ชื่ออังกฤษ : Miss Peregrine’s Home for Peculiar Children
ชื่อไทย : บ้านเพริกริน เด็กสุดมหัศจรรย์
ประเภท : ภาพยนตร์
แนว : แฟนตาซี / ผจญภัย
ผู้กำกับ : Tim Burton
ผู้ประพันธ์ : Ransom Riggs
ค่าย : 20th Century Fox
ฉาย : 29 กันยายน 2016

REVIEW NO SPOIL BY METALBRIDGES 

ปล่อยมาแล้วอีกเรื่อง สำหรับผลงานเรื่องที่ 2 แห่งปี 2016 ของผู้กำกับ ทิม เบอร์ตัน หลังจากส่งภาคที่ 2 ของ อลิซในดินเเดนมหัศจรรย์ (Alice in Wonderland) อย่าง อลิซผจญภัยเมืองกระจก (Alice Though The Looking Glass) มาแล้ว ก็ถึงทีของภาพยนตร์แฟนตาซีหลอนๆ ที่ดัดแปลงมาจากนิยายเรื่องดังจาก แรนซัม ริกกส์ (Ransom Riggs) ที่คนไทยน่าจะคุ้นเคยกันในชื่อ บ้านหลอน เด็กประหลาด (Miss Peregrine’s Home for Peculiar Children) มาให้ได้ชมกันอีกเรื่อง โดยใช้ชื่อไทยใหม่ว่า “บ้านเพริกริน เด็กมหัศจรรย์ ” 

โดยสำหรับหนังสือชุด Miss Peregrine’s Home for Peculiar Children เรื่องนี้ เป็นผลงานเบสเซลอเลอร์ที่ปัจจุบันมีด้วยกัน 3 เล่ม ซึ่งเล่ม 1 – 2 ก็มีให้แฟนหนังสือชาวไทยได้ติดตามกันในฉบับแปลไทยแล้ว จากผลงานการแปลของ วิกันดา จันทร์ทองสุข ซึ่งเล่ม 2 ก็มีชื่อไทยว่า เมืองหลอน เด็กประหลาด (Hollow City)

ทั้งนี้ ความน่าสนใจของ Miss Peregrine’s Home for Peculiar Children ฉบับภาพยนตร์ ไม่ใช่แค่เพียงเป็นผลงานที่ถูกหยิบยกมาจากเรื่องราวในหนังสือ ผ่านการถ่ายทอดสู่แผ่นฟิล์ม โดยเจ้าแห่งสายดาร์กอย่าง ทิม เบอร์ตัน เพียงเท่านั้น ในส่วนของเค้าโครงเรื่องก็น่าสนใจไม่แพ้กัน ซึ่งเป็นการพูดถึงกลุ่มเด็กๆ ผู้มีพลังวิเศษในบ้านพักลึกลับ ซึ่งรับอุปการะพวกเขา ด้วยเหตุนี้จึงเป็นการรวมตัวของนักแสดงเด็กและวัยรุ่นมากหน้าหลายตา โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการได้หนุ่มน้อยตาสีฟ้าสดใส อย่าง อาซ่า บัตเตอร์ฟีลด์ (Asa Butterfield) มารับบทนำของเรื่องนี้ ซึ่งถือเป็นผลงานภาพยนตร์เรื่องที่ 2 ของเขาในปี 2016 หลังจาก The Space Between Us ซึ่งมีคิวเข้าฉายช่วงปลายเดือนกรกฎาคม

เรื่องย่อ

บ้านเพริกริน เด็กสุดมหัศจรรย์ (Miss Peregrine’s Home for Peculiar Children)…

เป็นการพูดถึง เจคอบ พอร์ตแมน – Jacob Portman (รับบทโดย Asa Butterfield) เด็กหนุ่มที่เติบโตมาพร้อมกับเรื่องเล่าประหลาดจากภาพถ่ายสุดหลอนของคุณปู่ ที่เขาเคยเชื่อว่าเป็นเพียง “เรื่องเล่าหลอกเด็ก” เกี่ยวกับบ้านพักลึกลับ ที่รับอุปถัมภ์เด็กๆ ผู้มีพลังแปลกๆ ซึ่งครั้งหนึ่งปู่ของเขาเคยได้ไปเยือน และปัจจุบันก็กำลังตกอยู่ในการตามล่าจากอสูรกายสุดน่ากลัว ด้วยเหตุนี้ปู่ของเขาจึงถูกทุกคนในครอบครัวมองว่าเป็นเพียงคนแก่เลอะเทอะเสียสติคนหนึ่ง

จนเมื่อเจคอบได้ประสบกับเหตุการณ์เผชิญหน้ากับอสูรกายด้วยตัวเอง จึงทำให้เขาต้องกลับมาทบทวนเรื่องเล่าของปู่ ว่าทุกอย่างล้วนเป็นเรื่องจริง แต่นี่ไม่ใช่บทสรุปของเรื่องราว แต่กลับเป็นจุดเริ่มต้นของโลกพิศวงที่เจคอบจะได้เรียนรู้ จาก มิสเพริกริน - Miss Peregrine (รับบทโดย Eva Green) และพื่อนใหม่สุดอัศจรรย์ของเขาใน บ้านเพริกริน ที่มีทั้ง เด็กสาวที่ตัวเบาดุจอากาศ (รับบทโดย Ella Purnell), เด็กหญิงจอมพลัง, เด็กชายล่องหน, เด็กผึ้ง ฯลฯ

ติดตามเรื่องราวพิศวง ที่เปี่ยมด้วยจินตนาการ สไตล์ ผกก. ทิม เบอร์ตัน เรื่องนี้กันได้ 29 ก.ย. นี้ !

