ชื่อภาษาอังกฤษ : Blue Comet SPT Layzner
ชื่อภาษาญี่ปุ่น : 蒼き流星SPTレイズナー (อาโออิ ริวเซย์ SPT เลซเนอร์)
ประเภท : Action / Mecha
ผู้แต่ง : Hajime Yatate
ผู้กำกับ : Ryōsuke Takahashi
ผู้ผลิต : Nippon Sunrise
เริ่มฉาย : 3 ตุลาคม 1985 – 26 มิถุนายน 1986

อีกหนึ่งตัวละครที่หลายๆคนไม่รู้จัก แต่คอเกม SRW ก็น่าจะผ่านๆตา แต่ก็ไม่ได้ติดใจอะไร ในบทความนี้จะพาไปรู้จักกับหุ่นดีไซน์ละม้ายคล้ายกันดั้ม (ก็อาจารย์โอคาวาระ คุนิโอะ ออกแบบ แถมงานซันไรซ์ทำด้วย) ที่มีชื่อว่า “ดาวหางสีคราม เลซเนอร์” (Blue Comet SPT Layzner / อาโออิ ริวเซย์ SPT เลซเนอร์)

—-

เรื่องย่อ

เรื่องราวของ “ดาวหางสีคราม เลซเนอร์” จะเล่าเรื่องราวสมมุติที่เกิดขึ้นในปี 1996 เมื่อมนุษยชาติได้มีการพัฒนาเทคโนโลยีสำหรับเดินทางข้ามอวกาศ โดยมีฐานการส่งคือดวงจันทร์ และดาวอังคาร อย่างไรก็ตาม สงครามเย็นระหว่าง สหรัฐ และ โซเวียต ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะจบลง พวกเขายังคงแอบพัฒนาอาวุธกันบนอวกาศ เงาของสงครามนิวเคลียร์นั้นได้ก้าวสู่ยุคอวกาศ และปกคลุมโลกจาก ณ จุดนั้นแล้ว…

ในขณะเดียวกัน บนดาวอังคาร โครงการแลกเปลี่ยนเพื่อสันติภาพของสหประชาชาติ (UN) ได้เริ่มโครงการ “Cosmic Culture Club” ที่ประกอบไปด้วยเด็กหนุ่มสาว 16 คน ที่ผ่านการฝึกสอนโดย ดร.อลิซาเบธ คลาเบอรี่

ทันใดนั้น มีหุ่นยนต์ขนาดใหญ่ที่เรียกว่า S.P.T. หรือ “Super Powered Tracers” ถูกตรวจพบในบริเวณนั้น 4 ตัว และเริ่มโจมตีฐานทัพของ UN การสู้รบครั้งนี้ โดยมีเป้าหมายคือการกำจัดนักเรียนของ “Cosmic Culture Club” กับฐานทัพ UN บนดาวอังคาร และป้ายความผิดให้กับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งบนโลกที่กำลังคุกรุ่นด้วยไฟสงครามเย็น แต่ทว่า มี 6 คนที่รอดมาได้ (อลิซาเบธ / อาเธอร์ / โรอัน /ดาวิด / ซิมโมนส์ และ แอนนา) แต่ก็ติดแหง่กที่ดาวอังคารแห่งนี้หลังการสู้รบอย่างยาวนาน พวกเขาก็ได้พบกับ SPT เครื่องหนึ่งที่ยืนหยัดต่อสู้กับ SPT ตัวอื่นๆ

ที่จริงแล้ว การโจมตีครั้งนี้เป็นฝีมือของเผ่าพันธุ์ต่างดาวที่เรียกว่า “กราดอส” พวกมันมาจากระบบสุริยะ ยูโดเรีย (Udoria system) มาเพื่อรุกราน และมองเห็นว่าการรุกรานนี้เป็นเกมของการครองอำนาจในจักรวาลของพวกมัน แต่นับว่าเป็นโชคดี ที่แผนของพวกมันต้องสะดุด เมื่อ สองพ่อลูกนักสำรวจอวกาศ “เคน อาสึกะ” และ “นัล อัล เบอร์โต้” (ชื่อจริงๆคือ “เอย์จิ”) สองพ่อลูกที่เป็นมนุษย์ที่พลัดหลงระหว่างเดินทาง และกลายเป็นชาวกราดอส ก็ได้ล่วงรู้แผนชั่วของพวกมัน

