Phantom Blade Zero
ประเภท :Action
เครื่อง : PC / PS5
พัฒนาโดย :S-Game

จากเกมมือถือสัญชาติจีนแท้ๆ ที่ให้บริการมาแล้วเมื่อปีก่อน และได้กระแสตอบรับที่ดีอย่างเกม Phantom Blade: Executioners (เราเคยแนะนำไปแล้ว คลิก) คราวนี้ทีมงานอยากจะย้อนกลับไปความตั้งใจแรกของพวกเขาที่อยากจะทำเกมคอนโซลคุณภาพดีๆซักเกม จึงเป็นที่มาของเรื่องราวนักดาบปราบผี ย้อนอดีตก่อนเกมมือถือ ในชื่อ Phantom Blade Zero
เกมนี้คือ!?
Phantom Blade Zero ผลงานเกมคอนโซลสัญชาติจีนจากทาง S-Game และดูแลโดย Playstation ซึ่งถ้าย้อนกลับไปถึงความนิยมของเกม Phantom Bladeที่ลงในระบบสมาร์ทโฟนและไม่เคยวางจำหน่ายนอกประเทศจีน แต่สามารถสร้างฐานแฟนคลับที่มีผู้เล่นมากกว่า 20 ล้านคน และคราวนี้จะเป็นการหยิบเอาเรื่องราวก่อนเกมมือถือมาเล่า…
ย้อนกลับไปในPhantom Blade: Executioners เล่าถึงโลกที่มนุษย์ และ ปีศาจอยู่ปะปน และเบียดเบียนกันไปมา โดยมี “สมาชิกของพรรคปราบอสูร” ที่ทำหน้าที่ช่วยเหลือมนุษย์ แต่เหล่านักสู้ยอดฝีมือของพรรคเอง ก็ได้รับพลังจากศาตร์ลึกลับ Sha-Chi
พลังที่มาจากการที่ “ถูกอสูรระดับสูงทำร้าย” ก็สามารถเปลี่ยนร่างมนุษย์ให้กลายเป็นเครื่องจักรสังหารที่น่ากลัว ด้วยพลังนี้ ทำให้ พรรคปราบอสูร มีพลังที่มากพอในการต่อสู้ แต่ว่าบางคนก็ไม่อาจต้านทานพลังอสูร จนกลายเป็นปีศาจเสียเอง และกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตที่สะเทือนฟ้าดิน ผ่านมุมมองของ “มู่หลิงเกวิ่น” (Ver.Eng ชื่อ Soul) ลูกชายคนเล็กของจ้าวปราสาทตระกูลมู่ ที่เป็นมือปราบอสูรผู้ยิ่งใหญ่ของยุทธภพ…
แต่ในเกม Phantom Blade Zero จะเล่าถึง “มู่หลิงเกวิ่น“ ในวัยหนุ่ม ที่ในเวลานั้นเป็นนักล่าชั้นปลายแถวของ “สมาชิกของพรรคปราบอสูร”
แต่ถูกใส่ร้ายในข้อหาฆาตกรรมประมุขพรรคปราบอสูร มู่หลิงเกวิ่นได้หนีตายจากการที่คนทั้งพรรคตามล่า รวมไปถึงเหล่าอสูรที่เจ็บแค้นจากภารกิจก่อนหน้า ได้เข้ามารุมทึ้งตลอดทางการหนี… มู่หลิงเกวิ่นได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ก็ได้นักพรตผู้วิเศษช่วยเหลือด้วยโอสถทิพย์…
และแม้ว่าชีวิตของเขาจะได้รับการช่วยชีวิตโดยนักพรตผู้วิเศษ แต่การรักษามีผล “ยื้อชีวิตชั่วคราว” และจะคงมีผลเพียง 66 วันเท่านั้น ตอนนี้เขาต้องออกเดินทางโดยมีจุดหมายคือ ล้างมลทินให้ตัวเอง โดยไม่สนว่าจะมีใคร หรือตัวอะไรขวางทางเขา
โชว์เกมเพลย์ 1 ชั่วโมงเน้นๆ คนลองแล้วบอกต่อระงม “เกมโคตรโหด”
ที่มา gamerant
และ Phantom Blade Zero กลับมาเป็นกระแสร้อนแรงอีกครั้ง เมื่อมีคลิปเกมเพลย์ยาวกว่า 60 นาทีถูกเผยแพร่บนโลกออนไลน์ มอบมุมมองที่ชัดเจนที่สุดแก่แฟน ๆ เกี่ยวกับผลงานฟอร์มยักษ์จากสตูดิโอจีน S-Game ที่พัฒนาด้วย Unreal Engine 5
