ประเภท: Third-person shooter / Survival Horror
ผู้พัฒนา: The Coalition (ร่วมพัฒนาโดย People Can Fly)
แพลตฟอร์ม: Xbox Series X/S, Windows (PC)
วันวางจำหน่าย: ภายในปี 2026
นี่คือ Gears of War: E-Day ภาคปฐมบท ไม่เพียงแต่จะพาผู้เล่นย้อนกลับไป 14 ปีก่อนเหตุการณ์ภาคแรกในวัน Emergence Day เท่านั้น แต่ยังเป็นการกลับสู่รากเหง้าความสยองขวัญ (Horror) โดย Jerry O’Flaherty อดีตผู้กำกับศิลป์ของซีรีส์ ได้ออกมาสนับสนุนทิศทางนี้ โดยเปรียบเทียบว่าภาคแรกนั้นให้ความรู้สึกเหมือนภาพยนตร์ “Alien” และ E-Day กำลังจะนำบรรยากาศแห่งความตึงเครียดนั้นกลับมาอีกครั้ง
เกมนี้คือ!?
Gears of War: E-Day เป็นผลงานการพัฒนาของสตูดิโอ The Coalition ซึ่งรับผิดชอบแฟรนไชส์นี้ในปัจจุบัน โดยยังได้ความร่วมมือจาก People Can Fly (ผู้มีส่วนร่วมในไตรภาคดั้งเดิม) มาร่วมพัฒนาด้วย ตัวเกมมีกำหนดลงให้กับเครื่อง Xbox Series X/S และ Windows (PC)
เนื้อเรื่องจะย้อนกลับไป 14 ปีก่อน Gears of War ภาคแรก ณ Emergence Day วันที่เผ่าพันธุ์ Locust โผล่ขึ้นมาจากใต้พิภพเพื่อโจมตี โลก Sera เป็นครั้งแรก

ผู้เล่นจะได้ติดตาม Marcus Fenix และ Dom Santiago ในวัยหนุ่ม ผู้ยังไม่เคยผ่านสมรภูมิรบขนาดใหญ่นี้มาก่อน พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับความโกลาหลและความวินาศในเมือง Kalona ท่ามกลางสถานการณ์ที่มนุษยชาติยังไม่ทันตั้งตัวและไม่เข้าใจด้วยซ้ำว่ากำลังต่อสู้กับอะไร โดยทาง The Coalition ยืนยันว่าเนื้อเรื่องในภาคนี้จะเกิดขึ้นและดำเนินไปตลอด “หลายวัน” (over the course of several days) เพื่อถ่ายทอดประสบการณ์อันน่าสะพรึงกลัวนี้อย่างเข้มข้น
เกมเพลย์
Gears of War: E-Day ถูกพัฒนาด้วยขุมพลัง Unreal Engine 5 ซึ่งตั้งเป้าสร้างมาตรฐานใหม่ด้านกราฟิกและเทคโนโลยีให้กับซีรีส์ โดยเทรลเลอร์ที่ปล่อยออกมาเป็นการเรนเดอร์จากเอนจิ้นเกมจริงทั้งหมด แสดงให้เห็นถึงรายละเอียดสภาพแวดล้อมและแสงเงาที่ก้าวหน้าอย่างชัดเจน

ในด้านเกมเพลย์ The Coalition ยืนยันว่าจะกลับไปสู่รากเหง้าของซีรีส์ โดยจะเป็นประสบการณ์ที่ เป็นเส้นตรง มากขึ้น ลดทอนองค์ประกอบแบบโลกเปิด (open world) ที่เคยใช้ใน Gears 5 เพื่อเน้นการเล่าเรื่องที่เข้มข้น และเกมเพลย์แอ็กชันแบบมีที่กำบัง (Cover-based shooter) ที่ดุดัน แต่ในขณะเดียวกันก็สัญญาว่าจะมอบ “ความรู้สึกใหม่” (new feel) ให้กับแฟรนไชส์ด้วย
จุดเปลี่ยนที่สำคัญที่สุดคือการหวนคืนสู่ “ความสยองขวัญ” Jerry O’Flaherty อดีตผู้กำกับศิลป์ของซีรีส์ ได้ให้ความเห็นสนับสนุนทิศทางนี้อย่างเต็มที่ โดยเขากล่าวว่า
