Masked Rider Geats × Revice: Movie Battle Royale
ประเภท Action, Fantasy
กำหนดฉายรอบปกติ 5 เมษายน – 12 เมษายนนี้ เพียง 8 วันเท่านั้น ในโรงภาพยนตร์ที่ร่วมรายการ
รอบพิเศษ 1-2 เมษายน 2023
นักเขียน Yuya Takahashi/Hanta Kinoshita
อำนวยการสร้าง Takayuki Shibasaki
ความยาวภาพยนตร์ 95 นาที

เรื่องย่อ
มาสค์ไรเดอร์ กีทส์ X รีไวซ์: มูฟวี่ แบทเทลรอยัล จะมีการเล่าเรื่องเป็น 2 ส่วนด้วยกัน โดยส่วนแรกจะเป็น “เรื่องราวสุดท้าย” ของ มาสค์ไรเดอร์ รีไวซ์ และจะต่อด้วยส่วนที่ 2 ซึ่งเป็นการเข้าร่วมเล่นเกม Battle Royale ที่ กีทส์ต้องร่วมมือกับรีไวซ์ เพื่อหยุดยั้งความชั่วร้ายบางอย่าง ซึ่งในเกมที่ว่านี้ก็จะมีเหล่าไรเดอร์จากซีรีส์ มาสค์ไรเดอร์ ริวคิ อย่าง ริวคิ,ริวงะ,ไนท์ และ โอจา มาร่วมแจมด้วย!! ใครจะได้รับชัยชนะเมื่อสิ้นสุดการต่อสู้ที่ดุเดือดนี้ และความปรารถนาที่จะมอบให้กับผู้ชนะคืออะไร?
มาสค์ไรเดอร์ กีทส์/อุคิโยะ เอย์สึ
อุคิโยะ เอย์สึ มีฉายาว่า “เอซ” ชายหนุ่มผู้เข้าร่วม เดไซร์กรังปรีซ์ อย่างต่อเนื่องหลายครั้ง โดยที่ไม่เคยแพ้ใครมาก่อน จนเป็นที่รู้จักในฐานะแชมป์อัจฉริยะเกมเมอร์ไร้พ่าย เป้าหมายของเขายังไม่เป็นที่แน่ชัด ชอบใส่ชุดทักซิโด้โดยไม่มีเหตุผล และมีความเชื่อมั่นในตัวเองสูงมาก
มาสค์ไรเดอร์ รีไว/อิการาชิ อิคคิ
พี่ชายคนโตของตระกูลอิการาชิ ผู้ดูแลกิจการของโรงอาบน้ำ แฮปปี้ สปา ในวัยเด็กเคยมีแผลในใจจนทำให้มีการก่อตัวของ ปีศาจภายในตัวขึ้น แต่ความปรารถนาของเขาต่อปีศาจตัวดังกล่าว กลับเป็นความมุ่งมั่นในการปกป้องครอบครัว รวมไปถึงช่วยเหลือลูกค้าของโรงอาบน้ำ ทำให้เขาทำสัญญากับปีศาจจนกลายเป็น มาสค์ไรเดอร์รีไว ที่ทำการต่อสู้กับปีศาจ รวมไปถึงเหล่า เดดแมนส์ กลุ่มบุคคลที่บูชาปีศาจเพื่อก่อการร้ายอีกด้วย
มาสค์ไรเดอร์ ไวซ์
ปีศาจภายในที่เกิดขึ้นจากความปรารถนาของ อิการาชิ อิคคิ ในการปกป้องครอบครัว กระนั้นไวซ์มักจะทำตัวเอาแต่ใจตัว พูดจาตรงๆ แถมยังมีความจิกกัดเบาๆ มักจะทำทีว่าจะกินมนุษย์แต่ก็ไม่ได้หมายจะทำตามที่พูดนัก ทั้งยังชอบพูดกับคนดูแบบตรงๆด้วย

มาสค์ไรเดอร์ บัฟฟา/อาซุมะ มิจินากะ
