ชื่ออังกฤษ : Maze Runner : The Scorch Trials
ชื่อภาษาไทย : เมซ รันเนอร์: สมรภูมิมอดไหม้
ประเภท : ภาพยนตร์
แนว : แอ็คชัน / ผจญภัย / วิทยาศาสตร์
ผู้กำกับ : Wes Ball
นักแสดง : Kaya Scodelario, Thomas Brodie-Sangster, Dylan O’Brien, Ki Hong Lee
กำหนดฉาย : 17 กันยายน 2015
กลับมาแล้ว!! สำหรับภาคที่ 2 ของภาพยนตร์ผจญภัยแนว Survivor ที่ดัดแปลงมาจากวรรณกรรมเยาวชนภาคต่อ 4 เล่มจบ ระดับเบสต์เซลเลอร์ของ เจมส์ แดชเนอร์ ที่รู้จักกันในภาษาไทยที่ว่า “เกมล่าปริศนา” ซึ่งครั้งนี้ผู้กำกับ เวส เบลล์ (Wes Ball) ได้นำเรื่องราวการผจญภัยสุดลุ้นระทึกมาสานต่อความสนุกกันอีกครั้ง โดยสำหรับในภาคนี้มีการเพิ่มเทคนิคพิเศษและปรับสเกลของหนังให้มีขนาดใหญ่ขึ้นจากภาคก่อน พร้อมทั้งยกระดับความอันตรายมี่เหล่าตัวละครต้องเผชิญมากขึ้นด้วย โอ๊ยยยย!!! ได้ยินเท่านี้ ก็อยากดูใจจะขาดแล้วล่ะ!!!

เรื่องย่อ
เรื่องราวในภาคนี้เล่าต่อจากในภาคของ วงกตมฤตยู โดยหลังจาก โธมัส (รับบทโดย Dylan O’Brien) ได้นำกลุ่มเพื่อนๆชาวทุ่งหนีรอดออกมาจากวงกตได้ และถูกเฮลิคอปเตอร์นำตัวมายังสถานที่ๆ เรียกว่า “แครงค์” ทั้งที่คิดว่าทุกอย่างมันควรจะจบลง แต่สิ่งที่พวกเขาเผชิญมาทั้งหมดกลับเป็นเพียงด่านการทดสอบแรกเท่านั้น เมื่อ WCKD องค์กรลับที่อยู่เบื้องกลังการชักใยของทุกอันตรายที่พวกเขาฝ่าฟันมา ยังคงมีบททดสอบต่อไปรอคอยเขาอยู่ในเฟสที่ 2 ที่เรียกว่า “ดินแดนแห่งการมอดไหม้” ท่ามกลางดินแดนทะเลทรายเวิ้งว้าง เมื่อโลกกำลังเผชิญกับรังสีสุริยะขั้นรุนแรงและไม่ได้สงบสุขอีกต่อไป
โธมัส และเพื่อนๆ พบว่า ณ สถานที่แห่งใหม่ที่พวกเขาพึ่งมาเยือนนี้ ไม่ได้มีเพียงพวกเขากลุ่มเดียวเท่านั้นที่สามารถฝ่าฟันและรอดชีวิตออกมาจากวงกตได้ สิ่งที่พวกเขาต้องทำต่อไป คือ การค้นหาวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของ WCKD และเปิดเผยความลับที่ถูกเก็บซ่อนอยู่
การผจญภัยครั้งใหม่ได้เริ่มขึ้นอีกครั้ง สมาชิกของกลุ่มที่หนีรอดออกมาได้ต้องมีการเปลี่ยนแปลง พวกเขาต้องฝ่าฟันและเอาชีวิตรอดออกจากสถานที่แห่งนี้ให้ได้ภายในระยะ 2 สัปดาห์ ไม่เช่นนั้นก็ตายลูกเดียว
นี่ไม่ใช่เป็นเพียงบททดสอบเพื่อมวลมนุษยชาติอย่างที่ WCKD อ้างขึ้นเท่านั้น แต่ยังเป็นแบบทดสอบของ “มิตรภาพ” ระหว่างพวกเขาอีกด้วย พวกเขาจะสามารถนำแสงสว่างในตัวเองเพื่อเอาชนะความมืดในจิตใจได้หรือไม่ ลุ้นระทึกไปกับภาคที่ 2 ของ “เมซ รันเนอร์” กันได้ 17 กันยายนนี้ ทุกโรงภาพยนตร์!!!
แนะนำตัวละครหลัก
โธมัส (Thomas) รับบทโดย ดีแลน โอ’ไบรอัน (Dylan O’Brien)
อดีตนักวิจัยอนาคตรุ่งขององค์กร WCKD ที่ถูกล้างความทรงจำ และเป็นผู้ชายคนสุดท้ายที่ถูกส่งตัวไปยังทุ่งในภาคที่แล้ว เขาเป็นแกนนำในการหนีออกจากทุ่ง

นิวท์ (Newt) รับบทโดย โทมัส โบรดี แซงสเตอร์ (Thomas Brodie-Sangster)
เด็กหนุ่มเพื่อนร่วมชะตากรรมที่สามารถหนีออกจากเฟสที่ 1 (ท้องทุ่ง) มาพร้อมกับโธมัส เป็นคนที่มีเหตุผลและใจเย็น ในภาคที่แล้วเคยได้รับตำแหน่งเป็นรองหัวหน้า รองจากอัลบี (ภาพประกอบจากภาคแรก)

