ชื่อภาษาอังกฤษ : Finding Dory
ชื่อภาษาไทย : ผจญภัยดอรี่ขี้ลืม
ประเภท : ภาพยนตร์
แนว : ครอบครัว / ผจญภัย / ตลก
ผู้กำกับ : Andrew Stanton, Angus MacLane
ผู้แต่ง : Andrew Stanton
ค่าย : Pixar Animation Studios,Walt Disney Pictures
ฉาย : 15 มิถุนายน 2016
หลังจากรอคอยมานาน ตั้งแต่ปี 2003 กับการผจญภัยใต้ท้องทะเลกว้างของปลาน้อย นีโม่ (Nemo) พร้อมเหล่าเพื่อนปลาน้อยใหญ่ ในภาพยนตร์อนิเมชั่นยอดเยี่ยมรางวัลออสการ์อย่าง “Finding Nemo“
ในปี 2016 ที่กำลังจะถึงนี้ พิกซาร์ ร่วมกับ ดิสนีย์ เตรียมนำการผจญภัยที่ทุกคนคุ้นเคยกลับมาอีกครั้ง โดยมีปลาขี้ลืมเพื่อนซี้นีโม่อย่าง ดอรี่ (Dory) จอมพูดมาก มารับบทตัวเอกให้ทุกคนได้หลงรักกันบ้าง ในการผจญภัยครั้งใหม่ เพื่อร่วมตามหาครอบครัวที่หลงลืมไปของดอรี่ ซึ่งครั้งนี้ยังคงก็ได้ “แอนดรู สแตนตัน” ผู้กำกับคนเดิมจากนีโม่ มาถ่ายทอดเรื่องราวมิตรภาพและความหมายของคำว่า “ครอบครัว” ให้ทุกคนซาบซึ้งอบอุ่นหัวใจภายใต้ผืนน้ำแห่งชายฝั่งแคลิฟอร์เนีย…
Finding Nemo (2003)
เรื่องย่อ
สำหรับการผจญภัยในครั้งนี้ ดำเนินต่อจากเรื่องราวของ นีโม่ (Nemo) ในภาคที่แล้ว หลังจากนีโม่ตามหา มาร์ลีน (Marlin) พ่อที่พลัดหลงกันเจอ ครั้งนี้พวกเขาได้กลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง พร้อมกับเดอะแก๊งค์ปลาตู้หลากสีสัน และ ดอรี่ (Dory) ปลาขี้ตังเบ็ดฟ้า จอมพูดมาก แต่กลับขี้ลืม (ซะงั้น)
เรื่องราวดำเนินขึ้น หลังจากอาการละเมอว่ายน้ำของดอรี่ ที่มาพร้อมความทรงจำสำคัญที่เขาได้หลงลืมไป และมันเกี่ยวพันกับครอบครัวของดอรี่!! ภารกิจครั้งสำคัญฉบับเร่งด่วนจึงเกิดขึ้นอย่างกระทันหัน
นีโม่ และ มาร์ลีน พ่อของเขา พร้อมกับเพื่อนปลาใต้ท้องทะเล จะหาวิธีช่วย ดอรี่ ได้ด้วยวิธีการใด? และการผจญภัยครั้งนี่้จะต้องเจอกับเรื่องหวาดเสียวอย่าง “เจ้าฉลามยักษ์” เช่นเดียวกับครั้งก่อนอีกหรือไม่นั้น? ติดตามการผจญภัยสุดสนุกที่จะทำให้ทุกคนให้ความสำคัญกับครอบครัวและธรรมชาติในท้องทะเลมากขึ้น ในอนิเมชั่นภาคต่อของอนิเมชั่นรางวัลออสการ์เรื่องนี้กันได้ กับ Finding Dory ผจญภัยดอรี่ขี้ลืม มิถุนายน 2016 นี้ ในโรงภาพยนตร์.
