Call of Duty : Modern Warfare [Review / PS4 / PC / XboxOne / Reboot]

Call of Duty : Modern Warfare [Review / PS4 / PC / XboxOne / Reboot]

ประเภท : FPS / Military Sim
ผู้พัฒนา : Activition
เครื่อง : PS4 / PC / XboxOne 
วางจำหน่าย : 25 ตุลาคม 2019

อ่านสรุปเนื้อเรื่อง ไตรภาค Modern Warfare ก่อนรีบู้ต  คลิก

 

หลังจากที่รอลุ้นกันตัวเกร็ง กับการมาของ Call of Duty ประจำปีนี้ หลายข่าวลือ หลายสำนักก็คาดเดาไปต่างๆนาๆว่าจะเป็นภาคใหม่ ภาคต่อ หรือสงครามย้อนยุค อนาคต อวกาศ บลาๆๆๆ ตอนนี้ทุกอย่างชัดเจน เพราะ “กัปตันไพรซ์” มาแล้ว!! กับเกมที่ว่ากันว่า เนื้อเรื่องดีที่สุด ละเมียดงดงาม  ทรงพลังราวกับดูหนังแอคชั่นฮอลลีวู้ด ใน Call of Duty : Modern Warfare

 

 

 ————————————————————————————

 

 

เกมนี้คือ!?

Call of Duty : Modern Warfare เป็นผลงานการReboot แฟรนไชส์ COD:MW ให้ทันสมัยมากขึ้น จากทาง Infinity Ward โดยทีมงานได้กล่าวว่าพวกเขาต้องการสร้าง Modern Warfare ที่เกี่ยวข้องและเป็นปัจจุบัน นั่นหมายถึง“ โลกสีเทาทางศีลธรรม” ที่ร่วมสมัย โดยคุณ “เทย์เลอร์ คุโรซากิ” ผู้อำนวยการเล่าเรื่องในสตูดิโอของ Infinity Ward กล่าวถึงภาครีบู้ตนี้ว่า “หลังจบ Modern Warfare 3แล้ว โลกสงบสุข ไร้สงครามนิวเคียร์ ทุกอย่างจบลง อเมริกาไร้ความน่าเชื่อถือ รัสเซียบุกถล่ม เราไม่อยากเดิมพันกับพล๊อตที่เริ่มตันแล้ว  ดังนั้นเราจึงวางโครงเรื่องนั้นลง แล้วคิดทบทวนให้ตัวละครเหล่านั้นกลับมาใหม่เพื่อให้พวกเขาสามารถทำงานภายใต้ความขัดแย้งร่วมสมัย ซึ่งโลกที่เราอาศัยอยู่นี้ มันซับซ้อนกว่าเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ปัจจุบันศัตรูมักจะไม่สวมเครื่องแบบ … ดังนั้นความเสียหายที่มาในคราบของพลเรือนจึงเป็นส่วนสำคัญของการทำสงครามสมัยใหม่นี้ “

 

 

 

   

————————————————————————————

 

 

รีวิว 9/10 Rank A

เนื้อเรื่อง 2/3 , เกมเพลย์ 3/3 , งานภาพ 3/3 , ความชอบ 1

ตีความใหม่! ในยุคใหม่ ทรงพลัง แต่ยังไม่สะใจเท่าของเก่า

 

การมาของซีรี่ส์ COD MW เมื่อหลายปีก่อน ในยุคที่ใครๆก็จะไปล่าแต่ฮิตเลอร์ ฝ่าดงทหารนาซีกัน แต่มีเกมนี้ที่กล้าฉีกมาทำสงครามสมัยปัจจุบันอย่างชัดเจน ด้วยเนื้อหาที่ใกล้ตัว คุ้นตา แล้วเอามาเล่นใหญ่ในสเกล Mission Impossible ผสมกับ ภาพในอนาคตที่โลกจะเข้าสู่ยุคสงครามโลกครั้งที่สาม ทำให้ภาพจำของซีรี่ส์ CODMW เป็นเกมที่ลงตัวในด้านงานศิลป์ เนื้อหา และเกมเพลย์

