ที่มาข่าวจาก Brand inside
สิ้นปีนี้ “คมสันต์ แซ่ลี” ประธานกรรมการบริหารและผู้ก่อตั้ง Flash Group ได้ประกาศข่าวใหญ่ในงาน Secret Sauce Summit 2025 ว่า บริษัทเตรียมเปิดตัวแบรนด์ใหม่ในหมวดธุรกิจ Intellectual Property (IP) ชื่อว่า Kayou เพื่อรุกเข้าสู่ตลาดการ์ดสะสมที่กำลังเติบโตอย่างมหาศาลทั้งในจีนและต่างประเทศ
Kayou คือใคร
Kayou (卡游) เป็นบริษัทจากจีนที่ครองตลาดการ์ดสะสมในประเทศ ด้วยส่วนแบ่งการตลาดสูงถึง 71% ในหมวดการ์ดที่มีลิขสิทธิ์จาก IP ต่างๆ ในปี 2022 บริษัทเป็นที่รู้จักจากการผลิตการ์ดสะสมที่ใช้ลิขสิทธิ์ดังระดับโลก ไม่ว่าจะเป็น Pokémon, Naruto, Ultraman, My Little Pony, Tokidoki รวมถึง IP จีนที่กำลังมาแรง โดย Kayou ไม่ได้ผลิตเพียงการ์ด แต่ยังขยายไปสู่ ของสะสม, สินค้าเครื่องเขียน และตุ๊กตา (plush toys) อีกด้วย

จุดเด่นของ Kayou คือการออกแบบการ์ดที่มีความหลากหลาย ทั้งแบบ holographic, การ์ดพิเศษที่เคลือบทอง หรือแม้แต่การนำศิลปะญี่ปุ่นสไตล์ ukiyo-e มาประยุกต์กับตัวละครดัง เพื่อสร้างความแตกต่างและมูลค่าให้กับการ์ดหายาก
ตลาดการ์ดสะสมในจีน

ตลาดการ์ดสะสมของจีนเติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด ในปี 2022 มีมูลค่าสูงถึง 38,000 ล้านบาท และงานวิจัยยังพบว่า 56% ของแฟนอนิเมะในจีนยอมจ่ายเงินเพื่อซื้อสินค้าเกี่ยวข้องกับการ์ตูนที่ชื่นชอบ ความนิยมนี้เกิดจากพฤติกรรม “สุ่มซื้อ” หรือ “blind pack” ซึ่งสร้างแรงจูงใจให้ผู้ซื้ออยากสะสมและหาการ์ดหายาก
Kayou จึงถูกเปรียบว่าเป็น “POP MART แห่งวงการการ์ดสะสม” เนื่องจากมีรูปแบบธุรกิจคล้ายกันคือการสร้างกระแสความนิยมจากสินค้า IP ที่เปิดกล่องแล้วลุ้น ทำให้เกิดการสะสมอย่างต่อเนื่อง