ตัวอย่างภาพยนตร์
Review Score 8/10 (ไม่สปอย์)
หลังจากเรื่องราวของภาคแรก หลังจากที่ มาร์ลีน ตามหานีโม่จนสำเร็จแล้วโดยการช่วยเหลือของดอรี่ปลาบลูแท็งค์สีน้ำเงิน เขาก็กลับมาใช้ชีวิตใต้ท้องทะเลอย่างสงบสุข หลังจาก 1 ปีต่อมา ขณะที่ดอรี่ ไปทัศนศึกษากับปลารุ่นเยาว์ที่ไปดูการอพยพของปลากระเบน จู่ๆคำถามที่ดังขึ้นทำให้ให้ชีวิตของเธอเปลี่ยนไปก็คือ บ้านของเธออยู่ไหน เหรอดอรี่? พ่อแม่ของเธอเป็นใคร? ทำให้เกิดเรื่องราวของภาคนี้ ซึ่งในภาคนี้เหล่าปลาการ์ตูนต้องกลายเป็นผู้ช่วยในการตามหาพ่อแม่ของเธอบ้าง ซึ่งระหว่างทางเธอได้พบก็มิตรภาพ จากเพื่อนใหม่และเก่า ความช่วยเหลือต่างๆนาๆของสัตว์ต่างสายพันธ์ก่อให้เกิดความประทับใจไม่รู้จบ
เนื้อเรื่องของภาคนี้จะเน้นอยู่นอกเหนือท้องทะเลซะส่วนใหญ่ บรรยากาศในศูนย์วิจัยทำออกมาได้ดี ความรู้สึกเหมือนเราได้ไปเดินดูศูนย์วิจัยด้วยตัวเอง มีการแนะนำสัตว์ตัวนู้นที่นี่ที หากใครที่ดูพากไทย จะเห็นภาษาไทยแฝงอยู่ในเรื่องแบบเนียนๆอยู่ด้วย มุกในเรื่องก็ดูสร้างสรรค์และเรียกเสียงหัวเราะได้ทุกเพศทุกวัยเด็ก แถมได้ความรู้กลับบ้านอีกด้วย
สรุปนะครับ สำหรับภาพยนตร์แอนิเมชั่น ฟรายดิ่ง ดอรี่ ถือว่าเป็นแอนิเมชั่นที่ไม่ควรพลาดอีกเรื่อง เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัยจริงๆ โดยเฉพาะหากพ่อแม่คนไหนที่เคยดูภาคแรกมาก่อน ความรู้สึกก็เหมือนกับมาเจอเพื่อนเก่าๆยามเด็กอะไรอย่างนั้นทีเดียว แถมยังได้ข้อคิดต่างๆกลับบ้านไปสอนลูกสอนหลานอีกด้วย
ขอขอบคุณที่มา : IMDb
By : Admin@no (แอดมินโนเอง)
Movie Weekly น้องเบ้นรีวิว
-
รางวัลสุดยอดเกมแห่งปี Game Awardsเปิดโผผู้เข้าชิง The Game Awards ทุกสาขาอย่างเป็นทางการ
-
Resident Evil 9 : Requiem [Preview / สั่งซื้อแผ่นเกม / ราคา / วันวางขาย]27 กุมภาพันธ์ 2026
-
BEYBLADE X : ผู้ใหญ่ vs เด็ก Mindset ที่ดี… “ใส่เต็มที่ มีประโยชน์ในด้านพัฒนาการเด็ก”เชื่อว่าตามงานแข่ง BEYBLADE X มีหลายครั้งที่เห็น ผู้ใหญ่ลงสนาม แล้วต้องไปเจอกับคู่ต่อสู้เป็นน้องๆเด็กๆ คงมี หลายคนคงแอบมีเสียงในหัวดังขึ้นมาแบบอัตโนมัติว่า “ถ้าชนะ เดี๋ยวก็โดนว่าเก่งแต่กับเด็ก… แต่ถ้าแพ้ก็จะถูกมองว่ากระจอกซะงั้น” ซึ่งเป็น Mindset แบบเดิมที่หลายคนยังติดอยู่ และจริงๆ มันค่อนข้าง “ผิดฝั่ง” กับความจริงของสนามเบย์เบลดพอสมควร การแข่งขันเบย์เบลด แม้จะถูกมองว่าเป็นกิจกรรมสำหรับเด็ก แต่ในความเป็นจริงแล้วเป็นพื้นที่เรียนรู้ทางสังคมที่เปิดโอกาสให้ผู้เล่นทุกวัยสามารถมีส่วนร่วมภายใต้กติกาเดียวกัน อุปกรณ์ใกล้เคียงกัน และโครงสร้างการแข่งขันที่บางรายการไม่มีการแบ่งแยกอายุ ซึ่งมันก็ส่งผลให้เกิดคำถามสำคัญในบริบทแบบไทยๆเราว่า “ผู้ใหญ่เนี่ย ควรแข่งขันเต็มที่กับเด็กขนาดนั้นเลยหรือเปล่า?” แม้แต่ตัวแอดมินผู้เขียนเอง ก็เคยมีความคิดนี้ในหัวครับ จนกระทั่งได้ตกตะกอนหลายๆอย่าง และนั่งพิจารณาตามความเป็นจริงที่ประสบพบเจอ จนออกมาเป็นบทความที่จะพามา ปรับทัศนคติ และเพิ่มมุมมองของ พฤติกรรมของผู้ใหญ่ เด็ก และผู้ปกครองในบริบทของการแข่งขัน BEYBLADE X ซึ่งทางแอดมิน อยากจะเสนอไอเดียที่ว่า “การแข่งขันแบบ ไม่ออมมือกับเด็กๆ” เป็นแนวปฏิบัติที่เหมาะสมกว่า และเป็นประโยชน์ต่อพัฒนาการเด็กในหลายมิติครับ 1. เลิกได้เลิกนะ…ไอ้วัฒนธรรมความคิดในสังคมไทย: “ชนะเด็ก รังแกเด็ก ไม่สมเป็นผู้ใหญ่เอาซะเลย!” ทัศนคติที่พบได้ทั่วไปในสังคมไทย […]

