 

ซึ่งมาในภาคนี้ ว่ากันตรงๆ เนื้อเรื่องยังพาไปให้ถึงจุดที่เล่นใหญ่จนขนลุกนั้นยังทำไม่ได้ดีเท่า…แต่ข้อดีคือ ตัวเกมจะพาเราไปทำความรู้จักตัวละครในเกม ผ่านการเล่าเรื่องสลับกันในแต่ละช่วงเวลา แล้วเอามาเรียงเนื้อเรื่องเป็นเรื่องเดียวได้ 

 

“เราทำงานสกปรก เพื่อให้โลกสะอาด…นั่นละ งานของเรา”

–กัปตัน จอนห์ ไพรซ์–

 

ตัวเกมยังคงใช้วิธีการเล่าเรื่องแบบสงครามต่อต้านการก่อการร้าย แต่ลดสเกลลงมา ทำให้เนื้อหาโดยรวมของ CODMW2019 จะต่างจาก CODMW เก่าอย่างชัดเจน จะลดความเป็นภาพยนตร์ระเบิดเขาเผากระท่อมสุดขี้โม้ลง แล้วเกมพยายามใส่ภาพของความกดดัน ความเครียด และดราม่าใส่มาแทน ซึ่งก็ทำได้ดีในสเกล “หน่วยงานลับ” มากกว่า “หน่วยรบพิเศษกู้โลก” ตัวเกมชูภาพความโหดร้ายของสงครามกลางเมือง ความสูญเสียจากการก่อการร้ายได้สมจริงมากๆ ตัวบทมีความเทาๆในด้านจริยธรรมตัวละคร กัปตันไพรซ์ ไม่ได้เป็นฮีโร่จ๋าขนาดในไตรภาคเก่า ฝั่งพระเอกอย่าง Gaz ก็ตั้งคำถามกับกัปตันบ่อยครั้งถึงความถูกต้อง ตัวร้ายของภาคนี้บางตัวก็มีเหตุผลในการกระทำ และ บางตัวก็ร้ายแบบดำปี๋เลย ชั่วบริสุทธิ์ สุดโต่งเลยก็มีด้วยอีกเช่นกัน แต่ทั้งหมดทั้งมวล ทำออกมาลงตัว และสมเหตุสมผลซะงั้น

 

 

 ในส่วนของเกมเพลย์ ในภาคนี้ต้องขอขอบคุณทีมงานที่กลับมาใช้ธีมของยุคปัจจุบัน ทำให้เกมเมอร์อายุเยอะที่ตามการวิ่งไต่ตึก เวียนหัวกับมุมกล้องปีนกำแพงวิ่งสไลด์แบบยอดมนุษย์ไม่ไหว ได้กลับมาจับต้องได้…ซึ่งเมื่อตัดฟังก์ชั่นล้ำๆออกไปแทบทั้งหมด เราก็จะได้เกมมัลติเดินหน้ายิงสไตล์ Counter Strike ที่มีแมปกว้างๆ และรายละเอียดการแต่งปืนที่เยอะสิ่ง แต่งไปแต่งมากลายเป็นปืนอวกาศเลยก็มี 555+

 

โหมด Ground War ยึดจุด ABC ทีมีแมปกว้างพร่อมจรัย!!

 

โหมดเดิมๆสำหรับสาวกเดนตาย COD เองก็มีมาให้ได้เล่นกันเหมือนเดิม แต่ก็จะเสริมความสะใจเป็นทวีคูณ กับ  โหมด Ground War  รองรับผู้เล่นถึง 64 คน บนแผนที่ขนาดยักษ์ กฎก็คือโหมดไล่ยึดจุด ABC (เหมือนใน CODM นั่นละ ขออธิบายเอาแบบเข้าใจง่ายๆ) เพียงแต่จุดยึดมันจะมี A B C D E ซึ่งมีผลต่อการปั่นแต้มในแต่ละวินาทีด้วย และโหมดนี้หรรษามากสำหรับนักแค้มป์ยอดตึก นักบินมือสมัครเล่น ไปจนถึงพลยิงรถถังที่ชื่นชอบความสะใจ เพราะมียานพาหนะให้ได้ใช้แบบจัดเต็ม ใครอยากขี่อะไร จัดไป! 

