เข้าฉาย 31 กรกฎาคม 2025 ในโรงภาพยนตร์
เผชิญหน้ากับจุดจบของโลก ในมุมมองที่เขาล่วงรู้ทุกสิ่ง
ตัวอย่างของภาพยนตร์แอ็กชัน-แฟนตาซีฟอร์มยักษ์ OMNISCIENT READER: THE PROPHECY
สร้างจากนิยายออนไลน์ชื่อดังของเกาหลีใต้ที่มียอดผู้อ่านถล่มทลายทั่วโลกกว่า 200 ล้านครั้ง
โลกของ คิม ด็อกจา (รับบทโดย อันฮโยซอบ) เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงเมื่อนิยายเว็บที่เขาเคยอ่านอย่าง “Three Ways to Survive the Apocalypse” (TWSA) กลายเป็นความจริง เขากลายผู้เป็น “ผู้อ่านผู้รอบรู้” ที่ต้องใช้ความรู้จากนิยายเพื่อเอาชีวิตรอดในโลกที่ถูกแปลงเป็นเกมสมรภูมิร้าย โดยมี “กลุ่มดาว” (Constellations) จากตำนานต่างๆ คอยสังเกตการณ์และสนับสนุนมนุษย์ผ่านระบบ (Scenarios) ที่โหดร้าย
ด็อกจาต้องหาทางร่วมมือกับยู ยูจุงฮยอก ตัวเอกของนิยายผู้มีพลัง “การกลับชาติมาเกิด” (Regression) เพื่อฝ่าฟันอุปสรรคและไขความลับของโลกใหม่นี้ ในขณะที่เขาพยายามปกป้องคนใกล้ชิดและค้นหาความจริงเบื้องหลังการทำลายล้าง … แม้ด็อกจาจะรู้เรื่องมาก่อน แต่เขาที่ตอนจบ แล้วคิดว่ามันห่วยเกินไป ทำให้ “ผู้เขียน” เสนอทางเลือกให้เขาเลือกตอนจบเอง และนี่คือสิ่งที่เขาไม่รู้ว่าปลายทางจะจบแบบใด…
Omniscient Reader: The Prophecy ไม่ใช่เพียงแค่ภาพยนตร์เกาหลีอีกเรื่องหนึ่ง แต่คือการดัดแปลงจากนิยายออนไลน์และ Webtoon ที่ประสบความสำเร็จในระดับโลก
ต้นฉบับของ Omniscient Reader เริ่มจากนิยายออนไลน์บนแพลตฟอร์ม Naver ที่ได้รับความนิยมถล่มทลาย และต่อมาได้รับการดัดแปลงเป็น Webtoon ซึ่งมีฐานแฟนคลับทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทย จุดเด่นของต้นฉบับคือการนำเสนอ “โลกที่ตัวเอกเป็นผู้อ่าน” ไม่ใช่ฮีโร่หลัก ซึ่งเป็นแนวคิดที่แปลกใหม่ จับใจกลุ่มผู้อ่านยุคใหม่ที่ต้องการอะไรที่มากกว่าแค่การผจญภัยแบบเดิม ๆ เมื่อโปรเจกต์ถูกพัฒนาเป็นภาพยนตร์ กระแสก็ยิ่งทวีความรุนแรง เพราะผู้คนต้องการเห็นว่าเนื้อเรื่องอันซับซ้อน การจัดวางระบบ “สถานการณ์” และ “กลุ่มดาว” ตลอดจนการออกแบบโลกหลังหายนะจะถูกตีความอย่างไรในฉบับคนแสดง
การคัดเลือกนักแสดงระดับซูเปอร์สตาร์: ดึงดูดฐานแฟนจากทุกวงการ

หนึ่งในหมัดเด็ดของภาพยนตร์คือการรวมตัวของนักแสดงชื่อดังอย่าง อันฮโยซอบ, อีมินโฮ, และ จีซู (BLACKPINK) ซึ่งแต่ละคนมีฐานแฟนมหาศาลทั้งในและนอกประเทศ โดยเฉพาะจีซูที่การปรากฏตัวของเธอสร้างแรงสั่นสะเทือนให้กับโซเชียลมีเดียทันทีหลังโปสเตอร์แรกถูกปล่อย


การเลือกนักแสดงที่เหมาะกับบทตัวละครแฟนตาซีแต่ยังคงความลึกของอารมณ์ เป็นการบ่งบอกว่าผู้สร้างต้องการถ่ายทอดเนื้อหาที่ทั้ง “มันส์” และ “มีน้ำหนักทางอารมณ์” อย่างแท้จริง
ตัวอย่างแรกที่สร้างกระแสในวงกว้าง
