Nobody 2 – คนธรรมดานรกเรียกพี่ 2 (2025)
ประเภท แอ็คชั่น/ ระทึกขวัญ
นำแสดงโดย Bob Odenkirk, Connie Nielsen, RZA, Michael Ironside, Colin Salmon, Billy MacLellan, Gage Munroe, Paisley Cadorath, Christopher Lloyd, Colin Hanks, John Ortiz, และ Sharon Stone
กำกับโดย Timo Tjahjanto
กำหนดฉาย 21 สิงหาคม 2025
การกลับมาอีกครั้งของอดีตนักฆ่ามือฉกาจจะกลับมาบู๊ให้ได้ชมอีกครั้ง ใน Nobody 2 หนังแอ็คชั่น ที่ Bob Odenkirk กลับมาสวมบทนักฆ่าอีกครั้งกับเรื่องราวที่เข้มข้นกว่า บู๊ยิ่งกว่าภาคแรก และยังมีเรื่องราวที่นำพามาสู่อดีตอดีตอันเต็มไปด้วยความรุนแรงอีกครั้ง โดยตัวหนังจะได้ชมกันในปีนี้
เรื่องย่อ
ไม่ว่าจะอยู่ที่บ้าน หรือกำลังออกไปพักร้อน ฮัทช์ แมนเซลล์ ก็ไม่อาจจะหนีจากความดุเดือดที่คอยตามติดตัวเขาได้ เพราะว่าล่าสุดในตัวอย่างแรกจาก Nobody 2 หรือ คนธรรมดานรกเรียกพี่ 2 ยอดมือสังหารต้องเผชิญหน้ากับทั้งเจ้าของสวนสนุกจอมโกง นายอำเภอผู้ชั่วช้า และหัวหน้าแก๊งอาชญากรรม ในการเดินทางมาพักผ่อนที่เมือง พลัมเมอร์วิลล์ ของเขาและครอบครัว
เมื่อเขาอยากให้เวลากับครอบครัว แต่เมื่ออดีตอันเข้มข้นกลับมางานนี้เขาไม่มีทางเลือกนอกจากต้องบู๊สถานเดียวเท่านั้น
โดย บ็อบ โอเดนเคิร์ก จะกลับมารับบทเป็น ฮัทช์ แมนเซลล์ อีกครั้งในรอบสี่ปีของเขา เช่นเดียวกันกับ คอนนี นีลเซน ที่จะกลับมารับบทเป็น เบ็คก้า แมนเซลล์, คริสโตเฟอร์ ลอยด์ ในบท เดวิด แมนเซลล์, รีซ่า ในบท แฮร์รี่ แมนเซลล์, เกจ มันโร ในบทของ เบรดี้ แมนเซลล์ และ เพสลีย์ คาโดราธ ในบทของ แซมมี่ แมนเซลล์ สมทบด้วย ชารอน สโตน, โคลิน แฮงส์ และ จอห์น ออร์ทิซ ในบทบาทของสามวายร้ายในเรื่อง
REVIEW
สนุก บู๊แหลก ไปพร้อมๆกับความสัมพันธ์ในครอบครัว ที่เล่าขนานไปกับโลกของอาชญกรรม เราแทบไม่มีอะไรติเลย ทั้งความยาวของภาพยนตร์ ฉากแอคชั่นที่ดูสนุก
แม้จะยังเป็นสูตรสำเร็จ เซฟโซนของทีมงานที่อาจจะไม่มีอะไรหวือหวา
แต่นั่นละครับ เราอยากได้หนังแอคชั่นจอยๆ ดูเพลินๆ เน้นบันเทิง เรื่องนี้คือตอบโจทย์แล้วจริงๆ…
รีวิวนี้ออกจะสั้นๆไปหน่อย แต่อยากจะบอกว่า มันดี สนุก และคุ้มค่าตั๋วครับ!