 

หรือถ้าข้องใจ อยากจบเร็ว วัดสกิลเพลย์เน้นๆ เนื้อๆ จัดไปกับโหมด Gun Fight แบ่งฝั่งละ 2 คน ไล่บวกกันด้วยอาวุธที่เกมสุ่มออกมาให้ได้ใช้กัน ใครจบ5รอบก่อน ชนะ รวมไปถึงโหมดวางระเบิดอย่าง Cyber Attack ก็ทำออกมาเข้าใจง่าย ตายแล้วชุบชีวิตเพื่อนได้ จะไล่ฆ่ายกทีม จะเนียนไปวางบอมบ์แล้วตั้งแค้มป์  ก็ทำได้เลย เพราะโหมดนี้ทำมา รองรับผู้เล่นที่มีสไตล์การเล่นทุกแบบจริงๆ 

 

ในส่วนของแผนที่ภายในเกม สามารถอธิบายเป็นคำจำกัดความว่า “ไม่ชอบ ก็โคตรเกลียดเลย” เพราะมันไม่ได้มีความพอดีใดๆเลยนั่นเอง บางแผนที่ โคตรกว้าง กว้างเป็นรอง Battlefield แต่ให้สุ่มออกมาเล่น Deathmatch ชาตินึงกว่าจะหากันเจอ อ่อ แล้วเท่าที่ลองเล่นมาได้ซักพัก จะพบว่าการดวลปืนค่อนข้างเร็วก็จริง ยิงกันนัดสองนัดรู้เรื่อง แต่ Flow เกมช้ามาก เกมนึงน่าจะใช้เวลาคร่าวๆ ราวๆ 10-20 นาทีต่อเกม วิ่งวนหากันนี่แหละ

 

 

ยิงจากตึก 10 ชั้นแบบเนียนๆ ใส่ปลอกเก็บเสียงด้วย 555+

 

และส่วนใหญ่ฉากมันเอื้อต่อการทำตัวเป็นนักซุ่มยิง มากกว่าการวิ่งปะทะกันตรงๆ เพราะมีซอกหลืบเหลี่ยมคม ห้องต่างๆ ทำให้เกิดวลีแซวเกมนี้ว่า “Call of Camper : Camping Warfare” คือมันจะมีผู้เล่นที่ทำตัวนั่งซุ่มรอให้ศัตรูเดินผ่านแล้วหรอยเก็บทีละตัว พวกวิ่งวน ตื่นสนาม ถ้าปืนไม่แรง จังหวะไม่แม่น ลั่นกระสุนช้ากว่า เสร็จนักแค้มป์หมดแน่ๆ 555+

 

 

ส่วน Co-Op ใครที่ชอบอะไรที่มันบู๊ล้างผลาญสะใจบ้าพลัง อันนี้ตอบโจทย์ เพราะศัตรูจะขนกองทัพมาไล่ถล่มผู้เล่นแบบมืดฟ้ามัวดิน ใส่ยับจัดเต็มตลอด จำนวนพวกมันไม่ต่างกับซอมบี้ในโหมด Zombie เลย เผลอๆเยอะกว่าด้วย ตึงมือ เครียด และมันส์มาก ใครที่คิดว่าจะรวมทีมกับเพื่อนมายิงบอทโง่ๆแล้วจบเกมไปวันๆล่ะก็คุณคิดผิดอย่างมากเลยล่ะ…

 

ส่วนการควบคุม ระบบ Crossplay ทำออกมาชัดเจนดีครับ เครื่อง PS4 ต่อเม้าส์คีย์บอร์ด ก็เจอกับชาว PC ได้ เซิฟเวอร์ของเกมทำออกมาดี ไม่มีอาการหลุดให้เห็น (ในกรณี PS4 นะครับ) 

