ที่มา
https://twitter.com/LiSA_STAFF/status/1344267622129385478
http://www.jacompa.or.jp/record.html
เรียกว่าปีนี้ สุดพีคของ “Kimetsu No Yaiba ดาบพิฆาตอสูร เดอะมูฟวี่ : ศึกรถไฟสู่นิรันดร์“ เลยก็ว่าได้ เพราะนอกจากไล่ถล่มสถิติต่างๆมามากมาย ทั้งยอดขายตั๋ว , รายได้หนังญี่ปุ่นตลอดกาล รวมไปถึงสถิติ 100ล้านบาทในไทยเพียง 1 สัปดาห์ ทำให้ไม่มีอะไรกล่าวเกินไปกว่าคำว่า นี่มันอนิเมแห่งปีจริงๆ
ล่าสุด สดๆร้อนๆ กับงานประกาศผลรางวัล Japan Record Awards ครั้งที่ 62 ประจำปี 2020 รางวัลอันทรงเกียรติที่สุดของวงการเพลงในญี่ปุ่น ก็ได้มอบรางวัล “เพลงแห่งปี 2020″ และ “Special Achievement Award” อีกด้วย
ผู้ถูกเสนอชื่อเข้าชิงเพลงแห่งปี 2020 ของงานJapan Record Awards ครั้งที่ 62
Daichi Miura – I’m Here
Junretsu – Ai wo Kudasai ~Don’t you cry~
Little Glee Monster – Ashiato
Eito – Kousui
Nogizaka46 – Sekaijuu no Rinjin yo
DISH// – Neko ~THE FIRST TAKE ver.~
AKB48 – Hanareteitemo
Kiyoshi Hikawa – Haha
DA PUMP – Fantasista
LiSA – Homura
ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี ที่ศิลปินเดี่ยวหญิงได้รางวัลนี้ เพราะครั้งสุดท้ายที่เคยมีการมอบรางวัลนี้ ก็คือเพลง Anata no Suki na Tokoro ของศิลปินหญิง “คานะ นิชิโนะ” ในปี 2016
“Homura” ซิงเกิ้ลลำดับที่ 17 ของ LiSA จะมีเนื้อหาที่สื่อถึงวิถีของตัวละครสองตัวผ่านบทเพลง
โดยท่อน A-ฮุคแรก จะเล่าถึงวิธีคิดของ “คามาโดะ ทันจิโร่” ที่ต้องการปกป้องสิ่งสำคัญ และจะไม่ยอมสูญเสียสิ่งใดอีก
ในขณะที่ท่อน B-ฮุคสอง จะเล่าถึงวิธีคิดของ เสาหลักเพลิง เรนโกคุ ที่หมายฝากฝังให้คนรุ่นใหม่ก้าวต่อไป
และท่อนสุดท้าย จะเป็นการกล่าวสรุป เพื่อให้ตัวละครได้เติบโต “จุดไฟดวงเล็กๆ” (Homura) ในหัวใจ แล้วก้าวต่อไปโดยมีความคิดคำนึงถึงคนรุ่นก่อนๆฝากเอาไว้
นับว่าเป็นเพลงที่ทำให้คนดูหนังในโรง ถ้าเข้าใจความหมาย นี่มีขยี้หัวใจกันสุดๆเลยก็ว่าได้…

LiSA หรือ โอริเบะ ริสะ นักร้อง ศิลปินนักแต่งเพลงชาวญี่ปุ่นจากเมืองกิฟุ หลังจากใฝ่ฝันที่จะเป็นนักดนตรี ในช่วงแรกของชีวิตเธอเริ่มอาชีพนักดนตรีในฐานะนักร้องของวงดนตรีอินดี้Chucky หลังจากการยุบวงของชัคกี้ในปี 2005 LiSA ได้ย้ายไปโตเกียวเพื่อทำงานเป็นศิลปินเดี่ยว โดยเปิดตัวครั้งสำคัญในปี 2010 กับการร้องเพลงให้กับซีรีส์ทีวีอนิเมะเรื่อง Angel Beats! ในฐานะหนึ่งในสองนักร้องของวง Girls Dead Monster
ปัจจุบัน เพลงของ LiSA ได้รับความนิยมอย่างมาก ในฐานะเพลงประกอบอนิเมชื่อดังมากมายเช่น Fate/Zero, Sword Art Online และ Demon Slayer: Kimetsu no Yaiba
แอดมิน Ak47
https://twitter.com/LiSA_STAFF/status/1344267622129385478
http://www.jacompa.or.jp/record.html
อ่านเรื่องที่เกี่ยวข้อง