5 เรื่องราวน่าสนใจใน Nobody 2

1. ผู้กำกับประจำภาค
ใน Nobody ภาคแรกนั้นจะเป็นผลงานการกำกับของ อิเลีย ไนชูลเลอร์ แต่สำหรับภาค 2 จะได้ผู้กำกับจากอินโดนิเซียอย่าง ติโม จาห์ยันโต้ มานั่งแท่นผู้กำกับในภาคนี้ โดยเขามีผลงานสร้างชื่อจากการกำกับ, เขียนบท และอำนวยการสร้างภาพยนตร์ระทึกขวัญสยองขวัญ ‘May the Devil Take You’ (2018) ของประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งได้รับคำชื่นชมมากมาย รวมถึงกำกับตอนหนึ่งของภาพยนตร์สยองขวัญสุดไฮเปอร์อย่าง ‘V/H/S/94’ ซึ่งทำให้ชื่อเขาได้รับความสนใจในระดับโลก แถม Nobody 2 คืองานกำกับในอเมริกาเรื่องแรกของเขาด้วย
2. ต้นแบบของตัวเอกส่วนหนึ่งมาจากชีวิตจริงนักแสดง
คงปฏิเสธไม่ได้ว่าฮัตช์ ชายที่ภายนอก อาจดูเหมือนเป็นแค่พ่อบ้านชีวิตสุดแสนจะธรรมดา แต่เขากลับซ่อนความลับเอาไว้กับอดีตที่ไม่อยากให้รู้ ซึ่งตัวละครเอกของเรื่องนี้ บ็อบ โอเดนเคิร์ก นักแสดงที่เราคุ้นหน้าคุ้นตาจาก Breaking Bad เผยว่าส่วนหนึ่งของบุคลิกและเรื่องราวของพระเอกนั้น มาจากเรื่องจริงของเขาเอง เมื่อตอนที่โจรบุกบ้านเขา ทําให้เขาจินตนาการว่า จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าตัวเองมีสกิลนักฆ่าแบบยอดฝีมือ จึงเป็นจุดเริ่มต้นในการสร้างหนังเรื่อง Nobody นั่นเอง
3. ความสำเร็จถล่มทลายจากภาคแรก ทำให้มีภาคต่อตามมา
Nobody ภาคแรก สร้างขึ้นด้วยทุนสร้าง 16ล้านดอลลาร์ แต่เมื่อหนังเข้าฉาย จนสร้างกระแสและกวาดรายได้อย่างถล่มทลาย 57.5 ล้านดอลลาร์ ทำให้ทาง เดวิด ลิตช์โปรดิวเซอร์สายบู๊ ผู้กํากับ John Wick, Deadpool 2 และ Fast & Furious : Hobbs & Shaw ไม่รอช้าที่จะสานต่อเรื่องราว พร้อมทุนสร้างมากกว่าภาคแรกถึง 4 เท่า!