เอย์จิจึงตัดสินใจทรยศพวกกราดอส และขโมย SPT รุ่นใหม่ที่มีชื่อว่า “SPT-LZ-00X Layzner” (เลซเนอร์) เอย์จิได้ใช้มันเพื่อกลับมาเตือนคนบนโลก และทั้ง 6 คนที่รอดมาจากเหตุโจมตีดาวอังคาร ก็กลายเป็นเป้าหมายของพวกกราดอส เพราะพวกเขาได้รู้ถึงพลังของกราดอสแล้ว และถ้าหากเรื่องราวการรุกรานครั้งนี้ ถูกบอกเล่าผ่านคนกลุ่มนี้ สงครามที่พวกคนบนโลกกำลังก่อขึ้นอย่างเงียบๆ ก็จะกลายเป็นการพุ่งเป้าไปที่กราดอสแทน…

—

 
SPT คือ?

SPT หรือ Super Powered Tracer เป็นอาวุธพิเศษของกองทัพชาวกราดอส ที่ถูกพัฒนามานานนับร้อยๆปีก่อนการบุกโลก จุดเริ่มต้นของการพัฒนาคือ ห้องโดยสารเล็กๆที่มีแขนยื่นออกมาเพื่อใช้ในงานก่อสร้างเท่านั้น แต่ต่อมาก็ถูกเหล่านักวิทยาศาสตร์ของกราโด้ได้นำมาวิจัย และต่อยอดมาเป็นอาวุธสงคราม ในที่สุดรูปลักษณ์ยืนสองขา มีแขน รูปร่างคล้ายมนุษย์ ก็เป็นร่างที่เข้าท่าเข้าทางที่สุดของ SPT โดยเป็นการออกแบบที่ใช้แนวคิดของ “การเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วในอวกาศ” และ “รองรับทุกสภาพภูมิอากาศของแต่ละดาว”

โดยหลักๆแล้ว ใน SPT แต่ละเครื่องจะมีระบบคอมพิวเตอร์ซัพพอร์ทนักบิน โดยคอมพิวเตอร์จะประเมินความสามารถของนักบิน และปรับตัวให้เข้ากันโดยอัตโนมัติ ซึ่งระบบวงจรจะอยู่ตรงบริเวณหมวก ซึ่งบางเครื่องจะรองรับระบบสั่งการด้วยเสียงอีก ซึ่งก็มีไม่มากนักที่ใช้ระบบนี้ ดังนั้น ความเก่งในเรื่องนี้ ส่วนหนึ่งมาจาก AI ที่ดี และเก่ง บวกกับฝีมือนักบินอีกส่วนหนึ่ง นั่นเอง

เอย์จิ อาสึกะ / นัล อัลเบอร์โต้
เอย์จิ เป้นลูกชายของนักบินอวกาศ และหญิงชาวกราดอส เขาเติบโตขึ้นภายใต้ดาวกราดอส จนกลายเป็นพลทหารที่ขับ SPT ของกองทัพ แต่ด้วยการที่พ่อของเขาเป็นชาวโลก เขาจึงตัดสินใจขโมย SPT-LZ-00X Layzner (เลซเนอร์) หุ่นรบรุ่นล่าสุดของกราดอส เพื่อมาเตือนถึงการบุกโลก 

ลู ไคน์
ยอดนักบินชาวกราดอส  พ่วงตำแหน่งผู้ว่าราชการของโลก ในยุคที่ถูกกราดอสยึดครอง เปรียบเป็นเหมือนศัตรูคู่ปรับของเอย์จิ (อารมณ์เหมือน ชาร์ กับ อามุโร่) มีความสามารถระดับ ตึงมือมากๆ   ด้วย SPTสีทองประจำตัวของเขา SPT-ZK-53U Zakaal (ซาคาล) ที่ถอดแบบจากเลซเนอร์มาตรงๆ โดยตัวหุ่นของเขา มีพลัง V-MAX Supercharge ที่มีความแรงกว่าเลซเนอร์ของเอย์จิ ราวๆ15% ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าขึ้นของกราดอสนั่นเอง