 

 

งานภาพคือส่วนที่มีทั้งจุดที่ประทับใจมากๆ กับ แอบเซ็งเล็กน้อย แต่มาบวกลบกันแล้วออกมาในทางดีมากกว่า งานภาพในภาคนี้ แสง เงา หลายๆอย่างทำออกมาดีมากๆ แต่ใน PS4 อาจจะดรอปลงไปบ้าง แต่ถ้าใครเล่นบน PC บอกเลยว่าสุดจัดถ้าการ์ดจอเปิดโหมด RTX นี่คือสุดพลังมาก แต่ปัญหาชวนหงุดหงิดเล็กน้อยอย่างอาการโหลด Texture ใน PS4 เจอบ่อยมาก ในซีนที่เป็นรอยต่อของ Movie กับเกมเพลย์ ส่วนของ PC เท่าที่ถามมิตรสหายสาย PC ก็พบว่ามีปัญหาทางเทคนิคยิบย่อย ทั้งการแครชของเกมที่เล่นแล้วก็เด้งมาแบบงงๆ  บั๊กกราฟฟิกอีกนิดหน่อย รวมไปถึง UI ที่ขาดๆเกินๆในช่วงสวมชุด Juggernuat  

 

ที่เด็ดที่สุดก็คือ ระบบเสียง Dolby ATMOS เต็มรูปแบบ พร้อมกับเอฟเฟกต์การจำลองเสียงล่าสุดลงไปในเกม  เสียงปืนไม่ป๊อกแป๊กเหมือนภาคก่อนๆที่โดนคำครหาว่าแบนเรียบไม่เร้าใจ บอกเลยว่าภาคนี้ ขี้หูสะเทือน เสียงปืนเน้นๆ แน่นตั้บๆ สมกับที่โปรโมทไว้ไม่เกินจริง! 

 

สรุป CODMW2019 ยังไม่ใช่ภาคที่ดีที่สุดถึงขั้นโค่นบารมีเก่าไตรภาคเดิมได้ในแง่เนื้อหา แต่เชื่อว่าหลังจากภาคนี้ ความพีคมาแน่นอนเพราะปูทางไว้แล้ว!

ส่วนเกมเพลย์มัลติฯสนุกสะใจ หัวร้อนหัวไหม้ ไม่ได้หลับนอนมาสองสามวันแล้วเนี่ย

การันตี เกมดี น่าหวดมาเล่นครับ!!

 

 

แอดมินAK47

 

 

 

—————————————–

 

 

 

สปอยล์เนื้อเรื่อง

ในปี 2019 ในระหว่างการปฏิบัติการลับเพื่อกู้คืนการขนส่ง Chlorine Gas ก๊าซเคมีอันตรายที่มุ่งหน้าไปยัง Urzikstan โดยฝีมือของนายพล Barkov (บาร์คอฟ) ทำให้อเมริกาต้องส่งเจ้าหน้าที่ Alex (อเล็กซ์) มือดีจากทาง CIA เข้าไปเก็บกุ้ และหาข้อมูลเพิ่มเติม แต่ก็ถูกจับโดยศัตรูที่ไม่รู้จัก (และไม่ใช่ฝ่ายรัสเซีย) และได้ลงมือฆ่าหน่วยนาวิกที่มาพร้อมกับ อเล็กซ์ ทั้งทีม และหลบหนีไปพร้อมกับก๊าซดังกล่าว 

 

 