รีวิว Kimetsu No Yaiba ดาบพิฆาตอสูร เดอะมูฟวี่ : ศึกรถไฟสู่นิรันดร์

ดาบพิฆาตอสูร เดอะมูฟวี่ : ศึกรถไฟสู่นิรันดร์ ทำรายได้อันดับ1หนังทำเงินตลอดกาลของญี่ปุ่น
-
รางวัลสุดยอดเกมแห่งปี Game Awardsเปิดโผผู้เข้าชิง The Game Awards ทุกสาขาอย่างเป็นทางการ
-
Resident Evil 9 : Requiem [Preview / สั่งซื้อแผ่นเกม / ราคา / วันวางขาย]27 กุมภาพันธ์ 2026
-
BEYBLADE X : ผู้ใหญ่ vs เด็ก Mindset ที่ดี… “ใส่เต็มที่ มีประโยชน์ในด้านพัฒนาการเด็ก”เชื่อว่าตามงานแข่ง BEYBLADE X มีหลายครั้งที่เห็น ผู้ใหญ่ลงสนาม แล้วต้องไปเจอกับคู่ต่อสู้เป็นน้องๆเด็กๆ คงมี หลายคนคงแอบมีเสียงในหัวดังขึ้นมาแบบอัตโนมัติว่า “ถ้าชนะ เดี๋ยวก็โดนว่าเก่งแต่กับเด็ก… แต่ถ้าแพ้ก็จะถูกมองว่ากระจอกซะงั้น” ซึ่งเป็น Mindset แบบเดิมที่หลายคนยังติดอยู่ และจริงๆ มันค่อนข้าง “ผิดฝั่ง” กับความจริงของสนามเบย์เบลดพอสมควร การแข่งขันเบย์เบลด แม้จะถูกมองว่าเป็นกิจกรรมสำหรับเด็ก แต่ในความเป็นจริงแล้วเป็นพื้นที่เรียนรู้ทางสังคมที่เปิดโอกาสให้ผู้เล่นทุกวัยสามารถมีส่วนร่วมภายใต้กติกาเดียวกัน อุปกรณ์ใกล้เคียงกัน และโครงสร้างการแข่งขันที่บางรายการไม่มีการแบ่งแยกอายุ ซึ่งมันก็ส่งผลให้เกิดคำถามสำคัญในบริบทแบบไทยๆเราว่า “ผู้ใหญ่เนี่ย ควรแข่งขันเต็มที่กับเด็กขนาดนั้นเลยหรือเปล่า?” แม้แต่ตัวแอดมินผู้เขียนเอง ก็เคยมีความคิดนี้ในหัวครับ จนกระทั่งได้ตกตะกอนหลายๆอย่าง และนั่งพิจารณาตามความเป็นจริงที่ประสบพบเจอ จนออกมาเป็นบทความที่จะพามา ปรับทัศนคติ และเพิ่มมุมมองของ พฤติกรรมของผู้ใหญ่ เด็ก และผู้ปกครองในบริบทของการแข่งขัน BEYBLADE X ซึ่งทางแอดมิน อยากจะเสนอไอเดียที่ว่า “การแข่งขันแบบ ไม่ออมมือกับเด็กๆ” เป็นแนวปฏิบัติที่เหมาะสมกว่า และเป็นประโยชน์ต่อพัฒนาการเด็กในหลายมิติครับ 1. เลิกได้เลิกนะ…ไอ้วัฒนธรรมความคิดในสังคมไทย: “ชนะเด็ก รังแกเด็ก ไม่สมเป็นผู้ใหญ่เอาซะเลย!” ทัศนคติที่พบได้ทั่วไปในสังคมไทย […]































