ฮาลาบาลา ป่าจิตหลุด
ผลงานกำกับโดย : เอกสิทธิ์ ไทยรัตน์ (ผู้เขียนบทจาก 13 เกมสยอง และบอดี้ ศพ 19)
นำแสดงโดย : ฉันทวิชช์ ธนะเสวี, ณัฎฐณิชา ดังวัธนาวณิชย์, อานนท์ ฉายแสงจันทร์ และยะสะกะ ไชยสร
ภาพยนตร์โดย : BrandThink Cinema
BrandThink Cinema ประกาศเปิดตัวโปรเจกต์ภาพยนตร์สยองขวัญเรื่องใหม่ “HalaBala ป่าจิตหลุด” โดยได้ เอกสิทธิ์ ไทยรัตน์ นักเขียนบทชื่อดังจาก 13 เกมสยอง และ สี่แพร่ง มารับหน้าที่กำกับภาพยนตร์เต็มตัวครั้งล่าสุด ซึ่งมีกำหนดเข้าฉายในวันที่ 3 เมษายน 2568
ภาพยนตร์ HalaBala ป่าจิตหลุด หยิบตำนานท้องถิ่นเกี่ยวกับ “ป่าฮาลา-บาลา” ป่าดงดิบผืนใหญ่บริเวณรอยต่อจังหวัดยะลาและนราธิวาส ที่มีเรื่องเล่าลึกลับและตำนานเผ่ากินคนสืบทอดมานับร้อยปี มาเป็นแกนหลักในการดำเนินเรื่อง ถ่ายทอดผ่านสไตล์สยองขวัญที่เป็นเอกลักษณ์ของผู้กำกับ
เนื้อเรื่องติดตาม แดน (รับบทโดย เต๋อ – ฉันทวิชช์ ธนะเสวี) นายตำรวจหนุ่มจากกรุงเทพฯ ที่ถูกสั่งย้ายไปปฏิบัติหน้าที่บริเวณชายแดนใต้ โดยมีเป้าหมายเพื่อทำผลงานให้โดดเด่นจนได้ย้ายกลับเข้าเมือง ภารกิจของเขาคือการตามล่า เสี่ยตั๊บ พ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ที่หลบหนีออกจากเรือนจำและมุ่งหน้าสู่ชายแดนประเทศเพื่อนบ้านผ่านป่าฮาลา-บาลา แม้จะได้รับคำเตือนถึงอันตรายจาก วิ ผู้รู้จักพื้นที่เป็นอย่างดี แต่แดนยังคงเดินหน้าปฏิบัติภารกิจพร้อมทีมตำรวจที่ไม่มีประสบการณ์มากนัก โดยไม่คาดคิดว่าเสี่ยตั๊บมีความรู้ด้านวิชาอาคม และกำลังวางแผนใช้ไสยเวทปลุก “บางสิ่ง” ในป่าแห่งนี้ขึ้นมาปกป้องตัวเอง

เอกสิทธิ์ ไทยรัตน์ เป็นที่รู้จักจากผลงานการเขียนบทที่ประสบความสำเร็จมาแล้วหลายเรื่อง อาทิ 13 เกมสยอง (2550), สี่แพร่ง (ตอน ยันต์สั่งตาย) (2551), บอดี้ ศพ 19 (2550), ฝัน-หวาน-อาย-จูบ (ตอน หวาน) (2551), หลุดสี่หลุด (2554), รวมถึงการร่วมเขียนบทใน ทองสุก 13 (2556) และ โฮมสเตย์ (2561) นอกจากนี้ ผลงานการ์ตูนของเขาในชุด My Mania ยังถูกดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ถึงสองเรื่อง ได้แก่ 13 เกมสยอง และตอน “อย่าอ่านชะตาจะขาด” ใน สี่แพร่ง