SPT-LZ-00X Layzner
เลซเนอร์ เป็นSPT ตัวแรงของชาวกราดอสที่อัดพลังและเทคโนโลยีใหม่ๆลงไปในตัวหุ่น และคอมพิวเตอร์ที่ติดตั้ง AI ที่ชือว่า “เรย์” (REI)

โดยตัว“เรย์” (REI) เป็น AI ที่มีความต่างออกไป เพราะเรย์มีความคิดเป็นของตัวเอง หลายครั้งที่มันปฏิเสธคำสั่งของนักบินอย่างเอย์จิ ซึ่งนั่นก็เพื่อความปลอดภัยของตัวนักบินเอง ซึ่งที่จริงแล้ว ในเลซเนอร์เอง ก็มีระบบ AI ที่เขียนซ้อนขึ้นมาอีกหนึ่งโปรแกรม นั่นก้คือ “โฟรอน” (Fouron) ซึ่งพ่อของเอย์จิ ได้เอาบันทึกข้อมูลของพวกราดอส มาดัดแปลง และซ่อนมันเอาไว้ในนั้น

นอกจากนี้ ตัวเลซเนอร์ ยังมีระบบปลดล๊อกเครื่องที่เรียกว่า “V-MAX” ซึ่งเป็นการรีดพลังของเครื่องให้อยู่ในสภาวะสูงที่สุด และจะมี “คลื่นแม่เหล็กสีน้ำเงิน” คอยหุ้มตัวเลซเนอร์ ทำให้อาวุธประเภทบีมไม่สามารถยิงโดนได้

ซึ่งในช่วงแรก โฟรอนจะควบคุมระบบนี้เอง เพราะนักบินอาจจะทนไม่ไหวเพราะความแรงของเครื่องที่ “เข้าใกล้ความเร็วแสง” แต่เมื่อผ่านไประยะหนึ่ง ระบบโฟรอน ก็ได้ปล่อยให้ระบบเรย์ และ ตัวของเอย์จิ เข้าทำการควบคุมเครื่องในช่วงเปิดระบบ V-MAX

ในช่วงสงครามครั้งใหญ่ เลซเนอร์ได้หายไปพร้อมๆกับเอย์จิ โลกถูกพวกกราดอสยึดสำเร็จ ท่ามกลางความสิ้นหวังนี้ เอย์จิก็กลับมาพร้อมกับเลซเนอร์ที่เปลี่ยนการบังคับด้วยหมวกกันน๊อก มาเป็นการสั่งการผ่านแว่นตา (ที่เหมือนสเก๊าท์เตอร์ของเบจิต้า) แต่ด้วยความเหนือชั้นของ SPT รุ่นใหม่ของกราดอสที่มีระบบ “ซุปเปอร์ชาร์จ” ก็ทำให้เลซเนอร์ต้องพ่ายแพ้ยับเยิน จึงต้องอัพเกรดมาเป็น
E-SPT-LZ-00X-B New Layzner (นิวเลซเนอร์) ที่เสริมช่องระบายความร้อนและท่อขับดันเพิ่มเข้ามา และเปิดใช้งาน V MAX ได้เพิ่มอีก 23%

และถ้าเนื้อเรื่องไม่ถูกบีบให้จบเร็วเราก็จะได้เห็น E-MF-LZ-00X-2 Layzner Mark II (เลซเนอร์ มาร์ค ทูว์) ด้วยนะ

—-

ของเล่น
อันนี้ขอว่ากันตามตรงว่า ภาพของเล่นเก่าๆ หายากมากกก ก็เอาภาพของเล่นจากไลน์ปัจจุบันไปดูกันก่อนละกัน บางตัวยังพอหาได้ในสะพานเหล็ก เมก้า คลองถมละนะ…

ถือเป็นการ์ตูนที่ไม่ค่อยรู้จักในบ้านเรา เพราะไม่เคยฉาย แต่คนที่เล่นเกม SRW ต้องรู้จัก แต่ก็ไม่รู้เนื้อเรื่อง ทีมาอะไรยังไง (เอาจริงๆแอดมินก็แทบไม่รู้เลย 55+) หวังว่าบทความนี้ก็น่าจะช่วยให้รู้จักกับเจ้าหุ่นสีฟ้าตัวนี้ไม่มากก็น้อยนะครับ (วันนี้มาน้อยหน่อย คงไม่ถือสานะครับ)

แอดมิน Ak47

เพลงเปิดสุดชิว…