“ถ้า Gears 1 คือ Alien (หนังไซไฟสยองขวัญ) แฟรนไชส์ที่เหลือก็คือ Aliens (หนังแอ็กชันเต็มสูบ)” เขาอธิบายว่าในภาคแรก “มีความตึงเครียดและความสยองขวัญที่คุณดึงออกมาจากทุกสถานที่… มันมีการซ่อนตัวของศัตรู” ซึ่งแตกต่างจากภาคหลังๆ ที่กลายเป็น “เกมล่ามอนสเตอร์” เต็มตัว O’Flaherty กล่าวว่าเขารักแง่มุมสยองขวัญของภาคแรก และดีใจที่ E-Day จะกลับไปในทิศทางนั้น ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดการออกแบบดั้งเดิมที่เน้น “reduced palette” (การใช้สีที่จำกัด) และ “ความมืดมิด” (a lot of dark) เพื่อผลักดันเนื้อหาเชิงภาพยนตร์และความน่าสะพรึงกลัว
เกม Gears of War: E-Day มีกำหนดวางจำหน่าย ภายในปี 2026 ในระบบ Xbox Series X/S และ Windows (PC)
แอดมิน AK47
#GearsOfWar #GearsOfWarEDay #Xbox #PCGame #UnrealEngine5 #TheCoalition #HorrorGame #SurvivalHorror #JerryOFlaherty #EmergenceDay #ข่าวเกม
-
รางวัลสุดยอดเกมแห่งปี Game Awardsเปิดโผผู้เข้าชิง The Game Awards ทุกสาขาอย่างเป็นทางการ
-
Resident Evil 9 : Requiem [Preview / สั่งซื้อแผ่นเกม / ราคา / วันวางขาย]27 กุมภาพันธ์ 2026
-
BEYBLADE X : ผู้ใหญ่ vs เด็ก Mindset ที่ดี… “ใส่เต็มที่ มีประโยชน์ในด้านพัฒนาการเด็ก”เชื่อว่าตามงานแข่ง BEYBLADE X มีหลายครั้งที่เห็น ผู้ใหญ่ลงสนาม แล้วต้องไปเจอกับคู่ต่อสู้เป็นน้องๆเด็กๆ คงมี หลายคนคงแอบมีเสียงในหัวดังขึ้นมาแบบอัตโนมัติว่า “ถ้าชนะ เดี๋ยวก็โดนว่าเก่งแต่กับเด็ก… แต่ถ้าแพ้ก็จะถูกมองว่ากระจอกซะงั้น” ซึ่งเป็น Mindset แบบเดิมที่หลายคนยังติดอยู่ และจริงๆ มันค่อนข้าง “ผิดฝั่ง” กับความจริงของสนามเบย์เบลดพอสมควร การแข่งขันเบย์เบลด แม้จะถูกมองว่าเป็นกิจกรรมสำหรับเด็ก แต่ในความเป็นจริงแล้วเป็นพื้นที่เรียนรู้ทางสังคมที่เปิดโอกาสให้ผู้เล่นทุกวัยสามารถมีส่วนร่วมภายใต้กติกาเดียวกัน อุปกรณ์ใกล้เคียงกัน และโครงสร้างการแข่งขันที่บางรายการไม่มีการแบ่งแยกอายุ ซึ่งมันก็ส่งผลให้เกิดคำถามสำคัญในบริบทแบบไทยๆเราว่า “ผู้ใหญ่เนี่ย ควรแข่งขันเต็มที่กับเด็กขนาดนั้นเลยหรือเปล่า?” แม้แต่ตัวแอดมินผู้เขียนเอง ก็เคยมีความคิดนี้ในหัวครับ จนกระทั่งได้ตกตะกอนหลายๆอย่าง และนั่งพิจารณาตามความเป็นจริงที่ประสบพบเจอ จนออกมาเป็นบทความที่จะพามา ปรับทัศนคติ และเพิ่มมุมมองของ พฤติกรรมของผู้ใหญ่ เด็ก และผู้ปกครองในบริบทของการแข่งขัน BEYBLADE X ซึ่งทางแอดมิน อยากจะเสนอไอเดียที่ว่า “การแข่งขันแบบ ไม่ออมมือกับเด็กๆ” เป็นแนวปฏิบัติที่เหมาะสมกว่า และเป็นประโยชน์ต่อพัฒนาการเด็กในหลายมิติครับ 1. เลิกได้เลิกนะ…ไอ้วัฒนธรรมความคิดในสังคมไทย: “ชนะเด็ก รังแกเด็ก ไม่สมเป็นผู้ใหญ่เอาซะเลย!” ทัศนคติที่พบได้ทั่วไปในสังคมไทย […]

