Kayou มีความทะเยอทะยานที่จะเติบโตสู่ระดับโลก โดยมีแผนเข้าตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง (Hong Kong IPO) เพื่อระดมทุนกว่า 500 ล้านเหรียญสหรัฐ แม้การเปิดตัว IPO เคยถูกเลื่อนเพราะความผันผวนของตลาดและขั้นตอนการอนุมัติ แต่ก็ยังเป็นหนึ่งในดีลที่ถูกจับตามองในแวดวงธุรกิจจีน
ขณะเดียวกัน Kayou ก็เริ่มขยายเข้าสู่ตลาดสหรัฐฯ แล้ว โดยนำคอลเลกชันการ์ดที่ใช้ IP ดังอย่าง Naruto และ My Little Pony วางจำหน่ายในช่วงฤดูใบไม้ร่วง พร้อมทั้งสร้างร้านค้า flagship และช่องทางออนไลน์เพื่อเข้าถึงนักสะสมทั่วโลก
โอกาสในประเทศไทยกับ Flash Group
สำหรับประเทศไทย คมสันต์ แซ่ลี ไม่ได้ตั้งใจเพียงแค่นำเข้า Kayou เข้ามาจำหน่าย แต่ยังต้องการใช้แบรนด์นี้เป็น แพลตฟอร์มสำหรับ IP ไทย เปิดโอกาสให้ผู้สร้างสรรค์ นักวาด และเจ้าของผลงานในประเทศสามารถนำ IP ของตนมาผลิตการ์ดสะสมและวางขายได้
โมเดลนี้สะท้อนแนวคิดเดียวกับที่ Flash เคยทำกับ CHAGEE แบรนด์ชานมจากจีน ที่คมสันต์พาทีมงานเข้าไปสำรวจไร่ชาในเชียงใหม่ สนับสนุนการวิจัยและพัฒนาพืชท้องถิ่น ทำให้เกษตรกรมีโอกาสขายได้ราคาที่ดีขึ้นและต่อยอดสู่การส่งออก ในขณะเดียวกัน คนไทยเองก็ได้องค์ความรู้ใหม่จากการร่วมงานกับทีมต่างชาติ
คมสันต์ยังกล่าวถึงวิสัยทัศน์ว่า “สักวันเพื่อนร่วมงานเราที่ลาออกจากเราไป หรือพาร์ทเนอร์ของเรา จะมีโอกาสที่จะสร้างแบรนด์ของตนเองขึ้นมาได้”
สะท้อนถึงเป้าหมายของ Flash Group ที่ไม่ใช่เพียงการสร้างธุรกิจใหม่ แต่คือการสร้างระบบนิเวศ (ecosystem) ให้ผู้ประกอบการไทยสามารถเติบโตไปพร้อมกับแบรนด์ระดับโลก
สำหรับแฟนๆ อนิเมะและนักสะสมในประเทศไทย การมาของ Kayou ถือเป็นข่าวดี เพราะไม่เพียงจะได้เข้าถึงการ์ดสะสมจาก IP ดังระดับโลกในรูปแบบลิขสิทธิ์แท้
แต่ยังนำไปสู่โอกาสที่จะได้เห็น IP ไทยถูกยกระดับขึ้นสู่แพลตฟอร์มสากล ผ่าน Kayou และ Flash Group
นี่อาจเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้วงการการ์ดสะสมในไทยมีความคึกคัก และช่วยเปิดตลาดใหม่ให้กับศิลปินและนักสร้างสรรค์ในประเทศได้อย่างแท้จริง
——————–
ที่มาข่าว สามารถอ่านข่าวเต็มๆเกี่ยวกับโมเดลธุรกิจใหม่ของคุณคมสันต์ และวิสัยทัศน์ในแง่มุมอื่นๆได้ที่ลิ้งก์จาก Brand inside
——————–
แอดมิน AK47
#Kayou #FlashGroup #การ์ดสะสม #TradingCards #Anime #IPBusiness #คมสันต์แซ่ลี #ตลาดการ์ด #POPmartOfCards #ธุรกิจIP #SecretSauceSummit2025
-
รางวัลสุดยอดเกมแห่งปี Game Awardsเปิดโผผู้เข้าชิง The Game Awards ทุกสาขาอย่างเป็นทางการ
-
Resident Evil 9 : Requiem [Preview / สั่งซื้อแผ่นเกม / ราคา / วันวางขาย]27 กุมภาพันธ์ 2026
-
BEYBLADE X : ผู้ใหญ่ vs เด็ก Mindset ที่ดี… “ใส่เต็มที่ มีประโยชน์ในด้านพัฒนาการเด็ก”เชื่อว่าตามงานแข่ง BEYBLADE X มีหลายครั้งที่เห็น ผู้ใหญ่ลงสนาม แล้วต้องไปเจอกับคู่ต่อสู้เป็นน้องๆเด็กๆ คงมี หลายคนคงแอบมีเสียงในหัวดังขึ้นมาแบบอัตโนมัติว่า “ถ้าชนะ เดี๋ยวก็โดนว่าเก่งแต่กับเด็ก… แต่ถ้าแพ้ก็จะถูกมองว่ากระจอกซะงั้น” ซึ่งเป็น Mindset แบบเดิมที่หลายคนยังติดอยู่ และจริงๆ มันค่อนข้าง “ผิดฝั่ง” กับความจริงของสนามเบย์เบลดพอสมควร การแข่งขันเบย์เบลด แม้จะถูกมองว่าเป็นกิจกรรมสำหรับเด็ก แต่ในความเป็นจริงแล้วเป็นพื้นที่เรียนรู้ทางสังคมที่เปิดโอกาสให้ผู้เล่นทุกวัยสามารถมีส่วนร่วมภายใต้กติกาเดียวกัน อุปกรณ์ใกล้เคียงกัน และโครงสร้างการแข่งขันที่บางรายการไม่มีการแบ่งแยกอายุ ซึ่งมันก็ส่งผลให้เกิดคำถามสำคัญในบริบทแบบไทยๆเราว่า “ผู้ใหญ่เนี่ย ควรแข่งขันเต็มที่กับเด็กขนาดนั้นเลยหรือเปล่า?” แม้แต่ตัวแอดมินผู้เขียนเอง ก็เคยมีความคิดนี้ในหัวครับ จนกระทั่งได้ตกตะกอนหลายๆอย่าง และนั่งพิจารณาตามความเป็นจริงที่ประสบพบเจอ จนออกมาเป็นบทความที่จะพามา ปรับทัศนคติ และเพิ่มมุมมองของ พฤติกรรมของผู้ใหญ่ เด็ก และผู้ปกครองในบริบทของการแข่งขัน BEYBLADE X ซึ่งทางแอดมิน อยากจะเสนอไอเดียที่ว่า “การแข่งขันแบบ ไม่ออมมือกับเด็กๆ” เป็นแนวปฏิบัติที่เหมาะสมกว่า และเป็นประโยชน์ต่อพัฒนาการเด็กในหลายมิติครับ 1. เลิกได้เลิกนะ…ไอ้วัฒนธรรมความคิดในสังคมไทย: “ชนะเด็ก รังแกเด็ก ไม่สมเป็นผู้ใหญ่เอาซะเลย!” ทัศนคติที่พบได้ทั่วไปในสังคมไทย […]
