เกมนี้ถูกนิยามว่าเป็น Wuxia ARPG ที่มีระบบการต่อสู้รวดเร็ว ดุดัน และเหนือชั้น จนกลายเป็นที่จับตามองของวงการตั้งแต่วันประกาศเปิดตัวในงาน PlayStation State of Play ปี 2023

คลิปที่ถูกปล่อยออกมาครั้งนี้มาจากงาน S-Party ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงปักกิ่งระหว่างวันที่ 26–27 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยเปิดโอกาสให้ผู้เล่นและคอนเทนต์ครีเอเตอร์ได้ลองสัมผัสเวอร์ชันเดโมและบันทึกการเล่น ก่อนจะอัปโหลดเผยแพร่บน YouTube ผ่านหลายช่อง เช่น GamersPrey ที่เราหยิบมาให้ชมกัน ซึ่งนำเสนอการเล่นต่อเนื่องกว่า 50–60 นาที โชว์ทั้งระบบการต่อสู้ที่หลากหลาย การออกแบบด่าน และความท้าทายของศัตรู

หนึ่งในรายละเอียดที่สร้างความสนใจคือเวอร์ชันเดโมมาพร้อมระดับความยาก 3 แบบ ได้แก่ Breaker, Initiate และ Defier ซึ่งแตกต่างจากข่าวหลุดก่อนหน้านี้ที่อ้างว่าจะมีทั้งหมด 4 ระดับ โดยผู้ที่ได้ทดลองเล่นบนโหมด Defier ในงานดังกล่าว ต่างบอกตรงกันว่าเกมนี้จัดว่า “โคตรยาก” ท้าทายฝีมืออย่างยิ่ง และหลายคน “ไม่สามารถไปถึงบอสตัวแรก” ได้ด้วยซ้ำ
Soulframe Liang ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ S-Game ยืนยันมาโดยตลอดว่า Phantom Blade Zero ไม่ใช่ Soulslike และไม่ใช่แอ็กชันทั่วไป แต่เป็นแนวเกมเฉพาะของตัวเอง ล่าสุดเกมเพลย์ที่ถูกเผยแพร่ก็ยิ่งตอกย้ำแนวคิดนี้ ผู้เล่นหลายคนบรรยายว่า Phantom Blade Zero คือการผสมผสานของ Devil May Cry, Sekiro และ Ninja Gaiden พร้อมใส่กลิ่นอาย Soulslike เช่น จุดเซฟแบบ Bonfire และ ไอเทมฟื้นฟูคล้าย Estus Flask
Phantom Blade Zero เป็นเกมกึ่งๆ Open World ซึ่งประกอบด้วยแผนที่ขนาดใหญ่หลายแผนที่ต่อกัน โดยบรรยากาศในเกมล้วนอึมครึม หาจุดสบายตาได้ยาก ทำให้ผู้เล่นต้องระวังในทุกๆการเดินทาง
ศัตรูที่ทรงพลัง จะมอบของรางวัลที่สมน้ำสมเนื้อให้ แต่ต้องแลกกับสกิลเพลย์ และการตายซ้ำๆซากๆ เพื่อเรียนรู้จับจุด Moveset เป้าหมายที่แตกต่างกันออกไป …

นอกจากนี้ ตัวเกมยังใช้การออกแบบท่าเคลื่อนไหวจาก Kenji Tanigaki ผู้ดำรงตำแหน่ง Action Director มากำกับคิวบู๊ และท่าทางสวยๆตามแบบหนังแนว Martial Art ที่เป็นสากล และนำไปใช้ในเกมได้อย่างลื่นไหล…ซึ่งในเกมนี้เป็นเกมที่คุณจะได้พบ กังฟูจีน , เครื่องจักรอันซับซ้อน ที่ชวนให้นึกถึงสตีมพังค์ , ไสยศาสตร์ และองค์ประกอบที่น่าสนใจอื่น ๆ ที่ดูแล้วไม่เข้ากันได้ซักอย่างเลย แต่เกมก็ทำออกมาแล้วดัวงที่เห็นในตัวอย่าง