หนุ่มสู้ชีวิตที่แม้อายุน้อย แต่ก็ผ่านโลกมามากมาย ภายนอกดูเป็นคนเงียบๆ และดุดัน แต่ภายในกลับอ่อนโยนและรักเพื่อนพ้องยิ่งกว่าสิ่งใดเขามอง อุคิโยะ เอย์สึ หรือ “เอซ” ว่าเป็นคู่ปรับตัวฉกาจ
มาสค์ไรเดอร์ ไทคูน/ซากุราอิ เคย์วะ
นักศึกษาจบใหม่ที่กำลังหางานเพื่อสร้างอนาคต อยู่ ๆ ก็ได้เข้าร่วมเกมนี้โดยไม่ได้ตั้งใจ เป็นคนซื่อตรงกับทุกคน และตั้งใจว่าจะเล่นเกมนี้เพื่อสันติสุขของโลกโดยแท้จริง
มาสค์ไรเดอร์ นาโกะ/คุรามะ เนอง
คุณหนูมหาเศรษฐีที่เป็นทั้งคนรวยและ Influencer ผู้ติดตามหลักล้าน แม้เธอจะมีทุกอย่างแต่เธอยังปรารถนาที่จะเติมเต็มชีวิตด้วยความธรรมดา เธอต้องการจะออกจาก Safe Zone ของตน และเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อคนรอบข้าง
ให้เสียงภาษาไทยโดย “มิวสิค” (Miusic) แพรวา สุธรรมพงษ์ (อดีตไอดอลวงดัง)
มาสค์ไรเดอร์ ริวคิ/คิโดะ ชินจิ
เป็นมาสค์ไรเดอร์โดยบังเอิญ เนื่องจากเขาเก็บกล่องเวนท์เด็คได้ มีนิสัยที่ซื่อตรงและใจดีเกินเหตุ ทำให้เขาต้องตกเป็นเบี้ยล่างของเพื่อนร่วมงานและกลายเป็นคนที่เสียเปรียบไม่ทันคนหลายครั้ง แต่ด้วยนิสัยที่ใจดี ซื่อตรง ทำให้ไม่มีใครโกรธเขาลงเลยสักครั้ง
มาสค์ไรเดอร์ ไนท์/อาคิยาม่า เรน
ชายหนุ่มผู้ชื่นชอบการต่อสู้ของไรเดอร์ มีนิสัยสุขุมเงียบขรึมในช่วงแรกมักหัวเสียกับชินจิอยู่บ่อยครั้ง แต่ด้วยความช่วยเหลือของชินจิทำให้ทัศนคติของเรนเปลี่ยนไปจากสู้เพื่อตัวเองมาเป็นสู้เพื่อความสงบสุขและพร้อมจะร่วมมือกับชินจิจนสนิทกัน
มาสค์ไรเดอร์ โอจา/อาชาคุระ ทาเคชิ
เป็นฆาตกรต่อเนื่องก่อหลายคดีที่ถูกจับกุมเป็นนักโทษที่แหกคุกมาเนื่องจากได้ถูกชักชวนเป็นไรเดอร์ เพื่อที่จะเร่งให้จบเกมเร็วขึ้น มีนิสัยที่โหดร้ายและชั่วช้าเป็นอย่างมาก
REVIEW
ใส่กันนัว อีรุงตุงนัง โคตรมันส์ แต่เหมือนเอาทีวีซีรีส์มาขึ้นจอใหญ่อ่ะ
อันนี้ต้องบอกกันก่อนว่า เป็นไปได้ ควรดูคาเมนไรเดอร์ รีไวซ์ ในช่วงท้ายๆเรื่อง หรือรับรู้ฉากจบของทีวีซีรีส์มาก่อน และเป็นคนที่กำลังดูคาเมนไรเดอร์ กีทส์ ด้วย จะเก็ทสิ่งที่หนังกำลังเล่า…
ถึงจะมีรีแคปสั้นๆ แต่เชื่อว่า ปม ประเด็นต่างๆ คนที่ไม่เคยดูทีวีซีรีส์รีไวซ์ จะไม่ค่อยอินมาก…