Kate Laswell (เคท ลาสเวล)หัวหน้าฐานจ่ายงานใน Urzikstan ได้ทราบถึงภารกิจที่ล้มเหลว พร้อมกับถูกเบื้องบนบีบให้จบภารกิจนี้โดยไว เพราะถ้าโลกรู้ว่าอเมริกามีเอียวกับการทำให้อาวุธเคมีรั่วไหลและถูกนำไปใช้ในสงคราม เครดิตของประเทศเสียหายในเวทีโลกแน่นอน ตอนนี้เธอต้องการมือดีขั้นสุดเท่าที่เธอรู้จัก “กัปตันไพรซ์” จากหน่วย S.A.S. ประเทศอังกฤษ คือตัวเลือกสุดท้ายให้เข้ามาสืบหาสารเคมีดังกล่าว และประจวบเหมาะกับสายข่าวรายงานว่าจะมีการขู่การก่อการร้ายของกลุ่ม Al-Qatala ก็เป็นที่น่าสงสัย เพราะพื้นเพของคนกลุ่มนี้ส่วนมากก็มาจากชาว Urzikstan …

 

24 ชม.ต่อมา กลุ่มก่อการร้าย Al-Qatala เข้าโจมตี Piccadilly Circus ในลอนดอนตามที่เคยขู่ไว้จริงๆ จ่า Kyle Garrick (ไคล์ แกร์ริค หรือ แก๊ซ -GAZ) หน่วย SAS  ถูกส่งตัวเพื่อเข้าระงับเหตุการณ์  แต่ช้าไป ระเบิดเริ่มทำงานแล้ว และยังมีเหตุกราดยิงในพื้นที่ ทำให้ประชาชนที่ไม่รู้เรื่องต้องตาย พวกนี้ไม่ได้ใช้วิธีรบทางทหาร มันคือการก่อการร้ายที่โหดเหี้ยมเกินว่าใครจะรับได้ แม้แต่ ไคล์ ก็ตาม…แต่ว่ากัปตันไพรซ์เห็นแล้วว่าตัวเขายังมีข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการสืบหาต้นตอความเลวร้ายนี้ได้ จึงชวนให้ไคล์ติดตามกัปตันไพรซ์ไปหาความจริงเรื่องนี้

 

ในขณะเดียวกัน อเล็กซ์ ได้รับข้อมูลให้ไปพบกับ  Farah Karim (ฟารา คาริม) ผู้นำฝ่ายกบฏของ Urzikstan โดยมีเงื่อนไขว่าเขาจะได้รับเบาะแสของก๊าซพิษที่อยู่ในมือรัสเซีย แต่ก็ต้องอยู่ช่วย กองกำลังต่อต้านเข้าสู้รบกับกองกำลังของรัสเซียที่ยึดครอง Urzikstan อยู่

 

 

กลับมาที่อังกฤษ ทางกองกำลัง SAS นำโดย ไพรซ์และไคล์ บุกโจมตีทาวน์เฮาส์ที่เป็นแหล่งกบดานของกลุ่มก่อการร้าย Al-Qatala หลังจากที่เคลียร์พื้นที่ได้ กัปตันไพรซ์ และไคล์ ก็รู้ว่า Omar “WOLF” Sulaman (โอมาร์ สุลามาน ฉายา วูลฟ์) เป็นผู้นำ และได้เบาะแสเพิ่มเติมด้วยว่าเขากบดานอยู่ในโรงพยาบาล Ramaza ที่ตั้งใน Urzikstan  จึงส่งข่าวไปให้อเล็กซ์ ซึ่งก็ได้ประสานงานขอความร่วมมือกับนาวิกโยธิน จ่า Griggs หัวหน้าทีม Demon Dogs เข้าลุยภารกิจนี้ จบลงที่พวกเขาสามารถจับตัว วูลฟ์ ได้ และคุมตัวไปยังสถานทูตอเมริกา ใน Urzikstan แต่เขาก็ไม่ยอมปริปากเรื่องที่ซ่อนอาวุธเคมีนั่นเลยแม้แต่น้อย

 

 

 