4.จัดเต็มเรท R เต็มพิกัด
ด้วยความที่ภาคแรกบู๊ระห่ำขนาดนี้ Nobody 2 ก็ยังคงจัดหนักจัดเต็มมากกว่าครั้งไหนๆและแน่นอนว่าไม่ผิดหวัง เพราะภาคนี้ยังคงได้เรท R เหมือนเช่นเคย รับรองว่าบู๊สะบั้นจัดหนักจัดเต็ม ถึงเลือดถึงเนื้อกันเลยทีเดียว ใครติดใจภาคแรกรอติดตามภาคนี้ได้เลยจ้า
5.ทุ่มสุดตัวเพื่อบทบาท
เพื่อฟิตหุ่นรับบทสุดยอดนักฆ่าตัวพ่อ บ็อบ โอเดนเคิร์ก ในวัยเฉียดเลข 6 จึงออกกําลังกายเพื่อเตรียมตัวนานถึง 2 ปีเต็ม และเขาได้เล่นฉากต่อสู้เกือบทั้งหมด ด้วยตัวของเขาเอง ซึ่งในภาคนี้เขาก็ยังคงเล่นฉากเสี่ยงตายด้วยตัวเองต้องรอดูว่าจะมีอะไรน่าสนใจบ้าง
#Nobody 2 #คนธรรมดานรกเรียกพี่ 2 มีกำหนดการเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ในวันที่ 21 สิงหาคม 2025
ตัวอย่าง
@P.PETTY
ข้อมูลอ้างอิง
https://www.sfcinemacity.com/movie/Nobody-2.HO00002353
https://www.imdb.com/title/tt28996126/
https://mono29.com/program/459025.html
https://www.beartai.com/buzz/movie/1428483
-
รางวัลสุดยอดเกมแห่งปี Game Awardsเปิดโผผู้เข้าชิง The Game Awards ทุกสาขาอย่างเป็นทางการ
-
Resident Evil 9 : Requiem [Preview / สั่งซื้อแผ่นเกม / ราคา / วันวางขาย]27 กุมภาพันธ์ 2026
-
BEYBLADE X : ผู้ใหญ่ vs เด็ก Mindset ที่ดี… “ใส่เต็มที่ มีประโยชน์ในด้านพัฒนาการเด็ก”เชื่อว่าตามงานแข่ง BEYBLADE X มีหลายครั้งที่เห็น ผู้ใหญ่ลงสนาม แล้วต้องไปเจอกับคู่ต่อสู้เป็นน้องๆเด็กๆ คงมี หลายคนคงแอบมีเสียงในหัวดังขึ้นมาแบบอัตโนมัติว่า “ถ้าชนะ เดี๋ยวก็โดนว่าเก่งแต่กับเด็ก… แต่ถ้าแพ้ก็จะถูกมองว่ากระจอกซะงั้น” ซึ่งเป็น Mindset แบบเดิมที่หลายคนยังติดอยู่ และจริงๆ มันค่อนข้าง “ผิดฝั่ง” กับความจริงของสนามเบย์เบลดพอสมควร การแข่งขันเบย์เบลด แม้จะถูกมองว่าเป็นกิจกรรมสำหรับเด็ก แต่ในความเป็นจริงแล้วเป็นพื้นที่เรียนรู้ทางสังคมที่เปิดโอกาสให้ผู้เล่นทุกวัยสามารถมีส่วนร่วมภายใต้กติกาเดียวกัน อุปกรณ์ใกล้เคียงกัน และโครงสร้างการแข่งขันที่บางรายการไม่มีการแบ่งแยกอายุ ซึ่งมันก็ส่งผลให้เกิดคำถามสำคัญในบริบทแบบไทยๆเราว่า “ผู้ใหญ่เนี่ย ควรแข่งขันเต็มที่กับเด็กขนาดนั้นเลยหรือเปล่า?” แม้แต่ตัวแอดมินผู้เขียนเอง ก็เคยมีความคิดนี้ในหัวครับ จนกระทั่งได้ตกตะกอนหลายๆอย่าง และนั่งพิจารณาตามความเป็นจริงที่ประสบพบเจอ จนออกมาเป็นบทความที่จะพามา ปรับทัศนคติ และเพิ่มมุมมองของ พฤติกรรมของผู้ใหญ่ เด็ก และผู้ปกครองในบริบทของการแข่งขัน BEYBLADE X ซึ่งทางแอดมิน อยากจะเสนอไอเดียที่ว่า “การแข่งขันแบบ ไม่ออมมือกับเด็กๆ” เป็นแนวปฏิบัติที่เหมาะสมกว่า และเป็นประโยชน์ต่อพัฒนาการเด็กในหลายมิติครับ 1. เลิกได้เลิกนะ…ไอ้วัฒนธรรมความคิดในสังคมไทย: “ชนะเด็ก รังแกเด็ก ไม่สมเป็นผู้ใหญ่เอาซะเลย!” ทัศนคติที่พบได้ทั่วไปในสังคมไทย […]


































