ส่งตรงความฟินจากประเทศญี่ปุ่น
2 นักแสดง เอย์จิ อากะโสะ x เคตะ มาจิดะ
พูดภาษาไทย “ สวัสดีครับคุณแม่ “ ชวนคนไทย
ไปดู CHERRY MAGIC THE MOVIE ถ้า 30 ยังซิงจะมีพลังวิเศษ ในโรงภาพยนตร์
จากมังงะ Boy’s Love สุดฮิต ของ อ. ยู โทโยตะ ที่ขายได้มากกว่า 2 ล้านก๊อปปี้ ได้กลายมาเป็นซีรีส์ที่สร้างปรากฏการณ์ไปทั่วเอเชียเรื่องราวของ อาดาจิ วัย 30 ปี ที่ไม่ค่อยมีความมั่นใจในตัวเอง ม่กล้าที่จะเข้าหาใคร จนกระทั่งวันที่เขาอายุครบ 30 ปี จู่ ๆ ก็มีพลังวิเศษที่ว่าเมื่อแตะต้องตัวใครจะรู้ถึงจิตใจคนคนนั้นได้ซึ่งพลังนี้เขาได้รับรู้ว่าคุโรซาว่า หนุ่มสุดหล่อจากแผนกเซลส์ของบริษัทแอบหลงรักเขาแบบคลั่งรักสุดๆ จนทั้งคู่ตัดสินใจคบกัน ความจิ้นฟินถูกสานต่อเป็นซีรีส์สุดฮิตที่แม้ว่าจะผ่านมาเป็นเวลาเกือบ 2 ปีแล้ว แต่ความนิยมใน Cherry Magic ก็ยังไม่ลดลงและได้เวลาของ Cherry Magic The Movie ถ้า 30 ยังซิงจะมีพลังวิเศษ ฉบับภาพยนตร์แล้ว
ภาพยนตร์เล่าเรื่องราวต่อจากซีรีส์ความรักที่เพิ่งเริ่มต้นขึ้นของอาดาจิ และคุโรซาว่า ที่กำลังอยู่ในช่วงข้าวใหม่ปลามัน แต่ก็ต้องเจอกับอุปสรรคเมื่ออาดาจิ ได้รับตำแหน่งใหม่ทำให้ต้องย้ายไปทำงานที่นางาซากิ ที่ทำให้พวกเขาต้องห่างไกลกันถึง 1,200 กิโลเมตร ความรักที่ต้องเลือกระหว่างการก้าวหน้าในอาชีพการงาน และการอยู่กับคนที่รัก พวกเขาจะก้าวข้ามผ่านอุปสรรคนี้ไปอย่างไร ต้องติดตาม
หนังได้ 2 นักแสดงที่กลายมาเป็นคู่จิ้นฟินนอกจอ เอย์จิ อากะโสะ หนุ่มสุดน่ารัก มารับบทเป็น คิโยชิ อาดาจิ เคตะ มาจิดะ รับบทเป็น ยูอิจิ คุโรซาว่า พ่อหนุ่มไมโครเวฟ ที่คลั่งรักแบบไม่หวั่นระยะทาง โดย 2 หนุ่มได้ส่งคลิปพิเศษจากญี่ปุ่นทักทายแฟนๆชาวไทยด้วยภาษาไทยว่า “ สวัสดีครับคุณแม่ ผมน้องเอจิ ผมพี่เคตะ ดีใจมากๆที่ ภาพยนตร์เรื่องนี้จะได้ฉายในไทย หวังว่าทุกคนจะมีความสุขที่ได้ชมภาพยนตร์เรื่องนี้ รักนะครับ แล้วพบกัน 13 กรกฎาคม ในโรงภาพยนตร์ “
CHERRY MAGIC THE MOVIE ถ้า 30 ยังซิงจะมีพลังวิเศษ
13 กรกฎาคม ในโรงภาพยนตร์
-
รางวัลสุดยอดเกมแห่งปี Game Awardsเปิดโผผู้เข้าชิง The Game Awards ทุกสาขาอย่างเป็นทางการ
-
Resident Evil 9 : Requiem [Preview / สั่งซื้อแผ่นเกม / ราคา / วันวางขาย]27 กุมภาพันธ์ 2026
-
BEYBLADE X : ผู้ใหญ่ vs เด็ก Mindset ที่ดี… “ใส่เต็มที่ มีประโยชน์ในด้านพัฒนาการเด็ก”เชื่อว่าตามงานแข่ง BEYBLADE X มีหลายครั้งที่เห็น ผู้ใหญ่ลงสนาม แล้วต้องไปเจอกับคู่ต่อสู้เป็นน้องๆเด็กๆ คงมี หลายคนคงแอบมีเสียงในหัวดังขึ้นมาแบบอัตโนมัติว่า “ถ้าชนะ เดี๋ยวก็โดนว่าเก่งแต่กับเด็ก… แต่ถ้าแพ้ก็จะถูกมองว่ากระจอกซะงั้น” ซึ่งเป็น Mindset แบบเดิมที่หลายคนยังติดอยู่ และจริงๆ มันค่อนข้าง “ผิดฝั่ง” กับความจริงของสนามเบย์เบลดพอสมควร การแข่งขันเบย์เบลด แม้จะถูกมองว่าเป็นกิจกรรมสำหรับเด็ก แต่ในความเป็นจริงแล้วเป็นพื้นที่เรียนรู้ทางสังคมที่เปิดโอกาสให้ผู้เล่นทุกวัยสามารถมีส่วนร่วมภายใต้กติกาเดียวกัน อุปกรณ์ใกล้เคียงกัน และโครงสร้างการแข่งขันที่บางรายการไม่มีการแบ่งแยกอายุ ซึ่งมันก็ส่งผลให้เกิดคำถามสำคัญในบริบทแบบไทยๆเราว่า “ผู้ใหญ่เนี่ย ควรแข่งขันเต็มที่กับเด็กขนาดนั้นเลยหรือเปล่า?” แม้แต่ตัวแอดมินผู้เขียนเอง ก็เคยมีความคิดนี้ในหัวครับ จนกระทั่งได้ตกตะกอนหลายๆอย่าง และนั่งพิจารณาตามความเป็นจริงที่ประสบพบเจอ จนออกมาเป็นบทความที่จะพามา ปรับทัศนคติ และเพิ่มมุมมองของ พฤติกรรมของผู้ใหญ่ เด็ก และผู้ปกครองในบริบทของการแข่งขัน BEYBLADE X ซึ่งทางแอดมิน อยากจะเสนอไอเดียที่ว่า “การแข่งขันแบบ ไม่ออมมือกับเด็กๆ” เป็นแนวปฏิบัติที่เหมาะสมกว่า และเป็นประโยชน์ต่อพัฒนาการเด็กในหลายมิติครับ 1. เลิกได้เลิกนะ…ไอ้วัฒนธรรมความคิดในสังคมไทย: “ชนะเด็ก รังแกเด็ก ไม่สมเป็นผู้ใหญ่เอาซะเลย!” ทัศนคติที่พบได้ทั่วไปในสังคมไทย […]





























