หลังจากที่มีข่าวว่าทางญี่ปุ่น ได้มีโครงการ “กันดั้มขนาดเท่าจริงที่เคลื่อนไหวได้” ก็มีความคืบหน้าขึ้นมาให้ได้อ่านกันบ้าง ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ COVID-19 จะออกอาละวาดไปทั่วโลก ซึ่งมีการอัพเดทว่าสามารถสร้างทั้งโครงภายใน และเกราะภายนอกไปบางส่วนแล้ว และตั้งเป้าเอาไว้ว่าจะออกแบบให้มีความสามารถในการเคลื่อนไหว!
เมื่อเปรียบเทียบกับ RX-78-2 Gundam ในปี 2009 จะเห็นว่าดีไซน์กันดั้มที่เห็นจะมีความต่างอยู่ไม่น้อย…ทีมวิศวกรรมและผู้ผลิตโครงการ ร่วมมือกันในโครงการนี้ เพื่อให้กันดั้มขนาดเท่าของจริงเดินได้นั่นเอง แต่โปรเจคท์อาจจะล่าช้าเพราะวิกฤติโรคระบาดที่แพร่กระจายไปยังทั่วโลกในเวลานี้…
อัพเดทภาพล่าสุด 26/06/2020
ในคลิปเราจะเห็นว่าทีมงานวิศวกร และ นักออกแบบทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด แม้จะอยู่กันคนละจังหวัดก็ตาม เพื่อให้เจ้ากันดั้มตัวนี้มีความสามารถในการเคลื่อนไหวอย่างที่ตั้งใจไว้ ด้วยการจัดหาวัสดุที่เหมาะสม ที่มีความแข็งแรง และน้ำหนักเบา ซึ่งพวกเขาจะต้องทดสอบขีดจำกัดของต้นแบบ และชุดอุปรกรณ์มอเตอร์ ว่าสามารถส่งแรงสำหรับการเคลื่อนไหวของวัตถุขนาดใหญ่ได้อย่างไร รวมไปถึงโครงสร้างภายในที่ตอกด้วยหมุดขนาดใหญ่ นี้จะแข็งแรงแค่ไหนถ้ามีการประกอบเกราะภายนอก… ถ้าไม่ติดเหตุการณ์วิกฤติไวรัสดังกล่าว ก็จะมีกำหนดการทดสอบการเคลื่อนไหวของโครงสร้างภายในกันในช่วงปลายปี 2020
ภาพ Mock up ของกันดั้ม 1/1 เวอร์ชั่นขยับได้ หน้าตาแบบนี้แหละ!
“Gundam GLOBAL CHALLENGE” เป็นโครงการที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อทำให้กันดั้มขนาด 18 ม. เดินได้ ซึ่งในปี 2009 ก็มีกันดั้มสเกล 1/1 ออกมา เพื่อเป็นการฉลองครบรอบ 30 ปีของกันดั้ม โดยปรากฏตัวครั้งแรกในโครงการ “GREEN TOKYO Gundam Project” ที่จัดขึ้นที่ Odaiba โตเกียว มีผู้เข้าชมรวมตลอดระยะเวลาทำการคือ 4.15 ล้านคน โดยคุณ ยาสุโอะ มิยากาวะ ประธานของซันไรส์ และ ผู้กำกับอนิเมจอมเชือดอย่าง โทมิโนะ โยชิยูกิ ผู้ปลุกปั้น “ Mobile Suit Gundam” เริ่มคิดอย่างยิ่งว่า“ เขาอยากให้มันขยับได้ ในช่วงครบรอบ 40 ปีของกันดั้ม” ทำให้โครงการ “ Gundam GLOBAL CHALLENGE” เริ่มขึ้น
ป๋าโทมิโนะ ลงมาดูงานดีไซน์เอง ถึงกับเอ่ยปากสั่งงานเองเลย อันไหนไม่ดี ป๋าขอแก้
กันดั้ม 1/1 และ ยูนิคอร์นกันดั้ม 1/1 ที่เคยปรากฏให้เห็นจนถึงขณะนี้คือ “ชิ้นงานศิลปะ” ที่ไม่สามารถขยับได้ แต่กันดั้มขนาดจริงที่ทำกันในครั้งนี้ ทีมงานตั้งใจว่าจะไม่ใช่แค่หุ่นตั้งโชว์แต่ต้องการให้มันกลายเป็น “กันดั้มเต็มรูปแบบ”
ด้วยโครงสร้างภายในเพียงอย่างเดียว ของ กันดั้ม 1/1 และ ยูนิคอร์นกันดั้ม 1/1 ก็มีน้ำหนักมากถึง 35 ตัน แต่ถ้าจะให้มันมีการเคลื่อนไหวนั้น ทีมงานก็จะต้องกลับไปคิดว่าต้องใช้วัสดุที่เบาลงกว่านี้ และการพัฒนาเริ่มต้นด้วยเป้าหมายสูงสุดคือหนัก 30 ตัน
ในที่สุดทีมงานก็ประสบความสำเร็จในการลดน้ำหนักให้เหลือ 25 ตัน โดยการใช้วัสดุใหม่เช่นคาร์บอนและทำให้ “แอคชูเอเตอร์” ทั้งหมดทำงานด้วยไฟฟ้า โดยไม่ต้องใช้แรงดันไฮดรอลิกเลยด้วย
