Final Destination 7
ประเภท: ภาพยนตร์สยองขวัญ / ระทึกขวัญ
สตูดิโอ: New Line Cinema
ผู้เขียนบท: Lori Evans Taylor
สถานะ: อยู่ในขั้นตอนพัฒนา (ยังไม่ประกาศผู้กำกับ)
หลังจากที่ Final Destination: Bloodlines กลับมาทวงบัลลังก์ความโหดเมื่อปีนี้ พร้อมกวาดรายได้ทั่วโลกกว่า 285 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และทำคะแนนสูงถึง 93% บน Rotten Tomatoes ซึ่งกลายเป็นภาคที่ได้คะแนนรีวิวสูงที่สุดในแฟรนไชส์…
New Line Cinema ก็ไม่รอช้า ประกาศไฟเขียวสร้าง Final Destination 7 อย่างเป็นทางการ โดยได้ Lori Evans Taylor มือเขียนบทจากภาค Bloodlines กลับมารับหน้าที่เขียนบทต่อเนื่อง แม้จะยังไม่มีการยืนยันว่าผู้กำกับคู่หู Zack Lipovsky และ Adam Stein จะกลับมาร่วมหรือไม่
ความสำเร็จของ Bloodlines ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงจากความสยองแบบลุ้นระทึกตามสูตร แต่ยังเพิ่มน้ำหนักทางอารมณ์ด้วยการเปลี่ยนโครงสร้างตัวละครจากกลุ่มคนแปลกหน้ามาเป็น “ครอบครัว” ที่ต้องเผชิญหน้ากับความตายร่วมกัน เรื่องราวติดตาม Stefani (Kaitlyn Santa Juana) นักศึกษาที่เริ่มมีฝันร้ายเกี่ยวกับคำพยากรณ์ของคุณยาย Iris ในปี 1968 เกี่ยวกับเหตุการณ์ถล่มของ Skyview Restaurant Tower จนนำไปสู่การเปิดโปงความลับมรณะของครอบครัว และการล้างแค้นของ “ความตาย” ที่ไม่เคยลืมเลือน การวางโครงเรื่องเช่นนี้ทำให้แต่ละฉากการตายมีน้ำหนักทางอารมณ์มากขึ้น และขับเน้นความสำคัญของการปกป้องคนรักให้ชัดเจนกว่าภาคก่อนๆ
ผู้กำกับ Stein และ Lipovsky เคยเผยว่าเป้าหมายของพวกเขาคือการสร้างหนังที่ทำให้คนดู “ต้องเอามือปิดตาเพราะ cringe จนทนดูไม่ไหว แต่ก็ยังยิ้มและหัวเราะออกมา” เพราะหนึ่งในเสน่ห์ของแฟรนไชส์นี้คือความสร้างสรรค์ในการวางกับดักและการตายแบบ “Rube Goldberg machine” ที่ทั้งโหดและบันเทิงในเวลาเดียวกัน
ซึ่งนักวิจารณ์ต่างเห็นตรงกันว่า Bloodlines คืนฟอร์มซีรีส์ได้อย่างสมศักดิ์ศรี ทั้งฉากโหดสุดขีด บทที่ชาญฉลาด และลูกเล่นที่แฟนๆ รู้จักและรักกันดี
สำหรับ Final Destination 7 แม้เนื้อเรื่องและตัวละครจะยังไม่ถูกเปิดเผย แต่จากความสำเร็จของภาคล่าสุดและฝีมือของ Lori Evans Taylor ที่ยังคงอยู่เบื้องหลัง บวกกับการตอบรับเชิงบวกจากนักวิจารณ์และผู้ชม มีความเป็นไปได้สูงว่าภาคใหม่นี้จะยังคงมอบทั้งความระทึก สยอง และไอเดียการตายแบบจัดเต็มให้แฟนๆ ได้สนุก (และเสียว) กันอีกครั้ง
ที่มา hollywoodreporter.com
#FinalDestination7 #FinalDestinationBloodlines #HorrorMovies #NewLineCinema #MovieNews
-
รางวัลสุดยอดเกมแห่งปี Game Awardsเปิดโผผู้เข้าชิง The Game Awards ทุกสาขาอย่างเป็นทางการ
-
Resident Evil 9 : Requiem [Preview / สั่งซื้อแผ่นเกม / ราคา / วันวางขาย]27 กุมภาพันธ์ 2026
-
BEYBLADE X : ผู้ใหญ่ vs เด็ก Mindset ที่ดี… “ใส่เต็มที่ มีประโยชน์ในด้านพัฒนาการเด็ก”เชื่อว่าตามงานแข่ง BEYBLADE X มีหลายครั้งที่เห็น ผู้ใหญ่ลงสนาม แล้วต้องไปเจอกับคู่ต่อสู้เป็นน้องๆเด็กๆ คงมี หลายคนคงแอบมีเสียงในหัวดังขึ้นมาแบบอัตโนมัติว่า “ถ้าชนะ เดี๋ยวก็โดนว่าเก่งแต่กับเด็ก… แต่ถ้าแพ้ก็จะถูกมองว่ากระจอกซะงั้น” ซึ่งเป็น Mindset แบบเดิมที่หลายคนยังติดอยู่ และจริงๆ มันค่อนข้าง “ผิดฝั่ง” กับความจริงของสนามเบย์เบลดพอสมควร การแข่งขันเบย์เบลด แม้จะถูกมองว่าเป็นกิจกรรมสำหรับเด็ก แต่ในความเป็นจริงแล้วเป็นพื้นที่เรียนรู้ทางสังคมที่เปิดโอกาสให้ผู้เล่นทุกวัยสามารถมีส่วนร่วมภายใต้กติกาเดียวกัน อุปกรณ์ใกล้เคียงกัน และโครงสร้างการแข่งขันที่บางรายการไม่มีการแบ่งแยกอายุ ซึ่งมันก็ส่งผลให้เกิดคำถามสำคัญในบริบทแบบไทยๆเราว่า “ผู้ใหญ่เนี่ย ควรแข่งขันเต็มที่กับเด็กขนาดนั้นเลยหรือเปล่า?” แม้แต่ตัวแอดมินผู้เขียนเอง ก็เคยมีความคิดนี้ในหัวครับ จนกระทั่งได้ตกตะกอนหลายๆอย่าง และนั่งพิจารณาตามความเป็นจริงที่ประสบพบเจอ จนออกมาเป็นบทความที่จะพามา ปรับทัศนคติ และเพิ่มมุมมองของ พฤติกรรมของผู้ใหญ่ เด็ก และผู้ปกครองในบริบทของการแข่งขัน BEYBLADE X ซึ่งทางแอดมิน อยากจะเสนอไอเดียที่ว่า “การแข่งขันแบบ ไม่ออมมือกับเด็กๆ” เป็นแนวปฏิบัติที่เหมาะสมกว่า และเป็นประโยชน์ต่อพัฒนาการเด็กในหลายมิติครับ 1. เลิกได้เลิกนะ…ไอ้วัฒนธรรมความคิดในสังคมไทย: “ชนะเด็ก รังแกเด็ก ไม่สมเป็นผู้ใหญ่เอาซะเลย!” ทัศนคติที่พบได้ทั่วไปในสังคมไทย […]





