หนังจะแบ่งออกเป็น 3 พาร์ท ได้แก่ พาร์ทของ รีไวซ์ จะเล่าเรื่องความผูกพัน และการต่อสู้ของครอบครัวอิการาชิ และนำไปสู่บทที่ 2 พาร์ทของ กีทส์ ที่เล่าเรื่องราวของ GM คนใหม่เข้ามาแทรกแซงเกม DGP โดยทำให้เป็นเกมแรลลี่ชิงเป้าหมาย
และนำไปสู่บทสุดท้าย พาร์ท Battle Royale ที่เหมือนเป็นไฮไลท์ของหนังเรื่องนี้
ภาพรวมแม้หนังจะมีปมหนักๆ แต่มีซีนที่คนดูคาเมนไรเดอร์ทั้ง 2 เรื่องนี้มาก่อน ได้ขำกลิ้งกันพอหอมปากหอมคอ เบรกอารมณ์หนังที่ตึงๆให้มีมุกตลกๆมาเบาฟิลลิ่งบ้าง
ในพาร์ทสุดท้าย เราจะได้เห็นความนัว ความยำใหญ่ ใส่กันแบบหนวกหูตุ้บตั๊บ แน่นๆไปด้วยการต่อสู้ ของตัวละครจากไรเดอร์กีทส์ ,รีไวซ์ และริวคิ 3 เรื่องในฉากเดียว พร้อมมุมกล้องเหวี่ยงๆมึนๆ และ CG ที่เยอะกว่าภาคทีวีอย่างมาก…
ส่วนตัว เอาแค่นี้ ก็คุ้มค่าตั๋วแล้ว
———————-
ส่วนพล๊อต บท และหลายๆอย่าง ที่ดูแล้วรู้สึกว่า เป็นหนังที่พยายามเล่นกับคำว่า “ครอบครัว” มากๆ
ทั้งคนที่มีครอบครัวที่อบอุ่น และยอมสู้เพื่อสิ่งนี้ อย่าง “บ้านอิการาชิ”
คนที่ถวิลหาครอบครัว และทำทุกอย่างเช่น แอ๊ค…เอ้ย “เอซ”
หรือแม้แต่ “ตัวร้าย” ก็ถ่ายทอดคำว่าครอบครัว ในมุมของผลประโยชน์ทางการเมืองจนละเลยความรักไป…
ซึ่งเป็นนัยนะแฝงที่ดีมากๆ
ตัวหนังเดาทางไม่ยาก ดูเอาบันเทิง ดูเพื่อเชื่อมเรื่องราวของ กีทส์
หรือจะดูเพื่อปิดฉาก จบสรุปที่ดี (แบบแถๆ) ของ รีไวซ์ ก็ได้..
แต่แหม่ ฮาร์ดเซลร้าน SUSHIRO จัดๆ เลย สงสัยสปอนเข้าหนัก 555
สุดท้าย เสียงไทย ทำออกมาได้ดีมากๆในภาพรวมครับ แต่ด้วยความที่ตัวละครเยอะในช่วงท้าย “เสียงพากย์ตีกันยับเลย”
(เห็นว่าพากย์ไทยเซนไคเจอร์ จะหนักกว่านี้
การันตีโดยนักพากย์ท่านหนึ่ง 555)
ส่วนใครกังวลว่าน้อง “มิวสิค” (MIUSIC) จะพากย์ออกมาดีมั้ย ส่วนตัวคิดว่า ไม่ได้แย่ แต่ยังไม่ลงล๊อก เพราะ น้องยังมีติดความเป็น “อนิเมะ”
มากกว่าการพากย์ “ภาพยนตร์ ที่ใช้คนแสดง”
เสียงน้องคาแรคเตอร์โดด และเด่น จนรู้สึกว่ายังไปกับฟิลหนังในบางซีนไม่ค่อยเข้า
แต่ยังไงก็ขอเป็นกำลังใจให้นะครับ เราเชื่อว่า วงการหนังพากย์ไทย ยังต้องการคนใหม่ๆมาทำงานด้านนี้
สรุป
เป็นหนังไรเดอร์เฉพาะกลุ่มที่ทำออกมาให้แฟนๆคาเมนไรเดอร์ยุคเรวะได้นั่งดูกัน
เป็น “ตัวจบของรีไวซ์”
และ ทิ้งปม เปิดประเด็นบางอย่างเข้าสู้การรับชม “คาเมนไรเดอร์ กีสท์” ในอนาคต…
