
ชื่อภาษาอังกฤษ : Fear The Walking Dead
ประเภท : ภาพยนตร์ (ซีรี่ย์)
แนว : สยองขวัญ/แอคชั่น
ผู้กำกับ : Dave Erickson
ผู้แต่ง : โรเบิร์ต เคิร์กแมน
ค่ายภาพยนตร์ : AMC
สวัสดีเพื่อนๆ ทุกคนนะครับและมาวันนี้ ผมจะมาแนะนำซีรี่ย์ ที่เราสมควรติดตามรับชมกันนะครับ โดยทางค่าย AMC ได้เริ่มมีการสานต่อความสำเร็จซีรีส์ซอมบี้สุดฮิต ผุดโปรเจคภาคแยก Fear The Walking Dead เผยเรื่องราวของโลกในช่วงก่อนเกิดเหตุวิกฤตซอมบี้ถล่มเมือง เติมเต็มเนื้อหาความเป็นมาตั้งแต่ต้นของ The Walking Dead ให้ครบถ้วนชวนติดตาม

และสำหรับการความเคลื่อนไหวครั้งล่าสุด ใน 10 มี.ค. ทางค่าย AMC ประกาศอย่างเป็นทางการแล้วครับว่า Fear The Walking Dead จะเริ่มออกอากาศซีซั่น 1 จำนวน 6 ตอน ในช่วงปลายซัมเมอร์ของอเมริกาน่าจะราวๆปลายเดือนสิงหาคมนี้ (ตามเวลาสหรัฐฯ) ซึ่งจะใกล้เคียงกับ The Walking Dead ซีซั่น 6 ที่เตรียมออนแอร์ในเดือนตุลาคม 2015 ส่วนภาคแยกซีซั่น 2 จะออกอากาศช่วงซัมเมอร์ปีหน้า(2016) โดยจะเพิ่มจำนวนเป็น 15 ตอน

Robert Kirkman ผู้เขียนการ์ตูน The Walking Dead ฉบับดั้งเดิม จะร่วมกันเขียนบทกับ Dave Erickson (ผู้สร้าง Sons of Anarchy) ผนึกกำลังกับทีมผู้สร้าง Gale Anne Hurd และ Dave Alpert ที่จะร่วมกันพัฒนาเรื่องราวเนื้อหาของซีรีส์ให้เข้มข้นไม่แพ้ The Walking Dead โดยจะเล่าเรื่องในช่วงเวลาที่ ริค กริมส์ (Rick Grimes) ประสบอุบัติเหตุนอนหมดสติไป และตื่นขึ้นมาในช่วงที่มีเหตุซอมบี้ระบาด ในภาคนี้ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นเหตุโลกาวินาศ เชื้อซอมบี้เพิ่งแพร่กระจาย ดังนั้นตัวซอมบี้จะยังคงสภาพเหมือนมนุษย์มาก ความดราม่าจะเกิดขึ้น เมื่อกลุ่มผู้รอดชีวิตต้องฆ่าซอมบี้ที่เป็นคนรู้จัก !

นอกจากนี้ Robert Kirkman เผยด้วยว่า “เนื้อเรื่องในภาคแยกจะเน้นประเด็นครอบครัวที่ยังไม่ได้นำเสนอใน The Walking Dead ขณะเดียวกันก็จะพยายามรักษาเอกลักษณ์แบบเดิมเอาไว้ แต่เรื่องราวต่างๆจะนำเสนอในมุมที่ต่างออกไปพร้อมกับตัวละครชุดใหม่ ฉากใหม่ๆ เหตุการณ์ใหม่ๆ รวมถึงอุปกรณ์ประกอบฉากใหม่ๆ”

“ในภาคแยกจะเป็นซีรีส์ภาคแยกที่มีความโดดเด่นในตัวเอง ผู้ชมสามารถดูซีรีส์ภาคนี้ได้อย่างสนุกและรู้เรื่องโดยที่ไม่จำเป็นต้องเคยดู The Walking Dead มาก่อน อันที่จริงเนื้อเรื่องในซีรีส์ภาคแยกนี้ ผมจะไม่เรียกว่า prequel เสียทีเดียว ในที่สุดแล้วภาคแยกจะดำเนินเรื่องควบคู่ไปพร้อมกับซีรีส์ภาคหลัก แต่จะไม่ซ้ำกัน บางอย่างจะไม่เจอในภาคหลัก แต่อาจมาเจอในภาคแยก แต่บางอย่างอาจไม่เจอในภาคแยก แต่ไปเจอในภาคหลัก หรืออาจเจอเหตุการณ์คล้ายคลึงกัน แต่นำเสนอกันในคนละมุม เป็นต้น นอกจากนี้จะมีเรื่องราวที่ Cross Over กันด้วย”

สำหรับโปรเจคภาคแยกนี้ ล่าสุด (30 มี.ค.) ประกาศชื่ออย่างเป็นทางการแล้วว่าคือ Fear the Walking Dead ที่จะเล่าเรื่องราวความเป็นมาของโลกก่อนที่จะเกิดวิกฤตซอมบี้ระบาดหนัก และเปิดเผยถึงสาเหตุการเกิดขึ้นของผีซอมบี้ ก่อนจะแพร่กระจายไปทั่วทั้งโลกจนเป็นดังเช่นในซีรีส์ The Walking Dead ขณะเดียวกัน เรื่องราววิกฤตการณ์ทั้งหมดจะเริ่มต้นขึ้นที่นครลอสแอนเจลิส สหรัฐฯ