แต่ความวุ่นวายโกลาหลครั้งใหญ่ได้เริมขึ้น เมื่อมือขวาของวูล์ฟอย่าง “Jamal “The Butcher” Rahar” (จามาล ราฮา หรือ บุชเชอร์) ได้นำกองทัพและชาวบ้านมาร่วมกันก่อเหตุประท้วง และบานปลายไปจนถึงขั้นพังสถานทูต บุกเข้าทำลายทรัพย์สิน ฆ่าเจ้าหน้าที่อย่างไม่ปราณี สถานทูตในเวลานี้คือขุมนรกคนคลั่งไปแล้ว…กัปตันไพรซ์ ไคล์ อเล็กซ์ ฟารา ต้องรวมพลังกันเพื่อปกป้องเบาะแสสำคัญนี้ให้ได้ …(ฉากนี้เอามาจากหนังเรื่อง 13 ทหารลับเบงกาซี ของไมเคิล เบย์เลย โคตรมันส์!)

 

แต่สุดท้าย วูลฟ์ก็ถูกพาหนีออกไปจนได้ ทำให้ในเวลาต่อมา ฟารา มีแผนจะซุ่มโจมตีเส้นทางหลบหนีวูลฟ์ บน “Tariq Almawt” หรือ “ทางหลวงแห่งความตาย” ใน Urzikstan แผนของเธอเปลี่ยนไปเมื่อกองกำลังรัสเซียได้เข้ามายังพื้นที่ เข้าโจมตีทั้งกองกำลังกบฏและกลุ่มก่อการร้าย Al-Qatala สถาณการณ์เลวร้ายขั้นสุด ทำให้ “ฮาดี” น้องชายของฟารา ได้ลุกขึ้นมาหงายไพ่ตาย “Chlorine Gas ก๊าซเคมีอันตรายที่หายไป” เขาใช้งานมัน ทำให้กองทัพรัสเซีย และกลุ่มก่อการร้ายสิ้นท่า

 

ส่วนกองกำลังทั้งหมดของฟารากับอเล็กซ์และอเล็กซ์หนีตายอย่างหวุดหวิด โดยอเล็กซ์เล่าว่าได้รู้ความจริงจากปากฮาดีก่อนจะหมดสติไปว่า ฮาดียอมรับว่าเขาคือคนที่ขโมยก๊าซพิษนี้ เพื่อเอาไว้ใช้ต่อสู้กับกองทัพรัสเซีย ซึ่งนั่นมันทำให้ฟาราโกรธน้องชายมากถึงขั้นตัดพี่ตัดน้อง เพราะว่าก๊าซพิษนี้ทำลายบ้านเกิด ครอบครัว และความสุขวัยเด็กของเธอเมื่อ20ปีที่แล้ว และยังเป็นเหตุที่ทำให้เธอต้อเจอนรกบนดินอย่างยาวนานเมื่อครั้งที่ถูกนายพลบาร์คอฟจับตัวไปคุมขังอีกด้วย

 

 

 

 และเมื่อสืบไปเรื่อยๆ ก็พบว่า ฮาดี แอบมีดีลกับพวกก่อการร้ายAl-Qatala  อย่างลับ ๆ เพื่อหวังผลบางอย่างที่เมือง Takkari ทำให้พวกเขาเดินทางไปที่นั่น หลังจากฝ่าดงกระสุนมาได้ พวกเขาไม่พบฮาดี แต่สามารถจับตายวูล์ฟได้สำเร็จ จบภารกิจไปอีกหนึ่งงาน…แต่ทว่าทางการสหรัฐฯได้ออกหมายให้กลุ่มต่อต้านของฟาราที่ช่วยสืบงาน และการตามหาก๊าซเคมีอันตราย ให้กลายเป็น“ผู้ก่อการร้าย”แทน (จากเหตุการณ์ขโมยก๊าซเคมีในตอนต้น) ซึ่งทำให้อเล็กซ์ไม่พอใจ และหันหลังให้กับกองทัพไปเข้ากลุ่มกบฏของฟาราแทน ด้วยจิตใจแห่งความยุติธรรม

 