“Kamen Rider Geats × Revice: Movie Battle Royale”
กำหนดฉายรอบปกติ 5 เมษายน – 12 เมษายนนี้ เพียง 8 วันเท่านั้น ในโรงภาพยนตร์ที่ร่วมรายการ
_________________________________________
#JAM #DEX #JapanAnimeMovieThailand
#MaskedriderGeats #MaskedriderRevice #MaskedRiderThemovieTH
-
รางวัลสุดยอดเกมแห่งปี Game Awardsเปิดโผผู้เข้าชิง The Game Awards ทุกสาขาอย่างเป็นทางการ
-
Resident Evil 9 : Requiem [Preview / สั่งซื้อแผ่นเกม / ราคา / วันวางขาย]27 กุมภาพันธ์ 2026
-
BEYBLADE X : ผู้ใหญ่ vs เด็ก Mindset ที่ดี… “ใส่เต็มที่ มีประโยชน์ในด้านพัฒนาการเด็ก”เชื่อว่าตามงานแข่ง BEYBLADE X มีหลายครั้งที่เห็น ผู้ใหญ่ลงสนาม แล้วต้องไปเจอกับคู่ต่อสู้เป็นน้องๆเด็กๆ คงมี หลายคนคงแอบมีเสียงในหัวดังขึ้นมาแบบอัตโนมัติว่า “ถ้าชนะ เดี๋ยวก็โดนว่าเก่งแต่กับเด็ก… แต่ถ้าแพ้ก็จะถูกมองว่ากระจอกซะงั้น” ซึ่งเป็น Mindset แบบเดิมที่หลายคนยังติดอยู่ และจริงๆ มันค่อนข้าง “ผิดฝั่ง” กับความจริงของสนามเบย์เบลดพอสมควร การแข่งขันเบย์เบลด แม้จะถูกมองว่าเป็นกิจกรรมสำหรับเด็ก แต่ในความเป็นจริงแล้วเป็นพื้นที่เรียนรู้ทางสังคมที่เปิดโอกาสให้ผู้เล่นทุกวัยสามารถมีส่วนร่วมภายใต้กติกาเดียวกัน อุปกรณ์ใกล้เคียงกัน และโครงสร้างการแข่งขันที่บางรายการไม่มีการแบ่งแยกอายุ ซึ่งมันก็ส่งผลให้เกิดคำถามสำคัญในบริบทแบบไทยๆเราว่า “ผู้ใหญ่เนี่ย ควรแข่งขันเต็มที่กับเด็กขนาดนั้นเลยหรือเปล่า?” แม้แต่ตัวแอดมินผู้เขียนเอง ก็เคยมีความคิดนี้ในหัวครับ จนกระทั่งได้ตกตะกอนหลายๆอย่าง และนั่งพิจารณาตามความเป็นจริงที่ประสบพบเจอ จนออกมาเป็นบทความที่จะพามา ปรับทัศนคติ และเพิ่มมุมมองของ พฤติกรรมของผู้ใหญ่ เด็ก และผู้ปกครองในบริบทของการแข่งขัน BEYBLADE X ซึ่งทางแอดมิน อยากจะเสนอไอเดียที่ว่า “การแข่งขันแบบ ไม่ออมมือกับเด็กๆ” เป็นแนวปฏิบัติที่เหมาะสมกว่า และเป็นประโยชน์ต่อพัฒนาการเด็กในหลายมิติครับ 1. เลิกได้เลิกนะ…ไอ้วัฒนธรรมความคิดในสังคมไทย: “ชนะเด็ก รังแกเด็ก ไม่สมเป็นผู้ใหญ่เอาซะเลย!” ทัศนคติที่พบได้ทั่วไปในสังคมไทย […]


































