
ชื่อภาษาไทย : แฟนเดย์ แฟนกันแค่วันเดียว
ประเภท : ภาพยนตร์
แนว : โรแมนติก , ดราม่า
ผู้กำกับ : โต้ง บรรจง
ค่าย : GDH
REVIEW NO SPOIL BY METALBRIDGES
หากคนที่คุณแอบชอบ ที่ชีวิตนี้คุณไม่อาจจะใกล้ชิดกับเขาได้เลย เกิดความจำเสื่อมชั่วขณะ และพอพรุ่งนี้เช้าเมื่อเขาตื่นขึ้นมา เขาจะจำคุณไม่ได้ คุณจะทำอย่างไร…

การกลับมาอีกครั้งของค่าย GDH พร้อมประเดิมภาพยนตร์เรื่องแรกโดยพระเอกคู่บุญอย่าง เต๋อ ฉันทวิทย์ ธนะเสวี และนางเอกสาว มิว นิษฐา จิรยั่งยืน ที่โดดมาโลดแล่นบนแผ่นฟิล์มเรื่องแรก อีกทั้งทั้งได้ผู้กำกับมากฝีมืออย่าง คุณโต้ง บรรจง ปิสัญธนะกูล ที่เคยกำกับหนังรายได้หลายร้อยล้านอย่าง ภาพยนตร์กวนมึนโฮ และ พี่มาก…พระขโนง มาแล้วอีกด้วย

เรื่องย่อ
เด่นชัย หนุ่มพนักงานไอทีที่ไรตัวตน ไร้คนสนใจ เขาแอบหลงรัก นุ้ย สาวฮ็อตแผนกการตลาดที่มักเรียกใช้เด่นให้ซ่อมคอมอยู่เสมอ โดยที่เด่นได้แค่เจียมตัวว่าความรักของเขากับนุ้ยไม่มีทางเป็นไปได้ แต่แล้วโชคชะตา ก็เข้าข้างเด่นชัย เมื่อวันหนึ่งออฟฟิสของพวกเขาทั้งคู่ พาไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่นทั้งบริษัท ระหว่างที่อยู่ในฮอกไกโดนั้น นุ้ยกับเกิดประสบอุติเหตุท่ามกลางหิมะ ทำให้นุ้ยเป็น โรคTGA (Transient global amnesia) ทำให้ความจำของเธอเสื่อมไปชั่วขณะ เธอจะจำเหตุการณ์ก่อนหน้าไม่ได้ ซึ่งอาการนี้จะเป็นเพียงแค่ 1 วันและหลังจากคืนนี้เธอจะจำจดจำเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันนี้ไม่ได้ ทำให้เด่นชัย สวมรอยเป็นแฟนของเธอนั้นเอง
โดยภาพยนตร์แฟนเดย์ จะเข้าฉายให้เพื่อนๆเข้าชมกันได้ วันที่ 1 กันยายน 2556
ตัวละคร

เด่นชัย
หนุ่มพนักงานออฟฟิส ฝ่ายไอที ที่ดูไร้ตัวตน คนรอบข้างของเขามักจะมองข้าม และไม่มีใครจดจำในตัวของเขาได้ แม้กระทั่งวันเกิด มีเพียงแค่ เอสเอ็มเอสจากค่ายโทรศัพท์เท่านั้นที่จำวันเกิดของเข้าได้ รับบทโดย เต๋อ ฉันทวิทย์ ธนะเสวี