ทางด้านตัวละครที่จะปรากฏในซีรีส์เรื่องนี้ มีดังนี้ Cliff Curtis จากซีรีส์ Gang Related มารับบท Travis Manawa คุณครูพ่อหม้ายพยายามทำสิ่งที่ถูกต้องแก่ทุกคน เขามีลูกที่ต้องร่วมดูแลกับอดีตภรรยาที่เลิกรากันไป

บทนักแสดงนำหญิงเป็นของ Kim Dickens ดาราสาวจากภาพยนตร์ Gone Girl และซีรีส์ Sons of Anarchy โดยเธอจะเข้ามารับบท Madison Clark หญิงแม่หม้ายลูกสอง ผู้มีอดีตคอยหลอกหลอน

Frank Dillane จากภาพยนตร์ Harry Potter and the Half-Blood Prince เข้ามารับบท Nick Clark ลูกชายของ Madison ที่มีปัญหาชีวิตติดยาเสพติด

Alycia Debnam Carey จากภาพยนตร์ Into the Woods รับบท Alicia Clark ลูกสาวของ Madison เธอคือสาวช่างฝันที่มีนิสัยตรงข้ามกับนิคโดยสิ้นเชิง

นอกจากนี้ยังมีทีมนักแสดงอื่นๆอีกมากมาย อาทิ Rubén Blades, Mercedes Mason, Colman Domingo, Lorenzo James Henrie, Toni French, Patricia Reyes Spíndola และ Sandrine Holt เป็นต้น แต่ละคนจะรับบทบาทใด รอติดตามกันอีกทีจ้า
เผยโฉมซอมบี้ Fear The Walking Dead





ตัวอย่างFear the Walking Dead
Admin : On The Rock
-
รางวัลสุดยอดเกมแห่งปี Game Awardsเปิดโผผู้เข้าชิง The Game Awards ทุกสาขาอย่างเป็นทางการ
-
Resident Evil 9 : Requiem [Preview / สั่งซื้อแผ่นเกม / ราคา / วันวางขาย]27 กุมภาพันธ์ 2026
-
BEYBLADE X : ผู้ใหญ่ vs เด็ก Mindset ที่ดี… “ใส่เต็มที่ มีประโยชน์ในด้านพัฒนาการเด็ก”เชื่อว่าตามงานแข่ง BEYBLADE X มีหลายครั้งที่เห็น ผู้ใหญ่ลงสนาม แล้วต้องไปเจอกับคู่ต่อสู้เป็นน้องๆเด็กๆ คงมี หลายคนคงแอบมีเสียงในหัวดังขึ้นมาแบบอัตโนมัติว่า “ถ้าชนะ เดี๋ยวก็โดนว่าเก่งแต่กับเด็ก… แต่ถ้าแพ้ก็จะถูกมองว่ากระจอกซะงั้น” ซึ่งเป็น Mindset แบบเดิมที่หลายคนยังติดอยู่ และจริงๆ มันค่อนข้าง “ผิดฝั่ง” กับความจริงของสนามเบย์เบลดพอสมควร การแข่งขันเบย์เบลด แม้จะถูกมองว่าเป็นกิจกรรมสำหรับเด็ก แต่ในความเป็นจริงแล้วเป็นพื้นที่เรียนรู้ทางสังคมที่เปิดโอกาสให้ผู้เล่นทุกวัยสามารถมีส่วนร่วมภายใต้กติกาเดียวกัน อุปกรณ์ใกล้เคียงกัน และโครงสร้างการแข่งขันที่บางรายการไม่มีการแบ่งแยกอายุ ซึ่งมันก็ส่งผลให้เกิดคำถามสำคัญในบริบทแบบไทยๆเราว่า “ผู้ใหญ่เนี่ย ควรแข่งขันเต็มที่กับเด็กขนาดนั้นเลยหรือเปล่า?” แม้แต่ตัวแอดมินผู้เขียนเอง ก็เคยมีความคิดนี้ในหัวครับ จนกระทั่งได้ตกตะกอนหลายๆอย่าง และนั่งพิจารณาตามความเป็นจริงที่ประสบพบเจอ จนออกมาเป็นบทความที่จะพามา ปรับทัศนคติ และเพิ่มมุมมองของ พฤติกรรมของผู้ใหญ่ เด็ก และผู้ปกครองในบริบทของการแข่งขัน BEYBLADE X ซึ่งทางแอดมิน อยากจะเสนอไอเดียที่ว่า “การแข่งขันแบบ ไม่ออมมือกับเด็กๆ” เป็นแนวปฏิบัติที่เหมาะสมกว่า และเป็นประโยชน์ต่อพัฒนาการเด็กในหลายมิติครับ 1. เลิกได้เลิกนะ…ไอ้วัฒนธรรมความคิดในสังคมไทย: “ชนะเด็ก รังแกเด็ก ไม่สมเป็นผู้ใหญ่เอาซะเลย!” ทัศนคติที่พบได้ทั่วไปในสังคมไทย […]


