ด้วยกระแสที่ร้อนแรงไม่แพ้ Black Myth: Wukong ทำให้แฟน ๆ ทั่วโลกกำลังจับตาดูว่า PBZ จะสามารถประสบความสำเร็จในระดับเดียวกันได้หรือไม่ และโอกาสที่จะได้เห็นข้อมูลเพิ่มเติมก็ใกล้เข้ามาแล้ว เพราะ S-Game เตรียมพาเกมนี้ไปโชว์ในงาน China Joy 2025 วันที่ 1–4 สิงหาคม และตามด้วยงาน Gamescom 2025 ที่เยอรมนี วันที่ 20–24 สิงหาคม ซึ่งแฟน ๆ ต่างชาติจะได้ลองเล่นเดโมด้วยตนเองเป็นครั้งแรก
Phantom Blade Zero กำลังอยู่ในการพัฒนาสำหรับPlayStation 5และPCวันที่วางจำหน่ายยังไม่ได้ประกาศ หากมีอัพเดทจะนำเสนอในโอกาสต่อไป
แอดมิน AK47
#PhantomBladeZero #PBZ #SGame #WuxiaARPG #PlayStation5 #PC #Gamescom2025 #ChinaJoy2025 #BlackMythWukong
-
รางวัลสุดยอดเกมแห่งปี Game Awardsเปิดโผผู้เข้าชิง The Game Awards ทุกสาขาอย่างเป็นทางการ
-
Resident Evil 9 : Requiem [Preview / สั่งซื้อแผ่นเกม / ราคา / วันวางขาย]27 กุมภาพันธ์ 2026
-
BEYBLADE X : ผู้ใหญ่ vs เด็ก Mindset ที่ดี… “ใส่เต็มที่ มีประโยชน์ในด้านพัฒนาการเด็ก”เชื่อว่าตามงานแข่ง BEYBLADE X มีหลายครั้งที่เห็น ผู้ใหญ่ลงสนาม แล้วต้องไปเจอกับคู่ต่อสู้เป็นน้องๆเด็กๆ คงมี หลายคนคงแอบมีเสียงในหัวดังขึ้นมาแบบอัตโนมัติว่า “ถ้าชนะ เดี๋ยวก็โดนว่าเก่งแต่กับเด็ก… แต่ถ้าแพ้ก็จะถูกมองว่ากระจอกซะงั้น” ซึ่งเป็น Mindset แบบเดิมที่หลายคนยังติดอยู่ และจริงๆ มันค่อนข้าง “ผิดฝั่ง” กับความจริงของสนามเบย์เบลดพอสมควร การแข่งขันเบย์เบลด แม้จะถูกมองว่าเป็นกิจกรรมสำหรับเด็ก แต่ในความเป็นจริงแล้วเป็นพื้นที่เรียนรู้ทางสังคมที่เปิดโอกาสให้ผู้เล่นทุกวัยสามารถมีส่วนร่วมภายใต้กติกาเดียวกัน อุปกรณ์ใกล้เคียงกัน และโครงสร้างการแข่งขันที่บางรายการไม่มีการแบ่งแยกอายุ ซึ่งมันก็ส่งผลให้เกิดคำถามสำคัญในบริบทแบบไทยๆเราว่า “ผู้ใหญ่เนี่ย ควรแข่งขันเต็มที่กับเด็กขนาดนั้นเลยหรือเปล่า?” แม้แต่ตัวแอดมินผู้เขียนเอง ก็เคยมีความคิดนี้ในหัวครับ จนกระทั่งได้ตกตะกอนหลายๆอย่าง และนั่งพิจารณาตามความเป็นจริงที่ประสบพบเจอ จนออกมาเป็นบทความที่จะพามา ปรับทัศนคติ และเพิ่มมุมมองของ พฤติกรรมของผู้ใหญ่ เด็ก และผู้ปกครองในบริบทของการแข่งขัน BEYBLADE X ซึ่งทางแอดมิน อยากจะเสนอไอเดียที่ว่า “การแข่งขันแบบ ไม่ออมมือกับเด็กๆ” เป็นแนวปฏิบัติที่เหมาะสมกว่า และเป็นประโยชน์ต่อพัฒนาการเด็กในหลายมิติครับ 1. เลิกได้เลิกนะ…ไอ้วัฒนธรรมความคิดในสังคมไทย: “ชนะเด็ก รังแกเด็ก ไม่สมเป็นผู้ใหญ่เอาซะเลย!” ทัศนคติที่พบได้ทั่วไปในสังคมไทย […]


































