HIDEO KOJIMA GAME : OD
ประเภท: สยองขวัญ (Horror), สื่อบันเทิงรูปแบบใหม่
ผู้พัฒนา: Kojima Productions (ร่วมมือกับ Xbox Game Studios)
แพลตฟอร์ม: Xbox Series X|S, PC
วันวางจำหน่าย: ยังไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการ
“เป็นเวลา 10 ปี นับตั้งแต่ _____”
สยองขวัญที่ชื่อ “___”
ผู้ต้องคำสาป “___”
กลับเข้าสู่สถานที่ต้องห้ามอีกครั้ง
อาคารนี้มาจากการสแกน 3 มิติ สร้างโดย “____”
3D Scan จากวัตถุที่พบใน “____”
นี่คือคำโปรยจากทีเซอร์ล่าสุดความยาว 3 นาทีของเกมจากทางผู้สร้างระดับตำนานที่ยังมีชีวิต “ฮิเดโอะ โคจิม่า” กับการหวนสู่การทำเกมสยองขวัญ ที่แม้จะเป็นเพียงทีเซอร์สั้นๆ แต่ก็ชวนอึดอัด และหลอนระแวงด้วยเสียงที่ชวนขนลุก กับผลงาน HIDEO KOJIMA GAME : OD
“OD” คือโปรเจกต์เกมใหม่ล่าสุดจาก ฮิเดโอะ โคจิม่า (Hideo Kojima) ผู้สร้างเกมระดับตำนานอย่างซีรีส์ Metal Gear Solid และ Death Stranding ที่สร้างเสียงฮือฮาและเต็มไปด้วยปริศนาทันทีที่เปิดตัว โปรเจกต์นี้เป็นการร่วมมือครั้งสำคัญกับ Xbox Game Studios และผู้กำกับภาพยนตร์สยองขวัญชื่อดัง จอร์แดน พีล (Jordan Peele) จาก Get Out และ Us โดยตั้งเป้าที่จะเป็นมากกว่าวิดีโอเกม แต่เป็น “สื่อรูปแบบใหม่” ที่จะทลายเส้นแบ่งระหว่างเกมและภาพยนตร์
OD ถูกนิยามว่าเป็นเกมแนวสยองขวัญ (Horror) ที่มีเป้าหมายเพื่อ “ทดสอบขีดจำกัดความกลัว” ของผู้เล่น และสำรวจแนวคิดของการ “Overdose on fear” หรือการเสพความกลัวเกินขนาด โคจิม่าได้กล่าวว่า OD จะเป็นประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร และอาจเป็นสิ่งที่ “ทั้งรักและเกลียด” สำหรับผู้เล่น ซึ่งบ่งบอกถึงความตั้งใจที่จะสร้างผลงานที่ท้าทายและแตกต่างไปจากขนบเดิมๆ
ตัวเกมถูกพัฒนาโดยใช้ Unreal Engine 5 ซึ่งเป็นเอนจิ้นพัฒนาเกมที่ทรงพลังที่สุดในปัจจุบัน ทำให้สามารถคาดหวังได้ถึงกราฟิกที่สมจริงและบรรยากาศที่ชวนขนหัวลุกได้อย่างเต็มที่
การร่วมมือกับ Jordan Peele และทีมงาน มาร่วมโปรเจกต์ในฐานะหนึ่งในทีมเขียนบทและผู้สร้างสรรค์ ยิ่งเพิ่มมิติความน่าสนใจให้กับ OD เป็นอย่างมาก พีลเป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องการสร้างภาพยนตร์สยองขวัญเชิงจิตวิทยาที่แฝงประเด็นทางสังคมไว้อย่างเฉียบคม การร่วมมือกันของสองผู้สร้างอัจฉริยะต่างวงการจึงทำให้เกิดการคาดการณ์ว่า OD จะเป็นเกมที่มีเนื้อหาลุ่มลึกและน่าสะพรึงกลัวในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน
OD ได้เปิดตัวรายชื่อนักแสดงที่จะมารับบทบาทสำคัญในเกม ซึ่งล้วนเป็นนักแสดงมากความสามารถ ได้แก่
โซเฟีย ลิลลิส (Sophia Lillis) – เป็นที่รู้จักจากภาพยนตร์เรื่อง “It” และซีรีส์ “I Am Not Okay with This”
ฮันเตอร์ เชเฟอร์ (Hunter Schafer) – นักแสดงและนางแบบจากซีรีส์ยอดนิยม “Euphoria”
อูโด เคียร์ (Udo Kier) – นักแสดงรุ่นใหญ่ชาวเยอรมันที่มีผลงานภาพยนตร์มายาวนาน
การใช้นักแสดงที่มีชื่อเสียงและเทคโนโลยีการสแกนใบหน้าที่สมจริงเป็นพิเศษ (Metahuman) ยิ่งตอกย้ำว่า OD จะให้ความสำคัญกับการแสดงอารมณ์และเรื่องราวที่ขับเคลื่อนด้วยตัวละครเป็นอย่างมาก
Gameplay