นอกเหนือจากข้อมูลที่ได้กล่าวไปแล้ว ภาพยน ตร์ “HalaBala ป่าจิตหลุด” ยังได้รับความสนใจในระดับนานาชาติ โดยบริษัท Mokster Films จากสิงคโปร์ได้รับสิทธิ์ในการจัดจำหน่ายภาพยนตร์เรื่องนี้ และได้นำเสนอในงาน American Film Market (AFM) ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 5-10 พฤศจิกายน 2567 ที่ผ่านมาและได้รับความสนใจไปทั่วโลก ณ เวลานี้…



มุ่งหน้าสู่ป่าจิตหลุด
ดูให้เห็นกับตา แล้วหนีให้ทันก่อนมันจะกลืนกิน
3 เมษายนนี้ ในโรงภาพยนตร์
#HALABALA
#ฮาลาบาลา
#ป่าจิตหลุด
#BrandThinkCinema
-
รางวัลสุดยอดเกมแห่งปี Game Awardsเปิดโผผู้เข้าชิง The Game Awards ทุกสาขาอย่างเป็นทางการ
-
Resident Evil 9 : Requiem [Preview / สั่งซื้อแผ่นเกม / ราคา / วันวางขาย]27 กุมภาพันธ์ 2026
-
BEYBLADE X : ผู้ใหญ่ vs เด็ก Mindset ที่ดี… “ใส่เต็มที่ มีประโยชน์ในด้านพัฒนาการเด็ก”เชื่อว่าตามงานแข่ง BEYBLADE X มีหลายครั้งที่เห็น ผู้ใหญ่ลงสนาม แล้วต้องไปเจอกับคู่ต่อสู้เป็นน้องๆเด็กๆ คงมี หลายคนคงแอบมีเสียงในหัวดังขึ้นมาแบบอัตโนมัติว่า “ถ้าชนะ เดี๋ยวก็โดนว่าเก่งแต่กับเด็ก… แต่ถ้าแพ้ก็จะถูกมองว่ากระจอกซะงั้น” ซึ่งเป็น Mindset แบบเดิมที่หลายคนยังติดอยู่ และจริงๆ มันค่อนข้าง “ผิดฝั่ง” กับความจริงของสนามเบย์เบลดพอสมควร การแข่งขันเบย์เบลด แม้จะถูกมองว่าเป็นกิจกรรมสำหรับเด็ก แต่ในความเป็นจริงแล้วเป็นพื้นที่เรียนรู้ทางสังคมที่เปิดโอกาสให้ผู้เล่นทุกวัยสามารถมีส่วนร่วมภายใต้กติกาเดียวกัน อุปกรณ์ใกล้เคียงกัน และโครงสร้างการแข่งขันที่บางรายการไม่มีการแบ่งแยกอายุ ซึ่งมันก็ส่งผลให้เกิดคำถามสำคัญในบริบทแบบไทยๆเราว่า “ผู้ใหญ่เนี่ย ควรแข่งขันเต็มที่กับเด็กขนาดนั้นเลยหรือเปล่า?” แม้แต่ตัวแอดมินผู้เขียนเอง ก็เคยมีความคิดนี้ในหัวครับ จนกระทั่งได้ตกตะกอนหลายๆอย่าง และนั่งพิจารณาตามความเป็นจริงที่ประสบพบเจอ จนออกมาเป็นบทความที่จะพามา ปรับทัศนคติ และเพิ่มมุมมองของ พฤติกรรมของผู้ใหญ่ เด็ก และผู้ปกครองในบริบทของการแข่งขัน BEYBLADE X ซึ่งทางแอดมิน อยากจะเสนอไอเดียที่ว่า “การแข่งขันแบบ ไม่ออมมือกับเด็กๆ” เป็นแนวปฏิบัติที่เหมาะสมกว่า และเป็นประโยชน์ต่อพัฒนาการเด็กในหลายมิติครับ 1. เลิกได้เลิกนะ…ไอ้วัฒนธรรมความคิดในสังคมไทย: “ชนะเด็ก รังแกเด็ก ไม่สมเป็นผู้ใหญ่เอาซะเลย!” ทัศนคติที่พบได้ทั่วไปในสังคมไทย […]




























