ประเภท: Sci-fi Horror RPG
ผู้พัฒนา: IceSitruuna
แพลตฟอร์ม: PlayStation 5, PC (Steam)
วันวางจำหน่าย: ภายในปี 2026
ถือเป็นข่าวดีสำหรับแฟนเกม RPG สยองขวัญยุค 90 โดยเฉพาะผู้ที่ยังคงคิดถึงซีรีส์ระดับตำนานอย่าง Parasite Eve เมื่อสตูดิโอ IceSitruuna ผู้สร้างผลงานเกมแอ็กชัน Metroidvania ที่ได้รับเสียงชื่นชมอย่าง Frontier Hunter: Erza’s Wheel of Fortune ได้ออกมาประกาศเปิดตัวโปรเจกต์ใหม่ล่าสุดในชื่อ Parasite Mutant เกมที่จะพาผู้เล่นดำดิ่งสู่บรรยากาศสยองขวัญไซไฟในโลกอนาคตอันไกลโพ้น พร้อมระบบการเล่นที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเกม RPG สุดคลาสสิกอย่างชัดเจน โดยตัวเกมมีกำหนดวางจำหน่ายบนเครื่อง PlayStation 5 และ PC ผ่านร้านค้า Steam ภายในปี 2026
Parasite Mutant จะเล่าเรื่องราวในโลกอนาคตที่มืดมน ผู้เล่นจะได้รับบทเป็น โนวา (Nova) เจ้าหน้าที่พลังจิต (Psionic agent) ที่ถูกส่งไปปฏิบัติภารกิจบนเมืองเกาะร้างอันห่างไกลซึ่งเต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์สุดสยดสยอง โดยที่เธอไม่รู้เลยว่าสิ่งที่เกิดขึ้นบนเกาะแห่งนี้จะเปลี่ยนแปลงชะตากรรมของเธอไปตลอดกาล ผู้เล่นจะต้องสำรวจพื้นที่อันตราย ไขปริศนาต่างๆ เพื่อค้นหาคำตอบ และอาจจะได้เปิดโปงความลับอันน่าสะพรึงกลัวของจักรวาลในเกมนี้
หัวใจหลักที่ทำให้โปรเจกต์นี้น่าจับตามองคือระบบการต่อสู้ที่เรียกว่า ATC (Active Time Chains) ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างระบบ Active Time Battle (ATB) ที่แฟนเกม RPG ยุค 90 คุ้นเคยเป็นอย่างดี เข้ากับระบบ “Chain” แบบสามส่วน (three-segment chain system) ผู้เล่นจะต้องจับจังหวะในการออกคำสั่งในแต่ละส่วนของเกจ และตัดสินใจว่าจะสะสมพลังงานไว้เพื่อปลดปล่อยการโจมตีแบบต่อเนื่องอันรุนแรง (chain release) หรือไม่ ในขณะที่เกจกำลังสะสมพลัง ผู้เล่นยังต้องคอยหลบหลีกการโจมตีของศัตรูแบบเรียลไทม์ และหาจังหวะที่ดีที่สุดในการสวนกลับ นับเป็นระบบที่ท้าทายทั้งการวางแผนและการใช้ไหวพริบไปพร้อมๆ กัน
ในด้านภาพ ตัวเกมเลือกใช้สไตล์ศิลปะแบบอนิเมะกึ่งสมจริง (semi-realistic anime) ผสานกับเทคนิคการเรนเดอร์สมัยใหม่เพื่อมอบประสบการณ์ภาพที่คมชัดระดับ HD แต่ในขณะเดียวกัน ทีมพัฒนาก็เอาใจแฟนเกมยุคเก่าด้วยการใส่ฟิลเตอร์แบบ Retro และ CRT เข้ามาเป็นตัวเลือกให้ผู้เล่นสามารถปรับใช้ได้ เพื่อจำลองบรรยากาศการเล่นเกมบนจอทีวีแบบเก่า ให้ความรู้สึกเหมือนได้ย้อนกลับไปสู่ยุคทองของเกมช่วงปลายยุค 90 ถึงต้นยุค 2000 อย่างแท้จริง
