาช่วยเพิ่มสีสันให้ภาพดูสดมากขึ้น แต่บางภาพ เอไอทำงานค่อนข้างช้าอยู่บ้าง อาจต้องรอการอัพเดทต่อไป ลองดูตัวอย่างภาพที่ถ่ายจากกล้องของ REDMI Note 8 Pro ครับ

แบ็ตเตอรี่
ครั้งนี้ Redmi จัด Battery มาให้อย่างจุใจถึง 4,500 mAh ซึ่งจากการใช้งานจริงค่อนข้างอึดพอสมควรถ้าใครเคยใช้ Huawei Mate 20X จะบอกว่า Redmi Note 8 Pro อึดไม่ต่างกันมากเลยครับ ใช้งานทั่วไปสามารถใช้ได้เกือบ 2 วัน รวมถึงชาร์จไว 18W สามารถชาร์จจาก 0 – 100 % ภายในเวลา ชั่วโมงนิดๆ ถือว่าไวพอสมควร

จุดเด่น
1 เครื่องสวย จอสวย งานประกอบดี คุณภาพวัสดุดี
2 เครื่องแรงเล่นเกมส์หลักๆได้ทุกเกมส์ เปิดกราฟฟิคได้สุด ภาพสวยงาม ไม่กระตุก
3 กล้อง 4 เลนส์ เลนส์หลัก 64MP ใช้งานได้จริง สามารถถ่ายรูปมาปริ้นท์เป็นโปสเตอร์ได้เลย งานวีดีโอในที่มีแสงถ่ายออกมาได้สวยงาม กันสั่นประสิทธิภาพถือว่าดีในระดับหนึ่งเลยทีเดียว
4 แบ็ตเตอรี่อึดใช้งานข้ามวันได้สบาย รวมถึงมีชาร์จเร็ว 18 Watt มาให้พร้อมในกล่อง
5 คุ้มค่า ราคาดีมาก

จุดด้อย
1 เล่นเกมส์นานๆแล้วเครื่องค่อนข้างร้อน
2 เคสที่แถมมาในกล่องไม่คลุมเลนส์กล้องหลัง ควรหาซื้อเคสใหม่
สรุป
ณ.เวลานี้ในเรทราคาต่ำกว่าหมื่น REDMI Note 8 Pro ถือว่าเป็นมือถือที่คุ้มค่า คุ้มราคา และ ครบเครื่องที่สุดเครื่องหนึ่งในท้องตลาด เหมาะสำหรับใช้งานทั่วไป social media ดู Youtube ถ่ายรูป ไม่เล่นเกมส์หนักมาก ขอยืนยันว่าเครื่องนี้ตอบโจทย์ Lifestyle แบบนี้อย่างแน่นอน

ข้อมูลตัวเครื่อง
• สมาร์ทโฟน (โทรศัพท์มือถือพร้อมระบบปฏิบัติการ)
• จอแสดงผล IPS-LCD 24-bit (16 ล้านสี)
• ระบบสัมผัส Multi-Touch
• กว้าง 6.53 นิ้ว (แนวทะแยง)
• ความละเอียด 1080 x 2340 พิกเซล (395 ppi)
• Corning Gorilla Glass 5
• ระบบเซ็นเซอร์ (Sensor)
• ระบบตรวจสอบลายนิ้วมือ (Fingerprint)
• ตรวจจับความเคลื่อนไหวของตัวเครื่อง (Accelerometer)
• ระบบเปิด/ปิดหน้าจออัตโนมัติขณะสนทนา (Proximity)
• ระบบเซนเซอร์หมุนภาพ (Gyroscope)
ข้อมูลเครือข่าย (Network)
• เครือข่าย
• GSM 850/900/1800/1900 MHz
• UMTS 850/900/2100 MHz
• LTE Bands 1/ 3/ 5/ 7/ 8/ 40/ 41
• เทคโนโลยีการรับ/ส่งข้อมูล
• 2G: EDGE/GPRS
• 3G
• 4G
• ใช้งาน Nano-SIM
• รองรับ 2 ซิมการ์ด
ระบบปฏิบัติการ (OS, CPU)
• ระบบปฏิบัติการ: MIUI 10 based on Android 9.0 (Pie)
• หน่วยประมวลผล : Mediatek Helio G90T Octa Core
• ความเร็ว : 2.05 GHz
• หน่วยความจำ
• RAM 6GB
• ROM 128GB
• การ์ดหน่วยความจำ
• microSD สูงสุด 256 GB
ระบบเชื่อมต่อ
• การหาตำแหน่ง: Assisted GPS
• WiFi 802.11 a/b/g/n/ac
• จุดกระจายสัญญาณอินเตอร์เน็ตแบบพกพา (Portable Wi-Fi Hotspot)
• เชื่อมต่อไร้สายระหว่างอุปกรณ์โดยตรง (Wi-Fi Direct)
• Bluetooth 5.0
• รองรับ NFC (Near Field Communication)
• Type-C USB 2.0
• ช่องเสียบชุดหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร
ฟังก์ชั่นมัลติมีเดีย
• กล้องดิจิตอล 64MP + 8 MP (ultrawide) + 2 MP (dedicated macro camera) + 2 MP depth sensor (Fourth Camera)
• รูรับแสงขนาด ƒ/1.8
• ไฟแฟลช Dual LED
• โหมดถ่ายภาพพาโนราม่า (Panorama)
• โหมดถ่ายภาพช่วงการรับแสงสูง (HDR)
• กล้องหน้า (Front Camera)
• ความละเอียด 20 MP
• กล้องหน้า HDR
• ลำโพงเสียงสเตอริโอ (Stereo speakers)
แบตเตอรี่
• แบตเตอรี่มาตรฐาน Li-Pol 4,500 mAh (Standard Battery)