(แอคชูเอเตอร์ / Actuater – อุปกรณ์ที่ขับเคลื่อนโดยโครงสร้างซึ่งประกอบไปด้วย Ball screw, Linear guide, Servo motor เพื่อการขยับที่ลื่นไหล มักใช้ในเครื่องจักรการผลิต ในโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ)
นอกจากนี้การออกแบบโดยรวมก็จะเน้นรูปทรงที่เพรียวบาง ทั้งหัวและแบ็กแพ็คข้างหลังก็จะเล็กลง ความคิดเห็นจากผู้กำกับโทมิโนะ ก็สะท้อนออกมาในการออกแบบนี้ด้วย เกราะนอกใช้วัสดุ FRP ในการขึ้นรูป (ถ้านึกไม่ออกว่า FRP คืออะไร ให้นึกถึง “แผ่นกันชนรถทามิย่าแยกขาย” นั่นละครับ)

รายละเอียดของการทำงานของ กันดั้ม1/1 ที่ขยับได้นี้ ยังไม่ได้เปิดเผยมากนัก แต่ระบบที่ควบคุมแต่ละส่วนเช่นมือ หรือข้อต่อต่างๆ เกราะนอกบางชิ้น จะทำงานอย่างอิสระ และเชื่อมต่อกับระบบควบคุมภายนอกตลอดเวลา ในบรรดางานสร้าง ที่พวกเขา (ผู้สร้าง) กังวลมากที่สุดคือ ระบบ “การควบคุมทิศทาง” และเขาบอกว่าเขาควรให้ความสนใจกับการเคลื่อนไหวโดยเฉพาะ…
ขั้นตอนการสร้าง โรงเก็บกันดั้มขนาดเท่าจริง ก็ดำเนินการสร้างไปพร้อมๆกัน
ก็ได้แต่ภาวนาว่า ให้วิกฤติอันเลวรายนี้ผ่านไปไวๆ กันดั้มก็จะได้เดินหน้าสร้างต่อ และหวังว่า เราจะได้เห็นกันดั้มที่เดินได้ในช่วงที่เราๆท่านๆยังมีชีวิตบนโลกใบนี้…ดูแลสุขภาพให้ดี จนกว่าจะถึงวันนั้น วันที่เราสามารถอยู่ดูกันดั้มเดินได้!
แอดมิน AK47
ภาพประกอบ แปล และเรียบเรียงจาก
実物大ガンダムのフレームがついに動く!「GUNDAM GLOBAL CHALLENGE 開発現場見学会」
-
รางวัลสุดยอดเกมแห่งปี Game Awardsเปิดโผผู้เข้าชิง The Game Awards ทุกสาขาอย่างเป็นทางการ
-
Resident Evil 9 : Requiem [Preview / สั่งซื้อแผ่นเกม / ราคา / วันวางขาย]27 กุมภาพันธ์ 2026
-
BEYBLADE X : ผู้ใหญ่ vs เด็ก Mindset ที่ดี… “ใส่เต็มที่ มีประโยชน์ในด้านพัฒนาการเด็ก”เชื่อว่าตามงานแข่ง BEYBLADE X มีหลายครั้งที่เห็น ผู้ใหญ่ลงสนาม แล้วต้องไปเจอกับคู่ต่อสู้เป็นน้องๆเด็กๆ คงมี หลายคนคงแอบมีเสียงในหัวดังขึ้นมาแบบอัตโนมัติว่า “ถ้าชนะ เดี๋ยวก็โดนว่าเก่งแต่กับเด็ก… แต่ถ้าแพ้ก็จะถูกมองว่ากระจอกซะงั้น” ซึ่งเป็น Mindset แบบเดิมที่หลายคนยังติดอยู่ และจริงๆ มันค่อนข้าง “ผิดฝั่ง” กับความจริงของสนามเบย์เบลดพอสมควร การแข่งขันเบย์เบลด แม้จะถูกมองว่าเป็นกิจกรรมสำหรับเด็ก แต่ในความเป็นจริงแล้วเป็นพื้นที่เรียนรู้ทางสังคมที่เปิดโอกาสให้ผู้เล่นทุกวัยสามารถมีส่วนร่วมภายใต้กติกาเดียวกัน อุปกรณ์ใกล้เคียงกัน และโครงสร้างการแข่งขันที่บางรายการไม่มีการแบ่งแยกอายุ ซึ่งมันก็ส่งผลให้เกิดคำถามสำคัญในบริบทแบบไทยๆเราว่า “ผู้ใหญ่เนี่ย ควรแข่งขันเต็มที่กับเด็กขนาดนั้นเลยหรือเปล่า?” แม้แต่ตัวแอดมินผู้เขียนเอง ก็เคยมีความคิดนี้ในหัวครับ จนกระทั่งได้ตกตะกอนหลายๆอย่าง และนั่งพิจารณาตามความเป็นจริงที่ประสบพบเจอ จนออกมาเป็นบทความที่จะพามา ปรับทัศนคติ และเพิ่มมุมมองของ พฤติกรรมของผู้ใหญ่ เด็ก และผู้ปกครองในบริบทของการแข่งขัน BEYBLADE X ซึ่งทางแอดมิน อยากจะเสนอไอเดียที่ว่า “การแข่งขันแบบ ไม่ออมมือกับเด็กๆ” เป็นแนวปฏิบัติที่เหมาะสมกว่า และเป็นประโยชน์ต่อพัฒนาการเด็กในหลายมิติครับ 1. เลิกได้เลิกนะ…ไอ้วัฒนธรรมความคิดในสังคมไทย: “ชนะเด็ก รังแกเด็ก ไม่สมเป็นผู้ใหญ่เอาซะเลย!” ทัศนคติที่พบได้ทั่วไปในสังคมไทย […]














