ลาสเวล หัวหน้าฐานจ่ายงาน ได้คุยกับกัปตันไพร์ซ เรื่องการก่อการร้ายด้วยก๊าซพิษ เธอคิดว่าอาจจะมีโอกาสที่จะเกิดเรื่องซ้ำรอยที่ลอนดอน กัปตันไพรซ์เลยว่าจะอาสาไปดูงานให้แถวๆ St. Petersburg พร้อมกับ ไคล์ เพื่อตามล่า บุชเชอร์ มือขวาของวูลฟ์ที่รอดไปได้ แถมยังรู้ว่ามีความเกี่ยวข้องกับฮาดีอีกด้วย เรียกว่างานนี้จบใน1ดีล 

 

 

หลังจากที่จับตัวบุทเชอร์มาได้ กัปตันไพรซ์จึงได้สอบเค้นอย่างหนักแต่ก็ไม่เป็นผล จนในที่สุด ก็ต้องลากเอาครอบครัวของบุทเชอร์จับมัดมือเท้า เตรียมพร้อมลั่นไกใส่ประชาชนบริสุทธิ์ที่เป้นเหมือนแก้วตาดวงใจ…สุดท้ายก็ยอมปริปากเรื่องฮาดี ที่กบดาน และสารพิษ อยู่ที่เดียวกันกับที่พักของนายพลบาร์คอฟ Karetka Theater ที่ ประเทศมอลโดวา  เพื่อที่จะกำจัดนายพลคนนี้ ซึ่งเป็นความปราถนาที่ฆ่านายพลตัวแสบที่ทำกับพวกเขาสองพี่น้องมาตลอดนั่นเอง กัปตันจึงปล่อยตัวบุทเชอร์ ให้เจ้าหน้าที่บ้านเมืองจัดการกันต่อไป

 

 

ที่ ประเทศมอลโดวา  ฮาดี ได้นำกองกำลัง Al-Qatala เข้ามาตามหาตัวนายพลบาร์คอฟ แต่ก็ไม่พบ จึงได้ตรึงกำลังรอบๆบ้านพักทั้งสามหลัง แต่เมื่อกัปตันไพรซ์ และ ไคล์ได้มาถึง เพื่อจะพาตัวฮาดีมาสอบปากคำต่อ เพราะฮาดีรู้ถึงแหล่งผลิตก๊าซพิษตัวนี้แล้วว่าอยู่ที่ไหน แต่ว่าคนของนายพลบาร์คอฟก็ลงมือกวาดล้างทุกอย่างด้วยกำลังทหาร ทั้งสามเอาตัวรอดมาได้อย่างหวุดหวิด แต่ ลาสเวล ที่นั่งเครื่องบินมารับทั้งสามคน ก็ได้ระบุว่ารัฐบาลรัสเซียกดดันมาว่าต้องการตัวฮาดี ไปตัดสินทางกระบวนการของรัสเซียตามแผนปฏิบัติงาน เพราะกองกำลัง Al-Qatala และฮาดี สร้างชื่อเสียให้กับรัสเซียมามากแล้ว จึงต้องหาทางพาตัวมารับโทษให้ได้ แม้ว่ากัปตันไพรซ์จะไม่เต็มใจ แต่ก็ต้องปล่อยให้อยู่ในการควบคุมตามระเบียบการ 

 

จากข้อมูลของฮาดี ทำให้กัปตันไพรซ์ และไคล์ ได้เดินทางมายังโรงงานผลิตสารพิษของนายพลบาร์คอฟ ในประเทศจอร์เจีย โดยได้รับความช่วยเหลือจากกองกำลังของฟารา ที่มีเงื่อนไขคือ ขอให้เธอได้ลงมือสังหารนายพลบาร์คอฟด้วยตัวเองเท่านั้นจึงจะยอมช่วย 

 

นิโคไล มิตรสหายของกัปตันไพรซ์ ได้มาถึงจุดนัดพบพร้อมระเบิดC4 และรีโมท แต่ในการต่อสู้กับ Juggernuat ทหารรัสเซียเกราะหนัก ทำให้รีโมทที่อยู่ในมือของอเล็กซ์เสียหาย ใช้งานระยะไกลไม่ได้ ทำให้เขาตัดสินใจที่จะสละชีพอยู่ในเตาปฎิกรณ์เพื่อจุดชนวนด้วยตัวเอง

