
เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา Playstation ก็ได้ครบรอบการเดินทางบนถนนเส้นทางวิดีโอเกมมาอย่างยาวนาน 30ปี ในฐานะเครื่องเล่นวิดีโอเกมที่พลิกโฉมวงการแล้วยังโลดแล่นสร้างสรรค์สิ่งใหม่ให้กับผู้เล่นจนปัจจุบัน วันนี้เลยจะย้อนความทรงจำผ่านเกมทำอาหารสมัยเครื่องเล่น PS1 ที่หลายคนเคยเล่นหรือคุ้นตาเป็นอย่างดี เราจะไปเปิดลิ้นชักความทรงจำกันครับ
Chacrumera (1999)
นี่คือหนึ่งในเกมแห่งความทรงจำ ที่ใครได้เล่นต่างก็รู้สึกอบบอุ่นไปกับบรรยากาศของเกม โดยตัวเกมจะให้เราเล่นเป็นคนขายบะหมี่ราเม็งรถเข็นขายตามเมืองต่างๆ นอกจากนี้เรายังสามารถคิดค้นราเม็งสูตรเลิศรสในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งจะมีมินิเกมหรือภารกิจที่จะได้วัตถุดิบชั้นเลิศมารังสรรค์ราเม็งสูตรของเราเอง เล่นจบปุ๊บ จนอยากทานราเม็งร้อนๆสักถ้วยคงดีไม่น้อย (ฮ่า)
Yakiniku Bugyou (2001)
เกมเนื้อย่างน่าเล่นของเครื่อง PS1 โดยรูปแบบการเล่นก็ง่ายๆแค่คีบเนื้อไปย่างแล้วป้อนให้ลูกค้า ซึ่งลูกค้าที่มาในร้านก็มีความชอบแตกต่างกันไป ซึ่งภาคต่อลงให้กับเครื่อง PS2 ในชื่อ Yakiniku BugyouBonfire ที่ปรับกราฟฟิกให้ดูทันสมัยขึ้นแต่ระบบการเล่นก็ยังคล้ายคลึงกัน
Manpuku!! Nabe Kazoku (2002)
เกมทำอาหารในค่ายเดียวกับเกม Yakiniku Bugyou เพราะผลิตและจัดจำหน่ายโดย บริษัท Media Entertainment สำหรับเกมนี้จะเป็นเกมแนวหม้อไฟ หนึ่งในเมนูสุดฮิตของญี่ปุ่น ตัวเกมจะคล้ายกับเกมก่อนหน้านี้คือคีบเนื้อสัตว์และผักที่อยู่ในหม้อแล้วป้อนให้ลูกค้าจนได้เกจที่ลูกค้ารับรู้ว่าอาหร่อยยยย (ฮ่า!)
Yakitori Musume (2002)
อีกหนึ่งเกมแนวร้านอาหารจากค่าย Media Entertainment เจ้าเก่าหลังจากที่ความสำเร็จของเกม Yakiniku Bugyou เลยสร้างเกมแนวร้านอาหารอีกเกมคราวนี้ เราจะได้เล่นเป็นเจ้าของร้านไก่ย่างยากิโทริ ซึ่งเราจะต้องดูแลลูกค้าหลากหลายด้วยยากิโทริเลิศรส ซึ่งระบบการเล่นคล้ายๆกับสองเกมที่เล่าไปก่อนหน้านี้
The Famires: The Family Restaurant (1998)
เกมบริหาร้ารนอาหารสไตล์ Resturant Family ผลิตและจัดจำหน่ายโดย Artdink โดยตัวเกมเราจะต้องเลือกบริหารร้านในแตละพื้นที่แตกต่างกัน 5 ร้าน แล้วออกแบบร้านในสไตล์ของเรา จากนั้นก็ทำการจ้างพ่อครัว พนักงาน รวมถึงกำหนดเมนูอาหารของร้านเพื่อเรียกลูกค้าดึงดูดเข้ามาในร้านนั่นเอง
My Disney Kitchen (2002)
เหมทำอาหารจากค่ายดิสนีย์ ซึ่งเกมเราจะต้องทำอาหารให้กับ มิคกี้และมินนี่ได้ทานกัน แถมยังมีสูตรอาหารให้เราลองไปทำเองได้ด้วย ภายในเกมประกอบด้วยอุปกรณ์ทำอาหารและวัตถุดิบอาหารหลากหลายชนิด รวมถึงมุมอาหารเช้าและมุมทำเค้ก ผู้เล่นสามารถตกแต่งห้องครัว เปลี่ยนวอลเปเปอร์ และของตกแต่งต่างๆ เช่น ผ้าปูโต๊ะได้
Ore No Ryouri (1999)