มินโฮ (Minho) รับบทโดย คี ฮอง ลี (Ki Hong Lee)
หนุ่มเอเชีย เพื่อนร่วมชะตากรรมอีกคนของโธมัส ที่สามารถหนีพ้นจากเฟสที่ 1 มาได้พร้อมกัน ซึ่งในภาคก่อนนั้น เขาคือ “นักวิ่ง” ซึ่งร่วมฝ่าฟันด่านวงกตจนพบทางออกพร้อมกับโธมัส (ภาพประกอบจากภาคแรก)
เทเรซา (Teresa) รับบทโดย คายา สโคเดลาริโอ (Kaya Scodelario)
อดีตนักวิจัยสาวขององค์กร WCKD และเป็นคนรักของโธมัส ที่หลบหนีเข้าทุ่ง เพื่อแจ้งข่าวร้ายอะไรบางอย่างแก่โธมัส ก่อนที่ประตูจะปิดตลอดการ เธอเป็นผู้หญิงคนเดียวในกลุ่มของโธทัสที่หนีออกจากเฟสที่ 1 พร้อมๆกัน (ภาพประกอบจากภาคแรก)

ตัวละครใหม่ในภาคนี้…
เอริส โจเนส (Aris Jones) รับบทโดย Jacob Lofland
แฮร์เรียส (Harriet) รับบทโดย Nathalie Emmanuel
เจนสัน (Janson) รับบทโดย Aidan Gillen
โจร์ค (Jorge) รับบทโดย Giancarlo Esposito
ตัวอย่างภาพยนตร์
ขอขอบคุณข้อมูลจาก IMDb , majorcineplex.com
By : Admin@no_สวยสึดๆ
-
รางวัลสุดยอดเกมแห่งปี Game Awardsเปิดโผผู้เข้าชิง The Game Awards ทุกสาขาอย่างเป็นทางการ
-
Resident Evil 9 : Requiem [Preview / สั่งซื้อแผ่นเกม / ราคา / วันวางขาย]27 กุมภาพันธ์ 2026
-
BEYBLADE X : ผู้ใหญ่ vs เด็ก Mindset ที่ดี… “ใส่เต็มที่ มีประโยชน์ในด้านพัฒนาการเด็ก”เชื่อว่าตามงานแข่ง BEYBLADE X มีหลายครั้งที่เห็น ผู้ใหญ่ลงสนาม แล้วต้องไปเจอกับคู่ต่อสู้เป็นน้องๆเด็กๆ คงมี หลายคนคงแอบมีเสียงในหัวดังขึ้นมาแบบอัตโนมัติว่า “ถ้าชนะ เดี๋ยวก็โดนว่าเก่งแต่กับเด็ก… แต่ถ้าแพ้ก็จะถูกมองว่ากระจอกซะงั้น” ซึ่งเป็น Mindset แบบเดิมที่หลายคนยังติดอยู่ และจริงๆ มันค่อนข้าง “ผิดฝั่ง” กับความจริงของสนามเบย์เบลดพอสมควร การแข่งขันเบย์เบลด แม้จะถูกมองว่าเป็นกิจกรรมสำหรับเด็ก แต่ในความเป็นจริงแล้วเป็นพื้นที่เรียนรู้ทางสังคมที่เปิดโอกาสให้ผู้เล่นทุกวัยสามารถมีส่วนร่วมภายใต้กติกาเดียวกัน อุปกรณ์ใกล้เคียงกัน และโครงสร้างการแข่งขันที่บางรายการไม่มีการแบ่งแยกอายุ ซึ่งมันก็ส่งผลให้เกิดคำถามสำคัญในบริบทแบบไทยๆเราว่า “ผู้ใหญ่เนี่ย ควรแข่งขันเต็มที่กับเด็กขนาดนั้นเลยหรือเปล่า?” แม้แต่ตัวแอดมินผู้เขียนเอง ก็เคยมีความคิดนี้ในหัวครับ จนกระทั่งได้ตกตะกอนหลายๆอย่าง และนั่งพิจารณาตามความเป็นจริงที่ประสบพบเจอ จนออกมาเป็นบทความที่จะพามา ปรับทัศนคติ และเพิ่มมุมมองของ พฤติกรรมของผู้ใหญ่ เด็ก และผู้ปกครองในบริบทของการแข่งขัน BEYBLADE X ซึ่งทางแอดมิน อยากจะเสนอไอเดียที่ว่า “การแข่งขันแบบ ไม่ออมมือกับเด็กๆ” เป็นแนวปฏิบัติที่เหมาะสมกว่า และเป็นประโยชน์ต่อพัฒนาการเด็กในหลายมิติครับ 1. เลิกได้เลิกนะ…ไอ้วัฒนธรรมความคิดในสังคมไทย: “ชนะเด็ก รังแกเด็ก ไม่สมเป็นผู้ใหญ่เอาซะเลย!” ทัศนคติที่พบได้ทั่วไปในสังคมไทย […]





