 

 

ส่วนฟาราได้แยกทางไปซ่อนตัวในเฮลิคอปเตอร์ที่นายพลบาร์คอฟใช้หลบหนี เธอสามารถลงมือสังหารนายพลบาร์คอฟที่เป็นเหมือนฝันร้ายของเธอและชาว Urzikstan มานานนับสิบปีลงได้ แม้ว่าจะเสียมิตรสหายที่แท้จริงอย่างอเล็กซ์ไปก็ตาม…

 

———————————————————————————————-

 

 

หลายสัปดาห์ต่อมา ในร้านน้ำชาเล็กๆอันแสนอบอุ่นแห่งหนึ่ง…

ลาสเวล ได้นัดกัปตันไพรซ์มาพูดคุยเรื่องการรวมทีมเฉพาะกิจ อันเป็นคำสั่งของ “นายพลเชพเพิร์ด” ที่ต้องการทีมที่สามารถทำงานในเงามืด พร้อมบินได้ตลอดเวลา เพื่อต่อต้านการก่อการร้ายสากล ไม่ให้ซ้ำรอยเหตุในลอนดอนอีก โดยมีกัปตันไพรซ์เป็นหัวหน้าชุดปฏิบัติการณ์ และเรื่องราวที่รัสเซียยังคงวุ่นวายต่อ เธอเล่าให้กัปตันไพรซ์ฟังว่า ตอนนี้มีคลื่นลูกใหม่ อย่าง “ซาคาเยฟ” ซึ่งชื่อนี้คุ้นหูกัปตันไพรซ์มากเพราะเขากับ “ผบ.แมคมิลาน” เคยส่งลงนรกไปแล้วเมื่อ20ปีก่อน…ลาสเวลระบุว่า คนที่เป็นปัญหาจริงๆไม่ใช่คนพ่อ แต่เป็น “วิคเตอร์ ซาคาเยฟ” ลูกชายของเขาที่ควบคุมกลุ่มผู้คลั่งชาติเตรียมก่อสงครามครั้งใหม่ และยังมีแผนที่จะเอาฮาดีออกจากคุกมาร่วมขบวนการนี้ด้วย 

 

 

เรื่องราวชักใหญ่โตขึ้นไปอีกขั้น ทำให้กัปตันไพรซ์ได้เลือกชื่อสมาชิกร่วมก๊วน ด้วยท่าทางแบบขอไปที แต่ด้วยสายตาหลักแหลมของเขา ไม่ได้คัดคนเล่นๆอย่างแน่นอน

-ไคล์ แกร์ริค / GAZ

-จอนห์ แมคทราวิส / SOAP 

และ

-ไซมอน ไรลีย์ / GHOST ที่ไม่เคยมีรูปจริงแม้แต่ตอนสมัครเข้ามาเป็นทหาร!

 

ในชื่อรหัส  “Task Force 141″ …

 

 

 

—END—

 

———————————————–

 

 

End Credit 

ความวุ่นวายยังไม่จบสิ้น การสู้รบยังคงดำเนินต่อไป แต่ทว่าอยู่ๆ ก็มีกองทัพปริศนาที่อยู่ๆก็เข้ามากวาดล้างกองทัพรัสเซียในพื้นที่จนสิ้นซาก กัปตันไพรซ์ นิโคไล ได้รับการติดต่อจากตัวแทนกองทัพรัสเซียอย่าง คามารอฟ ให้เข้าร่วมภารกิจ พร้อมกับมอบภาพถ่ายตัวเป้งของงานนี้…ภาพถ่ายของ นายพล “Khaled Al-Asad” ( คาเล็ด อัลอาซัด)

 

***เตรียมลุยเนื้อเรื่องกันต่อใน Co-Op***

 

 

———————————————————————–