ตัวอย่างภาพยนตร์

ตัวละคร

 Miss Peregrine  รับบทโดย  Eva Green

 Jacob Portman  รับบทโดย  Asa Butterfield

Emma Bloom รับบทโดย Ella Purnell

Millard  รับบทโดย  Cameron King

Olive รับบทโดย  Lauren McCrostie

Twin #1 รับบทโดย Thomas Odwell -  Twin #2 รับบทโดย Joseph Odwell

Bronwyn  รับบทโดย  Pixie Davies

Barron  รับบทโดย  Samuel L. Jackson

Review No Spoil : บ้านเพริกริน เด็กสุดมหัศจรรย์

8/10 คะแนน

ก่อนอื่นต้องบอกว่า ก่อนจะไปดูเรื่องนี้ ไม่ได้อ่านเวอร์ชั่นนิยายหรือเรื่องย่ออะไรเลย ได้ดูเทลเลอร์แค่ตัวแรกที่ออกมานานมากแล้ว ตอนนั้นคิดว่าคงจะเป็นหนังแฟนตาซีจ๋าสุดๆ แนวๆ เดียวกับอลิซตามแบบฉบับลุงทิม เบอร์ตัน แต่….พอมาได้ดูจริงๆ มันกลายเป็นหนังที่ชวนให้ขนหัวลุกกว่าที่คิด ต้องขอบอกตรงนี้เลยว่าผู้ปกครองที่จะพาเด็กๆ ไปเพลิดเพลินกับเรื่องนี้ในวันหยุด อาจจะอยากให้คิดอีกที เพราะมีฉากที่ค่อนข้างน่ากลัวและชวนสะดุ้งหลายฉาก

ตัวหนังในตอนต้นเรื่องนั้นเป็นการเกริ่นเกี่ยวกับชีวิตตัวเอกก่อนที่จะเดินทางมาถึงบ้านเด็กประหลาด ซึ่งค่อนข้างจะอืดไปสักหน่อย แต่ก็ไม่ถึงกับน่าเบื่อเพราะจะมีการแทรกฉากที่เรียกความระทึกขวัญได้อยู่บ้าง ระดับที่เผลอร้อง ว่อททท!! ในใจ  พอเข้าช่วงกลางเรื่อง ช่วงที่ตัวเอกเข้ามาเจอกับมิสเพริกรินและเด็กประหลาดคนอื่นๆ แล้ว เป็นช่วงที่เนื้อเรื่องมีความเข้มข้นขึ้น และไต่ระดับความลุ้นระทึกได้ค่อนข้างดี ตัวเด็กๆ แต่ละคนทยอยออกมาแสดงความสามารถกัน ช่วยให้ตาตื่นขึ้นมาได้เยอะทีเดียว ฉากและบรรยากาศในช่วงนี้จะให้ความรู้สึกเหมือนเป็นคนละฟีลลิ่งกับช่วงต้นเรื่องแบบลิบลับ สุดท้ายก่อนจะถึงช่วงไคลแมกซ์นี่ต้องเผลอนั่งหลังตรงกันเลยล่ะ มันลุ้นระทึกไปพร้อมๆ กับการจิตนาการถึงฉากจบที่พอเอาเข้าจริงไม่คิดว่ามันจะ อื้อหือ!!!! ขนาดนี้ แต่จะอื้อหือเพราะอะไรนั้นไปตามดูกันเองนะ

เอาล่ะ โดยสรุปแล้วเรื่องของบทจัดว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ไม่ได้แน่นปึกปวดสมองเกินไป แต่ก็ไม่ได้เบาหวิวจนน่าเกลียดนัก(สำหรับคนที่ไม่เคยอ่านฉบับนิยายมากก่อน) พอดูจบในหัวมีคำพูดลอยขึ้นมาว่า ‘นี่มันเหมือนดู X-Men เวอร์ชั่นแฟนตาซีเด็กน้อยแอบหลอนชัดๆ’ ส่วนเรื่องงานภาพอันนี้ไม่ผิดหวังเลย สีคมสวยและงานเอฟเฟคเองก็ละเอียดละออดีงามตามฉบับหนังของลุงทิมเลยล่ะ ถ้าจะให้แนะนำแล้วล่ะก็ อันดับแรกแนะนำแฟนๆ หนังของลุงทิม จะต้องตามไปดูกันนะ รับรองไม่มีคำว่าเสียดายเวลา และสุดท้ายจะแนะนำแก่น้องๆ หนูๆ ที่มีแพลนว่าจะไปดูเรื่องนี้ เตรียมใจกันเอาไว้ให้ดีงานนี้มีคนหรี่ตาดูแน่นอน!!

แหล่งอ้างอิงเพิ่มเติม : IMDb

By : Admin@no (แอดมินโนเอง) , แอดมินน้องเบ้น , แอดมิน ONEFORALL