นุ้ย
พนักงานสาวแผนการตลาด นุ้ย เธอเป็นสาวร่าเริง ยิ้มแย้มตลอดเวลา แม้กระทั่งยามที่เธอเศร้า เธอมักจะกลบเกลือนด้วยร้อยยิ้มของเธอเสมอ ความฝันของเธอก็คือว่าสักครั้งหนึ่งในชีวิต เธอจะไปเทศกาลน้ำแข็งให้ได้ รับบทโดย มิว นิษฐา จิรยั่งยืน
ตัวอย่างภาพยนตร์
เบื้องหลังภาพยนตร์
เพลงประกอบภาพยนตร์
รีวิวภาพยนตร์ แฟนเดย์ แฟนกันแค่วันเดียว
ก่อนอื่น ขอชมก่อนเลยนะครับว่าฉากหลังในเมืองฮ็อกไกโดนั้นสวยงามมาก ผู้กำกับถ่ายทอดออกมาได้ดี การเล่าเรื่องก็เล่าได้สนุก แต่บางฉากก็หลุดธีมไปหน่อย ทำให้ความดูเรียลนั้นดูลดลง มุกในเรื่องก็มีปล่อยออกมาเหมือนกัน ถึงแม้จะไม่ขำทั้งเรื่อง แต่มุกที่ปล่อยออกมาก็ค่อนค่างจะขำจริงอะไรจริง
ในส่วนของการแสดงก่อนค่อนค่างดี แต่สำหรับส่วนของบทของพระเอก ที่ไม่ใช้ว่าเต๋อเล่นได้ไม่ดีนะ แต่มันดูเหมือนจริงจังกับบทเกินไป ในบางตอน บางฉากเลยทำให้หนังดูอึดอัดดูเครียด เกินไป ส่วนนางเอกของเรื่องก็ถือว่าผ่าน เล่นได้ดูสบายๆเป็นธรรมชาติ ส่วนบทของหนังดูปราณีตมีที่มาที่ไปค่อนค่างเก็บรายละเอียดได้ครบ ส่วนฉากโรแมนติกถือว่าทำได้เป็นอย่างดีครับ ส่วนตอนจบอาจจะตรงใจหรืออาจขัดใจหลายคน ก็ต้องไปติดตามชมในโรงภาพยนตร์นะครับ… ไม่เสียดายค่าตั๋วแน่นอนครับ



ขอขอบคุณรูปภาพและข้อมูลดีๆจาก GDH
by แอดมินน้องเบ้น
-
รางวัลสุดยอดเกมแห่งปี Game Awardsเปิดโผผู้เข้าชิง The Game Awards ทุกสาขาอย่างเป็นทางการ
-
Resident Evil 9 : Requiem [Preview / สั่งซื้อแผ่นเกม / ราคา / วันวางขาย]27 กุมภาพันธ์ 2026
-
BEYBLADE X : ผู้ใหญ่ vs เด็ก Mindset ที่ดี… “ใส่เต็มที่ มีประโยชน์ในด้านพัฒนาการเด็ก”เชื่อว่าตามงานแข่ง BEYBLADE X มีหลายครั้งที่เห็น ผู้ใหญ่ลงสนาม แล้วต้องไปเจอกับคู่ต่อสู้เป็นน้องๆเด็กๆ คงมี หลายคนคงแอบมีเสียงในหัวดังขึ้นมาแบบอัตโนมัติว่า “ถ้าชนะ เดี๋ยวก็โดนว่าเก่งแต่กับเด็ก… แต่ถ้าแพ้ก็จะถูกมองว่ากระจอกซะงั้น” ซึ่งเป็น Mindset แบบเดิมที่หลายคนยังติดอยู่ และจริงๆ มันค่อนข้าง “ผิดฝั่ง” กับความจริงของสนามเบย์เบลดพอสมควร การแข่งขันเบย์เบลด แม้จะถูกมองว่าเป็นกิจกรรมสำหรับเด็ก แต่ในความเป็นจริงแล้วเป็นพื้นที่เรียนรู้ทางสังคมที่เปิดโอกาสให้ผู้เล่นทุกวัยสามารถมีส่วนร่วมภายใต้กติกาเดียวกัน อุปกรณ์ใกล้เคียงกัน และโครงสร้างการแข่งขันที่บางรายการไม่มีการแบ่งแยกอายุ ซึ่งมันก็ส่งผลให้เกิดคำถามสำคัญในบริบทแบบไทยๆเราว่า “ผู้ใหญ่เนี่ย ควรแข่งขันเต็มที่กับเด็กขนาดนั้นเลยหรือเปล่า?” แม้แต่ตัวแอดมินผู้เขียนเอง ก็เคยมีความคิดนี้ในหัวครับ จนกระทั่งได้ตกตะกอนหลายๆอย่าง และนั่งพิจารณาตามความเป็นจริงที่ประสบพบเจอ จนออกมาเป็นบทความที่จะพามา ปรับทัศนคติ และเพิ่มมุมมองของ พฤติกรรมของผู้ใหญ่ เด็ก และผู้ปกครองในบริบทของการแข่งขัน BEYBLADE X ซึ่งทางแอดมิน อยากจะเสนอไอเดียที่ว่า “การแข่งขันแบบ ไม่ออมมือกับเด็กๆ” เป็นแนวปฏิบัติที่เหมาะสมกว่า และเป็นประโยชน์ต่อพัฒนาการเด็กในหลายมิติครับ 1. เลิกได้เลิกนะ…ไอ้วัฒนธรรมความคิดในสังคมไทย: “ชนะเด็ก รังแกเด็ก ไม่สมเป็นผู้ใหญ่เอาซะเลย!” ทัศนคติที่พบได้ทั่วไปในสังคมไทย […]


