ถ้าแฟนเกมยุคนี้จะนึกถึงเกมทำอาหารวินาศสันตะโรอย่าง Overcooked แล้ว สำหรับแฟนเกมยุค 90’s คงต้องรู้จักเกมนี้แน่นอน ด้วยเกมที่มีระบบการเล่นเข้ากับจอยของเครื่อง PS1 โดยตัวเกมจะให้เราเล่นเป็นตัวเอกที่ต้องคอยช่วยเหลือร้านอาหารต่างๆที่มีปัญหา จากการถูกร้านคู่แข่งรุกรานและใช้วิธีสกปรกเล่นงาน โดยมีตั้งแต่ร้านระดับชาวบ้านไปจนถึงร้านสุดหรู ซึ่งความสนุกของเกมขณะที่เราทำอาหารเสริ์ฟลูกค้า ก็จะมีมินิเกมแทรกให้ทำระหว่างเกม อาทิ ล้างจาน นับเงิน หรือกระทั่งตีแมลงสาปหรือจับคนกินแล้วหนี แถมบางทีก็โผล่มาพร้อม ๆ กันจนต้องวางแผนให้ดี เพราะถ้าพลาดคือเกมจบทันที แถมยังสามารถแข่งกับเพื่อนได้ดด้วย
ทั้งหมดนี้คือเกมทำอาหารในความทรงจำจากเครื่อง PS1 ที่มาเล่าสู่กันฟัง ใครเคยมีความทรงจำเกมทำอาหารจากเครื่อง PS1 มาแชร์ความทรงจำกันครับผม…
@P.PETTY
#เกมทำอาหาร #เกมเก่า #PS1 #ย้อนอดีต #ยุค90s
-
รางวัลสุดยอดเกมแห่งปี Game Awardsเปิดโผผู้เข้าชิง The Game Awards ทุกสาขาอย่างเป็นทางการ
-
Resident Evil 9 : Requiem [Preview / สั่งซื้อแผ่นเกม / ราคา / วันวางขาย]27 กุมภาพันธ์ 2026
-
BEYBLADE X : ผู้ใหญ่ vs เด็ก Mindset ที่ดี… “ใส่เต็มที่ มีประโยชน์ในด้านพัฒนาการเด็ก”เชื่อว่าตามงานแข่ง BEYBLADE X มีหลายครั้งที่เห็น ผู้ใหญ่ลงสนาม แล้วต้องไปเจอกับคู่ต่อสู้เป็นน้องๆเด็กๆ คงมี หลายคนคงแอบมีเสียงในหัวดังขึ้นมาแบบอัตโนมัติว่า “ถ้าชนะ เดี๋ยวก็โดนว่าเก่งแต่กับเด็ก… แต่ถ้าแพ้ก็จะถูกมองว่ากระจอกซะงั้น” ซึ่งเป็น Mindset แบบเดิมที่หลายคนยังติดอยู่ และจริงๆ มันค่อนข้าง “ผิดฝั่ง” กับความจริงของสนามเบย์เบลดพอสมควร การแข่งขันเบย์เบลด แม้จะถูกมองว่าเป็นกิจกรรมสำหรับเด็ก แต่ในความเป็นจริงแล้วเป็นพื้นที่เรียนรู้ทางสังคมที่เปิดโอกาสให้ผู้เล่นทุกวัยสามารถมีส่วนร่วมภายใต้กติกาเดียวกัน อุปกรณ์ใกล้เคียงกัน และโครงสร้างการแข่งขันที่บางรายการไม่มีการแบ่งแยกอายุ ซึ่งมันก็ส่งผลให้เกิดคำถามสำคัญในบริบทแบบไทยๆเราว่า “ผู้ใหญ่เนี่ย ควรแข่งขันเต็มที่กับเด็กขนาดนั้นเลยหรือเปล่า?” แม้แต่ตัวแอดมินผู้เขียนเอง ก็เคยมีความคิดนี้ในหัวครับ จนกระทั่งได้ตกตะกอนหลายๆอย่าง และนั่งพิจารณาตามความเป็นจริงที่ประสบพบเจอ จนออกมาเป็นบทความที่จะพามา ปรับทัศนคติ และเพิ่มมุมมองของ พฤติกรรมของผู้ใหญ่ เด็ก และผู้ปกครองในบริบทของการแข่งขัน BEYBLADE X ซึ่งทางแอดมิน อยากจะเสนอไอเดียที่ว่า “การแข่งขันแบบ ไม่ออมมือกับเด็กๆ” เป็นแนวปฏิบัติที่เหมาะสมกว่า และเป็นประโยชน์ต่อพัฒนาการเด็กในหลายมิติครับ 1. เลิกได้เลิกนะ…ไอ้วัฒนธรรมความคิดในสังคมไทย: “ชนะเด็ก รังแกเด็ก ไม่สมเป็นผู้ใหญ่เอาซะเลย!” ทัศนคติที่พบได้ทั่วไปในสังคมไทย […]

































