ชื่ออังกฤษ : Fifty Shades Freed
แนว : ชีวิต / โรแมนติก / เรท ฉ 20+
ผู้กำกับ : James Foley
นักแสดง : ดาโกต้า จอห์นสัน, เจมี่ ดอร์แนน, เอโลอิส มัมฟอร์ด
กำหนดฉาย : 8 กุมภาพันธ์ 2018
Fifty Shades Freed เป็นผลงานภาพยนตร์ในลำดับที่สามของซีรีส์ Fifty Shades ที่สร้างมาจากนวนิยายขายดีของ E.L. Jamesนักเขียนหญิงชาวอังกฤษ ในภาคที่สามนี้ James Foley ยังคงรับหน้าที่เป็นผู้กำกับเหมือนที่ผ่านมา รวมไปถึงเขียนบทภาพยนตร์โดย Niall Leonard อำนวยการสร้างภาพยนตร์โดย Universal Pictures

มีกำหนดฉายจริงในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ปี 2018 นี้
เรื่องย่อ
เรื่องราวในภาคนี้ยังคงสานต่อจากสองภาคแรกที่ผ่านมา ซึ่งภาคนี้ “Anastasia Steele” นางเอกของเรื่องได้เข้าพิธีวิวาห์กับ Christian Grey ลูกชายของมหาเศรษฐีแห่งตระกูล Grey ผู้มั่งคั่ง
แต่ทว่าท่ามกลางความปรารถนาของ Anastasia อ่อนต่อโลกและความรักนั้น กลับมีเหตุการณ์บางอย่างที่นำพาเธอให้เข้าไปสู่วังวนที่อันตราย…
ส่วนเนื้อหาจะเป็นอย่างไรต่อนั้น… ต้องติดตาม Fifty Shades Freed บทสรุปส่งท้ายของหนังไตรภาคได้ในโรงภาพยนตร์…
นักแสดง
Dakota Johnson รับบทเป็น Anastasia Steele
นางเอกสาวที่เป็นนักศึกษาด้านวรรณกรรม ผู้ที่เชื่ออย่างสุดหัวใจว่า “รักแท้นั้น” มีอยู่จริง… เธอได้พยายามตามหาสิ่งนั้นจนได้มาพบกับ Christian Grey จนลงเอยที่ “การแต่งงานกัน” ในที่สุด
Jamie Dornan รับบทเป็น Christian Grey
พระเอกหนุ่มที่เป็นลูกชายของตระกูลมหาเศรษฐีที่เคยเชื่อว่า “ความรักก็คือเครื่องมือของความบันเทิงรูปแบบหนึ่ง” จนกระทั่งได้มาพบกับ Anastasia Steele ทำให้เขาได้ว่า “เธอคือรักที่แท้จริง” ที่ตามหาอยู่
Luke Grimes รับบทเป็น Elliot Grey
น้องชายของ Christian
Rita Ora รับบทเป็น Mia Grey
น้องสาวของ Christian
Trailer
Fifty Shades Freed มีกำหนดฉายในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ ปี 2018 นี้
==============================
Fifty Shades คือ??
Fifty Shades คือหนังสือนวนิยาย 3 จบ ประกอบด้วย Fifty Shadesof Grey, Fifty Shades Darker และ Fifty Shades Freed ที่มียอดขายดีจนติดอันดับหนึ่งของ New York Times Bestseller แต่งโดย E.L. James หรือชื่อจริงคือ Erika Mitchell นักเขียนหญิงชาวอังกฤษ กับยอดขายที่มากกว่า 100 ล้านเล่มทั่วโลก
โฉมหน้าของ E.L. James หรือ Erika Mitchell ผู้แต่งนวนิยายขายดีเรื่องนี้
Fifty Shades ถูกตีพิมพ์ในรูปแบบของหนังสือและรูปแบบ e-book รวมถึงถูกแปลเป็นภาษาต่างๆ มาแล้วทั่วโลกถึง 50 ภาษา รวมถึงภาษาไทยด้วยเช่นกัน
@Save สาย Pay
-
รางวัลสุดยอดเกมแห่งปี Game Awardsเปิดโผผู้เข้าชิง The Game Awards ทุกสาขาอย่างเป็นทางการ
-
Resident Evil 9 : Requiem [Preview / สั่งซื้อแผ่นเกม / ราคา / วันวางขาย]27 กุมภาพันธ์ 2026
-
BEYBLADE X : ผู้ใหญ่ vs เด็ก Mindset ที่ดี… “ใส่เต็มที่ มีประโยชน์ในด้านพัฒนาการเด็ก”เชื่อว่าตามงานแข่ง BEYBLADE X มีหลายครั้งที่เห็น ผู้ใหญ่ลงสนาม แล้วต้องไปเจอกับคู่ต่อสู้เป็นน้องๆเด็กๆ คงมี หลายคนคงแอบมีเสียงในหัวดังขึ้นมาแบบอัตโนมัติว่า “ถ้าชนะ เดี๋ยวก็โดนว่าเก่งแต่กับเด็ก… แต่ถ้าแพ้ก็จะถูกมองว่ากระจอกซะงั้น” ซึ่งเป็น Mindset แบบเดิมที่หลายคนยังติดอยู่ และจริงๆ มันค่อนข้าง “ผิดฝั่ง” กับความจริงของสนามเบย์เบลดพอสมควร การแข่งขันเบย์เบลด แม้จะถูกมองว่าเป็นกิจกรรมสำหรับเด็ก แต่ในความเป็นจริงแล้วเป็นพื้นที่เรียนรู้ทางสังคมที่เปิดโอกาสให้ผู้เล่นทุกวัยสามารถมีส่วนร่วมภายใต้กติกาเดียวกัน อุปกรณ์ใกล้เคียงกัน และโครงสร้างการแข่งขันที่บางรายการไม่มีการแบ่งแยกอายุ ซึ่งมันก็ส่งผลให้เกิดคำถามสำคัญในบริบทแบบไทยๆเราว่า “ผู้ใหญ่เนี่ย ควรแข่งขันเต็มที่กับเด็กขนาดนั้นเลยหรือเปล่า?” แม้แต่ตัวแอดมินผู้เขียนเอง ก็เคยมีความคิดนี้ในหัวครับ จนกระทั่งได้ตกตะกอนหลายๆอย่าง และนั่งพิจารณาตามความเป็นจริงที่ประสบพบเจอ จนออกมาเป็นบทความที่จะพามา ปรับทัศนคติ และเพิ่มมุมมองของ พฤติกรรมของผู้ใหญ่ เด็ก และผู้ปกครองในบริบทของการแข่งขัน BEYBLADE X ซึ่งทางแอดมิน อยากจะเสนอไอเดียที่ว่า “การแข่งขันแบบ ไม่ออมมือกับเด็กๆ” เป็นแนวปฏิบัติที่เหมาะสมกว่า และเป็นประโยชน์ต่อพัฒนาการเด็กในหลายมิติครับ 1. เลิกได้เลิกนะ…ไอ้วัฒนธรรมความคิดในสังคมไทย: “ชนะเด็ก รังแกเด็ก ไม่สมเป็นผู้ใหญ่เอาซะเลย!” ทัศนคติที่พบได้ทั่วไปในสังคมไทย […]







