ระบบการพัฒนาตัวละครของ Parasite Mutant จะเป็นแบบคลาสสิกที่เน้นไปที่อุปกรณ์สวมใส่เป็นหลัก ผู้เล่นสามารถติดตั้ง “โมดูล” (modules) ต่างๆ เข้าไปในอุปกรณ์เพื่อเพิ่มความสามารถ หรือใช้วัสดุที่เรียกว่า “Plus Points” ซึ่งหาได้จากการต่อสู้มาใช้อัปเกรดอุปกรณ์ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นได้โดยตรง
นอกจากนี้ ตัวเกมยังมีระบบ New Game+ ที่จะทำให้การเล่นรอบสองมีความหมายมากกว่าเดิม โดยผู้เล่นสามารถนำ Plus Points จากการเล่นรอบแรกมาใช้ต่อได้ และที่สำคัญคือโหมดนี้จะปลดพื้นที่ใหม่ๆ ที่ไม่สามารถเข้าถึงได้ในการเล่นรอบแรก ซึ่งผู้เล่นจะต้องพัฒนาตัวละครให้แข็งแกร่งขึ้นไปอีกเพื่อเผชิญหน้ากับความท้าทายสุดท้ายของเกม และแน่นอนว่าเกมจะมีระบบเปลี่ยนชุดตัวละคร (Outfit System) มาให้ผู้เล่นได้ปรับแต่งรูปลักษณ์ของโนวาตามความชอบอีกด้วย
Parasite Mutant มีกำหนดออกภายในปี 2026
แอดมิน AK47
#ParasiteMutant #ParasiteEve #HorrorRPG #ScifiGame #IceSitruuna #PS5 #PC #Steam #เกมใหม่ #ข่าวเกม
-
รางวัลสุดยอดเกมแห่งปี Game Awardsเปิดโผผู้เข้าชิง The Game Awards ทุกสาขาอย่างเป็นทางการ
-
Resident Evil 9 : Requiem [Preview / สั่งซื้อแผ่นเกม / ราคา / วันวางขาย]27 กุมภาพันธ์ 2026
-
BEYBLADE X : ผู้ใหญ่ vs เด็ก Mindset ที่ดี… “ใส่เต็มที่ มีประโยชน์ในด้านพัฒนาการเด็ก”เชื่อว่าตามงานแข่ง BEYBLADE X มีหลายครั้งที่เห็น ผู้ใหญ่ลงสนาม แล้วต้องไปเจอกับคู่ต่อสู้เป็นน้องๆเด็กๆ คงมี หลายคนคงแอบมีเสียงในหัวดังขึ้นมาแบบอัตโนมัติว่า “ถ้าชนะ เดี๋ยวก็โดนว่าเก่งแต่กับเด็ก… แต่ถ้าแพ้ก็จะถูกมองว่ากระจอกซะงั้น” ซึ่งเป็น Mindset แบบเดิมที่หลายคนยังติดอยู่ และจริงๆ มันค่อนข้าง “ผิดฝั่ง” กับความจริงของสนามเบย์เบลดพอสมควร การแข่งขันเบย์เบลด แม้จะถูกมองว่าเป็นกิจกรรมสำหรับเด็ก แต่ในความเป็นจริงแล้วเป็นพื้นที่เรียนรู้ทางสังคมที่เปิดโอกาสให้ผู้เล่นทุกวัยสามารถมีส่วนร่วมภายใต้กติกาเดียวกัน อุปกรณ์ใกล้เคียงกัน และโครงสร้างการแข่งขันที่บางรายการไม่มีการแบ่งแยกอายุ ซึ่งมันก็ส่งผลให้เกิดคำถามสำคัญในบริบทแบบไทยๆเราว่า “ผู้ใหญ่เนี่ย ควรแข่งขันเต็มที่กับเด็กขนาดนั้นเลยหรือเปล่า?” แม้แต่ตัวแอดมินผู้เขียนเอง ก็เคยมีความคิดนี้ในหัวครับ จนกระทั่งได้ตกตะกอนหลายๆอย่าง และนั่งพิจารณาตามความเป็นจริงที่ประสบพบเจอ จนออกมาเป็นบทความที่จะพามา ปรับทัศนคติ และเพิ่มมุมมองของ พฤติกรรมของผู้ใหญ่ เด็ก และผู้ปกครองในบริบทของการแข่งขัน BEYBLADE X ซึ่งทางแอดมิน อยากจะเสนอไอเดียที่ว่า “การแข่งขันแบบ ไม่ออมมือกับเด็กๆ” เป็นแนวปฏิบัติที่เหมาะสมกว่า และเป็นประโยชน์ต่อพัฒนาการเด็กในหลายมิติครับ 1. เลิกได้เลิกนะ…ไอ้วัฒนธรรมความคิดในสังคมไทย: “ชนะเด็ก รังแกเด็ก ไม่สมเป็นผู้ใหญ่เอาซะเลย!” ทัศนคติที่พบได้ทั่วไปในสังคมไทย […]


