เมื่อมีการปล่อย ทีเซอร์แรก ของภาพยนตร์ออกมาในเดือนพฤษภาคม 2025 สื่อเกาหลีและสื่อระดับนานาชาติหลายแห่งรายงานพร้อมกันว่ามีผู้เข้าชมเกิน 5 ล้านครั้งภายใน 48 ชั่วโมง ความเห็นจากแฟน ๆ ส่วนใหญ่มองว่าโทนภาพ, มู้ด, การออกแบบสัตว์ประหลาด และการนำเสนอระบบโลกแฟนตาซีในฉบับ Live-action ดูสากลมาก โดยไม่สูญเสียกลิ่นอายความเป็นเกาหลี
ในฝั่งตะวันตก เว็บไซต์อย่าง Reddit และ X (Twitter เดิม) มีการพูดถึง Omniscient Reader: The Prophecy อย่างคึกคัก โดยเฉพาะกลุ่มแฟนที่เคยอ่านนิยายหรือ Webtoon มาก่อน ต่างคาดหวังว่าภาพยนตร์จะสามารถถ่ายทอดความ “เมตา” (meta-narrative) ของต้นฉบับออกมาได้ดี แต่ก็มีเสียงสะท้อนว่า “ไม่ตรงตามต้นฉบับเลย”
ในฝั่งเอเชีย โดยเฉพาะในไทย ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย กลุ่มแฟน Webtoon แสดงความตื่นเต้นพร้อมสร้างแฟนอาร์ตและวิเคราะห์เนื้อเรื่องกันล่วงหน้าผ่าน TikTok และ YouTube ซึ่งเป็นตัวชี้วัดชั้นดีถึงการปูทางของกระแสก่อนฉายจริง
ด้วยความที่ต้นฉบับมีเนื้อหายาวกว่า 500 ตอน และระบบโลกที่สามารถขยายออกไปได้อีกมาก มีความเป็นไปได้สูงว่า The Prophecy อาจเป็นเพียง “ภาคแรก” ของจักรวาล Omniscient Reader บนจอเงิน หากกระแสตอบรับดี อาจเกิดเป็นซีรีส์ ภาคต่อ หรือแม้แต่โปรเจกต์แบบ Multiverse
REVIEW
ต้องบอกก่อนนะครับว่า ในโพสนี้เป็นการรีวิวความรู้สึกของคนที่ไม่เคยอ่านมังฮวา ไม่ตามนิยาย ดูแค่ตัวอย่างนิดๆหน่อยๆแบบผ่านๆ ไม่ได้ใส่ใจอะไรด้วย
พอได้มีโอกาสมาดู (มาเพราะน้อง Jisoo มาเล่นแหละ 55) ก็พบว่า ตัวภาพยนตร์จัดว่า “สนุก”… ไม่สิ ต้องบอกว่า “โคตรสนุก” เลย สำหรับแอดฯ
เป็นภาพยนตร์แอ็กชันที่มีความบันเทิงสูง เข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน และดำเนินเรื่องอย่างกระชับ รวดเร็ว มี Pacing ที่กำลังดี ไม่เร็วจนตามไม่ทัน ไม่มีจุดยืดย้วยจนง่วง ทุกอย่างเป็นฉากที่ต่อเนื่อง มีเหตุและผลของมันในทุกๆช่วงเวลา แม้จะมีความยาวเกือบ 2 ชั่วโมง แต่ไม่มีความน่าเบื่อเลย
ถ้าว่ากันตรงๆ Omniscient Reader: The Prophecy – อ่านชะตาวันสิ้นโลก ก็เป็นการเอาสูตรสำเร็จของมังฮวาเกาหลี ที่ผูกเรื่องราวของการต่อสู้ สถานการณ์ที่เลวร้าย และการได้พลังของตัวพระเอกที่เหมือนการเล่นเกม มีการทำเควสท์ อัพเลเวล อัพเกรดซื้อของโน่นนี่นั่นตามสไตล์…
แต่สิ่งที่รู้สึกดีกับภาพยนตร์เรื่องนี้ คือ การวางบทพระเอก ให้ไม่ได้เป็นคนเก่งจนน่าหมั่นไส้ เหมือนกับ “พรี่คางแหลม” จากมังฮวา และอนิเมชื่อดังเรื่องนึง…แต่เป็นการวางบทให้เราเอาใจช่วยพระเอกที่แม้จะรู้เรื่องราวมาก่อนแล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่เมื่อมีปัจจัยบางอย่างทำให้เนื้อเรื่องที่พระเอกของเราเคยรู้มาก่อนถูกเปลี่ยน กลายเป็นเหตุซึ่งหน้าต้องรับมือ และความสนุกของเรื่องก็น่าจะเป็นในส่วนนี้เลย