ในขณะนี้ รายละเอียดเกี่ยวกับเนื้อเรื่องและรูปแบบการเล่น (Gameplay) ของ OD ยังคงถูกเก็บเป็นความลับอย่างแน่นหนา ตัวอย่างแรกที่เปิดตัวในงาน The Game Awards 2023 แสดงให้เห็นภาพของนักแสดงทั้งสามกำลังพูดบททดสอบในห้องมืด พร้อมกับการแสดงสีหน้าหวาดกลัวที่สมจริงอย่างน่าทึ่ง และในตอนท้ายของวิดีโอได้เผยให้เห็นประตูที่แง้มออกพร้อมกับเสียงกรีดร้อง ซึ่งสร้างบรรยากาศที่น่าขนลุกและเต็มไปด้วยปริศนา
ล่าสุด 2025 ได้มีการปล่อยทีเซอร์ใหม่ในชื่อ “Knock” ซึ่งนำเสนอฉากที่ตัวละครของ โซเฟีย ลิลลิส อยู่ในบ้านที่ดูน่ากลัวและกำลังไขปริศนาด้วยการจุดเทียน ก่อนที่จะเผชิญหน้ากับบางสิ่งที่น่าสะพรึงกลัว ทีเซอร์นี้ยิ่งเน้นย้ำถึงบรรยากาศสยองขวัญเชิงจิตวิทยาและ “เสียง” ที่สร้างความหวาดระแวง
แม้จะยังไม่มีการยืนยันรูปแบบการเล่นที่ชัดเจน แต่มีการคาดการณ์ว่า OD อาจจะใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี Cloud Gaming ของ Microsoft เพื่อสร้างประสบการณ์การเล่นแบบใหม่ที่ผู้เล่นหลายคนอาจมีส่วนร่วมหรือส่งผลกระทบต่อกันและกันได้ในรูปแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน
OD ได้รับการยืนยันว่าจะวางจำหน่ายสำหรับเครื่อง Xbox Series X|S และ PC
อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการประกาศวันวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ เนื่องจากเกมยังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนา
ซึ่งคาดว่าอาจจะต้องใช้เวลาอีกพอสมควรกว่าที่แฟนๆ จะได้สัมผัสกับประสบการณ์สยองขวัญครั้งใหม่นี้จากฮิเดโอะ โคจิม่าครับ
แอดมิน AK47
#OD #HideoKojima #KojimaProductions #JordanPeele #Xbox #XboxGameStudios #เกมสยองขวัญ #HorrorGame #ข่าวเกม #เกมใหม่
-
รางวัลสุดยอดเกมแห่งปี Game Awardsเปิดโผผู้เข้าชิง The Game Awards ทุกสาขาอย่างเป็นทางการ
-
Resident Evil 9 : Requiem [Preview / สั่งซื้อแผ่นเกม / ราคา / วันวางขาย]27 กุมภาพันธ์ 2026
-
BEYBLADE X : ผู้ใหญ่ vs เด็ก Mindset ที่ดี… “ใส่เต็มที่ มีประโยชน์ในด้านพัฒนาการเด็ก”เชื่อว่าตามงานแข่ง BEYBLADE X มีหลายครั้งที่เห็น ผู้ใหญ่ลงสนาม แล้วต้องไปเจอกับคู่ต่อสู้เป็นน้องๆเด็กๆ คงมี หลายคนคงแอบมีเสียงในหัวดังขึ้นมาแบบอัตโนมัติว่า “ถ้าชนะ เดี๋ยวก็โดนว่าเก่งแต่กับเด็ก… แต่ถ้าแพ้ก็จะถูกมองว่ากระจอกซะงั้น” ซึ่งเป็น Mindset แบบเดิมที่หลายคนยังติดอยู่ และจริงๆ มันค่อนข้าง “ผิดฝั่ง” กับความจริงของสนามเบย์เบลดพอสมควร การแข่งขันเบย์เบลด แม้จะถูกมองว่าเป็นกิจกรรมสำหรับเด็ก แต่ในความเป็นจริงแล้วเป็นพื้นที่เรียนรู้ทางสังคมที่เปิดโอกาสให้ผู้เล่นทุกวัยสามารถมีส่วนร่วมภายใต้กติกาเดียวกัน อุปกรณ์ใกล้เคียงกัน และโครงสร้างการแข่งขันที่บางรายการไม่มีการแบ่งแยกอายุ ซึ่งมันก็ส่งผลให้เกิดคำถามสำคัญในบริบทแบบไทยๆเราว่า “ผู้ใหญ่เนี่ย ควรแข่งขันเต็มที่กับเด็กขนาดนั้นเลยหรือเปล่า?” แม้แต่ตัวแอดมินผู้เขียนเอง ก็เคยมีความคิดนี้ในหัวครับ จนกระทั่งได้ตกตะกอนหลายๆอย่าง และนั่งพิจารณาตามความเป็นจริงที่ประสบพบเจอ จนออกมาเป็นบทความที่จะพามา ปรับทัศนคติ และเพิ่มมุมมองของ พฤติกรรมของผู้ใหญ่ เด็ก และผู้ปกครองในบริบทของการแข่งขัน BEYBLADE X ซึ่งทางแอดมิน อยากจะเสนอไอเดียที่ว่า “การแข่งขันแบบ ไม่ออมมือกับเด็กๆ” เป็นแนวปฏิบัติที่เหมาะสมกว่า และเป็นประโยชน์ต่อพัฒนาการเด็กในหลายมิติครับ 1. เลิกได้เลิกนะ…ไอ้วัฒนธรรมความคิดในสังคมไทย: “ชนะเด็ก รังแกเด็ก ไม่สมเป็นผู้ใหญ่เอาซะเลย!” ทัศนคติที่พบได้ทั่วไปในสังคมไทย […]






























