โดราเอมอน ตอน สงครามอวกาศจิ๋วของโนบิตะ 2021 (Nobita’s Little Star Wars 2021 のび太の宇宙小戦争 ) เป็นโดราเอมอนฉบับภาพยนตร์ ลำดับที่ 41 และเป็นภาพยนตร์ที่เป็นการฉลองครบรอบ 15 ปี โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์ปี 2005 นับตั้งแต่ ไดโนเสาร์ของโนบิตะ เดอะมูฟวี่ 2006 และเป็นภาพยนตร์เรื่องที่ 2 ของโดราเอมอนฉบับภาพยนตร์ปี 2005 ที่ใช้เลขปีต่อท้ายชื่อภาพยนตร์เพื่อเป็นการบ่งบอกว่าเป็นภาพยนตร์ฉบับรีเมค โดยเรื่องแรกที่ใช้เลขปีต่อท้ายคือ ไดโนเสาร์ของโนบิตะ เดอะมูฟวี่ 2006
ภาพยนตร์ชุดนี้ถือเป็นการนำ โดราเอมอน ตอน สงครามอวกาศ จากปี 1985 (เมื่อ 37 ปีที่แล้ว) กลับมาสร้างใหม่อีกครั้ง ซึ่งภาพยนตร์รีเมคได้ห่างหายไปเป็นเวลา 6 ปี นับตั้งแต่ตอน โนบิตะกำเนิดญี่ปุ่น 2016 ออกเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ และยังเป็นภาพยนตร์โดราเอมอนเรื่องแรกที่ได้ฉายในระบบเสียง ดอลบี แอทมอส (Dolby Atmos) ในประเทศญี่ปุ่นทั้งหมด 11 โรงภาพยนตร์ใน 10 จังหวัดทั่วประเทศญี่ปุ่น
เรื่องราวของโดราเอมอนภาคนี้ เริ่มจากโนบิตะได้พบกับ พาพิ ประธานาธิบดีของดาวพิริก้า ที่ดวงดาวแห่งนั้นเกิดการกบฏขึ้นทำให้ต้องหนีมาโลก แต่กลุ่มกบฏก็ยังตามมาแล้วจับตัวซิซุกะไปเป็นตัวประกัน ทำให้พาพิต้องใช้ตัวเองแลกกับตัวซิซุกะ พวกกลุ่มเด็กทั้ง 5 จึงต้องออกเดินทางไปดวงดาวพิริก้าเพื่อช่วยพาพิและปกป้องดวงดาวพิริก้าให้รอดปลอดภัย…
ในเรื่องเวอร์ชั่นดั้งเดิม จะสอดแทรกแนวคิด ที่สะท้อนถึงผลเสียของสงคราม ความขัดแย้ง และสอนเด็กๆที่ได้รับชมว่า การเจรจาด้วยสันติ คือทางออกที่ดีที่สุด
เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ได้ประกาศกำหนดออกฉายของภาพยนตร์นี้ในประเทศไทย โดยมีกำหนดฉายในวันที่ 6 ตุลาคม 2022 ลิขสิทธิ์ภาพยนตร์โดยเอ็ม พิคเจอร์
-
รางวัลสุดยอดเกมแห่งปี Game Awardsเปิดโผผู้เข้าชิง The Game Awards ทุกสาขาอย่างเป็นทางการ
-
Resident Evil 9 : Requiem [Preview / สั่งซื้อแผ่นเกม / ราคา / วันวางขาย]27 กุมภาพันธ์ 2026
-
BEYBLADE X : ผู้ใหญ่ vs เด็ก Mindset ที่ดี… “ใส่เต็มที่ มีประโยชน์ในด้านพัฒนาการเด็ก”เชื่อว่าตามงานแข่ง BEYBLADE X มีหลายครั้งที่เห็น ผู้ใหญ่ลงสนาม แล้วต้องไปเจอกับคู่ต่อสู้เป็นน้องๆเด็กๆ คงมี หลายคนคงแอบมีเสียงในหัวดังขึ้นมาแบบอัตโนมัติว่า “ถ้าชนะ เดี๋ยวก็โดนว่าเก่งแต่กับเด็ก… แต่ถ้าแพ้ก็จะถูกมองว่ากระจอกซะงั้น” ซึ่งเป็น Mindset แบบเดิมที่หลายคนยังติดอยู่ และจริงๆ มันค่อนข้าง “ผิดฝั่ง” กับความจริงของสนามเบย์เบลดพอสมควร การแข่งขันเบย์เบลด แม้จะถูกมองว่าเป็นกิจกรรมสำหรับเด็ก แต่ในความเป็นจริงแล้วเป็นพื้นที่เรียนรู้ทางสังคมที่เปิดโอกาสให้ผู้เล่นทุกวัยสามารถมีส่วนร่วมภายใต้กติกาเดียวกัน อุปกรณ์ใกล้เคียงกัน และโครงสร้างการแข่งขันที่บางรายการไม่มีการแบ่งแยกอายุ ซึ่งมันก็ส่งผลให้เกิดคำถามสำคัญในบริบทแบบไทยๆเราว่า “ผู้ใหญ่เนี่ย ควรแข่งขันเต็มที่กับเด็กขนาดนั้นเลยหรือเปล่า?” แม้แต่ตัวแอดมินผู้เขียนเอง ก็เคยมีความคิดนี้ในหัวครับ จนกระทั่งได้ตกตะกอนหลายๆอย่าง และนั่งพิจารณาตามความเป็นจริงที่ประสบพบเจอ จนออกมาเป็นบทความที่จะพามา ปรับทัศนคติ และเพิ่มมุมมองของ พฤติกรรมของผู้ใหญ่ เด็ก และผู้ปกครองในบริบทของการแข่งขัน BEYBLADE X ซึ่งทางแอดมิน อยากจะเสนอไอเดียที่ว่า “การแข่งขันแบบ ไม่ออมมือกับเด็กๆ” เป็นแนวปฏิบัติที่เหมาะสมกว่า และเป็นประโยชน์ต่อพัฒนาการเด็กในหลายมิติครับ 1. เลิกได้เลิกนะ…ไอ้วัฒนธรรมความคิดในสังคมไทย: “ชนะเด็ก รังแกเด็ก ไม่สมเป็นผู้ใหญ่เอาซะเลย!” ทัศนคติที่พบได้ทั่วไปในสังคมไทย […]






