และเป็นภาพยนตร์ที่น่าจะเข้าข่ายของการใช้ “นักแสดง” ที่นำพา “คาแรคเตอร์” ให้คนอินตามได้ไม่ยากด้วย ซึ่งทุกตัวละครฝั่งพระเอก จะมีปม มีประเด็นอะไรในใจอยู่พอสมควร

อันฮโยซอบ รับบทพระเอกของเรื่อง ดูเนิร์ดๆติ๋มๆ แต่ก็ดูพึ่งพาได้ แล้วต่อให้รู้อะไรมาก่อน แต่ถ้าเหตุการรืเปลี่ยน ไหวพริบของตัวละครนี้ก็คิดไว แก้เกมได้บ้างไม่ได้บ้าง แต่ไม่ยอมอยู่เฉยๆ และยังมีมุมของความเป็นมนุษย์ ที่กลัวเป็น มีปมในใจ และความน่าเอาใจช่วย
ลีมินโฮ ถ่ายทอดบท ยูจองฮยอก ได้อย่างทรงพลัง แอ็คจัด น่าหมั่นไส้ แต่หล่อ และน่าประทับใจ
แชซูบิน สวยน่ารัก และเป็นตัวละครที่คิดว่าจะนุ่มนิ่มเอื่อยๆ แถมไม่มีปมอะไรให้ตามด้วย เกือบจางแล้ว… ไปๆมาๆ บทส่งให้เธอมีความสำคัญในปาร์ตี้พระเอกไม่น้อย โดยเฉพาะช่วงท้าย เรียกว่าไม่มีสไปเดอรืแมนสาวคนนี้ น่าจะเป็นงานยากในการต่อสู้เลยก็ว่าาได้
ส่วน JiSoo แม้บทบาทไม่มาก แต่ทุกฉากที่ปรากฏล้วนโดดเด่น ทั้งปมที่ใส่เข้ามา ทั้งแอคชั่นที่มอบให้ แม้แฟนๆนิยายจะ “เอ๊ะ” เพราะคาแรคเตอร์ไม่ตรงเป๊ะ แต่บอกเลยว่า ซีนเท่ๆของคุณเค้าระดับซัดบอสในเรื่องได้ + ความขึ้นกล้อง + ผกก.ภาพ เน้นถ่ายเจาะหน้าใกล้ๆอย่างบ่อย ก็ถือว่าคุ้มค่าตั๋วแล้ว (555)
ขณะที่ นานะ ได้รับการนำเสนอในหลายช่วงสำคัญของเรื่อง ซีนเท่ๆ ซีนสโลว์ โชว์แอคชั่น มาแบบจัดหนักมากกับตัวละครนี้ ยิ่งช่วงท้าย แอคชั่นคุณเค้าสวยมาเลย

จุดที่ทำใจให้ชอบได้ยากก็พอมีบ้าง เช่น CG ที่อัดเข้ามากว่า 80%ของเรื่อง คือยังดูแบบ “เกือบเนียน” ละ แต่ก็ยังมีจุดให้ “เอ๊ะ” (อีกแล้ว) แต่ยอมรับว่าการดีไซน์มอนสเตอร์ หรือพร๊อพต่างๆ ทำมาได้ดีมากๆ (ไม่รู้ว่าส่วนนึงเพราะมังฮวาเค้าวางมาดีหรือไม่ด้วยนะ)
อย่างที่บอกตอนต้นครับ ในเรื่องนี้ กระแสจากคนที่ตามมังฮวา และอ่านนิยาย อาจจะไม่ชอบ…
แต่สำหรับคนทั่วไป หรือคนที่อยากจะหาภาพยนตร์แอคชั่นเบียวๆ มันส์ๆ เอนจอย (อย่างแอดมิน 55+)
“ตีตั๋วดูได้ครับ สนุก ไม่ผิดหวัง”
เข้าฉาย 31 กรกฎาคม 2025 ในโรงภาพยนตร์
แอดมิน Ak47
#OmniscientReader #LeeMinHo #AhnHyoSeop #ChaeSooBin #ShinSeungHo #Nana #JISOO
-
Super Space Sheriff Gavan Infinityตำรวจอวกาศเกียบันร่างสีแดง ประเดิมความมันปี 2026
-
Ani-One เตรียมจัดรอบ Premiere Screening อนิเมะฟอร์มยักษ์ “Sentenced to Be a Hero ผู้กล้าโทษประหาร” ฉายตอนแรก “พากย์ไทย” 60 นาทีเต็มดูก่อนใครในโลก 8 ธ.ค. นี้!
-
Samurai Troopers: Armored Troopers [อนิเมะใหม่ / ซามูไรทรูเปอร์ / 2026]#News #Anime #SamuraiTroopers #Yoroiden #サムライトルーパー #Sunrise #อนิเมะใหม่2026 #BANDAI #Plamo




































